บทที่ 175 หัวใจแห่งเทพอสูรเลเวล 2
บทที่ 175 หัวใจแห่งเทพอสูรเลเวล 2
เช้าวันรุ่งขึ้น
ลู่หยางออกกำลังกายอย่างจริงจัง ซึ่งในครั้งนี้เขาสามารถอดทนได้นานกว่าช่วงแรก ๆ ถึงครึ่งชั่วโมง
“ลูกพี่ ร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะ” เสี่ยวเหลียงกล่าว
ลู่หยางหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับมองกล้ามเนื้อของตัวเองที่เริ่มแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วมันก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาได้เห็นหลานอวี่หรือเปล่า เมื่อคืนเขาจึงฝันถึงในตอนที่ตัวเองกระโดดลงจากหน้าผา
“แค่นี้มันยังไม่พอ อย่างน้อยมันต้องใช้เวลาอีกสองปีถึงจะอยู่ในระดับที่เรียกว่าใช้การได้” ลู่หยางกล่าว
“ผมว่าพี่หักโหมมากเกินไปแล้วนะ” ฮั่นเฟยกล่าว
“หากต้องการไปถึงจุดหมายพวกเราก็จำเป็นที่จะต้องพยายาม ทุกคนเข้าเกมกันเถอะ วันนี้ฉันยังมีเรื่องสำคัญจะต้องไปจัดการ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เศษภูติไฟสำหรับการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรเหลืออีกเพียงแค่ชิ้นเดียวแล้ว ขอแค่เขาเข้าเกมไปสังหารพิกก์ได้สำเร็จ เขาก็จะรวบรวมวัตถุดิบได้มากพอเพื่ออัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรเป็นเลเวล 2
—
หลังจากเข้าเกมลู่หยางก็ได้มาปรากฏตัวบริเวณทางเข้าห้องท้องพระโรง เขาจึงหยิบเสื้อคลุมปลอมตัวแล้วเลือกเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นนักเวทมนุษย์หน้ากว้างและทำการซ่อนชื่อสีแดงของตัวเองเอาไว้
นี่คือเอฟเฟกต์พิเศษของเสื้อคลุมปลอมตัวที่สามารถทำให้ผู้เล่นปลอมตัวกลายเป็นคนอื่นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเอฟเฟกต์ของเสื้อคลุมยังหลอกทหารยามได้อีกด้วย ดังนั้นถึงแม้จะเดินทางเข้าเมืองแต่ลู่หยางก็จะไม่ถูกทหารไล่ล่า
หลังกลับมาถึงเมืองเซนต์กอลล์ ชายหนุ่มก็ได้ใช้แท่นวาร์ปเดินทางไปยังเมืองซาโรส จากนั้นเขาก็พาพวกเสี่ยวเหลียงฆ่ามอนสเตอร์ไปเรื่อย ๆ จนถึงสุสานลับชั้นที่ 3
เมื่อส่งทุกคนไปยังสถานที่เก็บเลเวลเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็กระโดดเข้าไปในวิหารออสมานก่อนที่จะลงดันเจียนไปเพื่อสังหารพิกก์ แต่ในทันใดนั้นหลานอวี่ก็ได้ส่งข้อความเข้ามาเสียก่อน
หลานอวี่: อาจารย์อยู่ไหม?
ลู่หยาง: มีอะไรหรือเปล่า?
หลานอวี่: พวกเราลงมาทางใต้ตามคำแนะนำของคุณแล้วและก็ไม่เจอพวกแบล็คบลัดจริง ๆ เซี่ยหยู่เว่ยเลยอยากจะขอบคุณคุณด้วยตัวเอง
ลู่หยาง: ไม่จำเป็นจะต้องขอบคุณหรอก
หลานอวี่: วันนี้คุณว่างไหม? ฉันอยากจะชวนคุณไปลงดันเจียนด้วยกัน เจิ้งหยวนก็รู้ถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้วและเขาก็อยากจะขอโทษคุณด้วยเหมือนกัน
ลู่หยางชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพิมพ์ข้อความต่อไปว่า: ไอ้หมอนั่นมันรู้จักสำนึกผิดเป็นด้วยเหรอ?
หลานอวี่: ฉันพูดจริง ๆ นะ เขาบอกว่าอยากจะขอโทษคุณด้วยตัวเอง
ลู่หยาง: ช่วงนี้ฉันอยู่ในแผนที่ลับยังออกไปไม่ได้ อีกสักสามวันเดี๋ยวฉันจะพาพวกเธอไปลงดันเจียนดีม่อนเคฟ
หลานอวี่ส่งข้อความกลับไปด้วยท่าทางอันดีใจ: ได้ค่ะ
ลู่หยางกระโดดลงไปจนถึงก้นของดันเจียน ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ส่งข้อความไปหาซุนหยูด้วย
พิกก์ที่ถูกลู่หยางสังหารไปแล้วหลายครั้งก็ยังคงส่งเสียงร้องคำรามอย่างโอหังอยู่เช่นเดิม ชายหนุ่มจึงใช้วิธีการจัดการแบบเดิมทำให้ใน 10 นาทีต่อมาพิกก์ก็เสียชีวิตพร้อมกับล้มลงนอนกับพื้น
ลู่หยางกระโดดลงจากรูปปั้นหิน ก่อนที่จะหยิบชิ้นส่วนภูติไฟจากแท่นบูชาอย่างตื่นเต้น
“ชิ้นส่วนภูติไฟครบแล้ว ในที่สุดมันก็ถึงเวลาอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรสักที”
ร่างของนักเวทหนุ่มกลายเป็นแสงสีแดง ก่อนที่เขาจะไปปรากฏตัวในวิหารเทพอสูร ซึ่งในตอนนี้ชิ้นส่วนภูติไฟอีกเก้าชิ้นและคริสตัลปีศาจได้ถูกวางเตรียมไว้บนแท่นบูชาแล้ว
ระบบ: คุณต้องการสังเคราะห์หรือไม่?
ลู่หยางคลิกตกลงทำให้ชิ้นส่วนภูติไฟทั้ง 10 บนแท่นบูชาเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า จากนั้นเงาของอสูรเพลิงขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นในเปลวไฟ
โฮก!
คริสตัลปีศาจลอยขึ้นกลางอากาศพร้อมกับแรงดึงดูดอันมหาศาล จนทำให้เงาของอสูรเพลิงถูกดูดเข้าไปภายในผลึก จากนั้นคริสตัลปีศาจก็ได้กลายเป็นดาวดวงเล็ก ๆ หลอมรวมเข้ากับหัวใจแห่งเทพอสูร
ระบบ: คุณสังเคราะห์หัวใจแห่งเทพอสูรสำเร็จ
หัวใจแห่งเทพอสูรเลื่อนระดับเป็นระดับ 2
ลู่หยางรีบหยิบหัวใจแห่งเทพอสูรขึ้นมาตรวจสอบค่าสถานะอย่างตื่นเต้น
หัวใจแห่งเทพอสูร (ระดับ 2)
ความอดทน +50
ความแข็งแกร่ง +50
ความคล่องแคล่ว +50
สติปัญญา +150
พลังกาย +50
อัตราคริติคอลทางเวทมนตร์ +10%
ความเร็วในการร่ายเวทมนตร์ +10%
อัตราความแม่นยำทางเวทมนตร์ +10%
เลเวลสกิลเวทมนตร์ธาตุไฟ +2
สกิลพิเศษ เมเทโอสตอร์ม (เลเวล 2)
แปลงร่างอสูรเพลิง: ระยะแสดงผล 10 นาที
ค่าสถานะของหัวใจแห่งเทพอสูรเลเวล 2 สูงกว่าหัวใจแห่งเทพอสูรเลเวล 1 ค่อนข้างมาก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีสกิลแปลงร่างเป็นอสูรเพลิงเพิ่มขึ้นด้วย
สกิลแปลงร่างจะทำให้ลู่หยางกลายเป็นอสูรเพลิงสูงกว่า 5 เมตร ในช่วงเวลานั้นเขาจะมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 หน่วย มีมานาเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 หน่วย และนอกเหนือจากเวทมนตร์ต้องห้ามแล้วเขาจะสามารถปล่อยเวทมนตร์ทุกอย่างออกมาได้ในทันที ยิ่งไปกว่านี้ระยะการโจมตีของเวทมนตร์ทั้งหมดมันยังจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 30% ด้วย
ในชาติก่อนตอนที่เขาอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรเป็นเลเวล 2 ได้ใหม่ ๆ มันก็ทำให้เขารู้สึกเสียดายมาก เพราะถ้าหากเขาสามารถอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างน้อยมันก็คงจะทำให้เขามีคุณสมบัติมากพอที่จะต่อสู้กับฉงป้าและบลัดไทแรนท์ได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามในชาตินี้เขาก็ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองเคยใฝ่ฝันในชาติก่อนได้แล้ว ร่างของเขาจึงกลายเป็นแสงสีแดงก่อนจะไปปรากฏตัวในเมืองเซนต์กอลล์
ชายหนุ่มมุ่งหน้าตรงไปยังประตูวาร์ป ก่อนที่จะทำการเทเลพอร์ตไปยังเมืองแบล็คสโตน
ระบบ: ค่าบริการเทเลพอร์ต 1 เหรียญทอง คุณต้องการเทเลพอร์ตหรือไม่?
ลู่หยางเลือกยืนยัน ก่อนที่เขาจะไปปรากฏตัวภายในเมืองแบล็คสโตน
เมืองแบล็คสโตนเป็นหนึ่งในแผนที่เลเวล 30 อย่างมากมายทางตอนเหนือของเมืองเซนต์กอลล์ และสาเหตุที่เมืองได้ชื่อนี้เพราะบริเวณนอกเมืองมีหินสีดำอยู่เต็มไปหมด
บริเวณทางเหนือของเมืองแบล็คสโตนคือป่าแบล็คสโตน ซึ่งภายในป่าก็มีวังแบล็คสโตนตั้งตระหง่านอยู่ และภายในนั้นมันก็มีโทรลล์ไฟร์ทีอยู่เต็มไปหมด
ลู่หยางสังหารมอนสเตอร์ไปตลอดทาง และในที่สุดเมื่อเขาเดินทางไปจนถึงวัง เขาก็ได้พบกับโทรลล์ไฟร์ที 8 ตัวยืนเฝ้าประตูทางเข้าอยู่
โทรลล์ไฟร์ที (อีลิท)
เลเวล 30
พลังชีวิต 50,000/50,000
มอนสเตอร์ที่นี่ทุกตัวต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นมอนสเตอร์ระดับอีลิททั้งหมด และวิธีการโจมตีของพวกมันก็ค่อนข้างพิเศษมาก โดยมันเป็นการโจมตีด้วยการขว้างหอกยาวในระยะไกล ซึ่งการโจมตีแต่ละครั้งจะก่อให้เกิดเปลวไฟเผาไหม้สร้างความเสียหายได้ 45 หน่วยต่อวินาทีและสามารถซ้อนทับกันได้อย่างไม่จำกัด
นอกจากนี้ยิ่งพลังชีวิตของโทรลล์ไฟร์ทีน้อยลงเท่าไหร่ ความเร็วในการโจมตีของมันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในชาติก่อนมีสตูดิโอแห่งหนึ่งเคยทำการทดลองและได้พบว่าความเร็วในการโจมตีสูงสุดของต้นไม้เพลิงอยู่ที่ 0.2 วินาทีต่อครั้งเลยทีเดียว
โดยในขณะนั้นผู้เล่นในสตูดิโอมีเลเวล 30 แล้ว ซึ่งผู้เล่นอาชีพนักรบที่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเต็มยศก็มีพลังชีวิตมากกว่า 3,000 หน่วย แต่หลังจากที่เขาถูกโทรลล์ไฟร์ทีโจมตีซ้อนทับกัน 20 ชั้น ในเวลานั้นแม้แต่นักบวช 3 คนที่รุมรักษาก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของเขากลับมาได้
ภายในวังมีโทรลล์ไฟร์ทีอยู่มากกว่า 2,000 ตัว ซึ่งนอกเหนือจากบริเวณประตูที่มีพวกมันรวมกลุ่มกัน 8 ตัวแล้ว ทางด้านในพวกมันจะรวมกลุ่มกันกลุ่มละ 2 ตัวทั้งหมด การพยายามบุกเข้าไปภายในวังตรง ๆ จึงเป็นเรื่องที่ยากมากเว้นแต่จะมีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก การพยายามบุกเข้าไปตรง ๆ ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย
สิ่งที่ลู่หยางกำลังตามหาคือหัวหน้าของพวกโทรลล์ไฟร์ที อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีความสามารถที่จะบุกเข้าไปตรง ๆ ได้แบบนั้น เพียงแต่ภายในวังมีบัคที่ไม่ใช่บัคซ่อนอยู่
ชายหนุ่มเดินไปตรงบริเวณด้านข้างของวัง ก่อนที่เขาจะขว้างมีดเอสเคพเดจเจอร์ขึ้นไปยังระเบียงชั้น 3 โดยตรง
ห้องถัดจากระเบียงเป็นห้องกว้างขนาดใหญ่โดยที่มีวอลกิน ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าโทรลล์ไฟร์ทีกำลังสั่งการอะไรบางอย่างกับลูกน้องของมันทั้งสองตัวอยู่
วอลกิน (บอส)
เลเวล 30
พลังชีวิต 250,000/250,000
วอลกินมีผมสีแดงเพลิง ภายในปากของมันมีเขี้ยวแหลมยื่นออกมา 2 ซี่ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและสวมใส่ชุดเกราะหนังสีแดง และภายในมือทั้งสองของมันก็ถือขวานสั้น ๆ เอาไว้สองเล่ม


แสดงความคิดเห็น