บทที่ 11 ผู้กล้าคืนบัลลังก์

-A A +A

บทที่ 11 ผู้กล้าคืนบัลลังก์

บทที่ 11 ผู้กล้าคืนบัลลังก์ 

 

ในเสี้ยววินาทีที่ลีร่ากำลังจะพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนแอของตนเอง และอีเร็นกำลังจะยึดครองร่างของเอเรน

 

จู่ๆ จิตวิญญาณของเอเรน อดีตผู้กล้าจากต่างโลก ที่เคยหลับใหลอย่างสมบูรณ์พลันตื่นขึ้นมาด้วยพลังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน!

 

‘ไม่! ร่างนี้เป็นของฉัน!’

 

 เสียงความคิดที่กังวานและทรงพลังดังขึ้นในห้วงสำนึกของลีร่าและอีเร็น มันไม่ใช่เสียงกระซิบอีกต่อไป หากแต่เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจและเจตจำนงที่แข็งแกร่ง

 

พลังแห่งศาสตราวิญญาณที่เคยตอบสนองต่อลีร่าพลันเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว มันกลับมารวมศูนย์อยู่ที่จิตวิญญาณของเอเรนเอง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเอเรนจะยังคงเป็น สีดำสนิท แต่กลับมีประกาย เปลวเพลิงสีดำที่ผสมผสานกับความมืดมิด ลุกโชนออกมาอย่างรุนแรง ผมสีดำขลับของเขาปลิวไสวรับกับพลังงานที่แผ่พุ่งออกมา ออร่าสีดำอมแดงแผ่กระจายรอบกาย แผดเผาความมืดมิดรอบตัวให้มลายสิ้นไป

 

เฟรดริคเบิกตากว้างด้วยความตกใจอย่างแท้จริง “เป็นไปไม่ได้!” เขาอุทาน “เจ้า... เจ้าคือ... ผู้กล้า!”

 

“ทำไม เรื่องนี้ทางอาณาจักรคงไม่เคยรายงานแกสินะ ไอ้พวกอัศวินชั้นสาม”  

 

เอเรนยืนหยัดขึ้นอย่างสง่างาม ดาบนิลในมือสั่นสะท้านด้วยพลังที่รุนแรงเกินควบคุม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว ไม่มีความสับสน ไม่มีความลังเล มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้และปกป้อง

 

“สิ่งที่พวกแกทำมันช่างน่ารังเกียจ…เหมือนวันนั้นที่พวกแกอัญเชิญฉันมา พวกแกแย่งชีวิตที่สุขสบายของฉันไป!”

 

 เอเรนคำราม เสียงของเขาไม่ได้เป็นเพียงเสียงมนุษย์ แต่เป็นเสียงที่ก้องกังวานไปด้วยพลังโบราณ 

 

“แก... และพวกแกทุกคน... จะต้องชดใช้!”

 

เขาพุ่งเข้าหาเฟรดริย่างรวดเร็ว ไม่มีการใช้พลังเวทมนตร์ให้ซับซ้อน แต่เป็นการโจมตีที่รวดเร็ว ตรงไปตรงมา และทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

 ดาบนิลในมือของเขาโชนแสงสีแดงฉานดุจโลหิต ราวกับ ศาสตราโลหิต อีเร็น ได้ตอบรับเจตจำนงของ อดีตผู้กล้า อย่างแท้จริง

 

เฟรดริคพยายามร่ายเวทป้องกันและโจมตีด้วยเวทเพลิง แต่พลังของเอเรนในตอนนี้รุนแรงเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ เปลวเพลิงสีดำอมแดงที่ลุกโชนจากร่างของเอเรนเผาผลาญบาเรียเวทมนตร์ของเฟรดริคให้แตกกระจายในพริบตา

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและดุดัน เสียงคมดาบปะทะกับพลังเวทเพลิงดังสนั่นหวั่นไหว แสงสีดำอมแดงและสีทองปะทะกันอย่างดุเดือดกลางลานหมู่บ้าน แรงปะทะของพลังเวทที่รุนแรงทำให้พื้นดินแตกระแหง ต้นไม้สั่นไหวรุนแรง และบ้านเรือนบางส่วนเริ่มพังทลายลง

 

“เวทมนตร์เพลิงของข้า! ทำไมถึงไร้ผล!” เฟรดริคตะโกนด้วยความสิ้นหวัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อโทรมกาย ร่างกายบอบช้ำจากการโจมตีของเอเรน 

 

“นี่มันพลังบ้าอะไรกัน!”

 

“พลังแห่งความแค้น!” เอเรนตอบกลับ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก 

 

“และพวกแกต้องชดใช้…ด้วยชีวิตของพวกแก ทั้งหมู่บ้านทั้งอาณาจักร!”

 

คลื่นพลังเวทอันมหาศาลที่ปะทุขึ้นจากการต่อสู้ของพวกเขานั้นรุนแรงจนสามารถส่งสัญญาณออกไปไกลหลายสิบไมล์! กองทัพอัศวินที่ประจำการอยู่ห่างออกไปหลายวันเดินทางต่างรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวนี้อย่างชัดเจน 

 

สัญญาณพลังงานที่รุนแรงขนาดนี้บ่งบอกถึงเหตุการณ์สำคัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

“สัญญาณพลังงานขนาดใหญ่!” อัศวินระดับสูงนายหนึ่งตะโกนขึ้นในค่าย 

 

“มันมาจากทิศทางของหมู่บ้านเฮเมรา! เตรียมกำลังพล! พวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้!”

 

กลับมาที่ลานหมู่บ้านเฮเมรา การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป เอเรนรุกไล่เฟรดริคอย่างไม่ลดละ ทุกการโจมตีของเขาเต็มไปด้วยความแค้นที่สั่งสมมานับศตวรรษ และพลังของศาสตราโลหิต อีเร็น ก็สอดประสานกับการเคลื่อนไหวของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

 

เฟรดริคถูกบีบให้จนมุม เขาพยายามร่ายเวทครั้งสุดท้ายเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เอเรนเร็วกว่า

 

“แกจะต้องชดใช้ให้กับทุกชีวิตที่แกพรากไป!” เอเรนคำราม ดวงตาเปล่งประกายเปลวเพลิงสีดำอมแดงเจิดจ้า ดาบนิลที่โชนแสงสีแดงฉานพุ่งตรงเข้าเสียบกลางร่างของเฟรดริคอย่างรุนแรง พลังเพลิงสีดำและความมืดแผดเผาจากคมดาบเข้าสู่ร่างของเขา

 

หัวหน้าอัศวินเฟรดริคเบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวดและความไม่เชื่อ ร่างของเขากระตุกเฮือก ก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด เลือดสีแดงฉานไหลทะลักจากบาดแผล ย้อมพื้นดินให้เป็นสีเข้ม

 

ในขณะที่เฟรดริคล้มลง สัญญาณพลังงานที่รุนแรงก็เริ่มจางหายไป ความเข้มข้นของการต่อสู้ลดลงอย่างรวดเร็ว พลังของเอเรนที่ใช้ในการต่อสู้กับเฟรดริคเริ่มลดทอนลงเช่นกัน

 

ร่างของหัวหน้าหมู่บ้านอัลดัสที่ซ่อนอยู่หลังกองศพอัศวินที่ล้มตายต่างพากันมองภาพนั้นด้วยความหวาดกลัวสุดขีด พวกเขาเพิ่งเห็นเหตุการณ์สังหารอัศวินระดับสูงอย่างเฟรดริคด้วยตาของตนเอง ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อน ราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน

 

เอเรนยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของลานหมู่บ้าน ซากศพอัศวินเกลื่อนกลาด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว มือของเขายังคงกำดาบนิลแน่น ดวงตาจับจ้องไปยังร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิงที่นอนอยู่ข้างๆ ราวกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ได้รับการชำระสะสางแล้ว

 

ในที่สุด เมื่อพลังของเอเรนอ่อนแอลงมากพอที่จะควบคุมร่างกายได้น้อยลง ภาพร่างของเอเรน ผู้กล้าจากต่างโลก ก็ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้น ไม่ใช่เพียงเงารางๆ อีกต่อไป แต่เป็นรูปกายที่แท้จริงของเขา ใบหน้าของเขาซีดเซียว อิดโรย ดวงตาคู่คมสีดำสนิทและผมดำขลับกลับสู่สภาพปกติ

 

แต่ยังคงสะท้อนความเจ็บปวดและความมุ่งมั่น ราวกับภาพสะท้อนของผู้กล้าที่เพิ่งฟื้นคืนชีพจากการหลับใหลอันยาวนาน

 

 เอเรนสูดหายใจช้าๆ เพื่อรวบรวมสมาธิ พลังเวทที่ร่อยหรอลงทำให้เขารู้ดีว่าการต่อสู้ที่ผ่านมานั้น การใช้ทั้งพลังเวทและศาสตราโลหิตมันช่างสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล หากเขายังปล่อยไว้ ร่างกายของเขาก็คงถูกยึดครองอีกครั้ง

 

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังรวบรวมพลังอยู่นั่นเอง เขาก็หารู้ไม่ว่าร่างหนึ่งของ หัวหน้าหมู่บ้านอัลดัส กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใบหน้าของอัลดัสบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้นและความหวาดกลัว เขารีบก้มลงหยิบดาบสั้นของอัศวินที่ร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

 

“แก... แก... ทำลายทุกอย่างของข้า!” อัลดัสคำรามเสียงแหบพร่า พุ่งเข้าใส่เอเรนที่กำลังยืนหันหลังให้ เขาเงื้อใบดาบสีดำขึ้นสูงในอากาศ

 

ฉึก!

 

ใบดาบสีดำตวัดลงอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แทงเข้าใส่ร่างที่ไร้การป้องกันใดๆ ของเอเรนที่กำลังรวบรวมพลังอยู่ โลหิตสีแดงฉานพลันพวยพุ่งออกจากบาดแผลกลางลำตัวของเขา อัลดัสยิ้มอย่างบ้าคลั่ง 

 

“ตายซะ!”

 

แต่รอยยิ้มนั้นแข็งค้างอยู่บนใบหน้า เมื่อเอเรนไม่ล้มลงตามที่คาดไว้ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาคู่คมสีดำสนิทของเขาจ้องมองไปยังอัลดัสด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ก่อนที่ประกายเปลวเพลิงสีดำอมแดงจะเริ่มลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งอย่างช้าๆ ราวกับถ่านที่มอดดับแล้วกำลังจะลุกไหม้ขึ้นมาใหม่ด้วยความโกรธเกรี้ยวที่รุนแรงกว่าเดิม

 

“แก... พยายาม... จะฆ่าฉัน...” เสียงของเอเรนดังขึ้นแผ่วเบา แต่กลับเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและพลังอำนาจที่กดดันจนทำให้อัลดัสรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูก

 

“ฉันบอกแล้วไง… ว่าพวกแกทั้งหมดต้องตาย “

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.