บทที่ 381 ดินแดนเทพสงคราม

“ลู่หยาง คราวนี้นายเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองน้อยเกินไปหรือเปล่า?” เจียงเจ๋อกล่าวหลังจากที่ลู่หยางได้มาบอกเรื่องการลงทุนในป้อมปราการ

“แค่นี้มันไม่เท่าไหร่หรอก พวกเราลำบากร่วมกันมาตั้งเท่าไหร่ เชื่อฉันสิสักวันนายจะมีรายได้มากกว่าพ่อของนายเสียอีก” ลู่หยางกล่าว

“ทำแบบนี้นายจะไม่มาเสียใจทีหลังแน่นะ?” เจียงเเจ๋อถาม

“ฉันจะมาเสียใจทีหลังทำไม นายเห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?” ลู่หยางถาม

“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมาก” เจียงเจ๋อกล่าว

“ฉันไปล่ะ นายไปทำธุระของนายต่อเถอะ” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะใช้คัมภีร์เทเลพอร์ตไปยังเมืองเซนต์กอลล์

—

โดยปกติลู่หยางมักจะเดินทางมายังร้านค้าประมูลของเมืองอยู่เป็นประจำ ซึ่งถ้าหากว่ามันมีของดีหลุดออกมาขายในราคาถูก เขาก็จะทำการซื้อของพวกนั้นมาเก็บเอาไว้

ในระหว่างที่เขากำลังเดินเข้าประตูของร้านค้าประมูลไปอยู่นั่นเอง เขาก็บังเอิญได้ยินผู้เล่นที่อยู่ด้านในพูดคุยกันอยู่เบา ๆ

“นี่มันเวทมนตร์ควายอะไรกัน ไม่เห็นมันจะมีประโยชน์อะไรเลย”

“คนขายตั้งราคาเอาไว้ตั้ง 50 เหรียญทอง นี่เขากำลังพยายามปล้นเราอยู่ชัด ๆ”

“จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าสกิลนี้มันมีประโยชน์อะไร”

…

“พวกคุณกำลังพูดถึงเวทมนตร์อะไรเหรอ?” ลู่หยางเดินเข้าไปถามผู้เล่นคนหนึ่งหลังจากที่ได้ยินพวกเขาคุยกันเรื่องเวทไฟ

ผู้ถูกถามชี้ไปยังหน้าจอใหญ่ ซึ่งบนตำแหน่งที่เด่นที่สุดก็มีหนังสือสกิลเวทมนตร์ไฟวางอยู่เล่ม 1

“อันนั้นไง”

พาร์ทออฟไฟร์

ประเภท เวทมนตร์ธาตุไฟ

มานาที่ต้องใช้ 200 มานา + 50 มานา/วินาที

รายละเอียด หลังจากเปิดใช้สกิลนี้ บริเวณที่ผู้เล่นเดินผ่านจะลุกเป็นไฟ โดยเปลวไฟแต่ละช่องจะสร้างความเสียหาย 22 หน่วย

หนังสือเวทมนตร์ตรงหน้าทำให้ลู่หยางเบิกตากว้างขึ้นมาในทันที จากนั้นเขาก็รีบเปิดเครื่องประมูลและทำการซื้อหนังสือเล่มนี้มาอย่างรวดเร็ว

ราคาขั้นต่ำในการประมูลถูกกำหนดเอาไว้ที่ 20 เหรียญทองและราคาสูงสุดถูกกำหนดเอาไว้ที่ 50 เหรียญทอง ชายหนุ่มจึงจ่ายเงินออกไป 50 เหรียญทองโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“มันถูกขายไปแล้ว”

“ไอ้โง่คนไหนซื้อมันไปเนี่ย?”

“เขาซื้อมันไปในราคา 50 เหรียญทองเนี่ยนะ”

…

แม้ลู่หยางจะได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นมาอย่างมากมาย แต่เขาก็ตื่นเต้นเกินกว่าจะสนใจเสียงวิจารณ์เหล่านั้น

ในชาติก่อนสกิลนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสกิลโกงของเวทมนตร์ธาตุไฟ เพราะถ้าหากเขาได้ใช้มันกับสกิลคอมบัสชันเลเวล 5 มันก็จะทำให้เขาสามารถสังหารบอสได้โดยไม่จำเป็นจะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง

ตั้งแต่ที่เขาพาทีมเข้าไปบุกพระราชวังราชาซอมบี้ เขาก็คาดหวังให้พวกมันดรอปหนังสือสกิลเล่มนี้มาโดยตลอด อย่างไรก็ตามถึงแม้สมาชิกภายในกิลด์จะจัดการราชาซอมบี้มาเป็นเดือนแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีใครได้หนังสือเล่มนี้กลับมาเลยแม้แต่คนเดียว

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาก็ได้รับพาร์ทออฟไฟร์มาในครอบครองแล้ว ซึ่งมันก็จะทำให้แผนการหลาย ๆ อย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ระหว่างที่ลู่หยางกำลังจะออกจากร้านค้าประมูล มู่หยูก็ติดต่อเข้ามาหาเขาเสียก่อน

“พี่ กระเป๋าของพวกเราเต็มแล้วค่ะ” มู่หยูกล่าว

“โอเค เดี๋ยวพี่รีบไป” ลู่หยางกล่าวอย่างเอ็นดู

ชายหนุ่มเริ่มหาสถานที่ปลอดผู้คนก่อนที่จะเทเลพอร์ตไปยังวิหารเทพอสูร จากนั้นเขาก็กลับไปยังเพดานใต้สนามประลองของสปิริตอะคาเดมี่อีกครั้งหนึ่ง

บนพื้นด้านล่างเต็มไปด้วยอัญมณีอย่างมากมาย โดยมีพวกฮั่นอิ่งพยายามรวบรวมอัญมณีเหล่านั้นให้มากองอยู่ด้วยกัน

“ทำไมมันถึงมีอัญมณีอยู่เยอะขนาดนี้ล่ะ?” ลู่หยางถาม

“เมื่อเช้าพวกเราลืมบอกพี่ไปว่าเรากระเป๋าเต็มแล้ว วันนี้เราก็กลัวรบกวนพี่เลยพยายามโทรหาตอนกลางคืน” ฮั่นอิ่งตอบ

“ยัยเด็กโง่! คราวหลังถ้ากระเป๋าเต็มก็เรียกพี่ได้เลย ไม่ว่ายังไงพี่ก็มีเวลาให้พวกเธอตลอด” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“ได้ค่ะ” ฮั่นอิ่งตอบ

หลังจากนั้นลู่หยางก็เดินทางไปกลับวิหารเทพอสูรเพื่อเอาอัญมณีทั้งหมดไปเก็บ ซึ่งมันก็จำเป็นจะต้องใช้การเทเลพอร์ตไปมาถึง 6 รอบกว่าที่เขาจะเก็บอัญมณีได้ทั้งหมด

คราวนี้พวกเขาได้รับอัญมณีระดับ 3 มามากกว่า 5,000 เม็ด ซึ่งในอัญมณีเหล่านั้นมันก็มีอัญมณีเจาะเกราะเวทรวมอยู่ด้วย

อัญมณีสายรุ้ง

เลเวล 3

เอฟเฟกต์ เพิ่มการเจาะเกราะเวท 30 หน่วย

ลู่หยางกำลังต้องการอัญมณีพวกนี้อยู่พอดี เขาจึงหยิบลูกเต๋าแห่งโชคชะตาขึ้นมาทอย

6, 3, 6

ระบบ: ผู้เล่นลู่หยางทอยลูกเต๋าแห่งโชคชะตาได้ 15 แต้ม โชค +10 เป็นเวลา 30 นาที

ทันใดนั้นค่าความโชคดีของเขาก็เพิ่มขึ้นมา 10 หน่วยในทันที ซึ่งมันก็จะช่วยให้เขาสามารถหลอมอัญมณีระดับ 10 ได้ 100%

ชายหนุ่มเริ่มหยิบอัญมณีออกมาทำการหลอม ซึ่งหลังจากที่เขาทำการหลอมอัญมณีสายรุ้งจนเสร็จ เขาก็ได้รับอัญมณีสายรุ้งระดับ 10 มา 26 เม็ด

ลู่หยางทำการถืออัญมณีทั้ง 26 เม็ดนี้กลับไปยังสปิริตอะคาเดมี่อีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่พวกฮั่นอิ่งเพิ่งสังหารมอนสเตอร์ลงไปอีกกลุ่ม

“ฝังอัญมณีพวกนี้เข้าไปในอุปกรณ์ของเธอซะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับมอบอัญมณีสายรุ้งให้กับมู่หยู

“นี่มันอัญมณีระดับ 10 หมดเลยไม่ใช่เหรอคะ? มันจะไม่สิ้นเปลืองเกินไปหน่อยเหรอ ตอนนี้หนูใกล้จะถึงเลเวล 40 แล้ว” มู่หยูกล่าวอย่างตกใจหลังจากได้เห็นอัญมณีระดับ 10 เป็นจำนวนมาก

“ไม่เป็นไร เธอฝังอัญมณีพวกนี้ไปก่อนได้เลย เดี๋ยวพวกเราค่อยถอดมันออกมาทีหลังก็ได้ ตอนนี้พี่จำเป็นจะต้องเอาหัวใจแห่งเทพอสูรกับคทามาจิสเตอร์กลับไปแล้ว ถ้าเธอมีค่าเจาะเกราะเวทไม่สูงมากพอ มันจะกลายเป็นว่าเธอจะฆ่าพวกมอนสเตอร์ไม่ได้” ลู่หยางกล่าว

แม้ลู่หยางจะพูดออกไปแบบนั้น แต่การถอดอัญมณีออกจากอุปกรณ์มันก็ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือระดับของอัญมณีจะลดลง 1 ระดับอีกด้วย

“ก็ได้ค่ะ” มู่หยูทำการติดตั้งอัญมณีลงในอุปกรณ์ตามที่ลู่หยางบอก ซึ่งมันก็ช่วยเพิ่มค่าเจาะเกราะเวทให้เธอถึง 2,600 หน่วย

มู่หยูเรียกหน้าต่างสถานะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบสถานะของตัวเอง และในช่องการเจาะเกราะเวทของเธอมันก็ถูกแสดงขึ้นมาเป็น 100%

“โอ้โห! ค่าเจาะเกราะเวทสูงมากเลย” มู่หยูอุทานอย่างตกใจ

ลู่หยางหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้พวกเด็ก ๆ กลับไปเก็บเลเวลต่อ ระหว่างนั้นเขาก็ได้ใช้คทาวาร์ปเพื่อเทเลพอร์ตไปยังหุบเขามังกร ก่อนที่เขาจะเรียกสิงโตเพลิงออกมาและให้มันวิ่งไปทางทิศตะวันตก

บริเวณทิศตะวันตกของหุบเขามังกรคือที่ราบสูงหลีลูอัน ซึ่งมันเป็นที่อยู่ของจักรวรรดิออร์คขนาดใหญ่

ตามเนื้อเรื่องของเกมออร์คเคยเป็นเผ่าพันธุ์ที่ปกครองทั่วทั้งดาวดวงนี้ และไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์, เผ่าสัตว์อสูรหรือเผ่าเอลฟ์ต่างก็เคยล้วนแล้วแต่เป็นอาหารของออร์คด้วยกันทั้งหมด

อย่างไรก็ตามในภายหลังทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ก็จับมือกันต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เผ่าออร์คจึงพ่ายแพ้และต้องถอยร่นมาอยู่ในที่ราบสูงหลีลูอันแห่งนี้

ความจริงแล้วหากผู้เล่นสามารถบุกทะลวงที่ราบสูงหลีลูอันได้สำเร็จ เผ่ามนุษย์กับเผ่าสัตว์อสูรก็จะมีพื้นที่เชื่อมต่อกันและในเวลานั้นมันก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์

ตอนนี้ลู่หยางยังไม่มีความสามารถบุกทะลวงเข้าไปภายในจักรวรรดิของพวกออร์คได้ แต่การจัดการกับบอสบริเวณเมืองชายขอบของจักรวรรดิย่อมเป็นเรื่องสบาย ๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหลังจากที่เขาได้เรียนรู้สกิลพาร์ทออฟไฟร์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

เงาสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาเริ่มปรากฏขึ้นมาต่อหน้าลู่หยาง ซึ่งสิ่งก่อสร้างเหล่านี้มันก็ได้ปกคลุมภูเขาไปมากกว่า 10 ลูก

ระบบ: คุณค้นพบดินแดนเทพสงคราม

บริเวณประตูของดินแดนเทพสงครามมีออร์คยักษ์ 6 ตัวยืนเฝ้าอยู่ โดยพวกมันเป็นออร์คที่มีความสูงมากกว่า 3 เมตร มีผิวสีแดงอมน้ำตาลและค้อนเหล็กด้ามยาวที่พวกมันถืออยู่นั้นก็มีความใหญ่โตมากกว่าร่างของลู่หยางเสียอีก

ออร์คค้อนเหล็ก (ระดับอีลิท)

เลเวล 60

พลังชีวิต 1,100,000/1,100,000

หากชายหนุ่มพลาดโดนค้อนของพวกออร์คฟาดเข้าสักที เขาก็คงจะไม่รอดชีวิตกลับมาแน่ ๆ และออร์คที่มีความสูงขนาดนี้ย่อมมีมุมมองกว้างไกลกว่ามอนสเตอร์ทั่ว ๆ ไป ลู่หยางจึงตัดสินใจพยายามอยู่ห่างจากพวกมัน

หากเขาจำไม่ผิดพื้นที่บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง ๆ นี้มันมีช่องโหว่ที่พอจะทำให้เขาแอบลักลอบเข้าไปภายในเมืองได้ ซึ่งหลังจากที่เขาเข้าไปทางด้านในเขาก็จะได้เจอกับที่พักของพวกออร์คอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มทำการตรวจสอบสกิลและอุปกรณ์ของตัวเองให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อหาช่องโหว่บนกำแพง

 

 

---