บทที่ 265 เวทมนตร์ไฟได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง
บทที่ 265 เวทมนตร์ไฟได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง
“ใช่” ลู่หยางพยักหน้าตอบกลับด้วยรอยยิ้มยอมรับว่าฮั่นอิ่งคือผู้อัญเชิญเฮลไฟร์ลอร์ดออกมา
เหล่าบรรดาสมาชิกภายในทีมของฉิงเทียนต่างก็ชื่นชมฮั่นอิ่งกันใหญ่ แต่ในระหว่างนั้นหัวหน้าทีมอย่างฉิงเทียนกลับกำลังหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ... พวกเราไม่สู้แล้ว พวกคุณเอาผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ทั้ง 5 ตัวนี้ไปได้เลย ต่อไปหากพวกคุณมีอะไรขอให้รีบบอกเราทันที ผมจะตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้อย่างแน่นอน” ฉิงเทียนกล่าว
“ฉันขอรับไว้ด้วยความยินดี ก่อนหน้านี้ฉันก็ว่าทำไมคุณถึงเตือนฉันไม่ให้ไปหาผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ ที่แท้พวกมันก็ถูกพวกคุณจับมาจนหมดแล้วนี่เอง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พวกคุณก็ฝีมือไม่เลวเลยนะ ถึงขนาดผ่านภารกิจระดับ SSS ของราชาตัวตลกมาได้” ฮั่นเฟยกล่าว
เมื่อฉิงเทียนเห็นฮั่นเฟยเขาก็ไม่กล้าที่จะวางท่ามากนัก เพราะเขาพอจะจดจำรูปร่างของอีกฝ่ายหนึ่งได้
“คุณคือโจรคนแรกที่ท้าทายภารกิจระดับ SSS ของราชาตัวตลกในวันนั้นใช่ไหม? ผมได้ดูคลิปของคุณถึงหาวิธีผ่านภารกิจของตัวเองมาได้ คุณเป็นคนที่เก่งกาจมากจริง ๆ”
“ผมก็ดูคลิปของพี่เขาเพื่อหาวิธีผ่านภารกิจของตัวเองเหมือนกัน หากจะบอกว่าใครสักคนเป็นคนที่เก่งจริง ๆ คน ๆ นั้นคือพี่ชายของผมคนนี้ต่างหาก” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้าไปทางลู่หยาง
ฉิงเทียนหันไปมองลู่หยางอย่างประหลาดใจพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“คุณคือคนที่ผ่านภารกิจของราชาตัวตลกเป็นคนแรกงั้นเหรอ?”
ลู่หยางสวมแหวนแห่งความฝันพร้อมกับทำการควบคุมผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ 5 ตัวให้มาอยู่ใกล้ ๆ และพูดว่า
“ฉันได้ยินว่าสตูดิโอฉิงเทียนมีชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือมาโดยตลอด ฉันหวังว่าทุกคนจะช่วยเก็บความลับเรื่องนี้เอาไว้ให้กับพวกเราด้วย” ลู่หยางกล่าว
หลังจากจบสงครามในครั้งที่แล้วลู่หยางได้ประกาศออกไปว่าผู้อัญเชิญเฮลไฟร์ลอร์ดและผู้ที่ใช้เวทมนตร์ต้องห้ามธาตุสายฟ้าคือทหารรับจ้างระดับสูงที่ทางกิลด์ของเขาว่าจ้างมา หากฉิงเทียนรู้ว่าแท้ที่จริงคนเหล่านี้คือสหายของลู่หยาง มันก็จะทำให้แผนการต่าง ๆ คลาดเคลื่อนไปจากเดิม
“ไม่ต้องห่วง พวกเรามีชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถืออย่างที่คุณพูดไว้มาโดยตลอด ดังนั้นพวกเราไม่มีทางพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกไปอย่างแน่นอน” ฉิงเทียนกล่าวก่อนที่เขาจะเริ่มบอกลา
“แล้วพบกันใหม่ครับ” พวกยู่เล่ามองไปทางลู่หยางด้วยความเคารพ ก่อนที่พวกเขาจะเดินตามหลังหัวหน้าของตัวเองไป
ฮั่นเฟยมองไปยังผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ทั้ง 5 ตัว ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า
“อื้อหือ! นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่พวกเรามีผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ตั้ง 5 ตัว”
ลู่หยางก็ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ด้วยเช่นกัน เพราะการพยายามอยู่เฝ้ารอจับผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ทั้ง 5 ตัวจำเป็นจะต้องรออยู่ในป่านิรันดร์เป็นเวลาถึง 5 วัน และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการวางแผนพาพวกมันทั้ง 5 ไปเก็บเลเวลจนถึงเลเวล 7 เลย การที่ฉิงเทียนมอบพวกมันทั้ง 5 ตัวให้กับพวกเขาจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ช่วยลู่หยางได้มาก
“พวกเราไปฆ่าสโนแมนคิงกันดีกว่า” ลู่หยางกล่าว
สโนแมนคิง (บอส)
เลเวล 40
พลังชีวิต 700,000/1,400,000
สโนแมนคิงเป็นชนพื้นเมืองที่สวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวตัวยาว ขนาดลำตัวของมันสูงประมาณ 2.5 เมตร และถึงแม้ว่ามันจะถือว่าเป็นบอส แต่การสังหารสโนแมนคิงก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากมากนัก
ชาติก่อนผู้เล่นเป็นจำนวนมากเคยคิดว่าสโนแมนคิงเป็นเพียงบอสกระจอก ๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษ แม้แต่ของที่ดรอปจากมันก็ยังเป็นของธรรมดา ๆ ถึงกับเคยมีผู้เล่นแต่งเพลงล้อเลียนมันว่านี่คือบอสที่ไร้ค่าที่สุดภายในเกม
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า สิ่งที่มีคุณค่าที่แท้จริงของสโนแมนคิงไม่ใช่ไอเท็มที่มันดรอปลงมา แต่ผู้เล่นจะต้องไปค้นหาบนตัวของมันต่างหาก
5 นาทีต่อมา พลังชีวิตของสโนแมนคิงก็ลดลงจนเหลือ 0 ก่อนที่มันจะล้มลงเสียชีวิตลงกับพื้น
“ทำไมมันถึงดรอปมาแต่ยาล่ะเนี่ย?” ฮั่นเฟยกล่าวอย่างผิดหวัง
“คราวนี้พวกเราโชคไม่ดีเลย” ฮั่นอวี่กล่าว
“ใจเย็น ๆ ขอฉันดูหน่อยซิ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับเดินไปยังศพของสโนแมนคิง จากนั้นเขาก็เปิดเสื้อคลุมสีขาวของมันออกก่อนจะเริ่มออกค้นหาและได้สัมผัสกับวัตถุแข็งชิ้นหนึ่งที่ถูกซ่อนเอาไว้ในกระเป๋า
ไฟร์ริง
รายละเอียด แหวนที่จะปลดปล่อยความร้อนเพื่อให้ความอบอุ่นออกมาตลอดเวลา ผู้เล่นที่สวมใส่จะสามารถเรียกใช้สกิลไฟร์บอลได้
“ห่วยแตกชะมัด ตอนนี้มันยังจะมีใครใช้ไฟร์บอลอยู่อีกเหรอ” ฮั่นเฟยบ่น
ลู่หยางเผยรอยยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า
“นี่มันของเทพเชียวนะ ถึงแม้จะไม่มีคำอธิบายเขียนเอาไว้ แต่ถ้านักเวทไฟคนไหนสวมใส่มันเข้าไป เลเวลของสกิลธาตุไฟทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นอีก 1 ระดับ”
ระหว่างที่พูดลู่หยางก็สวมใส่แหวนไฟร์ริงเข้าไปด้วย จากนั้นเขาก็ทดลองเรียกนกฟีนิกซ์ออกมา โดยในคราวนี้มันได้กลายเป็นนกฟีนิกซ์เลเวล 7 แล้ว
ฮั่นเฟยลองทำการตรวจสอบค่าสถานะของนกฟีนิกซ์และได้พบว่าพลังโจมตีของมันเพิ่มขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิมจาก 4,006 กลายเป็น 5,216 เขาจึงพูดขึ้นมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“โคตรโกง! พวกเราลองไปหาแหวนแบบนี้อีกวงกันเถอะ”
“ใจเย็น ๆ แผนที่นี้ชอบดรอปแหวนพิเศษลงมาอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสฉันจะกลับมาหามันเพิ่มอีกวงอย่างแน่นอน นกฟีนิกซ์ของฉันจะได้มีเลเวลเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ แต่ตอนนี้ทุกคนอย่าเพิ่งรีบออกไปสำรวจนะ พื้นที่ข้างหน้าเป็นเขตของพวกลิง ถ้าหากพลาดโดนกอริลล่าต่อยขึ้นมาแม้แต่ฉันก็ตายได้เหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว
“กอริลล่าเหรอครับ?” ฮั่นเฟยถาม
“ใช่” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ตามเนื้อเรื่องของเกมหลังจากปีศาจโบราณเสียชีวิตลงไปได้เพียงแค่ไม่นาน พวกกอริลล่าก็ได้เข้ามายึดครองถ้ำแห่งนี้ หลังจากนั้นเมื่อพวกมันได้ดื่มเลือดที่ไหลออกมาจากซากศพของปีศาจโบราณ พวกมันก็ได้กลายเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ของปีศาจโบราณที่เพิ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
ในบรรดาทาสที่แข็งแกร่งที่สุดคือกอริลล่า 2 ตัวที่ตัวหนึ่งมีความต้านทานต่อเวทมนตร์ทุกชนิด ขณะที่อีกตัวมีความต้านทานต่อพลังโจมตีทางกายภาพ การรับมือกับพวกมันจึงจำเป็นจะต้องวางแผนการให้ดี ๆ
“ข้างในมีบอสกอริลล่า 2 ตัวที่มีลูกสมุนเป็นกอริลล่าเลเวล 40 ระดับอีลิท ซึ่งในบรรดาลูกน้องของมันก็มีมอนสเตอร์บางตัวที่กลายพันธุ์จนถึงระดับบอสด้วย ดังนั้นพวกเราต้องค่อย ๆ จัดการกับพวกมันอย่างช้า ๆ ห้ามรีบร้อนอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางกล่าว
สามพี่น้องพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
หลังจากเดินทางมาถึงทางเข้าชั้นที่ 4 ลู่หยางก็ชะเง้อคอออกไปสำรวจพื้นที่ตรงหน้า เมื่อไม่เห็นมอนสเตอร์อยู่ในบริเวณนี้เขาจึงกระโดดนำหน้าเข้าไปเป็นคนแรก
ระบบ: คุณค้นพบโถงถ้ำปีศาจโบราณ
พื้นที่บริเวณนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ใต้เท้าของลู่หยางเป็นสิ่งที่คล้าย ๆ กับแท่นบูชา บริเวณมุมของห้องทั้ง 4 ด้านถูกวางเอาไว้ด้วยบันได โดยด้านใต้ของแต่ละบันไดก็จะมีเส้นทางอยู่ทั้งหมด 1 เส้น
ทันใดนั้นมันก็มีฝูงกอริลล่าสีดำสูง 3 เมตรวิ่งเข้ามาจากที่ไกล ๆ และทุกครั้งที่พวกมันวิ่งผ่านพื้นดินกำปั้นของพวกมันก็จะกระทบพื้นอย่างรุนแรงจนส่งเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ
กอริลล่าเลือดปีศาจ (ระดับอีลิท)
เลเวล 40
พลังชีวิต 600,000/600,000
“น่ากลัวมาก!” ฮั่นเฟยอุทานโดยคิดว่าแม้แต่ตัวเขาก็ไม่น่าจะหลบหลีกการโจมตีของพวกมันได้ง่าย ๆ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับโบกคทาภายในมือ ทันใดนั้นนกฟีนิกซ์ก็กระพือปีกไปอยู่เหนือหัวของฝูงกอริลล่า
ฮุ ๆ ๆ ๆ
เมื่อกอริลล่าทั้ง 12 ตัวเห็นนกฟีนิกซ์ พวกมันต่างก็พยายามชกกำปั้นเพื่อโจมตี แต่เนื่องมาจากระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายคือ 30 เมตร ดังนั้นถึงแม้พวกกอริลล่าจะพยายามโจมตีแบบไหน แต่พวกมันก็เอื้อมมือขึ้นไปโจมตีไม่ถึง
อย่างไรก็ตามฝูงกอริลล่าก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกมันจึงพยายามกระโดดขึ้นไปสุดแรง แต่น่าเสียดายที่หลังจากกระโดดขึ้นไปสูงได้แค่ 20 เมตรร่างของพวกมันก็ร่วงหล่นลงมาบนพื้น
ระหว่างนั้นนกฟีนิกซ์ก็พ่นลูกไฟลงมาโจมตีกอริลล่า 4 ตัวในคราวเดียว และเนื่องมาจากการโจมตีจากบนฟ้าเป็นการโจมตีแบบฝ่ายเดียว ในเวลาเพียงแค่ไม่นานฝูงกอริลล่าก็ล้มลงเสียชีวิตกองกับพื้น
ระบบ: คุณสังหารกอริลล่าเลือดปีศาจสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 29,868 หน่วย
ระบบ: ค่าชื่อเสียงในเมืองไวท์ไลท์ของคุณเพิ่มขึ้น 63 หน่วย
เมื่อพิจารณาจากชื่อเสียงที่เขาได้รับ ลู่หยางก็คาดการณ์ว่าหลังจากที่เขาสังหารกอริลล่าจนหมด ชื่อเสียงภายในเมืองไวท์ไลท์ก็น่าจะเพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับบูชา
หลังจากสังหารกอริลล่าเลือดปีศาจทั้ง 12 ตัว นักเวทหนุ่มก็เทเลพอร์ตก็ไปเพื่อดูของที่พวกมันดรอปลงมา ซึ่งในบรรดาไอเท็มอย่างมากมายมันก็มีบลูปริ้นชิ้นหนึ่งที่ทำให้เขาเกิดความสนใจขึ้นมา
สนใจ = ของดี ว่าแต่ทุกคนว่าเราจะมีคู่จิ้นเพิ่มไหมนะ?


แสดงความคิดเห็น