บทที่ 264 ถ้ำปีศาจโบราณ

ลู่หยางเดินทางกลับไปยังจัตุรัสใจกลางเมืองไวท์ไลท์อีกครั้ง ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานสามพี่น้องตระกูลฮั่นก็เดินทางมาถึง

“พวกเรามาแล้วค่ะ” ฮั่นอิ่งกล่าวขณะพาน้องชายทั้งสองคนเดินมาใกล้

หลังจากการต่อสู้ในครั้งที่แล้ว สามพี่น้องตระกูลฮั่นก็ได้เปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์เลเวล 20 ครบทั้งชุด ทำให้โดยรวมทุกคนดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก

“หลายวันมานี้พวกเธอคงจะเบื่อกันแย่เลยสินะ” ลู่หยางกล่าว

“ใช่พี่ ช่วงนี้อยู่แต่ในวิหารราชาซอมบี้ไม่สนุกเลย” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาเกาหัว

“เอาล่ะ เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาพวกนายไปที่ใหม่ หลังจากนี้พวกนายไม่จำเป็นจะต้องกลับไปวิหารราชาซอมบี้อีกแล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“ไปไหนเหรอครับ?” ฮั่นเฟยถามด้วยแววตาเป็นประกาย

“ใจเย็น ๆ ก่อนอื่นมาเอาธนูนี้ไปก่อน” ลู่หยางกล่าวร้องกับหยิบธนูเฟมัสโบว์ - ไซเลนท์ไนท์ออกมามอบให้กับฮั่นอวี่

“พี่ให้ผมจริงเหรอ?” ฮั่นอวี่รับธนูมาอย่างตื่นเต้น

“มันเป็นธนูอะไรเหรอ?” ฮั่นเฟยถาม

ฮั่นอวี่ทำการแชร์ข้อมูลอาวุธใหม่ให้ทุกคนดู ซึ่งมันก็ทำให้ทั้งฮั่นเฟยและฮั่นอิ่งต้องตกตะลึง

“โอ้โห! นี่มันอาวุธระดับตำนานเลยเหรอเนี่ย?” ฮั่นอิ่งกล่าวด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง

“มันจะต้องแพงมากแน่ ๆ เลย” ฮั่นอวี่กล่าว

อาวุธระดับตำนานเลเวล 30 มีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 100,000 เครดิต เพราะหลังจากที่ผู้เล่นมีเลเวลจนถึง 30 แล้ว การเก็บเลเวลหลังจากนี้จะเป็นเรื่องที่ยากมาก หลังจากช่วงเลเวล 30 เป็นต้นไปมันเป็นช่วงที่ผู้เล่นจะเริ่มลงทุนในอาวุธของตัวเอง มันจึงทำให้แม้แต่อาวุธเลเวล 30 ที่ถูกที่สุดก็ยังมีราคาไม่น้อยกว่า 50,000 เครดิต

“จะมาเกรงใจฉันทำไมกัน ในเมื่อฉันมีของดี ๆ มันก็ควรจะต้องเอามาให้คนในครอบครัวใช้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ต่อไปถ้ามีสงครามกิลด์อีกนายก็ช่วยมาทำหน้าที่เป็นมือสไนเปอร์ให้กับฉันด้วย ถึงตอนนั้นนายก็อย่าทำให้ฉันผิดหวังก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าว

“ได้ครับ” ฮั่นอวี่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ไหนลองติดตั้งมันเข้าไปซิว่าเป็นยังไงบ้าง?” ลู่หยางกล่าว

ฮั่นอวี่ยังเด็กมากเขาจึงรีบติดตั้งธนูใหม่อย่างดีใจในทันที และทันใดนั้นในมือของเด็กหนุ่มก็ปรากฏธนูสีเขียวมรกตที่มีสัญลักษณ์เวทมนตร์แปลก ๆ อยู่ตรงกลาง และตรงกลางของธนูก็ถูกตกแต่งด้วยรูปต้นไม้ยักษ์โบราณที่เปล่งประกายแสงสีเขียวเข้ม

“เท่มาก” ลู่หยางกล่าว

ฮั่นอวี่ยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความเขินอาย

“เอาล่ะ พวกเราไปล่าบอสกันเถอะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

—

ลู่หยางนำทีมสามพี่น้องออกจากเมืองไวท์ไลท์ตรงไปยังจุดที่เขาเคยสังหารต้นไม้ปีศาจพันปี ซึ่งไม่ไกลจากบริเวณนั้นได้มีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง

ระบบ: คุณค้นพบถ้ำปีศาจโบราณ

ตามเนื้อเรื่องของเกมหลังจากชาวพื้นเมืองใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ตัดหัวปีศาจโบราณแล้ว ร่างกายของมันก็ไม่ได้เน่าเปื่อยแต่ยังคงพยายามสะสมพลังชีวิตอยู่เรื่อย ๆ และได้ถือกำเนิดเป็นวิญญาณดวงใหม่ขึ้นมา

ตอนนี้ปีศาจโบราณในร่างใหม่ได้ฟื้นฟูพลังของตัวเองกลับมาแล้ว และมันก็กำลังเตรียมนำทัพออกจากถ้ำเพื่อกวาดล้างมนุษย์ทั้งหมด

บริเวณรอบเมืองไวท์ไลท์มีภูเขาล้อมรอบอยู่ทั้ง 3 ด้าน แต่ภูเขาทั้ง 3 ด้านได้ถูกพวกปีศาจเจาะทะลุทำเป็นเส้นทางไปทั่วทั้งหมด การจะเข้าสู่ถ้ำปีศาจโบราณจึงมีทางเข้าอยู่ทั้งหมด 3 ทาง

ทางเข้าทางแรกคือบริเวณทางเหนือของเมือง ส่วนทางเข้าทางที่ 2 คือทางทิศตะวันออกและทางเข้าทางสุดท้ายคือทางเข้าบริเวณทางใต้ที่ลู่หยางกำลังจะเดินเข้าไปนี่เอง

ในบรรดาทางเข้าทั้งสาม ทางเข้าบริเวณทางใต้อยู่ใกล้กับรังของปีศาจโบราณมากที่สุด เมื่อพวกเขาได้เข้าไปในถ้ำแล้วมันก็จะเป็นการเดินทางไปยังพื้นที่ชั้นที่ 3 ของถ้ำปีศาจโบราณที่ชื่อว่าดินแดนแห่งความสับสนทันที

เมื่อลู่หยางและสามพี่น้องเข้ามายังด้านในถ้ำ พวกเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังขึ้นมาจากในระยะไกล

“มันมีคนอื่นมาที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย?” ฮั่นเฟยกล่าว

“ลองไปดูกันเถอะ” ลู่หยางกล่าว

หลังจากที่พวกเขาเดินไปตามทิศทางของเสียง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดที่มีการต่อสู้อย่างง่ายดาย

อีกฝั่งหนึ่ง

ฉิงเทียนกับซือโม่กำลังนำกองกำลังผู้เล่น 10 คนต่อสู้กับมอนสเตอร์มากกว่า 100 ตัวที่ล้อมรอบพวกเขาไว้ ซึ่งในกลุ่มนี้มีคริมสันสไปร์เดอร์ 30 ตัว, โกสเฟสสไปร์เดอร์ 30 ตัว, สตีลทอร์นสไปเดอร์ 40 ตัวและด้านหน้าสุดก็มีบอสสโนแมนคิงที่กำลังจู่โจมเข้าใส่พวกเขาอยู่

การต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมากและถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามีผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เลเวล 7 จำนวน 5 ตัวยืนขวางอยู่ พวกเขาก็คงจะตายกันไปตั้งนานแล้ว

“หัวหน้าเอายังไงดี? ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ดูเหมือนจะทนไม่ไหวแล้ว” ยู่เล่าตะโกนหลังจากที่ได้เห็นพลังชีวิตของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ลดลงเรื่อย ๆ โดยที่พวกเขาไม่สามารถที่จะฟื้นฟูพลังของพวกมันให้กลับมาเต็มได้เลย

ขณะเดียวกันฉิงเทียนก็กำลังโทษตัวเองอยู่ภายในใจ เพราะถ้าหากเมื่อสักครู่เขาไม่ได้สั่งการผิดพลาด พวกเขาก็คงจะไม่ได้ดึงดูดมอนสเตอร์เข้ามามากมายขนาดนี้

ขณะที่ฉิงเทียนไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไงอยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็ได้มีอุกกาบาตสีเขียวพุ่งลงมาจากในระยะไกลและภาพอันคุ้นเคยมันก็ทำให้ฉิงเทียนตกตะลึงอยู่กับที่

เฮลไฟร์ลอร์ด!

ฮั่นอิ่งร้องตะโกนและเมื่อเฮลไฟร์ลอร์ดร่วงหล่นลงมา พื้นที่ในรัศมี 13 เมตรรอบตัวของมันก็ลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟสีเขียวอย่างรวดเร็ว

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ได้ดึงดูดความเกลียดชังของมอนสเตอร์ไปอย่างฉับพลัน และมันก็ทำให้พวกแมงมุมที่กำลังโจมตีทีมของฉิงเทียนอยู่เปลี่ยนเป้าหมายไปยังเฮลไฟร์ลอร์ดอย่างพร้อมเพรียงกัน

ฉิงเทียนพยายามเพ่งสายตามองดูคนที่หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ ก่อนที่เขาจะได้พบว่าอีกฝ่ายคือเด็กสาวชุดแดงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่หยาง

ลู่หยางยกมือขวาขึ้นปล่อยลูกแก้วสีแดงลอยขึ้นไปในอากาศด้วยเช่นกัน ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานลูกแก้วลูกนั้นก็ส่งเสียงร้องแหลมใสออกมา

นกฟีนิกซ์ที่มีขนาดลำตัวยาวกว่า 20 เมตรปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสายตาอันตกตะลึงของทุกคน และเนื่องมาจากเฮลไฟร์ลอร์ดดึงดูดความเกลียดชังเข้าไปจนหมดแล้วจึงทำให้นกฟีนิกซ์สามารถพ่นไฟลงไปโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง

สตีลทอร์นสไปเดอร์เป็นมอนสเตอร์ระดับอีลิทเลเวล 40 ที่มีพลังชีวิตสูงถึง 3,000 หน่วย แต่ถึงกระนั้นพวกมันจำนวนมากก็ยังต้องตายภายใต้การโจมตีของฟีนิกซ์ไฟและเฮลไฟร์ลอร์ดที่เพิ่งถูกอัญเชิญออกมา

ฮั่นอวี่ก็ทำการโจมตีพวกแมงมุมอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งการโจมตีแต่ละครั้งจะเป็นการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เอาไว้บนตัวของแมงมุม เมื่อไหร่ก็ตามที่แมงมุมเสียชีวิตเมล็ดพันธุ์ก็จะเติบโตกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้ เมื่อแมงมุมทั้ง 40 ตัวถูกฆ่าจนตายพวกมันจึงกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้ถึง 80 ตัว

ด้วยการปรากฏตัวของมนุษย์ต้นไม้นี่เอง มันจึงทำให้เหล่าแมงมุมที่กำลังรุมโจมตีพวกฉิงเทียนอยู่ได้หันมาต่อสู้กับมนุษย์ต้นไม้ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาแทน

“โอ้โห! สกิลอัญเชิญมนุษย์ต้นไม้นี่มันโคตรโกงเลย!!” ฮั่นอวี่พูดอย่างตื่นเต้น

“อย่าลืมสิว่านี่มันอาวุธระดับตำนานเชียวนะ” ลู่หยางกล่าว

ฮั่นอวี่พยักหน้ารับอย่างแรงขณะยังคงทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

อีกด้านหนึ่ง

สมาชิกภายในทีมของฉิงเทียนต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และทุกคนก็รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขารอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

“เมื่อกี้นึกว่าจะตายแล้วเชียว”

“ถ้าเราเสียอุปกรณ์ไป มันคงส่งผลกระทบต่อทีมของพวกเรามากแน่ ๆ”

“คนที่มาช่วยพวกเราเป็นใครกันนะ คนที่นำทีมนั้นอยู่คือลู่หยางใช่ไหม?”

“ใช่ พวกเขาเก่งมากเลย”

บทสนทนาของลูกทีมทำให้ฉิงเทียนไม่สบายใจ เพราะก่อนหน้านี้เขาพูดจาดูถูกลู่หยางเอาไว้เยอะ แต่ใครจะไปคิดว่าในตอนนี้อีกฝ่ายกลับยื่นมือออกมาให้ความช่วยเหลือพวกเขา

ไม่นานมอนสเตอร์ระดับอีลิทก็ถูกสังหารจนหมด แต่ถึงกระนั้นพวกฉิงเทียนก็ยังไม่ได้เลือกที่จะโจมตีเข้าใส่บอส แต่ทำการหลอกล่อมันไปหาเฮลไฟร์ลอร์ดที่อยู่ใกล้ ๆ พวกลู่หยาง

“ขอบคุณมาก ครั้งนี้พวกผมติดหนี้บุญคุณแล้ว” ฉิงเทียนกล่าวอย่างไม่ค่อยเต็มใจมากนัก

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันแค่เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีก็เลยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ก็เท่านั้นเอง ว่าแต่พวกนายยังอยากจะสู้กับบอสต่อไหม?” ลู่หยางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่แล้วค่ะ มอนสเตอร์ในถ้ำนี้เก่งเกินไป มันยังไม่ใช่ระดับที่พวกเราจะรับมือไหวในตอนนี้” ซือโม่กล่าวอย่างหวาดกลัว

“คุณลู่หยาง สาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ คุณคือคนที่อัญเชิญเฮลไฟร์ลอร์ดออกมาใช่ไหม?” ยู่เล่าถามอย่างอยากรู้

 

 

---

หรือว่าไพ่ลับของพี่หยางชุดนี้จะถูกจับได้แล้ว?