ตอนที่ 2

คุณหนูมหาภัยของจักรพรรดิมังกร

-A A +A
อ่านต่อ

ตอนที่ 2

ตอนที่ 2

 

        ไม่ว่าแต๋วโบกมือเรียกแท็กซี่คันไหน แท็กซี่ทุกคันจะยกข้ออ้างมาปฏิเสธตลอด เพราะกลัวว่าถ้าปฏิเสธตรงๆ จะโดนร้องเรียน

 

“โอย... ตอนนี้แดดมันร้อนมากครับคุณยาย ผมเหงื่อไหลตัวเหนียวไปหมด ขอโทษนะครับ ยายเรียกรถคันอื่นแทนก็แล้วกันนะครับ ผมจะกลับไปอาบน้ำ”

 

คำพูดนั้นเป็นคำพูดจากคนขับรถคันที่ยี่สิบ คำพูดของมันนั้นขัดแย้งความจริง เพราะเวลานี้เป็นช่วงหัวค่ำแล้ว ที่ขัดแย้งที่สุดคือมันนั่งอยู่ในรถติดแอร์ ?

 

สาเหตุนั้น ทำให้แต๋วต้องยืนอยู่นานจนขาเริ่มสั่นและแน่นอนว่าเธอต้องด่าคนขับรถในใจ จนกระทั่งสังเกตเห็นรถเมล์ใกล้มาจอดที่ป้าย เธอจึงเปลี่ยนใจไปยืนรอที่ป้ายรถแทน

 

ช่วงเวลานี้คนต้องเยอะ ดังนั้นที่นั่งบนรถเมล์ต้องเต็ม เมื่อเธอขึ้นไปก็เห็นเป็นไปตามนั้น ทำให้ความโกรธของแต๋วเพิ่มขึ้น ด่าแท็กซี่ในใจไปอีกรอบ

 

“มานั่งตรงนี้เลยครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ใกล้ประตู มีให้สำหรับผู้พิการและพระได้นั่ง แต่อันที่จริงให้ใครนั่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้พิการและพระเสมอไป

 

แต๋วยิ้มจนตาหยี “ขอบใจนะจ๊ะพ่อหนุ่ม” แล้วเธอก็ไปนั่งแทนที่

 

หลังจากเธอได้นั่งสบายแล้ว เธอได้ค้นพบความจริง ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้ตั้งใจลุกให้เธอนั่ง เขาตั้งใจลุกให้คนท้องที่ยืนอยู่ด้านหลัง

 

“เอ่อ... คุณยายครับ ให้คนท้องนั่งตรงนี้ก่อนได้ไหมครับ ที่นั่งอื่นไปลำบาก” ชายหนุ่มยิ้มแห้งๆ

 

แต๋วใบหน้าถมึงทึงทันใด “ยายเคยท้องมาก่อนเหมือนกัน แล้วยังท้องถึงสี่คน รู้ไหมว่ายากลำบากขนาดไหนกว่าจะคลอดแต่ละคนออกมาได้” เธอหันขวับไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่ “พวกเธอจะยืนมองดูทำไมกัน ทำไมไม่หลีกทางให้คนท้องได้เดินไปนั่ง” เธอมองหน้าคนที่นั่งอยู่อีกฟากที่มองลอดช่องว่างระหว่างคนยืนมาที่เธอ “พวกเธอที่นั่งอยู่ฝั่งนั้น ไม่คิดจะเสียสละลุกให้คนท้องนั่งบ้างหรือไง ทำไมใจร้ายใจดำกันอย่างนี้” แล้วสะบัดหน้าไปมองนอกหน้าต่าง ไม่สนใจทุกคนที่มองมาด้วยอาการปากอ้าตาค้างและเสียงอุทานเบาๆ ของใครบางคนในรถ

 

“บรรพบุรุษมนุษย์ป้า !”

__________

 

        เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง รถเมล์ก็มาถึงจุดจอดรถ

 

แต๋วยังคงทำเป็นไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร เธอเดินลงไปคนแรก ทว่าดวงตาชำเลืองมองคนท้องที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอดูชั่วร้ายในสายตาคนอื่น ขณะเดียวกันหญิงคนนั้นมองกลับมาด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย

 

แต๋วเกิดความเกลียดชังหญิงคนนั้น แต๋วรู้ความจริง แท้จริงสาวคนนั้นไม่ใช่คนท้องอย่างที่เห็น

 

ตอนแรกมองผ่านๆ ไม่ได้สังเกตหน้าตา กระทั่งมองดูดีๆ แต๋วนึกได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

 

หญิงท้องคนนั้นคือหนึ่งในแก๊งขอทานลวงโลก !

 

แต๋วเคยเห็นหญิงคนนั้นตามสะพานลอย แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่คนท้องสามารถยืนร้องเพลงขอตังค์ได้นานเป็นชั่วโมง จุดที่สังเกตความผิดปกติได้ชัดอีกอย่างคือหญิงคนนั้นท้องโตมานานเกือบห้าปี !?

 

อย่างนี้ต้องจัดการ !

 

แต๋วยิ้มอย่างชั่วร้าย ถ้ากลับไปถึงบ้านเมื่อไร เธอจะจ้างนักเลงท้ายซอยไปเป็นทีมนักล่าท้าสิ่งลี้ลับ เปิดโปงสิ่งที่อยู่ในผ้าคลุมท้องนั้นให้คนทั้งสะพานลอยได้รู้กัน ว่าตกลงแล้วที่ท้องเป็นปีเป็นชาตินั้นได้ลูกผู้ชายหรือลูกสาว หรือว่า... ได้ลูกกุมารทอง ?

 

ระหว่างแต๋ววางแผนชั่วร้ายในใจ ทำให้ไม่สังเกตเห็นคนขับรถรับจ้างมักง่ายที่ขับรถเข้ามาทางแคบๆ กว่าเธอจะรู้ตัว เป็นตอนได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่น หันขวับไปมอง แสงจ้าจากไฟหน้ารถคือสิ่งเดียวที่อยู่ในสายตา จากนั้นภาพในสายตาก็มืด เหมือนทีวีถูกกระชากปลั๊ก

__________

 

        แต๋วรู้สึกตัวอีกครั้ง เธอมาปรากฏอยู่สถานที่มืดมิด ไม่ว่ามองไปทิศทางไหนก็เห็นแต่ความมืด เหมือนไม่ได้ลืมตา แต่กลับมองเห็นมือและร่างกายของตนเองที่ยังสวมเสื้อผ้าได้อยู่

 

ความรู้สึกทางกายเหมือนลอยอยู่ใต้น้ำ แต่กลับไม่มีแรงต้านให้รู้สึก

 

อากาศไม่หนาว ไม่ร้อน ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น

 

ไม่ว่าใครก็ตาม เมื่อมาโผล่สถานที่แปลกอย่างนี้ต้องเกิดความตกใจไม่มากก็น้อย ไม่เว้นแต๋ว แต่ความตกใจอยู่ครู่สั้นๆ เธอจำได้ว่าถูกรถรับจ้างพุ่งเข้าหา แม้ไม่มีภาพเหตุการณ์หลังจากนั้น แต่ก็คาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ยังมีสถานที่แปลกๆ แห่งนี้เหมือนช่วยยืนยันความคิด ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเธอตายแล้วจริงๆ

 

สีหน้าของแต๋วเริ่มเศร้าหมอง แม้ทำใจไว้นานแล้วว่าจะมาถึงวันนี้สักวัน แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงกับตัวเอง เธอก็รู้สึกเศร้าและไม่อยากยอมรับความจริง เหมือนตอนได้ยินข่าวของเหยาฮั่น โดยเฉพาะตายโหงอย่างนี้ เธอไม่ได้คาดคิดไว้แม้น้อยนิด เธอคาดคิดไว้แค่ว่าเธออาจจะตายฉับพลัน เหมือนคนแก่บางคนที่ล้มพับไปเลย ไม่ต่างจากหุ่นชักถูกตัดสายเชือก หรือไม่ก็นอนหลับตายอยู่บนเตียงนอน มีลูกหลานยืนรายล้อมด้วยสีหน้าโศกเศร้า

 

เมื่อนึกถึงเหยาฮั่น แต๋วรีบคลำที่คอเพื่อหาตัวแทนของเขา และเมื่อพบว่ามันยังอยู่ เธอเกิดความรู้สึกสบายใจขึ้นมา เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่ายังมีเขาอยู่เคียงข้าง

 

ถ้าเธอตายจริงอย่างที่คิด เธออาจได้พบกับเหยาฮั่นอีกครั้งก็เป็นไปได้

 

แต่ความคิดนั้นถูกผลักออกไปก่อน เพราะเธอเห็นสิ่งที่เหมือนควันลอยออกไปจากร่างของเธอ มันทำให้เธอเกิดความตกใจเล็กน้อยพร้อมเกิดความสงสัยว่ามันคืออะไร

 

ควันประหลาดนั้นเคลื่อนออกไปประมาณสี่เมตร ก่อตัวเป็นเหมือนก้อนเมฆ

 

“ข้าคือผู้นำทาง” เสียงที่ออกมาจากควันประหลาดระบุไม่ได้ว่าเป็นชายหรือหญิง “หรืออย่างที่มนุษย์อย่างเจ้าเรียกว่า ยมทูต” สิ้นเสียง ควันประหลาดกลายเป็นบุรุษรูปร่างกำยำ ผิวพรรณสีทองแดง สวมโจงกระเบนสีแดงเข้ม มือข้างหนึ่งถืออาวุธคล้ายหอกสามง่าม ชายผู้นี้มีหน้าตาดุดันน่ากลัว ผมบนหัวสีดำและไว้ทรงผมเหมือนคนไทยโบราณ และมีหนวดคล้ายเขาควาย

 

“ถะ ท่าน ขะ คือ” แต๋วตกใจจนพูดตะกุกตะกัก

 

“สำหรับเจ้า” เสียงของยมทูตเปลี่ยนเป็นผู้ชายชัดเจน “ข้าพามาได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือเจ้าจงเลือกเอาด้วยตนเองเถิด”

 

สิ้นเสียงของยมทูต ร่างของเขาจางหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้แต๋วได้สติแล้วถามว่า จะให้เธอเลือกอะไร

 

หลังจากยมทูตหายไปไม่นาน มีประตูปรากฏมาอยู่เบื้องหน้าสามบาน ทั้งสามบานนั้นเปล่งแสงอ่อนๆ และไม่มีลูกบิด ที่ทำให้มันเหมือนกันมีแค่นี้ ส่วนที่ทำให้มันแตกต่างกันคือป้ายที่ติดอยู่หน้าประตู

 

ประตูบานแรก ที่อยู่ทางฝั่งซ้าย ป้ายถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า อเมริกา

 

ประตูบานที่สอง ที่อยู่กึ่งกลาง ป้ายถูกเขียนเป็นภาษาไทยว่า ไทย

 

และประตูบานสุดท้าย แต๋วเดาไปมั่วในใจๆ ว่ามันคือภาษาจีน เพราะตัวอักษรดูคล้ายแค่นั้น

 

เหตุผลที่ต้องเดานั้นก็เพราะว่าเธออ่านไม่ออก ถึงแม้ว่าเธอมีเชื้อสายคนจีน แต่ไม่หมายความว่าเธอจะได้เรียนรู้ภาษามาจากบรรพบุรุษ

 

ที่ยมทูตบอกนั้น แต๋วคิดว่าเขาหมายถึงประตูทั้งสามบาน เพราะที่แห่งนี้ไม่มีอะไรให้เลือกนอกจากประตู

 

เธอไม่รู้ว่าจะเลือกประตูบานไหนถึงจะดี จนกระทั่งเกิดความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างมาดลใจให้เลือกประตูกลาง

 

สิ้นความคิด แต๋วเห็นประตูบานนั้นเปิดเองฉับพลัน จากนั้นสติของเธอพลันหายไป

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.