STARCIN ภาคที่ 2 GAMES START ตอนที่ 12 มีเรื่องแล้ว

STARCIN อุบัติมหาสงครามสตาร์คิน

-A A +A

STARCIN ภาคที่ 2 GAMES START ตอนที่ 12 มีเรื่องแล้ว

17 กันยายน พ.ศ.2575

" ไปละนะ " เสียงบอกลาจากเซนเขาโบกมือให้ก่อนจะหันหลังไป พวกเขาทั้งสามกับอีกหนึ่งตัวกำลังเดินทางไปที่ดันเจี้ยนอีกครั้ง รอบนี้ได้พกเสบียงไปจำนวนหนึ่งด้วย

คงต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้แล้ว ซึฮากิโบกมือพร้อมกับยิ้มอ่อนให้

" อ-เอ่อคุณมังกี้ ผมอยากจะสอนเรื่องเวทมนตร์ให้กับทุกคนในหมู่บ้าน เป็นไปได้ไหมที่จะเรียกพวกเขามา " มังกี้จ้องเขม็งเหมือนกำลังคิดอะไรในใจ เธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ 

" ถึงสอนไปก็เท่านั้น หมู่บ้านของข้ามีหินเวทไม่กี่ชิ้นเองนะ...เจี๊ยก "

แต่ถ้าตามที่อ่านในบันทึกนั่นบอกเอาไว้ว่าสิ่งมีชีวิตเผ่าอื่น ๆ จะมีสื่อกลางที่ใช้แทนหินเวทได้อยู่ ซึฮากิเหม่อคิดไปพักหนึ่งก่อนที่จะย่อตัวลง

" แล้วคุณมังกี้ใช้เวทมนตร์ได้ไหมครับ ? " เขามองเข้าไปในดวงตาสีแสดที่แสนจะเศร้าหมอง

" ได้สิข้าเป็นหัวหน้านะ...เจี๊ยก " เธอหลับตาพร้อมกับถอนหายใจ

" ลองใช้ให้ผมดูสักหน่อยได้ไหมครับ ? " 

" เฮ้อ... " เธอยกมือขึ้นกวาดมือไปทางที่โล่งพร้อมกับพูดออกมา " [ Mana Shield ] " กำแพงโปร่งแสงที่มองได้ยากก่อตัวขึ้นไปตามรูปแบบที่มือลากไป 

" หินที่อยู่กับสร้อยเส้นนี้ก็คือหินเวทเป็นของที่ตกทอดรุ่นสู่รุ่น เวทที่ข้าใช้ก็มีแค่เวทที่สอนต่อ ๆ กันมา " น้ำเสียงอันน่าเวทนาแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมาได้ขณะที่เธอลูบคลำสร้อยทำมือที่ใส่ไว้ตรงคอ 

" คุณลองถอดสร้อยออกมาแล้วใช้เวทอีกรอบดู " ซึฮากิจ้องมองด้วยความสงสัย

" ก็ได้ ๆ [ Mana Shield ] " เธอกวาดมือร่ายเวทอีกครั้งในจุดเดิม สร้างกำแพงมานาขึ้นมาได้แต่มันก็บอบบางมากเสียจนมองแทบไม่เห็น 

สื่อกลางของเธอน่าจะเบาบางมาก ๆ อาจจะเพราะไม่ได้ฝึกฝนใช้มัน 

" พวกคุณสามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งหินเวท แต่ถูกปลูกฝังมาว่าใช้ไม่ได้เอง " ซึฮากิยืนขึ้นหันหน้าไปมองรอบ  ๆ 

" ผมจะทำให้พวกคุณใช้มันให้เป็นเอง เชื่อมือได้เลย " ซึฮากิกลับตัวหันมามองหน้ามังกี้พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน

" เจี๊ยก... " มังกี้ยืนนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะทำหน้าจริงจังเดินไปกลางหมู่บ้าน

" เจี๊ยก ! " เธอส่งเสียงร้องดังสนั่นต่อเนื่อง หลังจากที่หยุดพูด พวกชาวบ้านต่างก็พากันเดินเข้ามาพวกเขาต่างก็งุนงงบางคนก็สั่นกลัว

" ท่านมีเรื่องอันใด หรือว่ามีผู้บุกรุก " ชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางแข็งแรงกว่าใคร ๆ พูดออกมาด้วยความหนักแน่น

เสียงชาวบ้านกระซิบคุยกันไปต่างๆ นานา ก่อนที่มังกี้จะชูมือขึ้นทำให้พวกเขาเงียบ

" เจ้าซึฮากิมีเรื่องจะพูดฟังกันให้ดีละ...เจี๊ยก " เธอหน้ามองตาซึฮากิ เขาเดินออกมายืนข้างมังกี้ท่ามกลางสายตาของชาวบ้าน

เริ่มยังไงดีล่ะ " ทุกคนครับ ! ลองมองที่มุมสายตาของตัวเองหาจุดหรืออะไรบางอย่างแปลก ๆ แล้วจ้องมันไว้นะครับ "

ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าต้องทำยังไง แต่ก็มีบางคนที่พยายามทำตามแล้วก็ได้ผล

" ห๊ะ " สีหน้าตกใจของพวกเขาแต่ละคนแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด 

" ม-มันมีตัวอักษรขึ้นมาตรงหน้าข้า " หนุ่มสาวสิบกว่าชีวิตกำลังสับสนและตกใจกับหน้าต่างสเตตัส บางคนก็พยายามเอามือปัดมันออกไป

" สิ่งที่พวกคุณได้เห็นก็คือหน้าต่างสเตตัส " มังกี้เองก็ลองทำตามบ้างก็ได้ผล เธอไม่แสดงสีหน้าออกมาแต่คอยฟังซึฮากิต่อไป

" หลังจากนี้ ผมจะสอนเวทมนตร์ให้กับทุกคน " ความเงียบสงัดได้เกิดขึ้นเมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมา ชาวบ้านต่างก็ไม่เชื่อในคำพูดของเขาและเริ่มพูดคุยนินทา

" สำหรับคนที่สนใจให้เดินออกมาทางซ้ายมือได้เลยครับ "  มีชาวบ้านประมาณยี่สิบคนที่เดินแยกออกมาส่วนใหญ่ก็คือคนที่ได้เห็นหน้าต่างสเตตัสของตัวเอง มีแม้กระทั่งเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เตี้ยกว่าคิโนริเสียอีก

" หือ...มีอะไรเหรอคะ ? " คิโนริเดินขยี้ตาออกมาจากบ้านเธอยังดูงัวเงียเหมือนจะหลับอยู่เลย

" คิโนริอยู่กับมังกี้ก่อนนะ งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับคนที่ไม่ต้องการจะฝึกเวทมนตร์ก็กลับได้เลย " ซึฮากิเดินไปหากลุ่มคนที่ยืนอยู่ ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

" น้องชื่ออะไรล่ะ ? " ซึฮากิยิ้มทักทายเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม

" ผมชื่อเอครับ " เด็กตัวน้อยตอบกลับอย่างไร้เดียงสา

" ตั้งใจเรียนนะน้องเอ คิโนริสนใจจะเรียนเวทมนตร์พร้อมกับพวกเขาไหม ? " ซึฮากิหันหน้ามาถาม

" อื้ม หนูขอไปเตรียมก่อนนะคะ " เธอวิ่งเข้าไปในบ้านไม่นานนักก็กลับมา คิโนริวิ่งตรงเข้ามายืนตรงหน้าซึฮากิด้วยความร่าเริงยิ้มอย่างมีความสุข

" ใครที่ยังดูหน้าต่างสเตตัสไม่ได้ลองพยายามดูอีกทีนะครับ มีเทคนิคช่วยก็คือห้ามขยับหน้าไปไหนมีเพียงดวงตาที่มองไปเรื่อย ๆ  ใช้นิ้วเป็นตัวช่วยในการจ้องได้นะครับ " พวกเขาชูนิ้วขึ้นมาและค่อยเลื่อนมันไปรอบ ๆ โดยที่ตายังมองตาม

" โดยส่วนใหญ่แล้วมันจะอยู่ที่มุมขวาล่าง ถ้าเจอจุดแปลก ๆ ให้จ้องมันไว้แล้วหน้าต่างสเตตัสก้จะขึ้นมาตรงหน้า " 

ซึฮากิเดินไปรอบ ๆ ดูพวกเขาแต่ละคนที่มุ่งมั่นทำอย่างตั้งใจคนที่ทำได้แล้วก็เริ่มมองดูสิ่งที่เขียนไว้ตรงหน้า ถึงแม้จะมึนงงกับคำพวกนี้บ้างจนเวลาผ่านไปสิบนาที ทุกคนสามารถเห็นสเตตัสของตัวเองได้แล้ว

" ถ้าใครมีธุระหรืองานที่ต้องไปทำก็ออกไปทำก่อนได้เลย ทีนี้ทุกคนยืนเว้นระยะห่างกันมากหน่อยนะครับเราจะลองใช้เวทมนตร์กันแล้ว " พวกเขาทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

" ทุกคนลองใช้เวทที่เขียนว่า Mana Shield ดูครับ " แม้โล่ป้องกันของพวกเขาจะดูบอบบางแต่เมื่อมองในมุมของซึฮากิกลับรวมกันสว่างจนเห็นได้ชัด พวกเขาต่างก็ดีใจยิ้มและหัวเราะกันใหญ่

" เราใช้ได้จริง ๆ ด้วย "

" สุดยอดเลย พวกเราก็คิดว่าต้องใช้หินเวทมาโดยตลอด "

เสียงชาวบ้านกำลังตื่นเต้นและสนุกสนาน พวกเขายังลองใช้ซ้ำอีกหลายครั้ง

" ทีนี้ลองทำให้เวทนั้นไปอยู่จุดที่ต้องการดู แบบว่าด้านข้างด้านหลังอะไรแบบนี้ "

แม้พวกเขาจะใช้เวทมนตร์ได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสื่อกลางอยู่ตรงไหนทำให้การควบคุมทิศทางมีการคลาดเคลื่อนได้ง่าย 

" ลองทำไปเรื่อย ๆ นะครับ อะ-แล้วก็อย่าลืมดูที่ค่า MP ด้วยนะครับ หากมันใกล้จะเป็นศูนย์เมื่อไหร่ต้องหยุดพักทันที "

สิ่งที่พวกเขามีต่างจากมนุษย์ธรรมดาก็คือขน กรงเล็บที่ยาว หูและก็หาง บางคนก็เป็นประเภทมนุษย์ลิง หมาป่าและยังมีหมีอีก 

" เอ่อ คุณซึฮากิใช่ไหมครับ ? " ชายหนุ่มตัวใหญ่คนหนึ่งยกมือถาม

" ครับ มีอะไรครับ ? " ซึฮากิตอบกลับทันที

" ผมเริ่มรู้สึกร้อน ๆ ที่หูเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ไหมครับ ? " ใบหูทรงกลมบนหัวที่มีขนสีน้ำตาลคล้ายกับของพวกหมี

หูเริ่มร้อนเหรอ ? อาจจะเป็นอาการข้างเคียงก็ได้แต่เราก็ใช้ได้แต่หินเวทเลยไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง

" MP ตอนนี้เท่าไหร่แล้วครับ ? " ซึฮากิถาม 

เขาเปิดหน้าต่างสเตตัสขึ้นมาดู " ยี่สิบสามครับ " 

" นายพักไปก่อน " ชายหนุ่มหูหมีเดินออกมาจากแถวนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ใกล้ ๆ ซึฮากิกวาดสายตามองดูลักษณะท่าทางของแต่ละคน

" น้องเอตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ? " เด็กตัวน้อยที่มีส่วนสูงประมาณหนึ่งร้อยเซนติเมตร มีหางที่เรียบเตียนยาวแบบเดียวกับมังกี้

" รู้สึกเหมือนหางกำลังถูกไอความร้อนปกคลุมเลยครับ อุ่น ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับร้อน " เขาจับหางของตัวใช้มือลูบคลำสัมผัสถึงความอุ่นของหาง

" อย่าลืมคอยดูMPด้วยนะว่าใกล้จะหมดยัง "

เหมือนกับคนที่ออกกำลังกายมัดกล้ามเนื้อที่ใช้ก็จะมีเลือดสูบฉีดไปมากกว่าที่อื่น การใช้พลังงานก็จะมากขึ้นด้วยเช่นกันทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น

ไม่นานเกินรอแต่ละคนเริ่มหมดเรี่ยวแรงและไปพักผ่อน พวกเขาแต่ละคนเริ่มคุ้นชินกับการใช้เวทมนตร์และการเปิดหน้าต่างสเตตัส

" เราจะไม่ทำให้เวลาเสียเปล่า ระหว่างนี้ผมจะสอนเรื่องอื่นต่อเลย " ซึฮากิยืนอยู่ท่ามกลางชาวบ้านที่นั่งพักเหนื่อยกันอยู่ บางคนก็มีเหนื่อยออกแต่บางคนก็ไม่

ซึฮากิได้สอนเกี่ยวกับค่าสถานะต่าง ๆ ของสเตตัสเป็นเวลาหลายสิบนาทีกว่าที่ทุกคนจะเข้าใจ 

เราคงสอนเรื่องนี้ได้แค่นี้ ค่าสถานะพวกนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่คิดแน่ ๆ แต่เราเองก็ยังไม่รู้ ซึฮากินั่งเหม่อคิดอะไรบางอย่างขณะที่พวกชาวบ้านนั่งมองเขาอยู่

" พี่กิ หนูมีสกิลที่พี่ไม่ได้บอกด้วยค่ะ " คิโนริลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาหาซึฮากิ

" น่าจะเป็นสกิลจากธาตุที่เธอใช้ได้ พูดถึงเรื่องธาตุกันต่อเลยดีกว่า " พวกเขาตั้งใจฟังกันอย่างเงียบ ๆ 

" ธาตุหลักจะมีสี่ธาตุก็คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และจะมีธาตุพิเศษอื่น ๆ อีก " 

หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านยกมือถามหญิงสาวที่ได้เจอกันตั้งแต่ตอนแรกที่เธอกักกันพวกซึฮากิไว้ " แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะ ? ว่าตัวเองใช้ธาตุอะไร " 

" เป็นคำถามที่ดี " ไอ้เราเองก็ตรวจกับหินพิเศษในเมืองซะด้วย

" พวกคุณต้องลองใช้เวทที่ไม่ใช่เวทพื้นฐานอย่างที่ผมบอกไป เดี๋ยวก็จะรู้เองว่าใช้ธาตุอะไรได้บ้าง " 

จะให้ใช้เวทเลยก็ยังไม่ได้ การฟื้นฟูของมือใหม่จะช้ามาก ๆ คงต้องพรุ่งนี้

" วันนี้พักกันไว้แค่นี้ก่อน พวกคุณไปทำธุระของตัวเองต่อได้เลย " สิ้นเสียงประกาศจากซึฮากิชาวบ้านก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทางเหลือเพียงคิโนริและน้องเอที่ยังอยู่

" แล้วน้องเอไม่ไปเหรอ ? " ซึฮากิเดินตรงเข้ามาหาน้องเอ

" ผมว่างอยู่แล้ว เด็ก ๆ อย่างผมไม่ค่อยจะได้ทำอะไรนักหรอก " เขาพูดด้วยท่าทางเบื่อ ๆ พลางมองไปยังบ้านหลาย ๆ หลัง

" เอก็เป็นคนยังเนี้ยแหละ ตรงไปตรงมาดี " คิโนริกอดเอจากด้านหลังหยอกล้อเล่น

" งั้นวันนี้อยากไปทำอะไรล่ะ ? " ซึฮากิมองดูเด็ก ๆ สองคนอย่างอ่อนโยน 

" ผมยังไงก็ได้ " เขาตอบกลับทันทีจ้องหน้าซึฮากิด้วยความสงสัย

" เออยากไปฝึกล่ากับพี่กิบ้างไหม ? " คิโนริตั้งซอกบนไหล่ของเอพร้อมกับวางคางไว้บนหัวแต่เอก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญหรืออะไรเลย

" งั้นก็ตามนั้น ไปกันเลยไหม ? " เด็ก ๆ ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันดีซึฮากิเห็นแล้วก็เผลอยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ

" เย้ ! เราไปกันเลย " คิโนริตะโกนออกมาด้วยความดีใจยิ้มร่าเริงแต่ก็ยังเอาแขนวางไว้บนไหล่ของเอจนเริ่มรำคาญออกมาทางสีหน้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรปล่อยเธอทำต่อไป

พวกเขาทั้งสามเดินทางเข้าไปในป่าตามทางเดิมที่ทำไว้ เอแม้จะเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ แต่ก็ไม่แสดงความกลัวออกมาแม้แต่น้อยเขาช่างเหมือนกับซึฮากิจริง ๆ 

" เอใช้มีดเป็นไหม ? " ซึฮากิยื่นมีดให้กับเขา  เอเงยหน้ามองตาก่อนจะรับมีดไป

" เป็นครับ " เขาพยักหน้าตอบขณะที่ลูบคลำมีดของซึฮากิ

" เคยล่าสัตว์ไหม ? " 

" เคยครับ " เอตอบทันทีเหมือนรู้ว่าจะถามอะไร 

" งั้นก็เตรียมตัวได้เลย เพราะเราเจอเป้าหมายแรกแล้ว " ซึฮากิมองตรงไปหลายสิบเมตรผ่านต้นไม้และพุ่มไม้จำนวนมาก เห็นกวางเขาเดียวที่กำลังหาอะไรกินอยู่

" ตรงไหนครับ ? " เอเขย่งตัวมองตามด้วยความสงสัย

" เดินตามพี่มาก็พอ " ซึฮากิพาพวกเขาเดินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ จนถึงในระยะที่เอมองเห็นได้ 

ซึฮากิร่ายเวทครอบคลุมพื้นที่บริเวณนั้นไว้ไม่ให้มันหนีไปไหนได้ 

" เอลองจัดการกวางตัวนั้นให้พี่ดูสิ " ซึฮากิตบหลังเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ เอกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ไต่ไปตามกิ่งไม้ใหญ่อย่างชำนาญสมกับเป็นมนุษย์ลิง

" โห... " คิโนริมองตามตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น 

เอปีนขึ้นไปจนถึงกิ่งไม้ที่อยู่เหนือหัวกวางพอดี เขาปล่อยตัวลงมาขึ้นขี่หลังจับไว้แน่นก่อนจะใข้มีดแทงเข้าไปที่คอขณะที่มันพยายามสลัดตัวเอให้หลุด

วิธีการคล้าย ๆ กับคิโนริเลย ไม่นานมันก็ตายลงเอชูมือขึ้นหันหน้ามาทางซึฮากิเพื่อให้สัญญาณ

" เก่งเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าพวกเธอขึ้นเป็นเลเวลสองได้พี่จะแอบพาไปดันเจี้ยนดีไหมนะ ? "  เขาพูดพร้อมกับยิ้มหยอกล้อหัวเราะเบา ๆ

 " จริง ๆ นะพี่กิ " คิโนริพูดและยิ้มด้วยความดีใจตั้งหน้าตั้งตารอเวลานั้น เธอและเอพยายามกันอย่างสุดความสามารถล่าสัตว์ที่หลากหลายมากกว่าแค่กวางอย่างเดียว

คิโนริมีค่าสเตตัสที่สูงกว่าแต่เอมีทักษะและประสบการณ์ที่มากกว่า ซึฮากิมองดูคิโนริที่กำลังไล่ล่านกตัวหนึ่ง เอก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ให้พวกเขาได้ฝึกทีละคน

 น้องเอเน้นไปที่การวางแผน คาดการณ์ และซุ่มโจมตี ส่วนคิโนริเธอจะพุ่งเข้าใส่แล้วค่อย ๆ ปรับตัว 

" หลังจากนี้จะไม่มีการช่วยจากพี่แล้วนะ แล้วก็พวกเธอสองคนต้องร่วมมือกันด้วยพยายามเข้าล่ะ " รอยยิ้มที่เหมือนจะให้กำลังใจแต่กลับมีความคิดอะไรบางอย่างแฝงอยู่ ทำเอาพวกเธอยืนนิ่งไปพักหนึ่งที่ได้ยิน

" งั้นเอโจมตีจากด้านบนพี่ไล่มันเอง " คิโนริคุยกับเอ รอยยิ้มอันใสซื่อที่แค่จะไล่ล่ามันให้ได้

" ถ้าพี่ไล่มันผมจะโจมตีได้ยังไง " การที่พี่กิให้เราสองคนร่วมมือกันทั้งที่น่าจะขัดกันเองมากกว่า อาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง เอยืนคิดอยู่หลายนาที

พวกเขาเดินทางต่อไปอีกหลายกิโลเมตรและได้เจอกับสัตว์ที่แตกต่างออกไป หมีป่าตัวสีน้ำตาลสลับดำแปลกตา มันสูงเกือบสามเมตรและมีเขี้ยวเล็บที่น่ากลัว

จะอันตรายเกินไปหรือเปล่านะ ? ซึฮากิมองดูอยู่ไม่ใกล้ปล่อยให้คิโนริกับเอเข้าไปหามัน

งั้นช่วยสักหน่อยละกัน " [ อ่อนแรง ] " สกิลใหม่ประเภทดีบัฟจากเวทมนตร์ดำ มันจะลดพละกำลังและความรวดเร็วลง

หมีตัวใหญ่ที่กำลังกัดกินฉีกซากของกวางตัวหนึ่งอยู่อย่างเอร็ดอร่อย มันเงยหน้าขึ้นมาดมกลิ่นหาอะไรบางอย่างก่อนจะมองขึ้นไปบนต้นไม้

ซวยแล้ว เอสบตากับมันและรีบปีนหนีทันที ขณะที่คิโนริหลบอยู่หลังต้นไม้ห่างออกไปสี่ต้น

จมูกดีเกินไปซุ่มโจมตีไม่ได้ เอมองลงไปเห็นหมีตัวนั้นกำลังไล่ตามด้วยความโมโห

บ้าเอ๊ย ทำไมมันถึงไล่มาล่ะ ? ยังไม่ได้ทำอะไรมันเลย เอรีบปีนป่ายด้วยความร้อนรนเพื่อให้ออกจากระยะแต่มันก็ตามมาติด ๆ ชั่วขณะที่มองลงไปเขาก็ได้จับพลาดไปกิ่งหนึ่งเสียหลักตกลงมากระแทกที่พื้น 

" เอ ! " คิโนริวิ่งเข้ามาพยายามแบกเอหนี แต่การที่เธอแบกเอไปด้วยทำให้ความเร็วตกลงอีกไม่นานมันก็จะตามทันแล้ว 

" พี่...ผมไม่เป็นไรแล้ววางผมลงเถอะ " เสียงสั่นไม่รู้ว่าเพราะกลัวหรืออะไร เอมองไปด้านหลังเห็นหมีตัวนนั้นกำลังง้างอุ้งมือที่มีกรงเล็บแหลมคม

" [ Mana Shield ] " เอตั้งสติและร่ายเวทที่ได้เรียนมา มันฟาดมือเข้ามาโดนโล่มานาพอดีก่อนที่คิโนริจะวางเอลงและหันหน้าเข้าหาหมีตัวนั้นแทน

" มีแผนอะไรไหมเอ ? " ใบหน้าเคร่งขรึมต่างกับตอนปกติ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เธอมักจะมีมันตลอดแต่ไม่ใช่กับ ตอนนี้

เสียงร้องขู่คำรามจากหมีที่แพร่ความน่ากลัวใส่พวกคิโนริ 

" ล่อให้มันสับสน เดี๋ยวผมจะโจมตีจากด้านบน " คิโนริพยักหน้าตอบรับก่อนที่เอจะกระโดดขึ้นต้นไม้ไป

เธอวิ่งไปรอบ ๆ ตัวหมี ขณะที่มันพยายามจะตะปบด้วยอุ้งมือทั้งสองข้างแต่ก็ไม่ทันคิโนริ เสียงร้องอันเกรี้ยวกราดด้วยความโมโหมันยิ่งตะปบไวขึ้นกว่าเดิม

เอที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ด้านบนใช้จังหวะที่มันไม่ระวังตัวกระโดดลงมาบนหัว และแทงเข้าไปที่คอแต่ก็ไม่ทันไรก็ถูกอุ้งมือของมันลากออกมาเสียก่อน มีดของเอปักคาอยู่ที่คอของมัน ด้วยความที่ว่าแผลไม่ลึกมากพอมีดเลยหลุดหล่นลงพื้น

" อ๊าก ! " มันจับตัวเอฟาดลงกับพื้นเสียงดังเหมือนกระดูกจะหัก ขณะที่คิโนริวิ่งเข้าใส่หยิบมีดของเอที่อยู่บนพื้นขึ้นมา

" ปล่อยนะ ! " เธอกระโดดสุดแรงลอยขึ้นมาตรงหน้าของมันพอดีแทงมีดทั้งสองเล่มเข้าไปที่คอ มันใช้อุ้งมือซ้ายอีกข้างที่เหลือพยายามลากตัวคิโนริออกมาและตะปบด้วยกรงเล็บจนเกิดแผลเหวอะที่ท้อง

" อ๊าก ! " เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังไม่ปล่อยจากมีดคู่นั้นเธอใช้น้ำหนักตัวเองลากมีดลงเพื่อให้เกิดแผลใหญ่มากขึ้นก่อนจะหล่นลงมาที่พื้น 

ต้องช่วยแล้วแหละ ซึฮากิวิ่งตรงเข้าขณะที่หมีตัวนั้นร้องดังลั่นไปทั่วด้วยความทรมาน เลือดจากแผลที่คอจำนวนมากไหลออกมาไม่หยุดมันปล่อยพวกเธอทั้งคู่และวิ่งหนีไป

" [ Heal ] " ซึฮากิทำแผลให้พวกเธอเบื้องต้นและใช้เวทช่วยรักษา

อา...โดนมังกี้เล่นแน่เลย ซึฮากินั่งลงข้าง ๆ คอยดูอาการของทั้งสอง เสียงใบไม้ที่ถูกเหยียบย่ำ อะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ ๆ 

หมีตัวเดิมที่กำลังร่อแร่ใกล้จะตายที่มาพร้อมกับหมีที่ตัวใหญ่ยิ่งกว่าอีกสามตัว 

สงสัยจะเป็นครอบครัวของมัน จะเก็บไว้ให้พวกคิโนริฝึกสักหน่อยแต่...ฉันเปลี่ยนใจแล้ว หมีทั้งสี่ตัววิ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงเสียงและแรงสั่นสะเทือนของมันแพร่ไม่ทั่วบริเวณนั้นจนนกน้อยสัตว์ตัวเล็กหนีออกไป

เสียงร้องคำรามตลอดไปจนถึงแรงสั่นสะเทือนได้หายไปภายในไม่กี่วินาที ร่างของหมีทั้งสี่ล้มลงบนพื้นพวกมันถูกผ่าแยกออกเป็นสองซีกในแนวนอน เลือดจำนวนมากไหลออกมานองเต็มเป็นแอ่งเลือด เครื่องในกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ทะลักออกมาจนกลิ่นคาวฟุ้งไปทั่ว

" ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ทำให้พวกนายเสียของเด็ดขาด " รอยยิ้มที่ดูแล้วรู้สึกปลื้มปริ่มถ้าหากมันไม่ใช่ตรงนั้นที่มีแต่เลือดและกลิ่นคาว มีหมีตัวหนึ่งที่ยังพยายามส่งเสียงและขยับส่วนหัวด้วยความเจ็บปวดทรมานก่อนที่มันจะตายสนิท ซึฮากิมองดูด้วยใบหน้าที่เฉยชา

" อาจจะมีพวกนักล่าตัวอื่น ๆ มาอีก พาคิโนริกับน้องเอกลับก่อนดีกว่า " ซึฮากิอแบกคิโนริขึ้นหลังและอุ้มเอขึ้นบ่าซ้ายเดินทางกลับหมู่บ้านโดยลากพวกซากสัตว์ที่ล่าได้กับอุปกรณ์ที่ทำมาใช้ชั่วคราวมาด้วย 

เลือดไหลมาตลอดทาง ลากใบไม้และเศษซากต่าง ๆ มาด้วยบางครั้งก็ติดกับพวกกิ่งไม้รากไม้กว่าจะกลับมาถึงก็เย็นเสียแล้ว

" เราจะผ่านป่าพวกนี้ไปยังไงล่ะ ? " คานะเดินตีคู่กับเซนแขนแนบติดกันเช่นเดียวกับสเตล่า พวกเธอเดินเกาะกลุ่มกันแน่นขณะที่มองไปรอบ ๆ ที่มีป่าและพื้นแฉะ ๆ 

" ซึฮากิบอกให้ใช้เสริมกำลังระดับสองไว้ตลอด แล้วก็ใช้โล่มานาล้อมตัวไว้ด้วย " เซนนึกถึงคำพูดที่ได้คุยซึฮากิตอนก่อนนอน

" แต่มันจะไม่กินมานาเปล่า ๆ เหรอ ? " สเตล่าถามด้วยความสงสัยขณะที่เซนและคานะร่ายเวทเสร็จเรียบร้อยแล้ว

" ถ้ามันกินมานาเราก็รีบทำให้มันจบ ๆ สิ " เซนยิ้มเหมือนกำลังนึกเรื่องสนุก ๆ อยู่ 

" ก็ได้ [ เสริมกำลังระดับสอง ] [ Mana Shield ] " สเตล่าทำตามบ้างแม้จะข้องใจอยู่

" เราจะวิ่งกันแล้วนะ เตรียมตัวให้ดี " พวกเขาหยุดเตรียมตัวตรวจสอบทั้งเสบียงและอาวุธก่อนจะออกวิ่ง เสียงน้ำที่กระทบกับพื้นรองเท้าดังเป็นจังหวะ หยดน้ำที่ติดรองเท้ากระเด็นขึ้นมาที่ด้านหลังเปื้อนเสื้อของพวกเขา

พวกเขาได้วิ่งเข้ามาในป่าเสียงเงียบสงัดจนน่าขนลุก มีเพียงเสียงแมลงตัวเล็ก ๆ และเสียงวิ่งของพวกเธอ

" กรี๊ด ! " งูยักษ์ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ชกลงมาตอนที่วิ่งผ่านโชคดีที่มันโดนโล่มานาพอดีแต่สเตล่าก็เสียหลักล้มเพราะตกใจ โล่มานาได้สลายไปหลังจากรับการโจมตีนั้น

อ๊าก ! เวรเอ๊ย เธอพยายามลุกขึ้นแต่ก็ปวดที่ข้อเท้าขวาตอนเดินลำบาก เธอหันหลังมองงูตัวนั้นที่กำลังเลื้อยตามเธอมาช้า ๆ 

" คานะ ! เซน ! " เธอตะโกนเรียกพวกเซนที่วิ่งนำไป พวกเขารีบย้อนกลับมาสีหน้าไม่ดี

" หมอบลง ! " คานะตะโกนกลับมาขณะที่สเตล่ายังตกใจกับคำพูดแต่เธอก็หมอบลงกับพื้น คานะร่ายเวทยิงลูกบอลน้ำเข้ามาทางสเตล่าผ่านหัวไปโดนเจ้างูที่ตามมาพอดี

" รีบไปเร็ว ! " เซนแบกสเตล่าขึ้นหลังและวิ่งต่อไป

" คานะเธอคอยป้องกันไว้ " เซนตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเต็มกำลังขณะที่คานะคอยสร้างโล่มานาออกมาป้องกันไว้ตลอด

" ฉันมองเห็นที่โล่งแล้ว " เซนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แสงสว่างและพื้นที่เรียบไม่มีป่าอยู่ตรงหน้าแล้ว

พวกเขาหยุดอยู่ปากทางเข้าป่า มองไปรอบ ๆ พื้นที่โล่งที่มีแอ่งน้ำใหญ่อยู่ตรงกลางและมีป่าล้อมรอบเป็นวงกลม งูยักษ์ จระเข้ นก สัตว์ประหลาดที่พวกเขาไม่เคยเจอในดันเจี้ยนอื่น

" นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย " เซนอุทานขึ้นมาขณะที่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ถ้าวัดจากจุดที่พวกเขายืนอยู่กับป่าตรงข้ามอาจจะไกลได้ถึงสองกิโลเมตรหรือมากกว่านั้นเสียอีก

" ที่นี่มันยังไงกันแน่ กว้างขวางต่างกับดันเจี้ยนอื่นลิบลับเลย " คานะยืนนิ่งมองไปที่ป่าสุดสายตา

" ... " สเตล่าตกใจจนหน้าซีด เริ่มสั่นกลัวจนเซนรู้สึกได้ก่อนจะค่อย ๆ วางเธอลงกับพื้น

เซนหายใจลึก ๆ เปลี่ยนจากความอึ้งและตะลึงเป็นรอยยิ้มฉีกกว้างจนเห็นฟันเหมือนจะหัวเราะออกมาพร้อม ๆ กันด้วยความตื่นเต้นแทน " เรามาเริ่มจัดการกันเถอะ "

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.