STARCIN ภาคที่ 3 Yan Festival ตอนที่ 10 แก้วกระจก

STARCIN อุบัติมหาสงครามสตาร์คิน

-A A +A

STARCIN ภาคที่ 3 Yan Festival ตอนที่ 10 แก้วกระจก

ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เงียบเชียบมีเพียงลูกค้าแค่โต๊ะเดียวเท่านั้นแต่พ่อครัวก็เดินเอาอาหารออกมาเสิร์ฟพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข

"พวกนายเป็นนักเดินทางนี่เองก็ว่าทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน" เฟย์นั่งหลังตรงสุภาพเรียบร้อยจ้องมองเซนที่กำลังใช้ส้อมม้วนเส้นเป็นกลม ๆ ก่อนเอาใส่ปากเคี้ยวอร่อยจนออกนอกหน้าทำเอาพ่อครัวยิ้มปลื้มปริ่ม

"ใช่ พวกเราเป็นนักเดินทางว่าแต่...เซนเมื่อไหร่นายจะกินเสร็จ" ซึฮากิตอบกลับขณะที่คนอื่น ๆ บนโต๊ะอาหารนั่งรอเซนที่ยังกินไม่หมดสักที ถึงคานะจะกินเยอะก็จริงแต่เธอกลับกินเพียงแต่จานเดียวเท่านั้นเอาแต่มองหญิงสาวแปลกหน้าด้วยความสงสัย

"จานสุดท้ายแล้วน่า แต่ทำไมเธอถึงกินน้อยขนาดนี้ล่ะคานะ ?" 

"ฉันไม่ค่อยหิวน่ะอยากจะรีบไปหาที่พักให้ได้ก่อน" 

แจ๋วเลยถ้าเราตามไปจะได้เห็นที่อยู่ก่อนจะพาพรรคพวกมาจัดการซะ แต่เดี๋ยวสิต้องปล่อยไปก่อนเพราะเรายังหาตัวเจ้าเอลฟ์นั่นไม่เจอ คนพวกนี้อาจจะนัดเจอกับมันที่ไหนสักแห่งก็ได้

"ว่าแต่พวกนายจะไปที่ไหนต่อล่ะ ? ถ้าหาที่พักไม่ได้ให้ฉันช่วยหาไหมเพราะยังไงฉันก็รู้จักที่นี่ดีกว่า" 

"ไม่จะดีกว่าพวกเราชอบหากันเองไม่อยากให้คนนอกมายุ่งด้วย" ซึฮากิลุกขึ้นยืนตอบกลับ

"ฉันขอออกไปรอข้างนอกละกัน" เขาหันหลังเดินออกไปทันทีไม่รอพวกเซน

"ฉันไปด้วย" สเตล่าวิ่งตามหลังซึฮากิไปติด ๆ เหลือคานะ เซนและเฟย์อยู่บนโต๊ะอาหารร่วมกัน

"นายก็เห็นเหมือนฉันใช่ไหม ?" สเตล่าเอ่ยปากถามขณะที่พวกเขายืนอยู่หน้าร้านด้วยกัน

"ใช่ เฟย์ คิวเท...คนเดียวกับที่เราเจอเมื่อวานแต่รูปลักษณ์แตกต่างกันมากอาจจะเพราะการแต่งหน้าแต่งตัว

"เธอต้องมีแผนอะไรแน่ ๆ หรือจะแค่เรื่องบังเอิญ" สเตล่าหันหลังแอบมองเข้าไปในร้านอาหารอีกครั้ง

"คิดได้ดีนี่สเตล่าแต่การที่เธอเข้ามาอยู่ในสายตาเราแบบนี้ก็เป็นเรื่องดี ถ้าเราล้วงข้อมูลของเมืองนี้จากเธอได้ไม่มากก็น้อย" ไม่นานนักพวกเซนก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกันกินอิ่มแปล้จนพุงป่อง

"ถึงเวลาไปหาที่นอนกันแล้ว" เซนเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน

"พวกนายอยากได้ที่พักแบบไหนล่ะ หรูหรา พอใช้ หรือราคาประหยัดฉันสามารถแนะนำได้หมดเลยนะ" เฟย์รีบพูดแทรกอย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะเดินจากไป

"ฉันบอกแล้วว่าไม่อยากให้คนนอกมา-"

"ฉันรู้จักกับพวกทหาร กลุ่มปกครองแล้วก็ผู้คุมในคุกด้วยนะ" ซึฮากิไม่ทันพูดจบเธอก็พูดแทรกเสียก่อนแต่มันก็ทำให้พวกเขาหันมาสนใจได้สำเร็จ

"ฉันสามารถช่วยพวกนายทำโน่นนี่นั่นในเมืองนี้ได้ง่ายขึ้นนะเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยฉันไว้" 

"พวกฉันขอคิดสักพักหนึ่งว่าแต่เธอพักอยู่ที่ไหนล่ะ ? ถ้าพวกเรามีเรื่องให้ช่วยจะได้ไปหาได้ถูก" ดูสิจะหลอกถามฐานของพวกมันได้ไหม ซึฮากิเดินเข้าประชิดมองตาต่อตาด้วยส่วนสูงที่พอ ๆ กัน

จะหลอกถามที่อยู่สินะคิดว่าฉันจะหลงกลอย่างงั้นเหรอ

"บ้านฉันอยู่ท้ายเมืองตอนใต้ เป็นบ้านหลังเดี่ยวอยู่ใกล้ ๆ พื้นนาถ้าถามคนแถวนั้นก็บอกว่ามาหาบ้านหนูน้อยก็จะได้รู้ทันที" 

"งั้นไว้เจอกัน" ซึฮากิเดินหันหลังไปรวมกับพรรคพวกทันที

"ไว้เจอกันนะ !" เซนโบกมือไปมาตะโกนบอกลาขณะที่พวกเขาต่างก็เดินแยกทางกันไป

"สเตล่า" ซึฮากิเอ่ยชื่อขึ้นเบา ๆ เมื่อเธอหันหน้ามามองก็ทำเพียงพยักหน้าตอบโต้กันเหมือนคุยกันทางจิต ทันทีที่เธอพยักหน้าก็หายตัวไปทันที

"อะ-สเตล่าไปไหนแล้วล่ะ ?" เซนถึงกับสะดุ้งตกใจมองไปรอบ ๆ 

"ไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวเธอจะกลับมาเอง ก่อนอื่นก็ที่พักใจกลางเมืองจะได้ออกไปไหนมาไหนได้ง่ายแถมยิ่งคนพลุกพล่านเยอะก็ยิ่งไม่มีคนสังเกตสามารถเนียนไปกับฝูงชนได้"  

"นั้นสินะแต่เซน...ทำไมถึงพรวดพราดออกไปช่วยผู้หญิงคนนั้นล่ะหรือว่าจะชอบสไตล์แบบนั้น" คานะเอาตัวแนบชิดยื่นหน้าขึ้นมองจ้องตาเขม็ง

"ป-เปล่าฉันก็แค่เห็นคนเดือดร้อนมันก็เลยเผลอตัวไป แต่ยังไงฉันก็มีแค่ใจเดียวนะคานะ" น้ำเสียงอันอ่อนหวานพยายามจะทำให้คานะคล้อยตามและมันก็ทำได้สำเร็จ คานะเลิกจ้องหน้าแต่ก็เดินนำไปไม่อยากอยู่ใกล้ ๆ 

หลังจากได้ที่พักแล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันไปสืบหาข้อมูลเพิ่มไม่ว่าจะสนามประลอง ตลาดที่มีพ่อค้าแม่ค้าพูดคุยกัน จนไปถึงสถานที่อันใหญ่โตตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากสนามประลอง

ที่นี่มัน ซึฮากิเดินดิ่งเข้าไปทางประตูที่มียามเฝ้าอยู่พอเป็นพิธีไม่ได้ตรวจอะไร

"เฮ้ย ต่อสู้ เงียบ ๆ กันหน่อยดิ"  เสียงแส้ที่ฟาดลูกกรงเหล็กดังลั่นไปถึงหูของซึฮากิ สัตว์มากมายหลายชนิดถูกขังอยู่ในกรง รวมถึงพวกอมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่น ๆ ก็มีเช่นกัน รอยแผลที่เกิดจากการโดนเฆี่ยนตีมีอยู่ทั่วร่าง บางตัวก็นอนนิ่งหมดสติ บางตัวก็นั่งกอดเข่าสั่นระริกอย่างกับเจ้าเข้า

"ว่าไงพ่อหนุ่มมีตัวที่คิดในใจหรือเปล่าล่ะหรือจะให้แนะนำ" ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่กำลังเดินตรวจสภาพของพวกทาสและสัตว์อสูรทั้งหลาย

"ผมขอเดินดูรอบ ๆ ก่อนนะครับ" ซึฮากิเดินเลาะกรงเหล็กไปเรื่อย ๆ จากมุมห้องไปจนสุดทางเดิน มองดูความน่าอนาถอดสูของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ที่ถูกมนุษย์จับได้

ถ้าพวกคิโนริโดนจับคงหนีไม่พ้นความตายหรือไม่ก็มาอยู่ในสภาพแบบนี้แน่ ๆ เวทพันธสัญญานั้นกล่าวได้ว่าเป็นเวทโบราณที่ยังไม่มีการสร้างเพิ่มได้เพราะมันถูกสร้างไว้โดยผู้ถือครองพลังเดอะ ประวัติของผู้สร้างมันก็น่าสงสารเช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านี้ที่ถูกบังคับให้ประทับเวทพันธสัญญาทุก ๆ วันจนตรอมใจตายไปในที่สุด 

ซึฮากิหยุดอยู่ที่กรงเล็ก ๆ กรงหนึ่งที่ภายในนั้นมีนกที่มีลักษณะเหมือนกับอินทรี แผงขนที่คอมีสีขาวสนิทแต่ลำตัวไปจนถึงปีกมีสีน้ำตาลเข้ม จะงอยปากสีเหลืองกับกรงเล็บคู่นั้นมันใหญ่พอที่จะจิกหมาแมวได้เลย

"สนใจเจ้านกนั่นเหรอครับ ? มันคืออินทรีหัวขาวมีความสามารถในการล่าเหยื่อสูงมากแต่ก็แลกมากับการที่มันควบคุมได้ยาก แต่ถ้าคุณลูกค้าสนใจจริง ๆ เรายินดีให้ส่วนลดพิเศษสำหรับการช่วยฝึกด้วยนะครับ"

อินทรีหัวขาวแบบนี้ถ้าจำไม่ผิดมันสามารถมองได้ไกลเป็นกิโลเมตรเลยสินะ แต่ดูจากขนาดตัวแล้วคงจะยังโตไม่เต็มวัย ซึฮากิยืนคิดอยู่พักหนึ่ง

"เจ้านี่ราคาเท่าไหร่ครับ ?" 

"สิบเก้าเหรียญทองครับคุณลูกค้า" ท่าทางนอบน้อมเสียยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ใครเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าอยากจะขายมากแค่ไหน

แพงเหมือนกันนะเนี่ยถ้าเราไม่ได้ขโมยเงินจากที่นั่นมาก็คงจะไม่มีแม้กระทั่งอาหารด้วยซ้ำ การที่เราจะเอาเงินมาเสียกับเรื่องอย่างงี้คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก หลังจากที่ซึฮากิพยายามคิดอยู่นานจู่ ๆ เจ้าปุยก็กระโดดมาจากไหนไม่รู้ขึ้นไปบนกรงของเจ้านกนั่นท่าทางเหมือนกำลังคุยกันอยู่

"ผมเอาตัวนี้แหละครับ" ท่าทางที่ยิ้มดีใจของชายคนนั้นที่กำลังวิ่งไปหยิบกุญแจที่แขวนไว้มาเตรียมเปิดกรง

"เดี๋ยวคุณลูกค้าต้องทำพันธสัญญาก่อนนะครับแล้วผมจะคลายพันธสัญญาของตัวเองทีหลังเผื่อในกรณีที่มันหนีไปตอนหลุดจากการควบคุม" เขาเปิดกรงช้า ๆ อุ้มเจ้านกนั่นที่มีโซ่คล้องติดอยู่กับขาไว้ไม่ให้หนีไปไหน

"มันค่อนข้างจะดุร้ายนะครับเพราะฉะนั้นต้องระวังไว้ให้ดี" เขาหยิบม้วนกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาและยื่นมันให้กับซึฮากิ

"ถือมันไว้นะครับจากนั้นให้เอาเลือดของตัวเองให้มันกินแล้วทำการใช้เวทมนตร์ที่ประทับไว้ในกระดาษแผ่นนั้นแค่นี้นกตัวนี้ก็จะเป็นของคุณลูกค้าแต่ก่อนที่จะทำอย่างงั้นผมขอดูเงินก่อนได้ไหมครับ ?" ซึฮากิถือถุงเงินขึ้นมาเปิดให้เขาเห็นเหรียญทองข้างใน

"งั้นก็เริ่มทำพันธสัญญาได้เลยครับ" ชายคนนั้นยื่นมีดสั้นให้กับซึฮากิ ทันทีที่รับมาเขาก็ปาดฝ่ามือเป็นรอยแผลไม่ใหญ่มากนักแต่ก็พอให้เลือดไหลออกมาได้ก่อนจะหยดมันเข้าไปในปากของอินทรีตัวนั่น แม้ตอนแรกมันจะขัดขืนแต่เมื่อชายคนนั้นผู้ที่ยังทำพันธสัญญากับมันอยู่เริ่มร่ายเวทคาถาบางอย่างก็ทำให้มันสงบนิ่งทำตามแต่โดยดี

"นั่นแหละครับจากนั้นก็ส่งมานาไปที่ม้วนคัมภีร์พร้อมกับร่ายคาถาว่า...ทำพันธสัญญา" 

"[ทำพันธสัญญา]" ทันทีที่เสียงและมานาถูกส่งไปยังม้วนกระดาษนั่นก็มีแสงสว่างประกายขึ้นมาครู่หนึ่ง

"นั่นแหละครับถือว่าทำพันธสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว ที่นี่ผมจะปลดสัญญาของผมต่อเลยนะครับระวังมันอาละวาดด้วย" 

เขากรีดฝ่ามือเช่นเดียวกับซึฮากิหยดเลือดของตัวเองลงไปในปากของเจ้านกนั่น

"[คลายพันธสัญญา] ในกรณีที่ต้องการปลดพันธสัญญาสามารถทำได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องใช้คัมภีร์" หลังจากปลดเวทเสร็จทันใดนั้นเจ้านกก็ดิ้นไปมาใหญ่เลย กรงเล็บอันแหลมคมและจะงอยปากที่ใหญ่โตพยายามจะกัดและฉีกแขนชายคนนั้นแต่ก็โชคดีที่เขาปล่อยมันลงได้ทัน

"เห็นไหมครับผมบอกแล้วว่ามันก้าวร้าวฝึกได้ยาก" ซึฮากิเอื้อมมือไปจ่ายค่านกสิบเก้าเหรียญทอง

"ปลดโซ่พวกนี้ออกให้ทีฉันจะไปแล้ว" ซึฮากิไม่สนใจคำเตือนของเขาเลยสักนิดนั่นทำให้ชายวัยกลางคนคนนี้ประหลาดใจก่อนจะไขกุญแจที่ข้อเท้าของมันออกปล่อยเป็นอิสระ

"ไปกันได้แล้ว" ซึฮากิก้มตัวลงไปจับขาทั้งสองข้างของอินทรีปล่อยให้มันห้อยหัวลงพื้นอย่างงั้นท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนขายรวมถึงเจ้านกเองด้วย

แรงเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ขณะที่ซึฮากิพามันออกไปจากร้านขายทาสมันก็ยังดิ้นไปมาพยายามจะจิกมือของเขาแต่ก็ไม่สำเร็จเหมือนกับติดกำแพงบางอย่างที่มองไม่เห็นอยู่

ถ้าฝึกมันในห้องจะไหวไหมนะ ? อย่างน้อยก็ขอแค่ทำให้มันเชื่อฟังเราได้ก็เป็นพอแล้วจะได้ไม่ก่อปัญหาอะไรอีก นกที่ถูกจับขาห้อยหัวเดินไปมา กว่าจะไปถึงโรงแรมผู้คนในเมืองก็เห็นแล้วเอาไปคุยกันสนุกปากกันหมดแล้วนึกว่าไปล่าสัตว์แล้วจะเอามากิน

พื้นดินรุกรังยาวเป็นถนนตรงไปยังเรือนจำที่อยู่ข้าง ๆ เมือง ตลอดเส้นทางที่ไร้วี่แววผู้คนยิ่งทำให้การแฝงตัวยากเข้าไปใหญ่

"เรากลับไปทางอื่นกันเถอะ ยังไงเราก็คงจะไปต่อไม่ได้อยู่แล้ว" คานะหันหลังเดินกลับขณะที่เซนยังจ้องมองอย่างเขม้นขะมัก,ขะมักเขม้นอยู่

"ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย แล้วเราจะไปหานาธาเจอได้ยังไง ? แถมบ้านคนก็ห่างไกลขนาดนี้" เซนรีบเร่งฝีเท้าเพื่อเดินมาตีคู่ได้ทัน

"เดี๋ยวนี้นายก็รู้จักคิดมากขึ้นนะ ใครกินเซนคนเดิมของฉันไปล่ะเนี่ย"

"แฮะแฮะ...ตลกตายแหละ" เซนหัวเราะแห้ง ๆ ตอบโต้กลับก่อนจะได้ยินเสียงท้องร้องของใครบางคน

"บอกแล้วว่าให้กินเยอะ ๆ" เซนกอดอกยิ้มเยาะพูดด้วยความสะใจเหมือนกับจะบอกว่าฉันบอกแล้วไงล่ะ

"มันก็รู้สึกหิว ๆ อยู่หรอกแต่นั่นไม่ใช่เสียงฉันนะเซน" ทั้งคานะและเซนต่างก็หันหน้าไปมากวาดสายตามองหาที่มาของเสียง

"นั่นไง !" เสียงตะโกนดังลั่นทำเอาใครบางคนที่หลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้วิ่งหนีไป 

"เจ้านั่นอาจจะได้ยินที่เราคุยกันก็ได้รีบตามไปเร็ว" พวกเขาวิ่งไล่ตามเด็กตัวน้อยที่สวมผ้าคลุมปกปิดตัวตนไว้แต่ดูจากส่วนสูงก็น่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นแม้แต่รองเท้าก็ยังไม่มีใส่วิ่งผ่านถนนรุกรังเหยียบหินมากมายไปโดยไม่รู้สึกเจ็บ

"เฮ้เจ้าหนูหยุดเดี๋ยวนี้" เซนกำลังจะตามถึงตัวทันได้เจ้าเด็กนั่นก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคาปีนป่ายหนีไปยังอีกฝากของตึก แม้ตอนแรกเซนกับคานะจะตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกระโดดตามไปแต่สุดท้ายก็คลาดสายตาจนได้

"หายไปแล้ว" คานะเดินออกไปจากมุมตึกมองเห็นผู้คนเดินไปมากันปกติแม้จะพยายามมองร่องรอยมากเท่าไรก็ไม่เห็นไม่เจออะไรเลย

"โอ้ ! เวรจริง ๆ ถ้าเธอดันได้ยินเรื่องที่เราพูดเกี่ยวกับเรือนจำนั่นแล้วเอาไปบอกคนอื่นล่ะก็" เซนเดินวนไปมาดูวิตกกังวลเป็นอย่างมาก

"ไม่หรอกเรายังไม่ได้พูดเรื่องแผนหรืออะไรพวกนั้นเลย เจ้าเด็กนั่นอาจจคิดว่าเป็นแค่นักท่องเที่ยวก็ได้แต่เราก็ดันวิ่งตามมากันขนาดนี้แล้วคงทำให้เด็กคนนั้นกลัวแน่ ๆ" คานะจับแขนเซนลากออกมาจากตรอกเดินไปกับผู้คนออกไปที่อื่น

บ้านหลังเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างไกลใจกลางเมือง ที่นั่นมีทุ่งนา ไร่และสวนเป็นพื้นที่เพาะปลูกอย่างชัดเจน คนที่อยู่ที่นี่คงจะรู้สึกสงบสดชื่นเป็นแน่ต่างจากในตัวเมืองที่ดูวุ่นวายและเสียงดังเพราะมีคนทำมาหากินกันตลอด

ซึฮากิให้เราตามเฟย์ คิวเทไว้เผื่อจะเจอข้อได้เปรียบหรือความลับสักอย่างช่วยให้เราสามารถต่อสู้ได้หากมีการปะทะในภายภาคหน้า เธอมองดูเฟย์จากไกล ๆ คอยรักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้ถูกจับได้

 นี่เธอไม่คิดจะทำอย่างอื่นเลยหรือไงเห็นเดินช่วยชาวบ้านแถวนี้ทำงานอย่างเดียวเลยสงสัยจะว่างมากมั้ง หลังจากตามดูมาเป็นชั่วโมงแล้วแต่เธอก็ยังไม่ออกไปไหนเลยจนกระทั่งบ่าย เฟย์กลับเข้าไปในบ้านของตัวเองสักพักหนึ่ง

เธอทำอะไรอยู่กันนะ ? สเตล่าแอบปีนขึ้นไปบนหลังคาแล้วลงมาแอบดูทางหน้าต่างในจังหวะที่ไม่มีใครเห็นก่อนจะแอบเข้าไปทางหน้าต่างที่ไม่ได้ล็อก

เสียงน้ำจากฝักบัวไหลลงหัวเหมือนสายฝนก่อนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกลงไปในน้ำ มันทำให้สเตล่าสงสัยจนต้องพยายามเข้าไปดูให้ได้

นั่นมัน สเตล่าแอบแง้มประตูมองจนได้เห็นเฟย์ที่กำลังนอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่กว่าตัวคนเล็กน้อยพอแช่ได้แค่คนเดียว

"เฮ้อ...อ่างอาบน้ำเล็กจังเลยไม่เหมือนกับในบ้านของพี่กุสตาฟ แต่อยู่ที่นี่มันก็รู้สึกสงบดีไม่เหมือนกับตอนที่เรา...ช่างมันเถอะ" เธอทิ้งตัวลงไปในน้ำเหลือเพียงหัวเท่านั้นที่อยู่เหนือน้ำ ปากเป่าลมทำให้เกิดฟองอากาศผุดขึ้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะนอนแช่ต่อไปนิ่งเงียบอย่างกับนอนหลับไปแล้ว

จะแช่อยู่อย่างงั้นนานสักแค่ไหน หรือว่าเธอจะเป็นพวกชอบอาบน้ำถ้าแกล้งสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้งยิ่งเบื่อ ๆ อยู่แล้ว สเตล่าแง้มประตูห้องน้ำออกเล็กน้อยในขณะที่เธอกำลังจะร่ายเวทส่งแรงลมเข้าไปในห้องแต่ก็ต้องผงะเสียก่อนเมื่อเห็นเฟย์นอนนิ่งอยู่บนพื้น

ให้ตายสิเธอเป็นอะไรกันนะ ถ้าลื่นล้มก็คงจะมีเสียงสิหูเราก็ค่อนข้างดีแถมในระยะแค่นี้จะพลาดไปได้ยังไง เธออุ้มเฟย์ที่ยังไม่ได้ห่มผ้าเช็ดตัวออกมากลางบ้านมองดูรอยแผลทั้งบนตัวและศีรษะเพื่อดูอาการแต่ก็ไม่พบเลยสักที่

"อ-โอย ๆ" เฟย์ลืมตาตื่นขณะที่สเตล่ากำลังค้นดูเรือนร่างของเธออยู่และชั่วพริบตาที่ทั้งคู่สบตากันจนนิ่งไปสักพักหนึ่ง

"กรี๊ด !" เสียงกรีดร้องเพราะตกใจของทั้งสองคนดังออกไปถึงข้างนอก 

"ธ-เธอมันผู้หญิงคนนั้นนี่" เฟย์ตกใจคว้าเอาผ้าห่มที่อยู่ใกล้มือมาปิดเรือนร่างไว้อีกมือคว้าเอามีดปอกผลไม้ตั้งท่าเตรียมต่อสู้

"จ-ใจเย็นก่อนนะ ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร" ไม่ว่าจะสเตล่าหรือเฟย์พวกเธอต่างก็กำลังตกใจพูดตะกุกตะกักทำตัวไม่ถูก

"ทิ้งอาวุธทั้งหมดลงพื้นซะ !" เฟย์ตะคอกเสียงดัง

"ด-ได้เดี๋ยวฉันจะทิ้งอาวุธ" สเตล่าวางมีดสั้นช้า ๆ แล้วเตะมันไปให้เฟย์ เธอเอาเท้าเหยียบหยุดมันไว้ได้พอดีก่อนจะทิ้งมีดปอกผลไม้แล้วหยิบขึ้นมา

"เธอตามฉันมาสินะ แล้วเข้ามาในบ้านของฉันได้ยังไง ?" เฟย์ลดอาวุธลงเริ่มตั้งสติคุยกันดี ๆ 

"อ-เอ่อ...คือ" สเตล่าถึงกับหาคำมาพูดไม่ได้ไม่รู้จะแถยังไงดี

"หนูน้อยเป็นอะไรไหม ?" เสียงของสาวใหญ่พูดผ่านประตูเข้ามาดูเป็นห่วงเป็นใย

"ไม่เป็นอะไรค่ะแค่เจอแมลงนิดหน่อยไม่ต้องห่วงนะคะ" น้ำเสียงช่างแตกต่างกับตอนที่คุยกับสเตล่ายิ่งนักความนุ่มนวลสมเป็นกุลสตรี

"เหรอจ๊ะงั้นป้าไม่รบกวนละ" เสียงเท้าที่กำลังเดินออกห่างจากบ้านหลังนี้ไปเป็นสัญญาให้เฟย์พุ่งเข้าหวังจะจับตัวสเตล่า

"ด-เดี๋ยว" สเตล่ากระโดดถอยออกไปตั้งหลักใหม่

ไม่อยากจะใช้เวทมนตร์เท่าไหร่มันอาจจะทำให้เกิดเสียงดังแล้วก็บ้านอาจจะเสียหายได้ เฟย์พุ่งเข้าประชิดสอดมือเข้าไปช่วงแขนขณะที่อีกมือก็จับแขนไว้ก่อนจะหันหลังให้เอาเท้าตวัดโดนขาของสเตล่าจนทรงตัวไม่อยู่แล้วเหวี่ยงทุ่มลงพื้น

ศิลปะการต่อสู้อย่างงั้นเหรอ สเตล่าบิดตัวเอาขากลับมาตั้งบนพื้นได้อีกครั้งขณะที่กำลังอยู่กลางอากาศ แขนที่ถูกจับไว้แน่นสลัดไม่หลุดทำให้สเตล่าต้องออกแรงเหวี่ยงมือไปพร้อมกับกำปั้นเล็งไปที่ใบหน้าของเฟย์

ไม่ได้กินฉันง่าย ๆ หรอก เฟย์ยกขาขึ้นเตะมือของสเตล่าออกไปอย่างแรงจนมือแดงขณะที่จับแขนไว้เธอก็กระโดดเตะขาคู่โดนหน้าอกของสเตล่าเต็ม ๆ จนจุกลงไปนอนตัวขดเป็นกุ้งอยู่บนพื้น

"เหอะ ก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่า" เฟย์เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ แต่เพียงชั่วพริบตาสเตล่าก็ยื่นมือทั้งสองข้างมาจับขาของเฟย์แล้วดึงเข้าหาตัวทำให้เธอล้มก้นจ้ำเบ้า

หน๊อย เฟย์ไม่ทันได้ตั้งตัวสเตล่าก็ขึ้นมาคร่อมตัวเธอเสียแล้ว หมัดที่กำลังง้างมาแต่ไกลกำลังจะเข้าปะทะกับใบหน้าสวย ๆ ของเธอแต่เฟย์ก็หันหน้าหลบไปอีกข้างทัน

"เธอปกปิดสเตตัสไว้สินะ" สเตล่ามองลงมายังใบหน้าของเฟย์ที่กำลังหายใจไม่เป็นจังหวะ

"ก็รู้นี่จะมาถามฉันทำไม" เฟย์อาศัยจังหวะที่ชวนคุยยกตัวหงายไปอีกฝั่งแล้วขึ้นคร่อมตัวสเตล่าแทน

ไหนเธอลองโดนบ้างสิ เข่าทั้งสองข้างได้กดมือของสเตล่าไว้จนขยับไม่ได้ เฟย์ง้างหมัดซ้ายขณะที่มือขวาจับใบหน้าของสเตล่าไว้ไม่ให้ขยับหนี หมัดที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแถมยังดูรุนแรงมากแต่เพียงเสี้ยววินาทีที่สเตล่าออกแรงสบัดหัว แขนขวาที่กำลังตึงจับใบหน้าของเธออยู่ก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาชั่วขณะจนทำให้เฟย์เสียจังหวะต่อยพลาดไปโดนพื้นบ้านจนเป็นรอยหมัด

"เวรเอ๊ยเพราะแกเลยพื้นบ้านฉันถึงเป็นรอยแบบนี้" เฟย์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแต่มันก็ทำให้สเตล่าได้จังหวะที่เผลอยิงเข็มยาสลบอันเล็กนิดหนึ่งจากปากของตัวเองเป่าแทงเข้าที่คอของเฟย์ 

"โอ๊ย ยุงกัดหรือยังไงเนี่ยทำไมตอนกลางวันแสก ๆ ถึงมียุง" เฟย์เอามือตบลงไปตรงนั้นด้วยสัญชาตญาณยิ่งทำให้เข็มฝังเข้าไปลึกกว่าเดิมเสียอีก

"เธอน่ะประมาทฉันเกินไปแล้ว" หลังจากสเตล่าพูดจบเฟย์ก็เริ่มคุมสติได้ยากขึ้นเหมือนร่างกายง่วงมาก ๆ ต้องการจะหลับ ตาก็จะปิดให้ได้เลย

"เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ?" 

สเตล่าออกแรงนิดเดียวก็สลัดออกจากการโดนคร่อมได้ง่าย ๆ เธอใช้ทั้งสองมือจับใบหน้าของเฟย์ไว้แล้วโยกหัวไปข้างหลังโขกไปที่หัวของเฟย์จนหมดสติไปในทันที

"โอ๊ยเจ็บชะมัดเลย" สเตล่าลากร่างของเฟย์ไปในห้องนอนเพื่อไม่ให้คนอื่นมองเข้ามาเห็น

เอายังไงกับเธอดีล่ะเนี่ย ? ถูกจับได้ว่าแอบตามถ้าปล่อยไปคงไม่จบง่าย ๆ แน่คงต้องทำแบบนั้นแล้วสินะ เธอหาผ้าจำนวนหนึ่งมาห่อตัวเฟย์ไว้เหมือนกับหมอนข้างใหญ่ ๆ ก่อนจะแอบแบกออกไปไม่ให้คนบริเวณนั้นรู้แต่ยังไงก็หลบไม่พ้นสายตาของคนที่ใจกลางเมืองอยู่ดี

ขอเหอะอย่าเจอพวกทหารยามเลย สเตล่าแบกเฟย์ที่ถูกห่อเป็นหมอนข้างตรงไปที่โรงแรมอย่างรวดเร็วท่าทางรีบร้อนจนเหงื่อแตกพลั่ก

"กิ ! นายอยู่ไหม ?" สเตล่าเปิดประตูห้องพรวดพราดเข้าไปรีบวางเฟย์ลงหลังจากแบกมาไกลหลายกิโลเมตร

"เธอไปซื้ออะไรมาล่ะ ?" ซึฮากิเอ่ยปากถามขณะที่เขากำลังพยายามจะคุยกับอินทรีอยู่

"นั่นนายไปเอานกมาจากไหน ?" ต่างคนต่างตกใจตั้งคำถามยิงใส่กันแต่กลับไม่มีคนที่ตอบเลยสักคน

"ฉันไปซื้อมาน่ะ แล้วหมอนนั่นคืออะไรปกติก็ไม่เห็นเธอจะใช้หมอนข้างนอนเลยนี่" ซึฮากิเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย

"อื้อ อล่อยอันออกไอเอี๋ยวอี้" เสียงอู้อี้จากภายในหมอนใบนั่นทำเอาซึฮากิตกใจเดินถอยออกมาในทันที

"นั่นมันอะไรสเตล่า-" 

"ฉันกลับมาแล้ว" ขณะที่ซึฮากิกำลังจะถาม พวกเซนก็กลับมาพอดิบพอดีทำเอาหน้าเหวอกันไปหมด

"เธอคือชื่อเฟย์น่ะ" สเตล่าปลดที่ห่อออกเผยให้เห็นเฟย์ที่ถูกมัดเท้ามัดแขนและปิดปากด้วยผ้าพยายามดิ้นแทบเป็นแทบตาย

"สเตล่า !" เสียงตะโกนด้วยความตกใจของพวกเขาที่เปล่งออกมาอย่างพร้อมเพรียงทำเอาสเตล่ายิ้มแห้ง ๆ ออกมาทันที

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.