วิถีธาตุออนไลน์ : บทที่ 6 เริ่มฝึกฝน

วิถีธาตุออนไลน์ ศึกพลังธาตุ...สะท้านแผ่นดิน (online)

-A A +A

วิถีธาตุออนไลน์ : บทที่ 6 เริ่มฝึกฝน

บทที่ 6 เริ่มฝึกฝน

“อะไรเล่า?!” เมย์โวยวาย เธอก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง

“ก็จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้ง พอเธอท้วงอะไรเมื่อไหร่ เกิดขึ้นจริงทุกทีน่ะสิ”

พลอยเอ่ย เพราะตั้งแต่หญิงสาวรู้จักกับเมย์มา เพื่อนของเธอมักเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถูกเสมอ อย่างตอนที่ไปทำภารกิจล่าสุดด้วยกัน มีช่วงหนึ่งที่ต้องเดินข้ามลำธารเล็กๆ ระหว่างกำลังจะพากันข้ามไป จู่ๆ เพื่อนเธอก็ท้วงขึ้นมาว่า “คงไม่มีจระเข้ใช่มั้ย?!” เท่านั้นเอง น้ำก็เป็นอันแตกกระจาย พร้อมกับมีไอ้ตัวดังกล่าวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เล่นเอาถอยห่างกันแทบไม่ทัน

หลังจากกรกชได้ฟังเรื่องราวจากหลายๆ คน เขาจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “เอาน่า ครั้งนี้คงไม่มีอะไรหรอก”

“สาธุเลยพี่” ทัศน์พูดสั้นๆ

“เร่งกันอีกนิดเถอะพวกเรา อีกหน่อยก็ถึงลานลมโชยกันแล้ว” ชัยพูดก่อนจะเร่งฝีท้าวขึ้นอีกระดับ ไม่ว่าที่ตรงนี้จะแปลกไปเพราะอะไรก็ตาม การรีบออกไปให้ไกลโดยเร็วที่สุดน่าจะดีกว่า ชายหนุ่มคิด

ไม่มีใครคัดค้าน เพราะแต่ละคนก็คงไม่อยากอยู่ที่นี่นานเช่นกัน หลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ ทั้งหมดจึงพ้นออกจากโป่งดำ กระทั่งทิ้งห่างใกลมาเรื่อยๆ

ภูมิประเทศของลานลมโชยเป็นลานหินกว้างขวางขนาดใหญ่ สามารถจุคนนับพันได้อย่างสบายๆ นอกจากกลุ่มของกรกชที่เพิ่งเดินทางมาถึง ก็ยังมีกลุ่มผู้เล่นอีกบางส่วนพักอยู่ที่นี่ก่อนหน้าแล้ว มีหลายคนเดินเข้ามาทักทายบ้าง ซึ่งบางส่วนก็ทำเพียงมองมา แล้วก็หันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ

กลุ่มกรกชช่วยกันตั้งเต๊นท์คนละไม้ละมือ โดยในส่วนของกรกชนั้น ทัศน์ได้มอบเต๊นท์สำรองที่เขาซื้อติดกระเป๋ามาให้ยืนใช้ไปก่อน เนื่องเพราะเมย์และพลอยเห็นว่าตอนนี้เริ่มจะมืดค่ำเข้าไปทุกที ดังนั้นหญิงสาวทั้งสองจึงได้ตระเตรียมอุปกรณ์ทำอาหารหลายอย่างเอาไว้ โดยให้ผู้ชายเป็นฝ่ายออกไปหาฟืนเพื่อมาใช้ก่อไฟ พอทุกคนทำภารกิจของตัวเองเรียบร้อย จึงได้มานั่งล้อมวงพร้อมหน้าพร้อมตากัน

“พลอยกับเมย์นี่ทำอาหารอร่อยนะเนี่ย ใครได้ไปเป็นแฟนคงดวงดีตายเลย” กรกชเอ่ยชม หลังจากตักน้ำแกงเนื้อสัตว์อสูรขึ้นชิม

“ยังไม่เห็นผ่านเข้ามาสักคนเลยค่ะพี่กช” พลอยเอ่ยขณะตักข้าวที่เพิ่งหุงเสร็จใส่จาน แล้วแจกจ่ายให้กับทุกคน

“พี่กชพอจะมีเพื่อนหล่อๆ รวยๆ สักคนสองคนหรือเปล่าล่ะ ติดต่อให้เมย์บ้างสิ” หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่จริงจังมากนัก

“ก็พอมีนะ”

คำตอบของกรกชทำให้สาวๆ ทำทียิ้มดีใจ ทว่าประโยคถัดมา ทำให้พวกเธอหุบยิ้มแทบไม่ทัน

“แต่กินเหล้าเก่งกันทุกคนเลยเนี่ยสิ ฮ่าๆ “ ชายหนุ่มหัวเราะ

“โธ่ จะมีบ้างเปล่าเนี่ย ผู้ชายที่หล่อ รวย ใจดี ไม่กินเหล้า ที่สำคัญไม่เจ้าชู้ด้วย” พลอยเอ่ยเซ็งๆ

“แล้วเพื่อนพี่ หรือรุ่นน้องที่สาวๆ สวยๆ พี่กชมีบ้างเปล่าครับ” ทัศน์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งถามมาด้วยน้ำเสียงครื้นเครง

“มี แต่อุ้มลูกน้อยกันหมดแล้วว่ะ สนใจเปล่า ฮ่าๆ “ กรกชตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

ทัศน์ยิ้ม “ยิ่งดีเลยพี่ ผู้หญิงแบบนี้เค้าว่าประสบการณ์เยอะ ผมจะได้ไม่ต้องสอนมาก”

“แล้ววันดีคืนดี นายก็จะถูกไล่เตะลงจากเตียง ข้อหาไปเป็นกิ๊กกับเมียชาวบ้านใช่มั้ยวะ” ชัยพูดแทรกขึ้น

“โห่ พี่ชัย กุ๊กกิ๊กอะไร แบบนี้เค้าเรียกว่า การสร้างตัวเลือกให้กับผู้หญิงต่างหากล่ะ ฮ่าๆ “ ทัศน์เอ่ยโต้แย้งพร้อมกับหยิบเนื้อย่างเข้าปาก

“ได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่โดนกระทืบมาแล้วอย่ามาขอให้ฉันช่วยนะโว่ย” ชัยส่ายหน้ายิ้มๆ

“ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยนะครับ”

เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เจ้าของเสียงเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ทำให้กลุ่มของกรกชหันไปมองอย่างสนใจ เมื่อเขารับรู้ได้ว่าตกอยู่ภายใต้สายตาหลายคู่ เขาจึงเริ่มแนะนำตนเองด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ผมเงาดาบ เป็นหัวหน้ากิลด์มังกรซ่อนครับ ที่มาเพราะมีข่าวจะมาบอกน่ะครับ”

เมื่อเงาดาบเข้ามานั่งรวมกลุ่ม กรกชจึงได้โอกาสถามขึ้น “คุณเงาดาบจะมาบอกพวกเราเกี่ยวกับเรื่องที่โป่งดำรวมไปถึงป่าบริเวณใกล้เคียงแปลกไปใช่มั้ยครับ?”

“ใช่แล้วครับ” เงาดาบตอบ “กิลด์ของพวกเรามาปักหลักล่าสัตว์อสูรอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรแปลก แต่วันนี้ ไม่รู้ว่าพวกสัตว์ตัวเล็กๆ และสัตว์กินพืชทั่วไปหายไปไหนกันหมด เพราะแบบนี้ ผมเลยคิดว่าอีกหน่อย มันจะต้องเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นแน่ เลยอยากจะให้พวกคุณช่วยกันระวังภัยเอาไว้ด้วยครับ นี่ผมก็ส่งสมาชิกกิลด์ไปเตือนกลุ่มอื่นๆ แล้ว”

“ขอบคุณคุณเงาดาบมากนะครับที่มาบอก” ชัยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทางพวกเราจะระมัดระวังเอาไว้ครับ”

“ไม่เป็นไรครับ มีอะไรจะได้ช่วยกัน” เงาดาบกล่าว ก่อนจะลุกขึ้นยืม “งั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับกลุ่มของผมก่อนนะครับ” เขาเอ่ยลา แล้วเดินแยกไป

คนในกลุ่มยังอยู่พูดคุยกันอีกสักพัก ต่อเมื่อเห็นว่าเกือบจะสามทุ่มแล้ว จึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน ซึ่งฝ่ายชายอาสากันเฝ้าเวนยาม โดยแบ่งเป็นสามกะ กะละสามชั่วโมง ซึ่งกะแรกเริ่มจากทัศน์ กรกช และชัยเป็นคนท้ายสุด

เมื่อกรกชเข้ามาในเต็นท์ เขาก็มานั่งทำความเข้าใจเคร็ดวิชาธาตุร้อยวิถีอย่างตั้งใจ ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิ หลับตา แล้วค่อยๆ โคจรพลังธาตุสายฟ้าที่มีอยู่ไปตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นจุดที่เคร็ดวิชากำหนด ในครั้งแรกค่อนข้างทำได้ยาก เพราะเขาสัมผัสถึงพลังในร่างกายแทบไม่ได้เลย

กรกชยังไม่คิดยอมแพ้ เขาเพ่งจิตสมาธิทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้นเรื่อยๆ จากที่สัมผัสพลังของตัวเองแทบไม่ได้ เมื่อทำไปจนถึงจุดหนึ่ง กระแสพลังในร่างกาย จึงค่อยๆ ชัดเจนขึ้นตามลำดับ

กรกชพยายามอดกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้ เพราะชายหนุ่มกลัวสมาธิหลุด แล้วสิ่งที่ทำมาจะเสียเปล่า เขายังคงโคจรพลังต่อไปเรื่อยๆ จากที่ติดขัดอยู่บ้างก็เริ่มราบรื่น ความเร็วของการโคจรในแต่ละครั้งใช้เวลาน้อยลงไปทุกที จนในที่สุด เสียงของระบบก็ดังขึ้น

‘ผู้เล่นกรกชทำการปรับร่างกายให้เข้ากับพลังธาตุสายฟ้าสำเร็จ การพัฒนาและใช้งานต่อไปขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของผู้เล่นเอง’

กรกชลืมตาขึ้นยิ้มด้วยความพอใจ “ใช้พลังได้กับเค้าสักทีนะไอ้กช” ชายหนุ่มเอ่ย ทั้งที่ยังโคจรพลังต่อไปไม่ได้หยุด

เมื่อกรกชเห็นว่าการโคจรพลังแบบปรกติเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เขาจึงอยากทดลองฝึกการโคจรพลังแบบรูปเกลียวบ้าง เพราะหากสามารถใช้งานได้ น่าจะมีประโยชน์กับเขามากกว่า ไม่รอช้า เขาหยุดการโคจรพลัง แล้วเริ่มรวบรวมขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง แล้วทำการแปลงพลังให้เป็นรูปเกลียวทีละน้อย

...ทันใดนั้น ความเจ็บปวดอันรุนแรงพลันบังเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนทำให้ชายหนุ่มจำต้องกัดฟันเพื่อสะกดกลั้นเสียงร้องของตัวเอง เขาฝืนโคจรพลังให้วิ่งไปตามเส้นชีพจรเรื่อยๆ แม้ว่าใบหน้าจะบิดเบี้ยวสะท้อนให้เห็นถึงความทรมานอยู่ก็ตามแต่

หากเป็นชีวิตจริงแน่นอนว่ากรกชคงไม่กล้าเสี่ยงในลักษณะนี้ ทว่าตอนนี้เขาอยู่ในเกม...อยู่ในเกมซึ่งความเจ็บปวดใดๆ ก็ตาม จะไม่มีผลกระทบต่อร่างกายในชีวิตจริง ดังนั้นเขาจึงพร้อมที่จะเสี่ยง ถึงแม้เขาจะต้องตายแล้วเริ่มลองใหม่อีกครั้งก็ชั่ง

ความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด...หากทว่าขีดจำกัดของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ซึ่งการที่คนเราจะมีความอดทนที่สูงได้นั้น จะต้องประกอบไปด้วยความขยันหมั่นเพียร ความมีวินัย มีเป้าหมาย มีความฝันเป็นของตัวเอง ที่สำคัญ จะต้องไม่ย่อท้อในอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา

กรกชเป็นคนประเพศที่ว่า หากเราไม่ท้อ สิ่งที่เราหวังจะต้องสำเร็จในสักวัน ดังนั้นพอเขาได้พบเจอกับสิ่งที่คิดว่ายากสำหรับเขาแล้ว เขาจึงรู้สึกท้าทายและอยากทำมันให้ได้ ถึงแม้บางครั้งมองดูภายนอกเขาจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ หากพอถึงเวลาอยากจะทำอะไรจริงๆ ขึ้นมา เขาก็จะทำมันให้ถึงที่สุด...ดังเช่นตอนนี้!

ไม่ว่ากระแสพลังจะเคลื่อนผ่านจุดไหนของร่างกาย ความรู้สึกที่ได้รับตามมาก็คือ ความเจ็บปวดราวกับมีใครใช้เข็มนับร้อยพันมาทิ่มแทงผ่านเลือดเนื้อลึกลงไปจนถึงกระดูก...แต่ทว่าเขาก็ยังคงดันทุรังโคจรพลังตามความตั้งมั่นที่มีอยู่เช่นเดิม

ผิวหนังร้อนผ่าว เหงื่อจำนวนมากไหลออกมาจากทั่วทุกรูขุมขน เป็นเหตุให้ชุดที่ใส่อยู่เปียกชุ่มแมบติดกับเรือนร่าง ซึ่งบัดนี้มีสภาพแข็งเกร็งด้วยพิษความเจ็บปวดที่รุมเร้าอยู่ภายใน

“...อีกนิดเดียวน่าไอ้กช!” กรกชเค้นเสียงรอดไรฟัน พลางขับดันพลังธาตุในร่างให้เดินหน้าต่อไป เพราะอีกไม่นานก็จะครบหนึ่งรอบแล้ว ตามความคิดเขา หากทำได้ครบหนึ่งรอบ ระบบหน้าจะประกาสยอมรับให้เขาใช้งานมันได้ หลังจากนั้น การที่จะโคจรพลังในลักษณะนี้ในครั้งถัดไปก็จะง่ายขึ้นมาก

ยิ่งใกล้ครบรอบเท่าไหร่ ความทรมานก็ยิ่งเพิ่มมากเป็นเงาตามตัว เมื่อกรกชเห็นว่าเหลืออีกเพียงนิดเดียวพลังธาตุก็จะเคลื่อนจนครบรอบ เขาจึงตัดสินใจรวบรวมพลังใจอึดสุดท้าย ผลักดันพลังธาตุเข้าสู่จุดหมายในทีเดียว

อึก!

ร่างกรกชสะดุ้งเฮือก ในทีแรกมันเต็มไปด้วยความเจ็บร้าวสุดเปรียบปาน เส้นประสาทตรงศีรษะปวดหนึบราวกับคนเป็นไมเกรนขั้นรุนแรง จากนั้นอาการดังกล่าวค่อยลดลง ตามมาด้วยอาการชาเหมือนโดนเหน็บกินไปทั่วสารพางค์ ก่อนอาการทั้งหมดจะดีขึ้นในเวลาต่อมา

‘ผู้เล่นกรกชทำการโคจรพลังรูปแบบใหม่สำเร็จ การพัฒนาและใช้งานต่อไป ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของผู้เล่นเอง’

เสียงแจ้งเตือนของระบบส่งผลให้กรกชคลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า แล้วมุดออกไปจากเต๊นท์เพื่อสูดอากาศภายนอก สายลมกลางดึกพัดเข้าปะทะชุดที่ยังชื้นเหงื่อ ทำให้กรกชเผลอห่อไหล่นิดๆ ด้วยความเย็น

ระหว่างที่เขากำลังเดินไปยังกองไฟเพื่อหาความอบอุ่น ทัศน์ที่เพิ่งหันมาเพราะได้ยินเสียงฝีท้าวเดินเข้ามาใกล้ จึงเอ่ยขึ้นว่า

“อ้าว พี่กช ออกมาพอดีเลยครับ ผมกำลังว่าจะไปเรียกอยู่เชียว”

เสียงเห่าหอนของสุนักนับไม่ท่วนซึ่งดังแว่วมาตามลม ทำให้กรกชที่กำลังเดินมานั่งลงข้างทัศน์งิ่วหน้า

“คืนนี้มันเอาเราแน่สินะ?” เขาถาม น้ำเสียงติดจะเครียดนิดๆ

“ก็คงแบบนั้นละครับ” ทัศน์ยัดฟืนเข้ากองไฟเพิ่ม “มันเพิ่งดังใกล้เข้ามาเมื่อสักพักนี่เอง ผมกำลังว่าจะไปปลุกคนอื่นๆ ก็พอดีพี่เดินออกมานี่แหละ” เขาพูดพลางชันกายลุกจากที่นั่งเดินไปปลุกสมาชิกคนที่เหลือ

กรกชชำเลืองไปมองกลุ่มอื่นๆ ก็พบว่าเริ่มมีการเตรียมพร้อมกันแล้วเช่นกัน เขาหยิบกาต้มน้ำที่ทัศน์ต้มเอาไว้มารินลงแก้วให้ตัวเอง ก่อนจะรินเพิ่มอีกแก้ว แล้วยื่นส่งให้ชัยที่เพิ่งเดินมาถึง ส่วนฝั่งทางสาวๆ ส่ายหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าไม่เอา เขาจึงวางกาไว้ที่เดิม

“นายตื่นนานแล้วเหรอกช?” ชัยถามพลางจิบกาแฟไปพลาง

“ก่อนหน้านายไม่นานเอง” กรกชเอ่ยตอบ

ระหว่างนั้น ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งพรวดพราดเข้ามาใจกลางลาน ที่คนส่วนใหญ่ตั้งเต็นท์พักอยู่ พลางตะโกนเสียงดัง

“หัวหน้าครับ! ตอนนี้มีพวกหมาป่าฝูงใหญ่มุ่งหน้าเข้ามาทางที่พักของเรา ห่างไปไม่มากแล้ว!”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.