บทที่ 220 ทีมนักเวทไฟ

-A A +A

บทที่ 220 ทีมนักเวทไฟ

บทที่ 220 ทีมนักเวทไฟ

พลังของบลัดบราเธอร์ยังคงอ่อนแอกว่าบลัดเติสตี้มาก และถ้าหากพวกเขาต้องการจะได้รับชัยชนะในสงคราม พวกเขาก็จำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์ที่ศัตรูไม่คาดคิด ขณะเดียวกันกัปตันเกรย์อาวล์ก็ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่ลู่หยางได้เตรียมเอาไว้ให้กับบลัดไทแรนท์

“ฉันหานักเวทได้ครบ 100 คนแล้วจะให้เรียกรวมตัวพวกเขาเมื่อไหร่?” เจียงเจ๋อโทรเข้ามาหาลู่หยาง

“แน่ใจใช่ไหมว่าพวกเขาไว้ใจได้?” ลู่หยางถามเพราะนักเวทไฟทั้ง 100 คนที่เขาได้ให้เจียงเจ๋อคัดสรรมาถือได้ว่าเป็นอาวุธสำคัญที่เขาจะเอาไว้ใช้ในช่วงสงคราม

คนที่ถูกเลือกแต่ละคนถูกพวกบลัดเติสตี้ฆ่าตายอย่างน้อยสามครั้ง พวกเขาจึงมีความโกรธแค้นฝังแน่นในจิตใจ ช่วงสองวันนี้ฉันกับถูเฟิงไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากตรวจสอบภูมิหลังของพวกเขาอย่างละเอียด ดังนั้นนายวางใจได้เลยมันไม่มีสายลับอยู่ในบรรดาพวกเขาแน่นอน” เจียงเจ๋อตอบ

“ขอบคุณมาก ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเขาเซ็นสัญญากับเราก่อน นี่คือสัญญาการรักษาความลับอย่างเคร่งครัดแล้วเดี๋ยวประมาณ 5 โมงเย็นฉันจะกลับไปสอนพวกเขาเอง” ลู่หยางกล่าว

“อ้อ! ฉันลืมบอกไปว่าคนพวกนี้ยังมีสกิลไม่ครบนะ นายต้องจัดการปัญหาเรื่องนี้เอง” เจียงเจ๋อกล่าว

หนังสือสกิลสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าเฉพาะหรือดรอปลงมาจากบอสเท่านั้น ผู้เล่นทั่วไปที่ไม่สามารถแย่งชิงบอสกับกิลด์ใหญ่ ๆ ได้จึงแทบจะไม่มีสกิลระดับกลางใช้งานกันเลย ยิ่งไปกว่านั้นช่วงแรกกิลด์ต่าง ๆ ก็มักจะเก็บสกิลเอาไว้ให้คนภายในกิลด์ได้ใช้งาน นักเวทไฟทั้ง 100 คนที่เจียงเจ๋อคัดสรรมาจึงยังไม่ได้เรียนรู้เบลซซิงเบิร์สเลยแม้แต่คนเดียว

“ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมเอาไว้ให้พวกเขาหมดแล้ว” ลู่หยางกล่าว

ท้ายที่สุดพวกหลู่จ้าวหยู่ก็อยู่แต่ในวิหารราชาซอมบี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้พวกเขาจึงได้รับหนังสือสกิลมาอีกหลายร้อยเล่ม

“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปจัดการเรื่องกิลด์ต่อก่อนนะ ช่วงนี้ในกิลด์ของเรามีคนตายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนพวกบลัดไทแรนท์ก็จัดตั้งกองกำลังพิเศษ 5,000 คนแย่งชิงบอสตามแผนที่ต่าง ๆ พร้อมกับฆ่าคนของเราไปด้วย นี่พวกมันไม่รู้เลยหรือยังไงว่าการกระทำของพวกมันสร้างความเดือดร้อนให้คนไปทั่ว” เจียงเจ๋อกล่าวอย่างไม่พอใจ

ลู่หยางพยายามระงับความโกรธเอาไว้พร้อมกับพูดว่า

“ฉันพอเห็นข่าวในช่องแชทกิลด์แล้ว แต่ช่วงนี้ขอให้ทุกคนอดทนกันเอาไว้ก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่กำลังหลักทั้ง 3,000 คนถูกฝึกฝนจนเสร็จ เมื่อนั้นเราจะเริ่มเปิดศึกในทันที แต่นายก็อย่าพึ่งไปบอกคนอื่นในเรื่องนี้ก่อนล่ะ”

“วางใจได้ ฉันรู้ว่าจะต้องทำยังไง” เจียงเจ๋อกล่าว

หลังจากวางสายลู่หยางก็ติดต่อไปหาจินปู้ฮวน

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับอาจารย์?” จินปู้ฮวนถามขณะปรุงยาอยู่ในร้านขายยา

“ช่วยเตรียมน้ำยาระดับสูงสำหรับทำสงครามให้กับคน 3,000 คนเอาไว้ให้ที” ลู่หยางกล่าว

การทำสงครามที่แท้จริงไม่ใช่การชนะศึกเพียงแค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่มันคือการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ เพราะถ้าหากฝ่ายตรงข้ามสามารถจัดตั้งทัพขึ้นมาได้ใหม่แต่ทางฝ่ายเรามีน้ำยาไม่พอ ในเวลานั้นถึงแม้พวกเขาจะชนะศึกมาแล้วหลายครั้ง แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็อาจจะพ่ายแพ้ในสงครามได้

แน่นอนว่าความพ่ายแพ้ของกลุ่มผู้เล่นอิสระ มันก็มีต้นเหตุมาจากพวกเขาไม่มีกำลังจะซื้อน้ำยาเพื่อทำศึกในระยะยาว

“ไม่เกิน 3 วันผมจะส่งมอบน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตระดับสูง 30 ชุดกับน้ำยาฟื้นฟูมานาระดับสูง 30 ชุดให้กับทุกคนเองครับ” จินปู้ฮวนกล่าว

น้ำยาฟื้นฟูระดับสูงสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาได้ถึง 1,000 หน่วยภายใน 12 วินาที โดยราคาของพวกมันจะอยู่ที่ชุดละ 10 เหรียญเงิน แต่เนื่องมาจากลู่หยางมีร้านขายยาของตัวเอง ต้นทุนของน้ำยาเหล่านี้จึงอยู่แค่ชุดละประมาณ 1 เหรียญเงินเท่านั้น

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะมีร้านขายยาคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง แต่สงครามครั้งนี้มันก็มากพอที่จะทำให้ลู่หยางใช้เงินจนหมดตัว ในกรณีที่เขาเดินหมากจนสงครามพ่ายแพ้ ในเวลานั้นกิลด์ก็คงแตกสลายและเขาก็คงจะต้องผันตัวไปเป็นนักธุรกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสงครามครั้งนี้แล้ว” ลู่หยางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

“ลูกพี่พูดว่าอะไรนะครับ?” เสี่ยวเหลียงถามหลังจากที่เขากลับมาจากการจับกัปตันเกรย์อาวล์จนครบทั้งห้าตัว

ลู่หยางส่ายหน้าเป็นสัญญาณว่าไม่มีอะไร ก่อนที่จะมองดูสามพี่น้องตระกูลฮั่นที่แต่ละคนก็ได้จับเกรย์อาวล์มาจนครบทั้งห้าตัวแล้วเช่นกัน

“เอาล่ะหลังจากจับพวกมันครบแล้วก็เก็บเลเวลให้กับพวกมันซะ แต่อย่าลืมว่าต้องให้พวกมันเป็นคนสังหารมอนสเตอร์พวกมันถึงจะได้ค่าประสบการณ์” ลู่หยางกล่าวก่อนที่จะไปหาจับเกรย์อาวล์ให้ครบทั้งห้าตัวด้วยเช่นกัน

เกรย์อาวล์ไม่ใช่มอนสเตอร์ระดับอีลิท ดังนั้นหลังจากเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นานลู่หยางก็จับพวกมันจนครบทั้งห้าตัว หลังจากพามอนสเตอร์กลุ่มนี้เก็บเลเวลไปอีก 1 ชั่วโมง ในที่สุดเกรย์อาวล์ของทุกคนก็มีเลเวล 7 ด้วยกันทั้งหมด

เมื่อเกรย์อาวล์มีเลเวล 7 สกิลพิเศษของมันก็เปลี่ยนจากเวิร์ลวินด์เป็นไซโคลน

ไซโคลน

ประเภท เวทมนตร์ธาตุลม

ระยะ 200 เมตร

มานาที่ต้องใช้ 600 หน่วย

รายละเอียด ปล่อยพายุขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร สร้างความเสียหาย 100 หน่วย/วินาทีแก่ศัตรูในระยะ 60 เมตร เป็นเวลา 30 นาที เคลื่อนที่ได้ไกลสุด 200 เมตร

“โคตรโกง!” ฮั่นเฟยอุทานอย่างตกตะลึง

“ลองใช้มันดูสิ” ลู่หยางกล่าว

ฮั่นเฟยพยักหน้าก่อนจะสั่งให้กัปตันเกรย์อาวล์ตัวหนึ่งปล่อยสกิลไซโคลน

เกรย์อาวล์กระพือปีกทั้งสองขึ้นไปเหนือศีรษะขณะภายในปากของมันบ่นพึมพำด้วยภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง

ทันใดนั้นท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มลงอย่างกะทันหันพร้อมกับลมพายุที่เริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาเพียงแค่ไม่นานพวกลู่หยางก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะถูกลมพัดจนปลิว ก่อนที่ในเวลาต่อมาพายุหมุนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตรก็เชื่อมต่อระหว่างท้องฟ้าลงมาสู่พื้นดิน

โครม!

ในระยะไกลพายุหมุนอาจจะดูเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า แต่เมื่อมันพัดลงมาแม้แต่ต้นไม้อายุนับพันปีก็ถูกบดขยี้จนกลายเป็นผุยผง

“โคตรโหด!” ฮั่นอวี่กล่าว

“ถ้าเรามีเกรย์อาวล์ทั้ง 25 ตัวนี้ พวกเราจะต้องชนะสงครามกับพวกบลัดเติสตี้แน่ ๆ” ฮั่นอิ่งกล่าว

“แค่นี้มันยังไม่พอ เดี๋ยวฉันจะต้องกลับไปเตรียมการอีกหน่อย” ลู่หยางกล่าว

“พี่จะไปแล้วเหรอ?” ฮั่นอิ่งถาม

“พวกเธออยู่เก็บเลเวลที่นี่ต่อเถอะ พวกเกรย์อาวล์ไม่ค่อยมีสติปัญญามากนัก ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีความคิดที่จะทรยศ พวกเกรย์อาวล์ของฉันก็ฝากพวกเธอเอาไว้ก่อน ฉันยังต้องกลับไปจัดการเรื่องอื่นต่ออีกนิดหนึ่ง” ลู่หยางกล่าว

ปัจจุบันเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนจะ 5 โมงเย็น ลู่หยางจึงจำเป็นจะต้องเดินทางกลับไปสอนนักเวทไฟที่เจียงเจ๋อได้คัดเลือกมา

“โอเคค่ะ” ฮั่นอิ่งพูดอย่างไม่อยากจะให้ลู่หยางไปมากนัก

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มก่อนจะใช้ม้วนคัมภีร์เดินทางกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์ จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปหาเจียงเจ๋อ:

ทุกคนมากันครบแล้วหรือยัง?

ทุกคนเซ็นสัญญาหมดแล้ว แต่เราไม่มีสถานที่ลับให้ไปรวมตัวกัน ตอนนี้ฉันเลยให้พวกเขากระจายกันอยู่ข้างนอกจนหมด :เจียงเจ๋อตอบอย่างกลุ้มใจ

เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นจุดอ่อนขนาดใหญ่ของบลัดบราเธอร์ เพราะเมื่อพวกเขาไม่มีสถานที่รวมตัว มันก็เหมือนกับพวกเขาเป็นคนไร้บ้าน

บอกให้พวกเขาไปรวมตัวกันที่หมู่บ้านสปอร์ ที่นั่นเป็นสถานที่ลับยังไม่มีใครรู้ตำแหน่ง :ลู่หยางตอบ

โอเค :เจียงเจ๋อตอบกลับ

หลังจากปิดหน้าต่างสนทนาลู่หยางก็เดินทางไปหาฮั่นจงเพื่อนำหนังสือสกิลเบลซซิงเบิร์สมา 100 เล่ม จากนั้นเขาก็ใช้ประตูวาร์ปเทเลพอร์ตไปยังเมืองไนท์เคอร์เทน ก่อนที่จะวิ่งไปทางหมู่บ้านสปอร์

อีกด้านหนึ่ง

เจียงเจ๋อกับถูเฟิงก็ได้นำนักเวทไฟทั้ง 100 คนมาจนถึงหมู่บ้านสปอร์แล้ว

“ในที่สุดก็จะได้เจอกับหัวหน้าสักที นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันจะได้เจอหัวหน้าตัวเป็น ๆ” นักเวทไฟคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น

“การย่อคาถาเป็นเทคนิคในฝันของฉันเลย ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้ฉันจะมีโอกาสได้เรียนรู้พวกมันจริง ๆ ไม่รู้ว่าหัวหน้าคิดค้นมันขึ้นมาได้ยังไง”

“ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ฉันจะได้แก้แค้นพวกบลัดเติสตี้แล้ว ฉันจะไม่ยอมปล่อยพวกมันไปเป็นอันขาด!”

ใบหน้าของนักเวททุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะสำหรับพวกเขาลู่หยางก็เปรียบเสมือนกับตัวตนในตำนาน และในเวลาเพียงแค่ไม่นานร่างของลู่หยางก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในระยะไกล

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.