บทที่ 273 ฉือมู่พ่ายแพ้

-A A +A

บทที่ 273 ฉือมู่พ่ายแพ้

บทที่ 273 ฉือมู่พ่ายแพ้

“ฉันตั้งใจจะใช้บลูปริ้นที่ได้มาสร้างอุปกรณ์ให้กับพี่น้องทั้ง 13,000 คนที่อยู่กับเราในก่อนหน้านี้ฟรี ๆ ทุกคนช่วยรวบรวมรายชื่อพี่น้องทุกคนส่งให้กับเจียงเจ๋อด้วย ส่วนนายช่วงนี้ก็ช่วยจัดสรรกองกำลังออกไปหาแร่อีเทอนอลโกลด์, แร่เมจิกไอร่อนและวัสดุอื่น ๆ มาตุนไว้เพิ่มเติมด้วย”

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะจัดการทุกอย่างเอง” เจียงเจ๋อกล่าวพร้อมกับพยักหน้า เพราะเขารู้ดีว่าวิธีการนี้จะช่วยลดต้นทุนในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับสมาชิกกิลด์ได้เยอะมาก

เช้าวันอาทิตย์ลู่หยางได้เข้าเกมมาเพื่อหาซื้อเลือดเทพสงครามไปปลุกความสามารถของหัวสัตว์โบราณเพื่อทำการมอบมันให้กับเสี่ยวเหลียง จากนั้นเขาก็ไล่ล่าสังหารบอสกลางวันลากยาวไปถึงวันจันทร์ถึงออกไปใช้ชีวิตนอกเกม

“ลู่หยาง นายมาถึงหรือยัง? วันนี้ก็ฝากอาหารเช้าของเหยาเหยาด้วยนะ” ฉู่อวี้แอบโทรหาลู่หยางโดยมีหลิวฉ่วงและจางเหมิงอยู่ใกล้ ๆ

“ใกล้ถึงแล้ว” ลู่หยางตอบ

“นี่พวกเรายอมเสี่ยงเพราะนายเลยนะ ถ้าเหยาเหยารู้ว่าพวกเรา 3 คนทำแบบนี้ พวกเราตายแน่” ฉู่อวี้กล่าว

“ถ้างั้นตอนกลางวันก็ไปกินอาหารที่ร้านยูไลกันดีไหม?” ลู่หยางกล่าว

“โอเค ตกลง” ฉู่อวี้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

หลังจากวางสายฉู่อวี้ก็หันไปส่งสัญญาณให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันมาพูดกับเหยาเหยาว่า

“เหยาเหยา พวกเราไปกินข้าวกันก่อนนะ”

“พวกเธอไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป” เสินเมิ่งเหยากล่าวขณะยุ่งกับการเก็บที่นอนเพราะว่าเธอตื่นสาย

จางเหมิงกับหลิวฉ่วงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่พวกเธอจะเดินออกไปจากห้องด้วยกัน

นอกหอพัก

“พวกเราทำแบบนี้มันจะดีเหรอ? มันเหมือนกับพวกเราขายเพื่อนเพื่อของกินเลย” หลิวฉ่วงกล่าว

“อย่าพูดแบบนั้นสิ ลู่หยางเป็นคนดีจะตายและเขาก็ชอบเหยาเหยาของพวกเราจริง ๆ อย่างน้อยเราก็ควรเปิดทางให้พวกเขาได้เจอกันบ้าง อย่าลืมสิว่าหนุ่มหล่อหุ่นดีแบบลู่หยางจะต้องมีสาว ๆ คอยตามจีบเยอะแน่ ๆ” จางเหมิงกล่าว

“ใช่ เธอพูดถูก” ฉู่อวี้กล่าว

ทั้ง 3 คนต่างก็พยักหน้าให้กันราวกับว่าพวกเธอกำลังทำทุกอย่างเพื่อความสุขของเสินเมิ่งเหยา แต่ความจริงแล้วพวกเธอก็ถูกอาหารสุดหรูหลอกล่ออยู่จริง ๆ

10 นาทีต่อมา

เสินเมิ่งเหยารีบวิ่งออกมาจากหอพักเพื่อไปยังโรงอาหาร ลู่หยางที่ดักรออยู่ก่อนแล้วจึงโบกมือพร้อมกับส่งเสียงตะโกนว่า

“จะไปไหนจ๊ะคนสวย”

เสินเมิ่งเหยากำลังหิวมาก เมื่อเธอเห็นลู่หยางเตรียมอาหารมาให้เธอก็พูดขึ้นมาด้วยแววตาเป็นประกาย

“นายนี่เป็นคนดีจริง ๆ”

ลู่หยางส่งอาหารให้เสินเมิ่งเหยาพร้อมกับนั่งพูดคุยกันตลอดทั้งเช้าเรียกสายตาอิจฉาของหนุ่ม ๆ ได้เป็นจำนวนมาก และพวกเขาก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเสินเมิ่งเหยาถึงให้ความสำคัญกับลู่หยางมากนัก

ความจริงแล้วแม้แต่ตัวของเสินเมิ่งเหยาก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมตอนที่เธออยู่กับลู่หยาง มันถึงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายราวกับว่าเธอคุ้นเคยกับคนคนนี้มาเนิ่นนานแล้ว

“ลู่หยาง แถวนี้มีโรงเรียนสอนเต้นไหม?” เสินเมิ่งเหยาถาม

“ทำไมเหรอ?” ลู่หยางถาม

“ฉันอยากลองฝึกเต้นดูนะสิ” เสินเมิ่งเหยาตอบ

“เธอต้องแสดงในพิธีเปิดภาคเรียนของมหาลัยเหรอ? ในมหาลัยมีห้องซ้อมเต้นอยู่นะเธอลองไปซ้อมในนั้นดูก็ได้” ลู่หยางตอบกลับโดยไม่ได้ตระหนักเลยว่าแท้ที่จริงเสินเมิ่งเหยาคือหลานอวี่

“ไม่ล่ะ ที่นั่นคนเยอะเกินไป ฉันอยากได้ที่ ๆ ส่วนตัวหน่อย” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับส่ายหน้า

ชาติก่อนลู่หยางไม่เคยเห็นเสินเมิ่งเหยาฝึกเต้นเลยสักครั้ง แต่ถึงขณะนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า

“ถ้างั้นหลังฝึกฉันจะพาเธอไปที่ที่หนึ่งก็แล้วกัน”

หลังฝึกซ้อมในช่วงบ่ายลู่หยางก็ได้พาเสินเมิ่งเหยาไปที่ร้านคาราโอเกะใกล้มหาลัย เพราะถึงแม้สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ที่เสียงดัง แต่มันก็เป็นสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากด้วยเช่นกัน

“พวกเรามาที่นี่ทำไมเหรอ?” เสินเมิ่งเหยาถาม

“ก็นี่ไงที่ ๆ มีความเป็นส่วนตัว ตามฉันมานี่สิ” ลู่หยางกล่าว

หลังจากทำการจองห้องที่เคาน์เตอร์ ลู่หยางก็พูดขึ้นมาว่า

“เป็นไง ที่นี่ส่วนตัวดีใช่ไหมล่ะ?”

เสินเมิ่งเหยาเพิ่งจะเคยเข้าร้านคาราโอเกะเป็นครั้งแรก เธอจึงมองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“มันก็ดูไม่เลวนะ”

“เธออยากฝึกเต้นแบบไหน?” ลู่หยางถาม

สีหน้าของเสินเมิ่งเหยากลายเป็นสีแดง เพราะตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะให้ลู่หยางพาเธอมาส่งเฉย ๆ และตั้งใจที่จะฝึกซ้อมอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตามเธอก็เคยได้ยินพ่อแม่พูดมาว่าร้านคาราโอเกะเป็นสถานที่ที่วุ่นวาย เธอจึงไม่กล้าให้ลู่หยางทิ้งเธอไปด้วยเช่นกัน

“ฉันเต้นไม่เก่ง นายห้ามหัวเราะใส่ฉันนะ” เสินเมิ่งเหยากล่าว

“ไม่หัวเราะแน่นอน” ลู่หยางกล่าว

การเต้นของเสินเมิ่งเหยาไม่ได้เป็นการเต้นในสไตล์เซ็กซี่ แต่เป็นการร่ายรำที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับดอกบัวขาวที่อยู่ท่ามกลางใบบัวอย่างมากมาย ซึ่งมันก็เป็นความบริสุทธิ์และสวยงามจนยากที่จะบรรยายออกมาได้จริง ๆ

“ฉันเต้นเป็นยังไงบ้าง?” เสินเมิ่งเหยาถามหลังจากเต้นจบไปแล้ว 1 เพลง

“สวยมาก” ลู่หยางกล่าวอย่างชื่นชม

“แสดงว่าฝีมือฉันยังไม่ตกสินะ” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ แต่เมื่อนึกถึงลู่หยางภายในเกมที่บังคับให้เธอเต้น มันก็ทำให้เธออดที่จะแบะปากออกมาไม่ได้

“เป็นอะไรเหรอ?” ลู่หยางถาม

“มีคนใจร้ายคนหนึ่งชอบทำดีกับฉันแต่ก็ชอบแกล้งฉันด้วยเหมือนกัน นายคิดว่าฉันควรจะจัดการกับเขายังไงดี?” เสินเมิ่งเหยาถาม

“เอ่อ…ทำไมคน ๆ นั้นมันฟังดูเหมือนเป็นฉันเลย” ลู่หยางกล่าว

หลังจากที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมาเสินเมิ่งเหยาก็ตระหนักว่าลู่หยางมีนิสัยแบบนั้นจริง ๆ เธอจึงถามขึ้นมาว่า

“บอกหน่อยสิว่าฉันจะต้องรับมือกับคนแบบนายยังไง?”

เสินเมิ่งเหยาก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ในวันนี้เธอก็อดที่จะเล่าเรื่องที่เธอได้เจอมาภายในเกมให้กับลู่หยางฟังขึ้นมาไม่ได้

ลู่หยางรู้สึกหึงขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ก่อนที่เขาจะถามขึ้นมาว่า

“คน ๆ นั้นเป็นญาติเธอเหรอ?”

“ไม่ใช่หรอก แต่ตานั่นชอบให้ฉันเรียกเขาว่าพี่ แต่เขาก็ดูแลฉันอย่างดีเหมือนกับน้องสาวเพียงแต่เขาก็ชอบแกล้งฉันด้วย” เสินเมิ่งเหยากล่าว

“บางทีคน ๆ นั้นอาจจะชอบเธอหรือเปล่า? ไม่งั้นเขาคงไม่ทำกับเธอแบบนี้หรอก” ลู่หยางกล่าวขณะที่ภายในใจมีความหึงหวงมากยิ่งขึ้น

เสินเมิ่งเหยาหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะพูดว่า

“ไม่ใช่หรอก มีคนเคยถามเขาแล้วและเขาก็บอกว่าเขามีผู้หญิงที่ชอบอยู่ในชีวิตจริง”

“แล้วเธอล่ะ ชอบเขาไหม” ลู่หยางถามขึ้นทันที

เสินเมิ่งเหยาก้มหน้าลงพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ และตอบว่า

“อือ เวลาอยู่กับเขา มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย”

หลังจากนั้นไม่ว่าเสินเมิ่งเหยาจะพูดอะไรลู่หยางก็ไม่ได้ฟังอีก ซึ่งตลอด 2 ชั่วโมงในห้องคาราโอเกะ เสินเมิ่งเหยาก็พูดถึงแต่เรื่องของคนที่เธอหลงรัก ลู่หยางจึงทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มเพื่อแสดงความยินดี

หลังจากไปส่งหญิงสาวกลับหอพัก ลู่หยางก็เดินบนถนนมหาลัยยามค่ำคืนท่ามกลางความเงียบ และเนื่องมาจากบรรยากาศแสงไฟสลัว ๆ ประกอบกับเสียงจิ้งหรีดร้อง มันจึงทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเคว้งคว้างมาก

แต่ในขณะที่ลู่หยางกำลังเศร้า เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะได้พบว่ามันเป็นสายจากเจียงเจ๋อนั่นเอง

“มีอะไร?”

“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!” เจียงเจ๋อกล่าว

“ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เล่า” ลู่หยางกล่าว

“ฉือมู่แพ้แล้ว”

 

 


หาาาาาาาาาาาาาาาาาาา?! ฉือมู่สู้อะไรอยู่นะ ลืมไปแล้ว?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.