บทที่ 17: ฉันคือไอ้ขี้ขลาดที่แกพูดถึง

-A A +A

บทที่ 17: ฉันคือไอ้ขี้ขลาดที่แกพูดถึง

ปัจจุบันกองบัญชาการของลัทธิบูชาไททันในเมืองหนานเจียงถูกกองทัพบุกทลายเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงพากันหนีมาอยู่ที่นี่ไม่ต่างจากสุนัขจรจัดที่ใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ

ในขณะนี้ชายร่างผอมคนหนึ่งได้พูดทำลายความเงียบขึ้นมาว่า “หัวหน้า ท่านคัมบ้าบอกว่าเขาต้องการมนุษย์อย่างน้อย 10 คนมาสังเวยเพื่อให้เขาอัปเกรดเป็นไททันระดับ 6 ดังนั้นเราจะต้องส่งมนุษย์ 10 คนให้เขาภายใน 5 วันนี้ให้ได้”

“ยิ่งไปกว่านั้น เขายังบอกกับผมโดยเฉพาะว่า หากได้กินเลือดเนื้อของผู้มีพลังพิเศษ เขาก็จะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ท่านคัมบ้าบอกว่าเพียงเท่านี้ก็จะทำให้แผนของเราหลังจากนี้ราบรื่นมากขึ้น”

ทันทีที่เขาพูดจบ ชายที่เปลือยท่อนบนซึ่งมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน “มันต้องการให้เราส่งมนุษย์ไปสังเวย 10 คน มันก็พูดง่ายสิ!”

“ตอนนี้พวกเราทุกคนกลายเป็นอาชญากรที่ทางการต้องการตัวเรียบร้อยแล้ว เราแทบจะก้าวเข้าไปในประตูเมืองไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วเราจะไปหาคนที่มีชีวิต 10 คนมาจากที่ไหนกัน!”

ชายหน้าบากร่างบึกบึนคนนี้เป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้ศรัทธา

แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่เฉย ๆ แต่รอบตัวเขาก็ยังแผ่จิตสังหารออกมา นั่นบ่งบอกว่าเขาเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน

“หัวหน้า อย่าโมโหไปเลย”

ชายตาตี่ที่มีสายตาเย็นชาเดินเข้ามาด้านข้างชายผู้เป็นหัวหน้า แล้วเขาก็พูดกลั้วหัวเราะว่า “ท่านคัมบ้าต้องการเพียงเลือดเนื้อของมนุษย์ไม่ใช่หรือไง? ถ้าอย่างนั้นเราก็มาทำให้เขาพอใจกันเถอะ”

“ผมได้แอบเปิดเผยที่อยู่ของเราให้กับสมาคมนักล่าเรียบร้อยแล้ว…”

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ชายมีรอยแผลเป็นก็คว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายมากัดฟันพูดด้วยความโมโห “นี่แกบ้าไปแล้วรึไง!”

“แกก็รู้ว่าพวกเราทุกคนเป็นอาชญากรที่ถูกประกาศจับ แล้วแกยังกล้าเปิดเผยที่ซ่อนของเราอีกเรอะ!”

“คำโบราณบอกไว้ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” ชายตาตี่คว้าข้อมือของคนตรงหน้าแล้วพูดว่า “หัวหน้า ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่น ในเมื่อคนพวกนั้นต้องการกำจัดเรา แถมพวกไททันก็ไม่ได้ยอมรับเราอย่างเต็มที่ พวกมันคงต้องการเลือดเนื้อของมนุษย์เท่านั้น ในสายตาของพวกไททัน เราเป็นเพียงแค่สุนัขรับใช้กลุ่มหนึ่ง”

“คุณลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่สามารถหามนุษย์มาสังเวยให้กับท่านคัมบ้าตามที่ต้องการได้ เขาจะทำอะไรกับเรา?”

คนเป็นหัวหน้าตกตะลึงนิ่งงัน ก่อนที่เขาจะเผลอพูดออกไปว่า “เขาก็จะกินเราเพื่อให้ตัวเองพัฒนาไปอีกขั้น”

“ใช่แล้ว” ชายตาตี่ยิ้มเยาะ “ถ้าเราไม่สามารถพิสูจน์คุณค่าของตนเองว่ามีประโยชน์ต่อเผ่าไททัน ในสายตาของพวกเขา เราเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งที่สามารถจับกินได้ตลอดเวลา”

คราวนี้สายตาของชายหน้าบากก็เหม่อลอย ในขณะที่เขากล่าวออกมาเสียงเบา “แล้วแกคิดจะทำยังไง?”

“ผมได้ปล่อยข่าวให้สมาคมนักล่ารู้ที่ซ่อนของเราแล้ว” ชายตาตี่พูดขึ้นอย่างใจเย็น “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ในไม่ช้าจะต้องมีทีมนักล่ามาตามล่าพวกเราอย่างน้อย 1 หรือ 2 ทีมแน่”

“แล้วพวกมัน… ก็ไม่รู้ว่าท่านคัมบ้าอยู่ที่นี่”

พอได้ยินแบบนี้ผู้เป็นหัวหน้าก็เข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “แกวางกับดักเพื่อล่อให้นักล่าที่มีพลังพิเศษมาหาเรา แล้วค่อยให้ท่านคัมบ้ากินพวกมันจนสามารถอัปเกรดได้สำเร็จใช่ไหม!”

“ถ้าแผนการนี้สำเร็จ นอกจากเราจะมีชีวิตรอดแล้ว นี่ยังช่วยพิสูจน์คุณค่าของเราต่อเผ่าไททันได้อีกด้วย”

“กลยุทธ์ยืมมือคนอื่นฆ่าคน… เป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ”

ต้องบอกว่าแผนการนี้มันสุดโต่งมาก แต่ก็นับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

ในขณะนี้ชายตาตี่ยิ้มกว้างพร้อมกับกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพียงแค่สุนัขรับใช้ แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีประโยชน์ หมากัดไม่เห่า”

พอชายมีรอยแผลเป็นเห็นรอยยิ้มของชายตาตี่ เขาก็อดรู้สึกหนาวไปทั่วสันหลังไม่ได้

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีงูพิษแบบนี้อยู่ในกลุ่มของพวกเขาด้วย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “แกชื่ออะไร”

“ผมเหรอ?” ชายตาตี่ชี้หน้าตัวเองพร้อมกับยิ้มจาง ๆ

“ผมชื่อฉู่เซียว”

หลังจากที่ ‘ฉู่เซียว’ ชี้แจงแผนการเรียบร้อยแล้ว เหล่าผู้ศรัทธาลัทธิบูชาไททันก็ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลเหมือนก่อนหน้านี้

ถึงอย่างไรสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือรอให้เหยื่อมาติดเบ็ดอยู่ที่เดิม

หากพวกเขาช่วยให้ท่านคัมบ้าอัปเกรดเป็นไททันภัยพิบัติได้สำเร็จ นี่จะนับว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่

เมื่อถึงเวลานั้น บางทีพวกไททันอาจจะมอบรางวัลพิเศษอะไรบางอย่างให้กับพวกเขา

พอชายหน้าบากคิดถึงรางวัลพิเศษ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตาลุกวาว

หากพวกเขาได้รับการยอมรับจากไททันจริง ๆ พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ฉู่เซียว หากแผนการนี้สำเร็จจริง ๆ ฉันจะแต่งตั้งให้แกเป็นรองหัวหน้า เป็นมือขวาที่ฉลาดที่สุดของฉัน” คนเป็นหัวหน้าหัวเราะร่าในขณะที่ตบไหล่ชายตาตี่ 2 ที

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยครับ” ฉู่เซียวยิ้มมุมปาก ถ้าสังเกตให้ดี แววตาของเขากลับแสดงออกถึงความรังเกียจซึ่งบ่งบอกได้ว่าเขาดูถูกชายตรงหน้ามากแค่ไหน

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสถานการณ์ ณ ปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย เขาคงไม่มีทางร่วมมือกับเศษสวะพวกนี้แน่

หลังจากหาทางออกกันได้แล้ว คนที่เป็นหัวหน้าก็อารมณ์ดีมากขึ้น เขาเดินไปนั่งลงข้างกองไฟแล้วหยิบไม้มาเขี่ยฟืนตรงหน้าขณะที่พูดว่า “ว่าแต่… ได้ยินข่าวกันหรือยังว่าลูกชายของหลินเทียนเชวี่ยไม่ยอมเข้าร่วมกองทัพเพราะกลัวตาย”

“เรื่องนี้ทำให้โลกโซเชียลแทบแตก ทั่วทั้งประเทศต่างพากันลงความเห็นว่าฮีโร่ที่น่าเคารพนับถือคนนั้นกลับให้กำเนิดลูกชายที่ขี้ขลาดออกมา ฮ่า ๆๆ สมน้ำหน้ามันจริง ๆ!!”

“ถ้าไม่ใช่เพราะหลินเทียนเชวี่ยกับลูกน้องของมันมาคอยกวาดล้างลัทธิไททัน พวกเราคงไม่กลายเป็นหมาจรจัดเหมือนอย่างตอนนี้หรอก!”

พอพูดถึงเรื่องนี้ ชายที่มีรอยแผลเป็นก็เริ่มกัดฟันแน่น

ในเวลาเดียวกัน ฉู่เซียวก็พูดขึ้นว่า “ต้องยอมรับว่าหลินเทียนเชวี่ยเก่งมากจริง ๆ น่าเสียดายที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าด้อยกว่าเผ่าไททัน แต่เขาก็เลือกที่จะทำอะไรสวนกระแสอยู่เรื่อย ไม่มีมดที่ไหนเขย่าต้นไม้ได้หรอก สุดท้ายแล้วเขาก็ได้พบจุดจบแบบนั้น พูดได้เลยว่าเขารนหาที่เอง”

“ฮ่า ๆๆ! ยิ่งมันทุกข์ทรมานมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น!” ผู้เป็นหัวหน้าเงยหน้าหัวเราะลั่น “ฉันคิดว่าถ้าเราสามารถโน้มน้าวเจ้าลูกชายขี้ขลาดของมันให้มาเข้าร่วมลัทธิของเราได้แล้วละก็…”

“ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าหลินเทียนเชวี่ยจะทำหน้ายังไงตอนที่ได้รู้เรื่องนั้น มันคงจะสะใจไม่หยอก!”

ลูกน้องของชายหน้าบากพูดขึ้นทันทีว่า “มันคงจะยิ่งน่าสนใจมากกว่าเดิมหากเราทำให้เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น”

“แต่ผมก็คงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่จะให้คนที่ไม่กล้าแม้จะเผชิญหน้ากับศัตรูในสนามรบมาอยู่ลัทธิของเรา”

“ฮ่า ๆ อย่ารู้สึกแย่เลย ปล่อยให้แม่ทัพมังกรรู้สึกแย่ไปคนเดียวเถอะ ไม่ได้ยินข่าวหรือไงว่าหลินเทียนเชวี่ยถึงขั้นยอมโค้งคำนับขอโทษทุกคนแทนลูกชายขี้แพ้ของตัวเอง”

“ใช่ ๆ เรื่องนั้นโคตรฮาเลย ผมไม่คิดเลยว่าคนที่แข็งแกร่งอย่างหลินเทียนเชวี่ยจะยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อลูกชายคนเดียว ถ้ารู้แบบนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องคิดหาวิธีหาเรื่องใส่ร้ายเขาให้ปวดหัวหรอก”

ปัง!!

ขณะที่ทุกคนกำลังประสานเสียงหัวเราะ จู่ ๆ ประตูโรงงานร้างก็ถูกเตะเปิดออกโดยใครบางคน

ชายคนนั้นถือดาบยาวยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตู

“ดูเหมือนว่าปลาจะติดเบ็ดแล้ว” ฉู่เซียวหรี่ตาพึมพำกับตัวเองเสียงเบา

ส่วนชายหน้าบากก็ผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับแสยะยิ้ม “ในเมื่อแกมาถึงที่นี่ ทำไมไม่แนะนำตัวหน่อยล่ะ?”

หลังจากที่เขาลุกขึ้นพูด ผู้ศรัทธาลัทธิบูชาไททันทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังก็พากันลุกขึ้นเช่นกัน โดยที่ทุกคนแผ่ไอสังหารออกมากดดันศัตรูตรงหน้า

“แนะนำตัว? ...ฉันคิดว่าไม่จำเป็นหรอก” ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะพวกแกเพิ่งพูดถึงฉันไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันคือ… ลูกชายขี้ขลาดของหลินเทียนเชวี่ย!!”

หลังจากที่เด็กหนุ่มพูดจบ คนของลัทธิบูชาไททันก็หน้าถอดสี

ถ้าหากเป็นไปตามที่พวกเขาพูดกัน หลินหยวนควรจะเป็นเศษสวะที่ไม่กล้าแม้แต่จะไปต่อสู้ในแนวหน้าไม่ใช่เหรอ?

คนปอดแหกเช่นนี้จะมีความกล้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร!?

หรือว่า… มันพาหลินเทียนเชวี่ยมาที่นี่!?

แค่คิดถึงชื่อนี้ หัวใจของเหล่าผู้ศรัทธาก็สั่นไหว

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเกลียดหลินเทียนเชวี่ยเข้ากระดูกดำ แต่ในความเป็นจริง ตำแหน่งแม่ทัพมังกรเพียงอย่างเดียวก็เป็นการการันตีให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวแล้ว

หากผู้ชายคนนั้นมาปรากฏตัวต่อหน้าจริง ๆ พวกเขาคงจะกลัวจนฉี่ราด

ไม่สิ…

ชายหน้าบากคิดขึ้นมาได้ว่าหลินเทียนเชวี่ยสูญเสียพละกำลังทั้งหมดจนกลายเป็นคนพิการไปแล้วไม่ใช่เหรอ?

หรือว่าอีกฝ่ายกำลังเสแสร้งกันแน่?

ชั่วขณะนั้นในหัวของคนเป็นหัวหน้าลัทธิมีความคิดต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าลงมือทำอะไรบุ่มบ่าม

ทางด้านหลินหยวนมองปราดเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรกันอยู่ เขาหัวเราะเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล หลินเทียนเชวี่ยไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกแกคิดว่าคนอย่างพวกแกคู่ควรให้มือของเขาเปื้อนเลือดงั้นเหรอ?”

ชายผู้เป็นหัวหน้าหรี่ตาลงพร้อมกับพูดดูถูกฝ่ายตรงข้ามว่า “ก็จริง แต่ว่าแกมาที่นี่คนเดียวคิดว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งให้เสียเปล่างั้นเหรอ? หรือว่าแกคิดจะมาเข้าร่วมลัทธิไททันของเราจริง ๆ?”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องห่วง ขอแค่แกยินดีที่จะเข้าร่วมลัทธิไททันของเรา ถึงแม้ว่าแกจะไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่แกก็จะยังเป็นแขกผู้มีเกียรติสำหรับเผ่าไททัน”

หลินหยวนปรายตามองคนพูดแล้วตอบกลับไปว่า “แกคิดจะใช้ฉันทำร้ายพ่อของฉันงั้นเหรอ? ไอ้ขยะ นั่นเป็นความคิดที่ดี”

“แต่ฉันบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าฉันมาคนเดียว?”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.