อักษรแห่งการฟาดฟัน

หมากสามโลก ภาค ความทรงจำจากน้ำหมึกเรืองแสง

-A A +A

อักษรแห่งการฟาดฟัน

          มีเสียงบางอย่าง   เหมือนอะไรที่กำลังท่องอากาศด้วยความเร็ว   พอหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นลูกบอลไฟสีส้มที่ล็อกเป้าที่ซาคาเรียสที่กำลังลุกขึ้น   มือเปล่าที่ยื่นออกไปรับพลังอันเกรี้ยวกราดไว้ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะดังกลบทุกอย่างในห้องพร้อมกับความโกลาหลของนักเรียนที่ลุกหนีจากที่นั่ง      

          “เกิดอะไรขึ้น   ฝ่าบาท?!!”   บาร์เกนซีลุกขึ้น   เห็นมือของโทมัสที่กำลังมีไอขาวพวยพุ่งออกมาจึงสั่งให้ข้ารับใช้หยิบผ้าซับน้ำแล้วใช้มันพันมือของโทมัสผู้กำลังมีสายตามองตรงไปที่ที่หนึ่ง   “ใคร!!   ใครบังอาจคิดร้ายกับฝ่าบาท!!”   บาร์เกนซีตะโกนออกมาด้วยความโมโหสุดขีด   “ผมเองครับ!!”   เสียงประกาศดังขึ้นพร้อมเสียงจานอาหารที่ตกแตก   โทมัสจ้องเขม็งไปที่เจ้าของเสียงซึ่งก็คือซีสจ์

          “ซีสจ์?!!   นี่ลูกออกมาได้ยังไง?!!”   บาร์เกนซีเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ   “ท่านพ่อคิดว่ามีอะไรที่ผมทำลายไม่ได้บ้างหรือครับ?”   ซีสจ์ยิ้มอย่างภูมิใจ   “ลูกคิดจะทำอะไรกันแน่?!”   บาร์เกนซีตวาดเสียงดัง   “…ผมก็แค่...อยากทักทายเจ้าชายคนโปรดของผมก็เท่านั้น”   ใบหน้าของซีสจ์แสดงถึงความลังเลและกลัว

          “ดีเหมือนกันนะครับเพราะผมเองก็อยากเจอคุณอยู่พอดีครับ”   ซาคาเรียสลุกขึ้นยืน   ซีสจ์เปลี่ยนเป้าสายตามามองที่ซาคาเรียส   รอยยิ้มแสดงออกถึงความกระหายอยาก   “โอ้   คงรู้ใช่ไหมขอรับว่าการสนทนาด้วยปากไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะทำกับพระองค์?”   ไฟลุกไหม้ที่บ่าของซีสจ์เสมือนดั่งแตรศึกที่ถูกป่าวประกาศแล้ว   “ผมเองก็เช่นกัน”   ซาคาเรียสเลื่อนมือไปแตะที่ปลายด้ามดาบ   “หยุดเดี๋ยวนี้นะ   ซีสจ์!!!”   แค่ได้ฟังเสียงของผู้เป็นพ่อก็สามารถสยบความคะนองดิบของซีสจ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

          “ลูกรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่!!?”   ซีสจ์ตีหน้ามึนและไม่ยอมตอบบาร์เกนซีแต่ความจองหองนั้นยังคงอยู่ที่เดิมเพราะสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะได้จัดการกับชายผู้อยู่ตรงหน้า   “ท่านบาร์เกนซี   ผมคิดว่าบุตรชายของท่านคงอยากจะประลองฝีมือกับเจ้าชาย   ไม่เห็นเป็นเรื่องเสียหายแต่อย่างใดเลยไม่ใช่หรือครับ?”   นิโคลัสกล่าวสิ่งที่เรียกความสนใจของโทมัสและเพื่อนร่วมโต๊ะให้หันไปมอง   “คุณนิโคลัส   ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะครับ!!”   วิลเลี่ยมกล่าวขึ้นเป็นคนแรก   ไม่มีทางที่เขาจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดแบบนี้เพราะรู้ทั้งรู้ว่ายังไงเพื่อนก็ไม่มีวันที่จะชนะจอมอาละวาดอย่างแน่นอน   ยิ่งไปกว่านั้นถ้าต้องต่อสู้โดยมีนักเรียนชั้นปีเดียวกันเป็นผู้ชมแล้วเกิดแพ้ขึ้นมาจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของกลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลเสียหายหรือไงกัน?   วิลเลี่ยมคิดแบบนั้นแต่ก็ไม่กล้าจะพูดออกไปตรงๆ

          “ผมรับคำท้าครับ”   ซีสจ์และทั้งหมดที่ได้ยินต่างหันไปมองที่เจ้าของเสียง   นั่นไม่ใช่ซาคาเรียสแต่เป็นโทมัสที่เปล่งเสียงนั้นออกมา   “คุณโทมัส??!!/ฝ่าบาท??!!”   ทั้งวิลเลี่ยมและซาคาเรียสต่างอุทานพร้อมกันแต่สิ่งที่ซาคเรียสพลั้งปากออกมานั้นทำให้บาร์เกนซีและซีสจ์ต่างขมวดคิ้ว   “แกเป็นใคร?”   ซีสจ์เปลี่ยนเป้าสายตามามองที่โทมัส   “ผมคือองครักษ์ของเจ้าชายฟรานซิสโก้   ผมไม่คิดว่าฝีมือระดับคุณจะจำเป็นต้องให้ฝ่าบาทเสียเวลา”   ซีสจ์เบิกตากว้างขึ้นด้วยความโกรธที่ปะทุออกมาอย่างฉับพลัน   ชั่ววินาทีนั้นไม่มีใครเร็วพอที่จะเห็นการเคลื่อนไหวดั่งปีศาจที่พุ่งเข้าหาชายปากพล่อยแต่แล้วก็บังเกิดมวลแสงขนาดใหญ่ที่กระจายไปโดยรอบตามด้วยเสียงร่วงหล่นของจาน

          “ใครวะ!!!”   ซีสจ์ที่ล้มลงไปข้างทางเพราะการขัดแข้งขัดขาของใครสักคนตะโกนขึ้น   เรียกหาตัวคนร้ายที่หลบซ่อนอยู่   “ผมเองครับ”   นิโคลัสเดินตรงเข้ามา   มือข้างหนึ่งถือปืนพกลำกล้องยาวพอประมาณ   มีควันที่ลอยจากรูกระสุนที่ดูใหญ่ผิดธรรมชาติ   “ถ้างั้นการแข่งขอให้เริ่มวันพรุ่งนี้เช้าส่วนสถานที่    ผมรบกวนคุณบาร์เกนซีเป็นผู้เลือกก็แล้วกันครับ”   ท่ามกลางความสับสนและงุนงง   นั่นคือสิ่งที่นิโคลัสกล่าวขึ้นมาก่อนจะหันไปหาบาร์เกนซี   “…ถ้านิโคลัสและฝ่าบาทต้องการเช่นนั้น   กระผมก็คงต้องทำตามแม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม”   บาร์เกนซีถอนหายใจเสียงแผ่ว  

 

          โรงนอนชั่วคราวถูกจัดเตรียมสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมฟรานซิสโก้   มีเพียงแต่โทมัสและซาคาเรียสผู้ถูกเชิญให้ใช้ห้องนอนในคฤหาสน์   ดึกสงัดภายในห้องนอนขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยหรู   โทมัส   บาร์เกนซีและซาคาเรียส   ชายต่างวัยทั้ง   3   นั่งร่วมโต๊ะรับรอง   ใบหน้าแต่ละคนถ้าไม่เย็นชาก็แสดงออกอย่างตึงเครียด    “ทรงต้องการเช่นนั้นจริงๆ หรือขอรับฝ่าบาท?”   บาร์เกนซีเอ่ยถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเป็นกังวล   “ครับ”   เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังออกมาในทันที    “เข้าใจแล้วขอรับฝ่าบาท”   บาร์เกนซีลุกขึ้นและทำความเคารพอย่างสุภาพแต่อยู่ๆ ก็เอียงหน้ากลับมา   “กระผมและบุตรชาย   รวมถึงวงศ์ตระกูลโฮเวิร์ดทุกคนล้วนแต่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ฟรานซิสโก้   ไม่มีวันไหนที่พวกเราจะหันคมดาบให้พระองค์ผู้เป็นเจ้าของผืนแผ่นดินนี้   โปรดทรงเชื่อพระทัยในตัวของกระผมและบุตรด้วยเถิดขอรับฝ่าบาท”  

          ดึกสงัดคืนนั้น   ดวงตาของร่างที่กำลังนอนเหยียดกายอยู่บนเตียงนุ่มไม่อาจถูกข่มให้ปิดลงและกำลังกลอกตาไปมา   เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมลุกตัวนั่งบนเตียงแต่สักพักก็ทิ้งตัวลงและข่มตาหลับอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อความง่วงไม่มากพอที่จะทำให้หลับได้   โทมัสเดินลงจากเตียง   ไปที่ประตูห้อง   ตาเหลือบมองพี่ชายต่างสายเลือดผู้กำลังนอนหลับข้างเตียงก่อนจะแง้มประตูออกและเดินไปตามทางที่ปรากฏแสงไฟสลัวจากตัวกำแพง   เดินไปได้สักระยะก็เจอเข้ากับบานประตูที่มีลักษณะแตกต่างจากประตูบานอื่นเพราะทำจากเหล็กกล้าที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงแต่มีรูขนาดใหญ่ที่กึ่งกลาง   คล้ายกับโดนหลอมละลายมากกว่าการถูกกระทุ้งจากภายใน   ด้านล่างมีเศษโซ่ตรวน   บางส่วนคงสภาพดีและบางส่วนเป็นคราบแห้งเกรอะกรังบนพื้นหน้าประตู   โทมัสมาถึงด้านหน้าของคฤหาสน์   องครักษ์ที่ได้เห็นในยามวิกาลตกใจแต่ไม่ได้คิดห้าม   กลับกันที่พวกเขาติดตามเพื่อคุ้มกันภัยอันตรายในรัตติกาลให้กับชายที่ในวันรุ่งขึ้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของคุณหนูของพวกเขา  

          แสงสว่างจากคมดาบที่ถูกยืมมาจากองครักษ์ส่องประกายท่ามกลางความมืดมิด   จิตใจไม่ได้จดจ่ออยู่ที่คมดาบแต่กำลังนึกถึงเหตุการณ์บนโต๊ะอาหารในช่วงเวลาก่อนการแยกย้ายเข้านอน   “ไม่ได้   ยังไงก็ไม่ได้!!   พวกเราไม่ยอมให้คุณโทมัสดวลกับคุณโฮเวิร์ดอย่างเด็ดขาด!!”   น้ำเสียงของวิลเลี่ยมดูจริงจังเกินกว่าทุกครั้ง   “ให้ผมลงแข่งแทนเถอะขอรับฝ่าบาท”   ซาคาเรียสกล่าวเสียงแข็ง   “ไม่ได้ครับ!!   จะต้องไม่มีพวกคุณคนไหนไปลงแข่งในศึกที่ไม่มีวันชนะครับ!!”   วิลเลี่ยมกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจในผลลัพธ์   “ผมไม่ได้มองว่าคุณโทมัสหรือพี่ซาคาเรียสไม่มีฝีมือนะครับแต่สำหรับหนึ่งใน   4   สัตว์ร้ายแห่งกลุ่มฟอร์เทร็ซเซส   ยังถือว่าเสี่ยงเกินไปและอีกอย่างถ้าหากแพ้ขึ้นมา   จะยิ่งจะทำให้ชื่อเสียงของกลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลเสียหายไปด้วยนะครับ”   ซาคาเรียสเริ่มเข้าใจถึงเหตุผลของวิลเลี่ยมส่วนรูบี้ยังคงนั่งก้มหน้าเงียบ   ไม่ออกความคิดเห็นใดๆ   บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความตึงเครียด   “แต่ถ้าผมชนะ   กลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลก็จะโด่งดังขึ้นกว่าปัจจุบันใช่ไหมครับ?”   โทมัสกล่าว   ทำเอาวิลเลี่ยมหน้าถอดสีด้วยรู้ว่ามันคือความจริงที่เป็นเหมือนการพนัน   เกมอันตราย

          เม็ดเหงื่อเริ่มปรากฏให้เห็นในขณะที่มือกวัดแกว่งเพลงดาบอันแสนร้ายกาจซึ่งเมื่อผสานเข้ากับไฟที่ลุกไหม้บนผิวดาบยิ่งทำให้มันดูสวยงามราวกับตัวเขาคือจิตรกรผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่านการตวัดตัดรัตติกาลเพื่อชโลมสีแห่งความสดใหม่   องครักษ์ทั้ง   2   นายยืนดูศิลปะการต่อสู้อันเกรี้ยวกราดของโทมัสด้วยความชื่นชมในความสง่างามจนไม่รู้ว่าดาบที่เหน็บอยู่ที่ข้างเอวถูกใครบางคนดึงออกไปและกำลังพุ่งตัวเข้าหาร่างที่กำลังระบำดาบ   ไม่ให้รู้ตัว   เสียงปะทะดังสนั่น   เรียกสติขององครักษ์   นัยน์ตาเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นนายน้อยผู้เอาแต่ใจ   “กลัวแพ้ขนาดที่ต้องมาฝึกเลยรึ??”   แสงจากไฟทำให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และโรคจิตของซีสจ์   โทมัสออกแรงดันดาบจนซีสจ์กระเด็นออกไปยืนตั้งหลักใหม่   “ผมกำลังอยากได้คู่ซ้อมดาบพอดีเลยครับ”   ซีสจ์ขบฟันอย่างฉุนเฉียว   “ชนะแกไปก็ไม่ได้ทำให้ฉันสนุกขึ้นมาหรอกนะ   ไอ้สวะ”   สิ้นเสียงดูถูกนั้นเท้าของเขาก็พุ่งเข้าใส่โทมัสในทันใด

         

          เช้าตรู่ของวันพุธ   ลานกว้างสีดำสนิทหน้าคฤหาสน์ถูกเนรมิตให้เป็นลานประลองอันทรงเกียรติระหว่างว่าที่ผู้นำตระกูลและองครักษ์ประจำตัวของเจ้าชายแห่งโนซาล์บ   ผู้ชมในวันนี้ทั้งนักเรียนโรงเรียนมัธยมฟรานซิสโก้และข้ารับใช้ตระกูลโฮเวิร์ด   ทั้งหมดนั่งประจำที่บนพื้นสีดำมีรอยสีส้มคล้ายเส้นเลือดลาวาที่ไหลเวียนอยู่ก้นบึ้ง   นิโคลัสกับปืนตัวเก่งยืนอยู่บนลานประลองเพียงลำพัง   “สวัสดีครับ   นักเรียนทุกคน   ดูจากหน้าตาของพวกคุณในวันนี้แล้วผมยิ่งมั่นใจเลยว่าพวกคุณกำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าใช่ไหมครับ?”   นิโคลัสกล่าวอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนพานให้วิลเลี่ยมมีสีหน้าตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   “คุณนิโคลัส   ถ้าไม่ห่วงคุณโทมัสก็ช่วยแสดงความกังวลต่อผลที่อาจตามมากับกลุ่มสักนิดก็ยังดีแต่นี่ดูจะสบายใจเกินไปแล้วนะครับ”   วิลเลี่ยมตัดพ้อพลันถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้   “ผมเชื่อว่าคุณนิโคลัสมีเหตุผลที่ทำแบบนั้นครับ”   ซาคาเรียสกล่าวอย่างเชื่อมั่น

          “ขอเรียนเชิญผู้ประลองทั้ง   2   ที่ด้านหน้าของผมได้เลยครับ”   โทมัสและซีสจ์ต่างเดินเยื้องย่างขึ้นมาบนสนามประลอง   แรงกดดันที่ปรากฏผ่านแววตาของพวกเขาคือสุญญากาศที่ไม่อนุญาตให้มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ภายในนั้น   “ก่อนการดวลผมขอตรวจสอบความพร้อมของไอเทมพลังจิตตัวตายตัวแทนก่อนครับ”   นิโคลัสหันมองไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง   ไม่ไกลจากวงนอกสุดของนักเรียนคนสุดท้าย   ที่นั่นแคปิตอล คอปกว่า   20   นายยืนประจำที่อย่างเป็นระเบียบและหุ่นฟางขึงอยู่บนไม้กางเขน   2   ตัว   “หุ่นฟางพวกนั้นมันอะไรหรือครับ?”   ซาคาเรียสกระซิบถามวิลเลี่ยม   “มันคือไอเทมพลังจิตระดับสูงที่จะเป็นตัวแทนของผู้ทำสัญญาซึ่งจะรับความเจ็บปวดและบาดแผลที่เกิดขึ้นกับผู้ทำสัญญาให้ตกอยู่กับตัวไอเทมแทน   ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการประลองครับ”   ซาคาเรียสและวิลเลี่ยมขนลุกขนชันไปตามกันเพราะมันเป็นเสียงของนิโคลัสแต่เพียงชั่วขณะที่สมองกำลังประมวลผลสิ่งที่ได้ยินและปราศจากซึ่งเสียงเตือน   เขาได้ยินเสียงปืนแตกก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังอย่างไล่เลี่ยและเสียงที่หลุดออกมาโดยไม่รู้ตัวของซาคาเรียส   “ฝ่าบาทททททท!!!”  

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.