บทที่ 414 ความโกรธแค้นจากอดีต 2
บทที่ 414 ความโกรธแค้นจากอดีต 2
เมฆบนท้องฟ้าได้มารวมตัวกันเหนือกำแพงเมืองอย่างกะทันหัน ก่อนที่สายฟ้าสีม่วงจะฟาดลงมาทางด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
เปรี้ยง!
ด้วยพลังโจมตีเวทมนตร์มากกว่า 2,500 หน่วยประกอบกับเวทมนตร์ต้องห้ามที่ถูกเพิ่มเลเวลเป็นเลเวล 2 มันจึงทำให้สายฟ้าทุกสายสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 4,000 หน่วย ขณะเดียวกันเหล่าบรรดาทหารยามที่เฝ้าเมืองต่างก็ไม่มีใครมีพลังชีวิตเกินกว่า 4,000 หน่วยเลย การโจมตีในครั้งแรกจึงสามารถสังหารทหารยามไปได้เกือบทั้งหมด
หัวหน้าทหารยามที่เดินออกไปหันมามองภาพบนป้อมปราการอย่างตกตะลึง
“เวทมนตร์ต้องห้าม! มันจะต้องเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามแน่ ๆ ศัตรู…” หัวหน้าทหารยามกำลังจะแจ้งข่าวไปยังทุกคน แต่ทันใดนั้นมีดสีเงินเล่ม 1 ก็พุ่งทะลุต้นคอของเขาไปเสียก่อน
“เสียงดังน่ารำคาญชะมัด” จอมโจรแสงพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ขณะที่เขาปรากฏตัวออกมาจากแสงอาทิตย์
ขณะเดียวกันจอมโจรเงาก็ปรากฏตัวบนกำแพงเมืองเช่นกัน ซึ่งเขาคนนี้สามารถเดินทางต่อเนื่องภายในเงาได้ทุกที่โดยไม่สนใจข้อจำกัดทางด้านภูมิประเทศ
เมื่อลงถึงพื้นและสังเกตเห็นทหารยามทุกคนถูกสังหารหมดแล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า
“นักเวทต้องห้ามจะโหดเกินไปแล้ว แค่โจมตีทีเดียวทหารยามก็ตายหายไปหมดเลย”
“ทุกคนเข้ายึดป้อมปราการได้” เจียงเจ๋อตะโกนสั่งพร้อมกับนำทีมลูกน้อง 30,000 คนบุกเข้าไป
ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้โจวเทียนหมิงตกตะลึงด้วยเช่นกัน เขาจึงมองไปทางลู่หยางก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
“หัวหน้าทางฝั่งนี้โจมตีเร็วเกินไปไหมครับ? ถ้าหากว่าอีก 2 ป้อมปราการลงมือด้วยความเร็วเท่า ๆ กันไม่ได้ โซลออฟอีเทอนิตี้อาจจะนำกองกำลังกลับมาป้องกันทันก็ได้นะครับ”
“ไม่ต้องห่วง ความเร็วจากอีก 2 ด้านนั้นก็คงไม่ต่างจากฝั่งนี้เท่าไหร่นักหรอก” ลู่หยางส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
—
ป้อมปราการอีสท์ซี
อินทรีสายฟ้า 50 ตัวกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าเหนือกำแพง เมื่อพวกมันเห็นทหารยาม 200 กว่าคนที่อยู่ด้านล่าง พวกมันก็ปล่อยสายฟ้าลงมาสังหารทหารยามเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
—
ป้อมปราการนอร์ทซี
ลมหนาวพัดผ่านมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นานกำแพงเมืองก็ถูกเวทมนตร์ต้องห้ามธาตุน้ำแข็งแช่แข็งทหารยามทุกคนจนตาย
“ทางฝั่งเราควบคุมกำแพงเมืองได้แล้วครับ” ฉิงชางและไป๋ฉือต่างก็รายงานขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
—
“ทั้งสองด้านนั้นยึดกำแพงได้แล้ว” ลู่หยางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ หลังจากได้รับข้อความจากทั้งสองคน
โจวเทียนหมิงมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เพราะเหตุการณ์ทุกอย่างมันอยู่เหนือเกินกว่าความคาดหมายของเขาไปไกล
“บลัดบราเธอร์ช่างเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งจริง ๆ” โจวเทียนหมิงกล่าว
“หลังจากที่นายสนิทกับพวกเขาแล้วเดี๋ยวนายก็จะรู้เองว่าทุกคนต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด เอาล่ะพวกเราก็เข้าไปในป้อมปราการกันบ้างเถอะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หัวหน้าอย่าเพิ่งประมาทไปนะครับ สาเหตุที่ป้อมปราการทั้งสามแห่งมีการป้องกันที่หละหลวมแบบนี้นั่นก็เพราะกองกำลังทั้ง 200,000 คนของพวกเขากำลังเก็บเลเวลอยู่ในแผนที่เลเวล 20 ถ้าพวกเขารู้ว่าป้อมปราการถูกโจมตี พวกเขาจะต้องรีบยกกำลังพลกลับมาป้องกันแน่ ๆ” โจวเทียนหยานกล่าวเตือน
“จุดประสงค์ที่ฉันเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อทำลายดีวายโซลให้สิ้นซาก ฉันต้องการให้กิลด์ ๆ นี้หายไปจากเกมตลอดกาล ถึงแม้โซลออฟอีเทอนิตี้จะยกทัพกลับมา แต่ฉันก็พร้อมจะเผชิญหน้ากับมันอย่างยินดี” ลู่หยางกล่าวด้วยแววตาอันเยือกเย็น
เมื่อสองพี่น้องตระกูลโจวสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นในน้ำเสียงของลู่หยาง มันก็ทำให้พวกเขาขนลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่เข้าใจว่าโซลออฟอีเทอนิตี้ไปทำอะไรถึงทำให้ลู่หยางโกรธได้ถึงขนาดนี้
อย่างไรก็ตามความโกรธแค้นของลู่หยางมันก็ไม่ใช่ความโกรธแค้นที่มีมาจากในชาตินี้ แต่มันเป็นความโกรธแค้นที่มีมาจากในชาติก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เขาถูกหลอกจนสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ดีวายโซลก็คือหนึ่งในผู้ร่วมอุดมการณ์ในแผนการครั้งนั้นด้วย
หลังเข้าสู่ป้อมปราการเจียงเจ๋อและเซี่ยหยู่เว่ยก็นำกองกำลังบุกเข้ายึดจุดเทเลพอร์ตอย่างชำนาญเพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกดีวายโซลใช้ม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตเพื่อกลับเข้ามาช่วย
ในระหว่างที่บลัดบราเธอร์กำลังบุกเข้ายึดจุดเทเลพอร์ตภายในป้อมปราการอยู่นั้น ชาโดว์ดัสค์ผู้ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากิลด์ดีวายโซลที่โซลออฟอีเทอนิตี้สั่งการให้คอยเฝ้าเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ก็ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากลูกน้องอย่างต่อเนื่อง
“อะไรนะป้อมปราการนอร์ทซีถูกโจมตี?”
“แม้แต่ป้อมปราการอีสท์ซีก็ถูกโจมตีด้วย?!”
“ป้อมปราการซีดราก้อนก็ถูกโจมตีเหมือนกันงั้นเหรอ!!”
ชาโดว์ดัสค์มองข้อความอย่างตกใจ โชคดีที่หัวหน้ากองพันทั้ง 6 คนของกิลด์กำลังประชุมกับเขาอยู่ เขาจึงพูดออกไปว่า
“ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาว่าป้อมปราการทั้ง 3 แห่งของเราถูกโจมตีพร้อมกัน”
“เป็นไปไม่ได้?! ใครมันจะกล้ามาโจมตีพวกเรา” ฉวนไห่ หัวหน้ากองพันที่ 1 กล่าว
“ในเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ไม่มีกิลด์ใหญ่กิลด์ไหนที่รวมตัวกันนี่ ศัตรูมีจำนวนเท่าไหร่เหรอครับ?” หลงเตี๋ย หัวหน้ากองพันที่ 2 ถาม
“ปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้แหละ ทหารยามจากทั้ง 3 ป้อมปราการบอกว่าพวกเขาถูกโจมตีอย่างกะทันหัน ก่อนที่พวกเขาจะทันได้สังเกตจำนวนของศัตรูทุกคนก็ตายกันหมดแล้ว” ชาโดว์ดัสค์กล่าว
“ไร้ประโยชน์จริง ๆ” ไทเกอร์ก็อด หัวหน้ากองพันที่ 3 กล่าว
“พวกมันคงมีจำนวนไม่มากเท่าไหร่นักหรอก หลายวันมานี้ไม่เห็นมีกิลด์ไหนรวมกำลังพลกันเลย พวกมันอาจจะเป็นแค่พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แค่พวกเรา 3 คนแยกนำทีมกลับไปป้องกันแค่นั้นก็น่าจะพอ” ฉวนไห่กล่าว
“เอาล่ะ ฉันจะรอฟังข่าวดีจากพวกนายก็แล้วกัน เรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ไม่ต้องไปรายงานให้หัวหน้าไม่สบายใจหรอก” ชาโดว์ดัสค์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ครับ” ฉวนไห่พร้อมกับหัวหน้าอีก 2 คนพยักหน้าพร้อมกัน ก่อนจะเรียกระดมพลกองกำลังของตัวเองในทันที
ในเวลาไม่ถึง 5 นาทีพวกเขาทั้ง 3 คนก็รวมพลได้ทีมละ 1,000 คน ขณะเดียวกันสมาชิกของดีวายโซลเป็นจำนวนมากก็ได้รับสัญญาณให้ใช้ม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตกลับไปยังป้อมปราการของตัวเอง
“ทุกคนเตรียมใช้คัมภีร์เทเลพอร์ตพร้อมกัน เอาให้ไอ้พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงพวกนั้นตกใจจนตายไปเลย” ไทเกอร์ก็อดสั่งการอย่างหยิ่งยโส
—
ป้อมปราการนอร์ทซี
สามพี่น้องตระกูลไป๋นำกองกำลัง 30,000 คนเข้ายึดจุดเทเลพอร์ตภายในป้อมปราการทั้ง 3 จุด ขณะที่บิทเทอร์เลิฟรับผิดชอบนำทีมโจมตีเข้าสู่เมืองชั้นใน
ในระหว่างที่ไป๋หูกำลังยืนเบื่อ ๆ อยู่นั้น จู่ ๆ มันก็มีแสงสว่างมากกว่าพันจุดปรากฏขึ้นพร้อม ๆ กัน
“ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้ามาโจมตีป้อมปราการของฉัน! พวกแกอยากตายกันมากนักหรือยังไง” ไทเกอร์ก็อดร้องคำรามทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นมา
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูดจบเขาก็มองภาพรอบ ๆ ตัวด้วยความตกตะลึง เพราะมันมีผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังล้อมรอบจุดเทเลพอร์ตของป้อมปราการเอาไว้
บริเวณด้านหน้ามีนักรบโล่และพาลาดินยืนเป็นแนวป้องกันอย่างเป็นระเบียบ ขณะที่ทางด้านหลังมีนักเวทและนักธนูเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีไม่น้อยกว่า 10,000 คน
“ไม่ใช่พวกฉันหรอกที่จะตาย แต่มันเป็นพวกแกต่างหาก” ไป๋หูร้องคำรามก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคนโจมตีในทันที
พริบตาต่อมาเวทมนตร์และลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งลงไปยังจุดเทเลพอร์ต ทำให้กองกำลังทั้ง 1,000 คนของไทเกอร์ก็อดเสียชีวิตหลังจากพวกเขาปรากฏตัวไม่ถึง 10 วินาที
ไทเกอร์ก็อดฟื้นคืนชีพภายในเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ด้วยความสับสน ก่อนที่เขาจะติดต่อไปหาชาโดว์ดัสค์แล้วรายงานด้วยความตกใจ
“แย่แล้ว! ศัตรูมีจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน จำนวนคนที่พวกเรามีไม่พอที่จะป้องกันป้อมปราการ”
ไม่นานมันก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นบริเวณจุดฟื้นคืนชีพ ก่อนที่ฉวนไห่จะปรากฏตัวขึ้นเช่นเดียวกัน
“ชิบหายแล้ว! ศัตรูมีอยู่เยอะมาก เท่าที่ประมาณการได้น่าจะมีอยู่เป็นหมื่นคน”
พริบตาต่อมามันก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นเป็นรอบที่ 3 ก่อนที่หลงเตี๋ยจะปรากฏตัวด้วยความสับสน
“คนที่ฆ่าฉันหน้าตาคุ้น ๆ มากเลย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นฉิงชางจากกิลด์บลัดบราเธอร์ของเมืองเซนต์กอลล์”
“เป็นไปไม่ได้! การจะเดินทางจากเมืองเซนต์กอลล์มาที่นี่มันน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 วันนี่” ฉวนไห่พูดอย่างตกตะลึง
หลงเตี๋ยส่งวีดีโอให้ทุกคนพร้อมกับพูดว่า
“ทุกคนลองย้อนดูวีดีโอก็แล้วกัน ฉันเปิดฟังก์ชั่นบันทึกวีดีโอเอาไว้”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 212
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น