บทที่ 19: ผู้กล้าปะทะศาสตรา
บทที่ 19: ผู้กล้าปะทะศาสตรา
‘ลีร่า... พลังของฉันกำลังหมด...’ เสียงของเอเรนที่อยู่ในห้วงสำนึกของศาสตราดังก้องอย่างอ่อนแรง
‘ฉัน... ฉันคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน… พวกเธอรีบหนีไป’
ลีร่าสัมผัสได้ถึงความอ่อนล้าของเอเรนที่ส่งผ่านมา เธอรู้ว่าการคงสภาพเช่นนี้ใช้พลังงานมหาศาล และพลังของเอเรนก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
“ไม่นะเอเรน! อย่าเพิ่ง!” ลีร่าร้องในใจ เสียงของเธอเจือความตื่นตระหนก เธอพยายามรวบรวมพลังเวทมนตร์ของตัวเอง เพื่อพยุงร่างของเด็กหนุ่ม
ขณะที่ลีร่าในร่างดาบกำลังพยายามควบคุมพลังที่ร่อยหรอ เหล่าอัศวินที่เหลือรอด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงทหารราบธรรมดา ก็เริ่มล้อมวงเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ความมุ่งมั่นที่จะจับกุมผู้สังหารหัวหน้าของพวกเขาก็ยังคงมีอยู่
“จงมอบตัวเสีย! ปีศาจ!” อัศวินนายหนึ่งตะโกน พยายามรวบรวมความกล้า
“เจ้าไม่มีทางหนีพ้นหรอก! กองทัพของพวกเรากำลังมาถึง!”
เอเรนหันคมดาบ อีเร็น ไปยังกลุ่มอัศวินที่เข้ามาใกล้ แม้พลังจะลดลง แต่จิตสังหารของเขาก็ยังคงเด่นชัด เขาจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เซเลเน่ที่อยู่เบื้องหลังได้เด็ดขาด
ทันใดนั้นเอง! เสียงลมกระโชกแรงก็พัดผ่านแนวป่าราวกับพายุขนาดย่อม แสงสว่างจ้าสีทองอร่ามพุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้า แหวกม่านเมฆหนาทึบลงมาสู่ใจกลางวงล้อมของอัศวินและลีร่า แรงปะทะของพลังงานที่มองไม่เห็นทำให้พื้นดินยุบตัวเป็นวงกว้าง และเหล่าอัศวินที่อยู่ใกล้เคียงต่างกระเด็นกระดอนออกไป
ฟิ้ววววววว!
เมื่อแสงสีทองจางลง ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นยืนอยู่กลางอากาศ ผมสีทองสว่างไสวพลิ้วไหวในสายลม ดวงตาสีฟ้าครามเปล่งประกายเจิดจ้า เขาไม่ได้ถืออาวุธใดๆ แต่ร่างกายของเขากลับแผ่พลังงานบริสุทธิ์และทรงอำนาจออกมาอย่างมหาศาล
นั่นคือ ผู้กล้าคนใหม่! ผู้ที่เพิ่งถูกอัญเชิญมายังโลกนี้!
เขาลงมายืนอยู่บนพื้นอย่างแผ่วเบา สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ลานที่เต็มไปด้วยซากศพอัศวินและพลังงานแห่งความมืดที่ยังคงอบอวลอยู่ ดวงตาสีฟ้าครามหยุดลงที่ร่างของลีร่าในสภาพศาสตราโลหิต อีเร็น และเด็กหญิงผมขาวที่นอนอยู่ข้างๆ
‘พลังงานนี้...’ ผู้กล้าคนใหม่พึมพำกับตนเอง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
‘มันคือพลังแห่งความมืด... ที่พวกผู้กล้าในตำนานเคยต่อสู้ด้วย...’
“ท่านผู้กล้า! ในที่สุดท่านก็มา!” อัศวินนายหนึ่งที่ล้มอยู่รีบตะโกนขึ้นด้วยความดีใจสุดขีด
“ท่านคือความหวังของพวกเรา! โปรดช่วยกำจัดปีศาจตนนี้ด้วยเถิด! มันสังหารหัวหน้าเฟรดริคและอัศวินของเรามากมาย!”
ผู้กล้าคนใหม่มองไปยังลีร่าในร่างดาบด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลังเลและความสงสัย เขาไม่ได้รู้สึกถึงความชั่วร้ายทั้งหมดจากเธออย่างที่อัศวินกล่าว แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานที่มืดมิดและรุนแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้
‘เอเรน... ระวัง เขาคือผู้กล้าที่แท้จริง!’ เสียงของลีร่าเตือนในห้วงสำนึกของดาบ อีเร็น
น้ำเสียงของเธอยิ่งแผ่วลง ‘เขาไม่ใช่พวกอัศวินชั้นต่ำพวกนั้น... พลังของเขามหาศาลนัก...’
เอเรนเองก็รับรู้ได้ถึงพลังบริสุทธิ์และแข็งแกร่งของผู้กล้าคนใหม่ เธอรู้ดีว่านี่คือคู่ต่อสู้ที่แท้จริง แตกต่างจากเหล่าอัศวินที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง พลังเวทมนตร์ของเขาที่เพิ่งฟื้นตัวก็ดูด้อยไปถนัดตาเมื่อเทียบกับชายหนุ่มตรงหน้า
แต่แล้ว ผู้กล้าคนใหม่ก็ตัดสินใจ เขาหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยแววตาที่แน่วแน่ เขายกมือขึ้นช้าๆ แสงสีทองบริสุทธิ์เริ่มก่อตัวขึ้นในฝ่ามือของเขา
“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร...” ผู้กล้าคนใหม่เอ่ยเสียงกังวานไปทั่วบริเวณ
“แต่พลังที่คุณช้... และร่องรอยความตายที่คุณทิ้งไว้... มันไม่อาจยอมรับได้”
เขาเล็งฝ่ามือที่เปล่งแสงสีทองมายังลีร่าในร่างดาบ
“ในฐานะผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา... ผมจะต้องกำจัดภัยคุกคามทุกอย่างที่ทำลายความสงบสุขของโลกใบนี้!”
พลังแสงสีทองบริสุทธิ์พุ่งตรงเข้าใส่เอเรนในร่าง อีเร็น อย่างรวดเร็วราวสายฟ้า มันไม่ใช่การโจมตีทางกายภาพ หากแต่เป็นพลังเวทศักดิ์สิทธิ์ที่มุ่งตรงเข้าทำลายแก่นแท้ของพลังแห่งความมืดด
เอเรนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่แล่นไปทั่วร่างศาสตราโลหิต พลังเวทศักดิ์สิทธิ์นั้นเผาผลาญจิตวิญญาณของเขาและอีเรรนในร่างดาบราวกับเปลวเพลิงที่บริสุทธิ์กำลังชำระล้างความมืดมิด
‘อ๊ากกกกกก!’ เสียงกรีดร้องของอีเร็นดังก้องในห้วงสำนึกของลีร่า มันเป็นเสียงแห่งความเจ็บปวดและความเกลียดชัง ‘พลังศักดิ์สิทธิ์! เกลียดนัก!’
ลีร่าและพยายามต้านทานพลังโจมตีนั้นอย่างสุดกำลัง เปลวเพลิงสีดำอมแดงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดพยายามลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งเพื่อต่อต้าน แต่ก็ไร้ผล
‘ลีร่า... หนีไป...’ เสียงของเอเรนแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ‘ฉัน... ฉันคงไม่ไหวแล้ว...’
แสงสีทองห่อหุ้มร่างของลีร่าในสภาพดาบไว้แน่น พลังของเธอเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่พยายามบีบอัดจิตวิญญาณของเธอและอีเรนให้สลายไป


แสดงความคิดเห็น