ตอนที่ 14 .. “ ยินดีที่ได้รู้จัก ”

พยัคฆ์ร้าย..สายลับ

-A A +A

ตอนที่ 14 .. “ ยินดีที่ได้รู้จัก ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ

   เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. 

ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. พัชฌา

 

The Day You Went Away - M2M (เพลงประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ) พัชฌา

https://www.youtube.com/watch?v=uVPrgbweR8o

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 14 .. “ ยินดีที่ได้รู้จัก ”

   เด็กสาวคนหนึ่งต้องหยุดทันทีเพราะมีคนทักเธอ และเธอก็ไม่รู้จักเทียนหอม

“พี่เรียกหนูหรือคะ”

“ใช่..ก็ตรงนี้ มีพี่กับหนูแค่สองคนเท่านั้นนี่คะ เด็กน้อย”

“แต่หนูไม่รู้จักพี่”

“แต่พี่รู้จักหนู”

“หนูไม่ใช่ดารา หนูไม่ใช่คนดังแล้วพี่มารู้จักหนูได้ไง”

“ถ้าหนูคือ โบวี่ อีสาวดินระเบิดหละ ก็คงไม่ผิดตัว” เท่านั้นแหละ เด็กสาวนิ่งพูดไม่ออก

“หนูว่าพี่ถามหาผิดคนแล้วหละ”

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เทียนหอมยื่นมือเพื่อออกไปทักทายและอยากรู้จัก แต่โบวี่ ยังไม่ยอมรับ จึงไม่กล้าจับมือด้วย

“อย่าปฏิเสธิเลย พี่รู้ว่าน้องหนะใช่” แล้วเทียนหอมก็ดึงมือขวาโบวี่มาใส่มือขวาเธอเอง และในนั้นรู้สึกว่าจะมียาอยู่ด้วย

“นี่คือคำตอบ ว่าน้องจะใช่โบวี่ ไหม” โบวี่ดึงมือออกมา แล้วก็มองดูยาในมือที่ถืออยู่

“รุ่นใหม่เสียด้วย” แล้วเธอก็จ้องมองหน้าเทียนหอม

“นั่นไง” เทียนหอมเอามือขึ้นมาชี้โบวี่เล็กน้อย

“หนูยอมรับก็ได้ ใช่ หนูคือ โบวี่ อีสาวดินระเบิด แล้วพี่หละเป็นใคร เป็นตำรวจเหรอ จะมาจับหนูรึไง”

“เปล่า ตำรวจกับพี่ ไม่ถูกกัน พี่ก็เหมือนๆกับหนูนั่นแหละ อยากหาที่ปล่อยยา อยากได้แหล่งยาตัวนี้” แล้วก็กระซิบที่หู

“พอดีพี่ได้มาจากเพื่อนอีกที” และก็ผละออกมา

“ว่าจะเอาไปปล่อยซะหน่อย แหล่งที่มีอยู่เก่าโดนรวบไปหมดแล้ว เลยหาแหล่งเอายาไม่ได้ มีคนรู้จักแนะนำพี่ว่าให้มาหาน้อง รับรองว่ามี Sure ว่าไงพอจะหาให้พี่ได้บ้างไหม”

   โบวี่ ยังไม่ค่อยเชื่อเทียนหอม เพราะไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน ก็เลยออกอุบาย เพื่อจะขอดูท่าทีก่อน เพราะถ้าพลาดมาเมื่อไหร่ยกขบวนตายทันที จึงยังไม่อยากเสี่ยงกับคนหน้าใหม่ๆ

“เอางี้พี่ บอกกันตามตรงเลย หนูยังไม่รู้ว่าพี่เป็นไง เงินหนาแค่ไหน และจะเอาไปปล่อยที่ไหนบ้าง แล้วพี่จะเอาเท่าไหร่กับการซื้อขายครั้งนี้”

“ก็ไม่มากนะ เพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า น้องมีเท่าไหร่”

“พี่ก็บอกมาก่อนซิว่า จะเอาแค่ไหน หนูถึงจะตอบพี่ได้”

“ตอนนี้ขอไม่มาก สักพันเม็ดก่อน”

“โอ้โฮ นี่เหรอไม่เยอะ ตั้งพันเม็ด หนูมีไม่เยอะขนาดนั้นหรอก ถ้าจะเอาเยอะขนาดนี้ ก็รอหน่อยแล้วกัน ต้องไปหาลูกพี่หนูอีกที งั้นเอาเบอร์พี่มาแล้วกัน แล้วหนูจะติดต่อไป”

“ได้เลยสาวน้อย ยังไงก็ช่วยพี่หน่อยนะ นี่เบอร์พี่ ไม่ต้องรีบนะ แต่เร็วๆหน่อยก็ดี 5555+”

   โบวี่ เมื่อได้เบอร์โทรแล้วก็เดินจากไป เผด็จมองดูภาพของเด็กสาวที่เดินจากไปด้วยใบหน้าที่แสนจะหดหู่ เด็กอายุที่ยังไม่ถึง 20 แต่เป็นเอเย่นต์ขายยาเนี่ยนะ สังคมบัดซบจริงๆ

   เผด็จในคราบเทียนหอมตัวปลอม ก็ติดต่อกลับไปฐานบัญชาการหาเทียนหอมตัวจริง แต่เขาลืมเปลี่ยนชิบเสียง

“สวัสดีค่ะ” เทียนหอมรับสาย

“เอาเกาเหลาไม่ใส่เส้นชามนึง” เทียนหอม งง ว่านั่นเสียงเรา ทำไมมันไปดังอยู่ที่ปลายสาย

“เจ้านาย Sure เล่นอะไรอีกแล้ว เอาหอมไปทำอะไรที่ไหนอีกเนี่ย”

“เอ้ย..ลืมเลย โทษที นิดหน่อย” แล้วเผด็จก็ถอดชิบเสียงออก เพราะอยู่ในรถแล้ว

“โทษที” แต่ยังไม่ได้ถอดหน้ากากออก

“เจ้านายมีอะไรหรือคะ ถึงโทรตรงเข้ามาสายนี้ อันตรายมากนะรู้ไหม”

“ไม่เป็นไร ช่วงนี้ปลอดภัย”

“แล้วตกลงมีอะไร ถึงได้ด่วนขนาดนี้”

“ผมได้ส่งข้อมูลของเด็กคนหนึ่งไปให้ในแฟ้มลับแล้วให้กันตภณ ดึงออกมา และคุณสืบหาต้นตอของเด็กคนนี้และที่มาของยาชนิดนี้ให้หน่อย เพราะผมคิดว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับนายแทนไท เดี๋ยวผมจะตามทางจ่าสนอีกที และไม่รู้ว่าทางหมูจะได้ข้อมูลแบบเดียวกะผมไหม”

“ได้เลยเจ้านาย แล้วมีอะไรอีกไหม”

“มีซิ ได้ข่าวว่า 3-4 วันก่อนหนะ ลูกสาวผมมันเป็นอะไร ตอนนี้ผมพอว่างแล้ว”

“เจ้านาย อย่าหาว่าหอมยุ่งหรือเสือกเลยนะ เรื่องนี้หอมว่าจะพูดกับเจ้านายนานแล้ว”

“เรื่องอะไร”

“ก็เจ้าขนมผิงนะซิ”

“เจ้าผิงมันทำอะไร ไปทำฤทธิ์ ทำเดชที่ไหนอีกหละ”

“ก็ที่นี่แหละ..เจ้านาย ผิงมันโตเป็นสาวแล้วนะ 16 แล้ว เจ้านายไม่มีเวลาให้กับลูกๆเลย มัวแต่ไปช่วยเหลือคนข้างนอก”

   เทียนหอมเดินสั่งงานคนในฐานและเซ็นต์เอกสารบางตัว เพราะเป็นคนคุมที่นี่มีอำนาจรองจากเผด็จ พอสั่งงานเสร็จก็เดินไปคุยข้างนอกฐาน

“แต่คนในครอบครัวนายปล่อยปะละเลย นายทำไม่ถูกนะในข้อนี้ หอมก็ไม่ชอบ เอากันจริงๆเลยนะ น้องๆสองคนหนะ เจ้านายไม่เคยมาสนใจเค้าเลย เด็กมันก็เลยน้อยใจ ยิ่งตอนนี้มีข่าวแว่วเข้าหูมาว่านายติดผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ทางเจ้าผิงมันก็นึกว่าเป็นน้องเพ็ญ เพราะน้องเพ็ญติดเจ้านายยังกะตังเมใครๆเค้าก็เห็นกัน นางโทรไปเล่นงานน้องเพ็ญด่าซะเสียๆหายๆ หาว่านายหนะเอาน้องเพ็ญไปนอนกกนอนกอด 3-4 วัน นั่นแหละ แล้วตกลง นี่มันยังไงกันนาย หอมอยากรู้จริงๆ คุณย่ากับหอมไม่สบายใจเลยที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ เอาว่าไง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ช่วยตอบให้หอมสบายใจหน่อย จะได้ทำงานได้สะดวกๆ”

“เอ้อ..มันไม่มีอะไรนะหอม เจ้าผิงมันบ้า คิดมากไปเอง เอางี้บอกมันว่าพ่อไม่ได้มีอะไรกับพี่เพ็ญ เดี๋ยวพ่อจะเข้าไปอธิบายให้ฟัง ตอนนี้ว่างแล้ว บ่ายๆน่าจะถึง ตามนี้นะแล้วเราค่อยเจอกัน”

   พอวางหูเสร็จ ก็รีบไปทำงานต่อ เอาชิบเสียงใส่กลับเข้าที่เดิม แล้วเข้ากองบัญชาการ ตรงไปหาอัธวุฒิ ด้วยใบหน้าของเทียนหอมนี่แหละดูซิว่ามีใครจะจับพิรุธได้บ้าง เพื่อเป็นการทดสอบครั้งที่สอง หลังจากลองทดสอบกับอัธวุฒิไปแล้วเรียบร้อย

----- ***** -----

   โบว์หลังจากที่ได้รับอิสระภาพตั้ง 3 เดือนก็ชอบซิเพราะจะได้มีเวลาอยู่กับคนรักแบบสบายใจ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องใดๆอีก จึงเข้าห้างนั้นออกห้างนี้ซื้อของเพื่อจะไปตกแต่งรังรักของเธอให้สวยงาม เธอเดินช๊อบปิ้งไปซื้อของไป โดยไม่ทันดูว่าชนเข้ากับใคร เผด็จในคราบของเทียนหอม ลมลงโบว์ล้มทับลงไปเต็มๆทับร่างเผด็จ โบว์ลุกขึ้นมาก่อน เพราะอยู่ด้านบน อายก็อาย เพราะคนเต็มซุปเอร์มาเก็ต เธอจึงรีบแสดงความขอโทษกับเทียนหอม

“ขอโทษนะค่ะพี่ หนูขอโทษจริงๆ มัวแต่เดินดูของเพลินไปหน่อยเลยไม่ระวังเดินชนพี่เข้าเต็มๆ เจ็บมากไหมคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เผด็จเห็นหน้าของโบว์ชัดๆ แต่ไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่แววตาของโบว์เหมือนใครและคล้ายใครคนหนึ่งที่เขาเคยรู้จัก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง คงไม่ใช่แค่คล้ายๆมากกว่า แต่ก็ทำให้เผด็จตกหลุมรักเธอขึ้นมาเลยทีเดียว

   เผด็จนิ่งจนโบว์ต้องเรียกอีกครั้ง “พี่คะ พี่” โบว์เอามือจับแขนขวาเผด็จแล้วเขย่า

“ครับ..ค่ะ” โบว์ดูท่าทางผู้หญิงคนนี้แปลกๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

“ถ้าไม่มีอะไรหนูขอตัวนะคะ พอดีมีธุระรีบไปหนะค่ะ” แล้วโบว์ก็เดินจากไป ปล่อยให้เผด็จมองตามหลังเธอจนลืมตัว

+++++ ----- +++++

เบ็นซ์กำลังหมักผมอยู่ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มือไม่ว่างจึงร้องเรียกแม่บ้าน

“พี่หอมๆ”

“ขาคุณเบ็นซ์”

“ช่วยกดรับโทรศัพท์ให้หนูหน่อย เปิดโฟนให้ด้วยนะ ขอบคุณค่ะ”

“สวัสดีค่ะ คุณมณีบุษราคัม เพชรรัตน์ ใช่ไหมค่ะ”

“ค่ะ จากที่ไหนคะ โมไหนคะเนี่ย”

“จากกรมตำรวจค่ะ” เท่านั้นแหละ จากที่นอนหงายหัวอยู่ ลุกพรวดขึ้นมาเลย

“กรมตำรวจ ตำรวจ” ใจไม่ดีแล้ว แต่ก็ต้องใจดีสู้สือไว้ก่อน

“ขา มีอะไรกับดิฉันเหรอคะ”

“อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เพียงแต่ว่า เราจะมาขอสอบถามอะไรนิดหน่อยกับเรื่องของการเดินแบบเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหนะค่ะ ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้คุณว่างพอจะเข้ามาที่ กองปราบได้ไหมคะ ใช้เวลานิดเดียวไม่นานหรอกค่ะ”

   เอาไงดีหละ จะตอบว่าไม่ว่างก็ไม่ได้ อยากรู้ก็ต้องไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“ได้ค่ะ กี่โมงคะ แล้วจะให้ไปพบใคร”

“กี่โมงก็ได้ค่ะตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไปจนถึง 4 โมงเย็น บอกว่ามาพบหมวดอ้อมหรือหมวดม่านมุกก็ได้ค่ะ แค่นี้นะคะ”

   แล้วอ้อมก็วางสายหันไปแลบลิ้นให้กับม่านมุกที่นั่งอยู่ข้างๆ ม่านมุกเลยลุกเดินหนีไปอีกทางไม่อยากสนใจทั้งๆที่ใจไม่สงบ

   เบ็นซ์ ได้แต่นั่งคิดว่าทางตำรวจจะมาไม่ไหนกับเขาอีก อยากรู้พรุ่งนี้ต้องไปให้รู้ เลยโทรชวนแป๋วไปด้วย กลัวแป๋วไม่ไปด้วย

“สวัสดีค่ะ”

“นี่ฉันเองไอ้แป๋ว”

“มีไรพอดียังไม่ว่างกำลังคุยกับลูกค้าเขามาซื้อโทรศัพท์เลยไม่ได้ดูชื่อ..ตามสบายเลยนะคะ เลือกดูได้เต็มที่ มีให้เลือก หลายรุ่นหลายแบบ ชอบรุ่นไหนบอกพี่ได้เลย ราคาพิเศษ พี่ขอตัวแป๊บนึง..เอ้าว่าไปมีอะไรคุยกันที่บ้านก็ได้ ทำเป็นอยู่คนละบ้าน”

“ก็ฉันกลัวแกไม่ว่างก็เลยโทรมาก่อน”

“นี่ไอ้เบ็นซ์ พวกเราเป็นไทยแล้วนะโว๊ย ถึงแม้ว่าจะแค่ 3 เดือน ยังไงฉันก็มีเวลาให้แกเสมอไอ้เบ็นซ์ ว่าแต่วันนี้โทรมาอย่างด่วนมีอะไร”

“ก็ตำรวจหนะซิโทรมาหาฉันเมื่อกี้บอกให้ฉันเข้าไปพบหน่อยพรุ่งนี้ แกไปกับฉันนะไอ้แป๋ว ฉันกลัว มันยังไงก็ไม่รู้”

“บ้า เสียชื่อนางเสือดาวหมด”

“อยู่นอกหน้ากากฉันกลัวจริงๆนะแก”

“เออ แล้วกี่โมง พรุ่งนี้ฉันจะได้ตื่นถูก”

“เขาบอก ตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไปจนถึง 4 โมงเย็น อย่าลืมนะแก ไปเป็นเพื่อนฉันนะ”

“ไม่ชวนไอ้โบว์ไปหละ”

“ไม่ แกก็รู้ ถ้ามีมันต้องไม่มีฉัน”

“โอ๊ย เบื่อจริงไอ้พี่น้องคู่นี้ ไม่ยอมโตกันจริงๆ”

“อย่าลืมนะ ฉันขอหมักผมต่อก่อน หน้าด้วย”

“เออ เอาที่แกสบายใจเลยเพื่อน” พอวางหูเสร็จแป๋วก็ขายของต่อ

===== ----- =====

   เผด็จขับรถมาจอดที่หน้ากองปราบ แล้วถือขนมนมเนยที่แวะซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ต มาเยอะเต็มมือไปหมด เดินผ่านชั้นล่างกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นบน ก็ยังไม่มีใครจำได้ เขายิ้มในใจ ได้ผล ไม่มีใครจำเขาได้ในคราบของเทียนหอม ลิฟท์เปิดที่ชั้น 4 เผด็จเดินออกมา ก็ไม่มีใครจำเขาได้อีก เผด็จเอาขนมมาวางบนเคาน์เตอร์ แล้วทักทายประชาสัมพันธ์ประจำชั้นนี้

“สวัสดีค่ะ มาขอพบผู้กำกับอัธวุฒิค่ะ”

“จะให้บอกท่านว่าใครมาพบคะ”

“เทียนหอมค่ะ”

“กรุณานั่งรอสักครู่นะคะ เชิญตรงโน้นเลยค่ะ” แล้วเผด็จก็เดินไปนั่ง สักพักตำรวจหญิงคนนั้นก็มาพาเผด็จไปหาอัธวุฒิ

“เชิญทางนี้เลยค่ะ” เผด็จถือของพะรุงพะรังตามไป พอถึงหน้าห้องประชุมก็เคาะประตู

“เชิญครับ” เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้ แล้วก็ขอตัวกลับไปที่เดิม ภายในห้องคนนั่งกันเต็ม เพราะกำลังประชุมกันเรื่องคดีของเครื่องเพชร มี อัธวิทย์ จ่ามิ่ง จ่าหมง หมวดขิง หมวดม่านมุก หมวดอ้อม หมวดเบียร์ จ่าสน จ่าหมู ขาดเพ็ญ

“สวัสดีครับคุณเทียนหอม มายังไงครับเนี่ยมาไกลเลย..เอ้าทุกคนถือว่าพักเลยแล้วกัน หลายคนคงจะรู้จักกันแล้ว ว่าใคร มีก็แค่สามคนนะที่ยังไม่รู้จัก งั้นผมขอแนะนำเลยแล้วกัน หมวดม่านมุก หมวดอ้อม และอัธวิทย์ นี่คุณเทียนหอม แม่บ้านของผู้การเผด็จที่เมืองกาญจน์ มาไกล” ทั้งสามคนยกมือไหว้ เทียนหอมยกมือรับไหว้ แล้วเทียนหอมก็เอาของให้กับจ่ามิ่งจ่าหมง

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เผด็จดีใจที่ทุกคนตั้งใจทำงาน

“ว่าแต่วันนี้ลมอะไรพาคุณหอมมาถึงที่นี่ได้ครับเนี่ย เพราะเท่าที่รู้มาร้อยวันพันปีคุณหอมจะไม่ย่างกรายออกมาจากบ้านที่เมืองกาจญน์เลย ยังไงครับ มีอะไรด่วนหรือเปล่า”

“ก็นิดหน่อยหนะค่ะ คือดิฉันติดต่อเจ้านายไม่ได้ ก็เลยถือโอกาสมาหาพวกคุณและจะมาถามว่าได้ข่าวเจ้านายบ้างไหม เพราะทางโน้น ก็เกิดเรื่องเหมือนกัน แต่ไม่มาก”

“ยังเลยครับ ทางเรายังติดต่อเฮียไม่ได้เช่นกัน หายไปไหนไม่รู้ ทางนี้ก็มีเรื่องไม่ต่างจากทางคุณ เท่าใดนัก”

   ขณะที่คุยกันอัธวุฒิหันไปจะเรียกใช้คนไปเอาน้ำมาให้เทียนหอมสักหน่อย ที่ไหนได้ เหมือนปอบลง กำลังสนใจขนมนมเนยที่เผด็จซื้อมากันอย่างเต็มที่ อัธวุฒิ แกล้งตบโต๊ะเสียงดัง ทุกคนตกใจ หยุดทุกอย่าง

“อะไรกันเนี่ย อายเขาบ้างไหมเนี่ย เห็นแก่กินกันทุกคนเลย ไม่คิดมีใครจะไปเอาน้ำให้คุณหอมทานบ้างเลยรึ”

“ขอโทษค่ะผู้กำกับ ลืม มันเพลินไปหน่อย” หมวดอ้อม อยู่ใกล้กระติกน้ำแข็งและน้ำมากสุด กล่าวขอโทษแล้วลุกไปจัดการให้

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้หอมก็ดีใจมากแล้วที่เห็นทีมงานของเจ้านายทำงานกันอย่างเต็มที่ ในเมื่อมาเสียเที่ยวหอมก็คงต้องกลับหละค่ะ เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าผู้กำกับได้ข่าวเจ้านายยังไงก็ช่วยโทรไปบอกหอมด้วยก็แล้วกันนะคะ”

   พูดจบ เผด็จก็เคาะโต๊ะสามทีไม่ดังมากแล้วก็ลุกเดินออกไป ก่อนปิดประตูเขาแอบมองดูอัธวุฒิว่าจะจำเขาได้ไหมเพราะ รหัสนี้มีเขากับอัธวุฒิรู้กันแค่สองคนเท่านั้น จริงๆด้วยอัธวุฒิมองไปที่ประตู แล้วรู้ทันทีเลยว่าคนที่มาในวันนี้ไม่ใช่เทียนหอม แต่คือลูกพี่เขาเอง เขาพลาดอีกแล้ว ทำไมนะถึงจับผิดอะไรลูกพี่ไม่ได้เลย เขาเผลอตัวเป็นครั้งที่สอง ตบโต๊ะเสียงดัง

“เป็นอะไรพ่อ” ลูกชายตกใจ

“แกรู้ไหมว่าพวกเราโดนหลอกแล้ว ทั้งหมดเนี่ย”

“หมายถึงอะไร ใครหรือค่ะผู้กำกับ” หมวดขิงงง เพราะพึ่งฟื้นจากไข้ กลัวตกข่าว

“พวกคุณรู้ไหมว่าของที่กำลังกินอยู่เนี่ยของใคร และเราคุยกับใครอยู่เมื่อตะกี้นี้”

“อ้าว ก็เมื่อกี้เราก็คุยกันอยู่กับคุณเทียนหอม คุณอาเป็นคนบอกเอง แล้วมันยังไง” หมวดม่านมุกตอบ

“ไม่ใช่” ทุกคน ก็ยิ่ง งงหนักเข้าไปอีก มองหน้ากันใหญ่ ผู้กำกับเป็นอะไรไปแล้ว

“นั่นหนะรู้ไหมใคร” ทุกคนส่ายหน้า

“ผู้การเผด็จ ของพวกแกไง ที่ว่าหายไป หาตัวไม่เจอ มาแล้วตัวเป็นๆให้เห็นกันแล้ว แต่ไม่ได้มาในแบบตัวจริง เขาปลอมตัวมา ไงหละ จับได้ไหมหละพวกแก ไม่เชื่อก็ออกไปดูได้เลย”

   ว่าแล้วทั้งหมด ก็วิ่งกรูออกนอกห้องประชุม ไปดูกันที่หน้าต่างให้เห็นกะตาว่าจริงไหมที่ผู้กำกับพูด เห็นเผด็จตัวจริงเป็นๆยืนโบกไม้โบกมือให้ก่อนที่จะเปิดประตูรถแล้วขับออกไป แล้วก็เดินกลับไปที่ห้องประชุม ด้วยสีหน้าที่ตกใจกันหมดจริงๆ

“ไงหละ เป็นไง ดูทำหน้าเหวอไปตามๆกัน”

“คุณลุงเขาทำได้ยังไงหนะพ่อ อเมซิ่งมาก”

“ข้าเคยโดนมาแล้ว คราวนี้เขามาทดสอบพวกแกเต็มๆครบเลยวันนี้ทุกคนในทีมโดนหมด”

“ไม่น่าเชื่อ” ม่านมุกไม่เคยเจอแบบนี้ พึ่งได้เห็นเป็นบุญตา

“จำไว้เลยนะว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราไว้ใจใครไม่ได้ เพราะคนที่อยู่ใกล้ตัวเรา อาจจะไม่ใช่คนที่เรารู้จักอีกต่อไป”

   พูดแบบนี้ทุกคนเริ่มมองซึ่งกันและกัน ชี้คนโน้นคนนี้ว่าใช่ตัวจริงกันรึเปล่าสนุกกันไปเลยคราวนี้จากที่เครียดก็เลยกลายเป็นโจ๊กกันไปเลย สักพักก็นั่งประชุมต่อ

“ตกลงพรุ่งนี้นัดได้กี่คนครับหมวดอ้อม”

“5 คนค่ะคุณอา ตัดหมวดเพ็ญออกไป นัดได้ครบหมดแล้ว”

“ดีมาก ทำงานได้ดีมาก สงสัยต้องเสนอชื่อดึงเข้ามาร่วมทีมอีกสักคนดีไหมเนี่ย ดีไหมวิทย์”

“จะดีเหรอพ่อ เอาเด็กกะโปโลแบบนี้เข้ามาทำด้วย งานจะไม่วิ่งนะ”

“พี่วิทย์หนะ” อ้อม เอาผลไม้แถวนั้นปาใส่ วิทย์รับได้ ขิงกับม่านมุก แอบดูด้วยสายตาที่ไม่ธรรมดา หยอกกันไม่เกรงใจกันเลย

“เครๆล้อเล่น ผมฝากพวกคุณด้วยแล้วกัน หมวดม่านมุก แล้วเรื่องที่ผมให้ไปหาได้รึยัง”

“ได้แล้วค่ะ นี่ค่ะประวัติของนางแบบทั้ง 5 คน แล้วนี่รายชื่อและเบอร์ติดต่อของโมเดลลิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”

   พูดจบก็หันไปแลบลิ้นใส่หมวดอ้อม ว่าไม่ได้ทำได้คนเดียว ฉันก็ทำได้ หมวดอ้อมหน้าเสียเลย

“สำหรับหมวดขิงที่พึ่งหายจากอาการป่วยมา ให้ไปช่วยหมวดเบียร์เป็นบัดดี้แทนหมวดเพ็ญ มีปัญหาอะไรไหมครับสองคนนี้”

“ไม่มีค่ะผู้กำกับ” หมวดขิง ยังไงก็ต้องเอา เพราะไม่มีทางเลือก จะคู่กับใครก็ได้ ขอให้ได้อยู่ในทีม

“แล้วเบียร์หละลูก ว่าไง ดูทำหน้าเข้า”

“ไม่มีค่ะคุณอา หนูก็ยังไงก็ได้”

“เอาน่า ไม่ได้เป็นบัดดี้กับเพ็ญ กับใครก็ทำไปเถอะ ขอให้งานที่ทำผลออกมาสำเร็จก็พอ” แล้วอัธวุฒิก็ลุกขึ้นและตีมือสามครั้ง

“ผมขอฝากทุกคนนะครับก่อนที่จะจบการประชุมในวันนี้ ขอฝากงานกับทุกคนที่ให้ไปทำและขอต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ 3 คน คือ ลูกชายผมผู้กองอัธวิทย์ หมวดม่านมุก และหมวดอ้อม ด้วย” อัธวุฒิปรบมือนำ แล้วทั้ง 3 คน ก็โค้งคำนับ

   หมวดอ้อมดีใจมาก กระโดดกอดหมวดม่านมุกที่อยู่ใกล้ๆโดยไม่รู้ตัว เพราะได้เข้ามาร่วมทีมกับอัธวิทย์คนที่เธอชอบ ม่านมุก มองด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยชอบเลย เพราะมีคู่แข่งเห็นๆแต่ไม่มีใครนึกถึงหมวดขิงเลยแม้แต่นิดเดียวว่านางคิดอะไรอยู่กันแน่

+++++ ***** +++++

   บ่าย 4 กว่าๆ เผด็จขับรถถึงเมืองกาญจน์ พอเปิดรถขนมผิง กับขนมเบื้องกระโดดเข้ากอดพ่อ

“โอ๊ยอะไรกันลูก พอจะล้มแล้ว” ขนมผิงระดมหอมแก้มพ่อ จนพ่อตั้งตัวไม่ติด ส่วนขนมเบื้องก็กอดพ่อแน่มาก

“เดี๋ยวลูกเดี๋ยวให้พ่อตั้งตัวก่อน ตกลงว่าจะไม่เข้าบ้านกันเลยใช่ไหม จะนอนกอดพ่อกันอยู่ตรงนี้เลยใช่ไหม ได้เลยได้”

   ว่าแล้วเผด็จก็แกล้งนั่งลงตรงนั้นเลย ประตูรถก็ยังไม่ได้ปิดด้วย ผิงกับเบื้อง เลยดึงพ่อขึ้นมา แล้วดันพ่อเข้าบ้าน เทียนหอมและย่าผาดเห็นภาพแบบนี้ก็ดีใจน้ำตาซึมทั้งคู่ เผด็จเดินไปไหว้แม่แล้วก็กอดลูกพากันเดินเข้าบ้าน

“เป็นไงบ้างลูกไหนมาให้พ่อชื่นใจหน่อยทั้งคู่เลย”

   เผด็จนั่งลงที่โซฟา แล้วผิงก็เดินเข้ามาคนแรก หอมแก้มพ่อซ้ายขวา พ่อก็หอมตอบ

“มาเจ้าเบื้องขอพ่อชื่นใจหน่อย” แล้วเบื้องก็เข้ามาสวมกอดพ่อ พ่อหอมแก้มซ้ายขวา

“ร้องไห้ทำไม ขี้แยใหญ่แล้วเราเป็นผู้ชายนะ ไม่เอา”

“ก็เบื้องคิดถึงพ่อทุกวันเลยนี่ พ่อหายไปเลยเป็นเดือน”

“ก็พ่อทำงาน ตอนนี้พ่อว่าง พ่อก็กลับมาแล้วไง ไม่ดีอีกเหรอ..มามา นี่ก็อีกคนทำเป็นยืนตาแดงๆมามาให้พ่อกอดอีกที”

   แล้วผิงก็เดินเข้าไปกอดพ่อ น้ำตาซึม แล้วพ่อก็เริ่มชำระคดีแบบนิ่มๆ

“ไหนบอกพ่อมาซิไปว่าอะไรพี่เพ็ญเค้า บอกพ่อมา”

“ก็จริงไหมหละที่พ่อเอานัง..” เผด็จชูนิ้วชี้ซ้ายขึ้นมาตรงหน้าผิง แล้วส่ายไปมา

“พี่เพ็ญไปกก ไปกอดจริงรึเปล่าหละ หนูโทรไปมีผู้หญิงรับสายแล้วก็วางสายเฉยเลย ถ้าไม่ใช่พี่เพ็ญแล้วจะเป็นใคร พ่อนั่นแหละบอกมาซะดีๆว่าเอาใครไปกก” ทำไปทำมาพ่อท่าจะแย่เสียเองแล้ว

“ไม่มี สงสัยสัญญานมันพันกัน พ่อไปทำงานอยู่แถวๆชายทะเล คลื่นอาจจะไม่มีหรือไม่ก็พันกันแน่เลย ไม่มี ไม่มี ก็พ่อมีเจ้าหญิงตัวน้อยๆของพ่อกับเจ้าชายตัวเล็กๆของพ่อสองคนนี้แล้วไงคร๊าบ แล้วจะเอาใครที่ไหน มาเพื่อแย่งความรักไปได้อีกหละจริงไหม เจ้าจอมยุ่งทั้งสอง” เผด็จ แถไปได้น้ำขุ่นๆ

“จริงนะ” ผิงปาดน้ำตา

“จริงๆ” แล้วเผด็จก็เอามือจับแก้มลูกสาว แล้วแกล้งหอมซ้ายขวา ซ้ายขวาไม่นับ จนผิงรำคราญ หนีออกไปเอง แล้วหันไปทางเบื้อง ทำเหมือนกัน เบื้องก็วิ่งหนีเช่นกัน สรุปว่าความสุขของครอบครัวเริ่มกลับมาแล้ว

<<<<<===== >>>>>

   อัธวิทย์ นัดหมอไตรทศ มาออกกำลังกายที่สปอตคลับ เวลาเย็นๆ มาเจอขิงพอดีก็เลยได้มีโอกาสคุยกัน

“อ้าวหมวด มาออกกำลังกายด้วยเหรอครับ พึ่งรู้นะเนี่ยว่าเป็นสมาชิกที่นี่ด้วย”

“ผู้กองเป็นได้คนเดียวเหรอคะ” นั่นไงโดนไปหนึ่งดอก

“แล้วมาคนเดียวเหรอครับ”

“สองคนค่ะ นั่นอีกคนกับพี่สาว แล้วผู้กองหละมาคนเดียวเหรอคะ”

“สองคนเหมือนกันครับ โน้นเดินมานั่นแล้ว” พอหมอเดินมาถึง ก็ทักทายตามประสาผู้ชาย ขิงยืนหันหลังอยู่

“ไงเพื่อน วันนี้พาหญิงมาด้วยเหรอ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย เด็กแกเหรอ” ขิงหันมา มองตาเขม็ง

“อุ้ย..หมวดขิง ขอโทษครับ ไม่เห็นนึกว่าเด็กมัน ไอ้นี้เด็กในสต๊อกมันเยอะ” เผาเพื่อนแล้วไง จีจี้เดินมาถึงเช่นกัน

“ว่าไงขิง จะเล่นรึยัง ฉันกำลังอยากได้เหงื่อ แล้วนี่ใครหละเนี่ย เพื่อนแกเหรอ ไม่คุ้นเลย”

   จีจี้มองอัธวิทย์และหมอไตรทศหัวจรดเท้า เหมือนไม่ถูกสเป็ค

“นี่พี่สาวหนูค่ะ จีจี้” ทั้งสองคนยิ้มรับ แต่จีจี้มองเมิน ทำเชิดใส่ เหมือนสูงส่งเสียเหลือเกิน

“นี่ผู้กองอัธวิทย์ เจ้านายหนูค่ะ และนี่คุณหมอไตรทศค่ะ” พอรู้ว่าเป็นหมอ ก็เริ่มสนใจ ไม่ขี้ไก่นี่หว่า ลดการเชิดลงมาทันที

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณหมอ” ไม่สนใจอัธวิทย์ เพราะแค่ผู้กอง แต่หมอน่าสนกว่า เลยหันไปยิ้มให้หมอและขอจับมือด้วย

“เอ้ยไอ้หมอ สาวสวยขอจับมือด้วย น่าเกลียดนะ รับไมตรีเขาหน่อย” แล้วหมอก็ยื่นมือออกไปเช็คแฮนด้วย

“งั้นเราไปตีแบดกันเลยไหมคะคุณหมอ จีจี้กำลังอยากได้คู่ตีพอดี”

“ได้ครับ” แล้วจีจี้ฉกหมอไปต่อหน้า ปาดกันเห็นๆจนอัธวิทย์ยิ้มออกมา ขิงมองหน้าอัธวิทย์แล้วก็เดินนำหน้าไปเลย

   สรุปว่าจีจี้ขอคู่กับหมอไตรทศ ส่วนขิงก็ได้คู่กับอัธวิทย์

<<<<< ----- >>>>>

   หลังมื้อค่ำที่บ้านเมืองกาญจน์ ย่าผาด ออกมานั่งรับลมเย็นๆที่ดาดฟ้า ลูกชายและเทียนหอม ก็ออกมานั่งคุยเป็นเพื่อน

“นี่เสื้อครับแม่ อากาศมันเย็น ดูแลตัวเองด้วย”

“ขอบใจนะลูก” แล้วเผด็จก็หอมหน้าผากแม่

“คุณแม่มีอะไรกับผมเหรอครับ” แล้วผาดก็มองไปที่เทียนหอม ที่กำลังเดินถือถาดน้ำผลไม้เข้ามา 3 แก้ว เผด็จชี้ไปที่เทียนหอม

“เทียนหอม มีอะไรเหรอครับ”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะเจ้านายอย่าเดาเลย เดายังไงก็เดาไม่ถูกหรอก” เทียนหอม ยกแก้วน้ำส้มคั้นให้ย่าผาด และเผด็จ แล้วยกขึ้นมาดื่มเอง พอจิบเสร็จก็พูดต่อ

“ก็เกี่ยวกับเจ้าทะโมนสองคนนั่นแหละคุณย่าเห็นว่า เด็กว่างจนเกินไปกลัวฟุ่งซ่าน ก็เลยอยากหาครูสอนพิเศษ หอมหาที่นี่แล้ว ก็ไม่มีใครอยากมา เพราะมันไกลจากตัวเมืองมาก บางคนเขาก็กลัวเลยไม่มีใครอยากมา อยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้แหละก็เลยมาปรึกษาเจ้านาย อยากให้เจ้านายช่วยหาครูดีๆสอนพิเศษพวกเด็กๆหน่อย”

“เออ มันก็จริงนะฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ขอบใจมากเลยหอมที่เป็นธุระให้ฉันทุกเรื่อง ขอบใจจริงๆ” แล้วเขาก็หันไปดูลูกทั้งสองคน ที่ยังเล่นกันเหมือนเด็ก เอาหมอนตีกันบ้าง วิ่งไล่จับเหมือนเด็กๆไม่ยอมโต

   เขาจึงหยิบโทรศัพท์แล้วโทรไปหาเพ็ญทันที เพื่อที่จะขอโทษเรื่องลูกและClear ในทุกๆเรื่องเพื่อให้เพ็ญสบายใจ < ตึ๊ดๆๆ > เพ็ญนอนเล่นอยู่ที่โซฟาด้านล่าง พร้อมกับเบียร์ หยิบโทรศัพท์มาดูเห็นเป็นชื่อ เผด็จรีบรับทันที

“อาเต๋า” เบียร์กำลังดู Tv อยู่จึงหันไปที่เพ็ญทันที

“อาเต๋าอยู่ไหนตอนนี้ รู้ไหมว่าเพ็ญ”

“ฟังอาก่อนนะเจ้าหญิงของอา อย่าพึ่งถามอะไรได้ไหมคนดี”

“ค่ะ หนูจะเงียบและฟังอา ว่าไป”

“ดีมากน่ารักที่สุด เรื่องแรก อาต้องขอโทษด้วยนะที่เจ้าผิงมันโทรมาต่อว่าหนูและเข้าใจหนูผิด เครไหม”

“แล้วอาเป็นจริงอย่างที่ผิงมันพูดรึเปล่าหละ ก็หนู”

“ไหนบอกว่าจะฟังอาอย่างเดียวไงเจ้าหญิงน้อย”

“ค่ะ” แล้วเพ็ญก็ฟังต่อ เบียร์ชะเง้อคอเอียงฟังอยู่ด้วยเช่นกัน จนเพ็ญต้องเอามือไปตีเพื่อน

   เบียร์ทำท่า บอกเปิดโฟนแต่ไม่ทันใจ เธอกดเองเลย

“เรื่องนั้นไม่มีอะไร อาไปทำงานแล้วคนแถวนั้นเขาก็รับโทรศัพท์แทน”

“แล้วทำไม เขาต้องเรียกอาเต๋าว่าที่รักด้วย หนูไม่เชื่อ”

“ที่ล้งที่รักอะไร หูหนูฝาดไปเอง ที่พักมั้ง พวกรีเซฟชั่นเขามาถามเรื่องที่พักมากกว่าว่าจะพักต่อไหม ก็เท่านั้น”

“เห็นไหมไอ้เพ็ญ แกหนะหูไม่ดี” เพ็ญ เอามือชี้หน้าเพื่อนให้เงียบ

“เข้าใจอานะครับเจ้าหญิงน้อย”

“ก็ได้ เรื่องนี้ในเมื่อยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทันหนูก็จะปล่อยไปแล้วนี่อาอยู่ไหน ยังไม่ได้บอกหนูเลย”

“อาอยู่เมืองกาญจน์กับแม่กับลูกๆไงครับ เห็นไหม ว่าอาไม่ได้ไปไหนเลย หนูคิดมากไปเอง”

“เห็นไหมไอ้เบียร์ ถ้าคืนนั้นฉันไปฉันก็เจออาเต๋า แกไม่น่าให้อีตาผู้กำกับไปรับฉันเลย ยุ่งไม่เข้าท่า” ว่าเพื่อนจุ้นอีกแล้ว

“หายโกรธอารึยังครับเจ้าหญิงน้อย”

“ยัง” เพ็ญ ทำเล่นตัว

“อ้าว แล้วทำยังไง ถึงจะให้เจ้าหญิงน้อยของอาหายโกรธหละครับ”

   เบียร์ทำหน้าเลี่ยน จนเพ็ญต้องตีเพื่อนแล้วชี้หน้า

“พูดอย่างนี้ มิน่าหละไอ้เพ็ญมันจึงบ้าได้โล่ห์ หวานซะ น้ำตาลยอมแพ้ ใครฟัง ก็ไม่นึกว่าหลานแล้ว จีบกันชัดๆเจ้าชู้นะเนี่ย”

“พูดอะไรไอ้เบียร์ชู่ๆๆ จะฟังไหม”

“เออๆ ฟัง”

“ถ้าจะฟัง..เงียบ” เพ็ญทำท่าจุ๊ๆ

“เอ้า ว่าไง ทำไมคิดนานจังสาวน้อย”

“ถ้าอยากให้หนูหาย อาเต๋าต้องมารับหนูไปเที่ยวเมืองกาญจน์ ได้ไหมหละ”

“คงไม่ได้”

“อ้าว..” น้ำเสียงเปลี่ยนจากร่าเริง เป็นขุ่นทันที

“ฟังอาก่อน ใจเย็นๆสาวน้อย คืองี้ อามีเรื่องอยากจะให้หนูช่วยหน่อยได้ไหม ถ้าช่วยอาได้เรื่องนี้ ต่างประเทศอาก็พาหนูไปเที่ยวได้ อย่าว่าแต่เมืองกาญจน์เลย ว่าไง จะยอมช่วยอาไหมและเลิกโกรธอาด้วย แล้วเรากลับมาดีกันเหมือนเดิมด้วยเอาไหม”

“ได้ แต่ต้องขอฟังก่อนว่าเรื่องอะไร”

“ฟังนะ คืองี้ อาอยากหาครูสอนพิเศษให้ลูกอาทั้งสองคน เพ็ญพอจะรู้จักใครและเป็นธุระช่วยอาหน่อยได้ไหม อาไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย เห็นหนูมีเพื่อนเยอะ ช่วยอาหน่อยได้ไหม” เท่านั้นแหละ เบียร์ยิ้มเลย พยักหน้าบอกเพื่อนให้ตกลงเลย

“ได้ค่ะ โถ่เอ้ยนึกว่าเรื่องอะไรหมูๆสบายมาก แล้วอาต้องการวันไหนคะ” หันไปถามเพื่อน

“เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพ็ญมีไหมพอจะรู้จักใครบ้างไหม” เพ็ญถามเพื่อนเบาๆ “เมื่อไหร่ๆ” เบียร์บอก พรุ่งนี้มาได้เลย

“พรุ่งนี้เช้าอาเต๋ามาได้เลยค่ะ แล้วหนูจะรออยู่ที่บ้านนะคะ ขอย้ำว่ามาหาหาที่บ้านหนูนะไม่งั้นหนูไม่ยอม ถือว่าทำโทษฐานที่ทำให้หนูเป็นห่วงและไม่สบายใจ”

“ได้เลย แล้วพรุ่งนี้เช้าเจอกันครับเจ้าหญิง บาย” พอวางหูเสร็จ ก็บอกแม่กับเทียนหอมว่า เรียบร้อย

“เทียนหอมฉันฝากด้วย ไปจัดชุดให้เด็กสองคนนั้นด้วย พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันแต่เช้ามืด”

“ได้ค่ะเจ้านาย” แล้วเทียนหอมก็เอามือขวาแตะไหล่ขวาเผด็จที่นั่งอยู่แล้วเดินยิ้มออกไป

“ขอบใจมากนะลูกที่ทำให้ครอบครัวมีความสุข”

“ครับแม่ ผมรักแม่กับลูกนะครับ” แล้วเผด็จก็ลุกไปสวมกอดแม่ตัวเอง

***** ----- *****

“ไอ้เบียร์ ว่าไงแก บอกให้ฉันรับปากอาเต๋าแล้วไหนหละ ครูสอนพิเศษ”

“เออ เดี๋ยวแป๊บนึง ใจเย็นซิวะ จะติดต่อให้เลยเดี๋ยวนี้แหละ สบายคนกันเอง” แล้วเบียร์ก็โทรหาพี่สาว

   < ตึ๊ดๆๆ > แป๋วรับสาย

“มีไรไอ้เบียร์โทรมาซะมืดเลย”

“พี่แป๋ว พี่โบว์ยังรับสอนพิเศษเด็กอยู่รึเปล่า”

“ไม่รู้ดิ เอาอยากรู้ก็คุยกะมันเอาเอง” โบว์งง อยู่ดีๆแป๋ว ก็ส่งโทรศัพท์มาให้

“ใคร พี่แป๋ว”

“ไอ้เบียร์”

“เบียร์ไหน”

“ก็ไอ้เบียร์ไง เด็กขี้แย” พอบอกว่าเบียร์ขี้แย รู้เลย โบว์ เก็ตทันที

“รู้แล้ว..ว่าไงเบียร์พี่โบว์เองมีไรจ๊ะน้องสาว”

“สวัสดีค่ะพี่โบว์ หนูไม่มีเบอร์พี่ ต้องขอโทษด้วย พอดีหนูจำได้ พี่แป๋วเคยบอกหนูว่า พี่โบว์เป็นครูสอนพิเศษ ให้พวกเด็กๆ  ม.ต้น ม.ปลายอะไรแบบนี้ ตอนนี้พี่ยังรับสอนอยู่ไหมคะ”

“ก็ยังรับอยู่ค่ะ มีอะไรเหรอ ต้องดูด้วยว่าวันไหน เพราะต้องดูตารางก่อนว่ามีวันว่างไหม”

“คืองี้พอดีคุณอาเพื่อนของหนูเขากำลังหาครูสอนพิเศษให้กับลูกๆเขาอยู่นะคะ ที่เมืองกาญจน์”

“ถ้าต่างจังหวัดคงไม่ได้หรอกค่ะ พี่คงไม่ถ่อไปถึงที่นั่นมันไม่คุ้ม” เพ็ญดึงโทรศัพท์มาคุยเองเลย

“สวัสดค่ะพี่ หนูชื่อเพ็ญนะค่ะเป็นเจ้าของเรื่องนี้ ไอ้เบียร์มันพูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย หนูจะอธิบายให้ฟังเองแล้วกัน”

“ค่ะๆ” เสียงคุ้นๆจัง แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน ก็เลยไม่อยากเครียด

“คืองี้คะพี่” เพ็ญถามว่าชื่ออะไร “โบว์ๆ”

“พี่โบว์ คือน้องของหนูสองคนเขาไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะมีเรื่องนิดหน่อยปีนี้ก็เลยว่างทั้งปี พ่อเขาก็คือคุณอาของหนูเนี่ยเขาก็เลยอยากหาครูมาสอนลูกเขาหน่อยพี่ช่วยมาสอนให้น้องๆหนูหน่อยได้ไหมคะราคาเท่าไหร่พี่บอกมาได้เลย”

“ก็อย่างที่บอกหนะค่ะ ต่างจังหวัดมันไกลพี่ไปไม่ได้”

“กทม.ค่ะ คุณอาเขามีบ้านที่นี่ หนูจะให้เด็กสองคนมาเรียนที่นี่เอง หนูทำได้ นะนะพี่โบว์นะ ฟังเสียงดูแล้วพี่ก็น่าจะเป็นคนใจดี ช่วยหนูหน่อยนะพี่ หนูรับปากคุณอาไปแล้วด้วย”

“ไม่ต้องมาอ้อนเลย ก็อย่างที่บอก ถ้า กทม.พอได้ค่ะ แล้วจะให้พี่ไปเมื่อไหร่ที่ไหนหละคะ พี่จะได้เตรียมตัวถูก”

“พรุ่งนี้ค่ะ”

“อะไรนะ ทำไมมันเร็วแบบนี้หละ พี่เตรียมตัวอะไรไม่ทัน”

“พี่ยังไม่ต้องทำอะไร พี่มาแต่ตัวอย่างเดียวก่อน มาคุยตกลงราคาและสถานที่รายละเอียดก่อนนะคะ”

“แต่พรุ่งนี้พี่ไม่ว่างนะซิ”

“นะคะพี่หนูขอร้องเถอะนะคะ ถือว่าช่วยหนูหน่อย” เบียร์รีบพูดช่วยเพื่อน

“นะพี่โบว์ช่วยหนูกับเพื่อนด้วยนะ นัดผู้ใหญ่ไว้แล้วด้วย ถ้าผิดคำพูดมันจะเสีย”

“แล้วก่อนที่จะนัดแกทำไมไม่โทรมาปรึกษาฉันก่อนไอ้เบียร์แกนี่จริงๆเลย ตั้งแต่เด็กๆแล้วนะทำอะไรไม่เคยบอก”

“หนูขอโทษนะพี่โบว์นะ”

“เออๆ ก็ได้ ถ้าไม่ใช่แก พี่ไม่ช่วยนะ ได้ๆแล้วบอกพี่มาแล้วกันว่าจะให้ไปเจอที่ไหน”

“ขอบคุณพี่โบว์มากเลย ทั้งสวย ทั้งน่ารักด้วย อยู่ใกล้ๆจะขอหอมแก้มให้รางวัลเลย”

“พึ่งรู้รึไงนังเบียร์ว่าพี่สวย” โบว์ได้ทีเกทับเบียร์เลย

“ขอบคุณนะคะพี่โบว์” เพ็ญขอบคุณอีกที

“แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะนัดอีกที ขอเบอร์พี่โบว์ด้วยค่ะ”

“ได้ค่ะ” แล้วโบว์ก็บอกเบอร์เพ็ญ

“รอดตายแล้วโว๊ยไอ้เบียร์” เพ็ญดีใจที่ทำเพื่อคนที่เธอรักได้

“เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าได้ สำเร็จ พี่โบว์น่ารักมากๆเลย” แล้วสองคนก็เอามือแตะกัน

“เอ้ย..สวยมากเลยเหรอ แล้วกะฉันใครสวยกว่า” เพ็ญถามเพื่อน

“แกแล้วกัน 5555+”

“เออ มันต้องแบบนี้ถึงจะคบกันยึดไอ้เบียร์”

“ไป” เมื่อเพ็ญอารมณ์ดี ก็เปลี่ยนท่าทีทันที

“ไปไหน”

“ทานข้าวไง ฉันหิวแล้ว”

“ดีเหมือนกัน”

“นมแม้น หนูหิวข้าวแล้ว”

***** ----- *****

   และเช้าวันใหม่ ที่รอคอยก็มาถึง เผด็จขับรถพาลูกทั้งสองคนมาถึงบ้านเพ็ญแต่เช้าตามนัด เพ็ญและนมแม้นออกมาต้อนรับขนมผิงและขนมเบื้องเดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าง่วงๆ ขนมผิงยังคงมองหน้าเพ็ญแบบไม่สนิทใจ พอเห็นเพ็ญมาเกี่ยวแขนพ่อต่อหน้า ก็เลยเข้ามาแทรกทันที จนเพ็ญกระเด็นออกไปเกือบล้ม นมแม้นรับไว้ทัน พ่อเห็นเลยต่อว่าแต่เช้า

“ทำอะไรหนะผิง ไม่น่ารักเลย เอ้าสวัสดีคุณย่าแม้นรึยัง แล้วนั่นก็พี่เพ็ญไง”                       

   ขนมผิงและขนมเบื้องไหว้ย่าแม้น แต่พอเป็นเพ็ญผิงไม่ไหว้ รีบจูงพ่อเดินเข้าบ้าน แต่สำหรับขนมเบื้องไหว้ปกติ

“อย่าคิดมากเลยพี่เพ็ญ ปล่อยเขาเถอะ โรคหวงของกำเริบ”

“จร้าน้องชาย ไปเข้าไปข้างในกัน”

   เบียร์อยู่ข้างในกำลังจัดโต๊ะอาหารให้กับเชี่ยวอยู่ พอเห็นเชี่ยวก็สวัสดี

“สวัสดีครับพี่ เอ้าเด็กๆ สวัสดีคุณลุงรึยัง รีบๆเลย” ทั้งสองคนก็ยกมือสวัสดี เบียร์ก็ยกมือสวัสดีเผด็จ

“อ้าวเบียร์ อยู่นี่ด้วยเหรอ”

“คะคุณอา มาอยู่เป็นเพื่อนมัน ให้หายอาการบ้าเกือบอาทิตย์แล้ว เย็นนี้ก็คงจะกลับบ้านหนูเหมือนกัน ปิดมาหลายวันแล้ว”

“เอาๆ มาทานมื้อเช้ากันก่อน”

---- +++++ ----

“ไปรึยังไอ้แป๋ว รถติดนะ” เบ็นซ์อยากไปตอนเช้า เพราะจะได้เสร็จเร็วๆ

“เออ ไปไป โบว์ เดี๋ยวพอเสร็จธุระพี่จะตามไปนะ บอกพี่อีกทีแล้วกันว่าที่ไหน” แป๋ว กลัวโบว์ลืม

“ได้พี่ หนูขออาบน้ำก่อน เสร็จแล้วก็จะไปเลย”

“แกไปนัดอะไรกับมันแป๋ว”

“เออ เอาน่าไม่เกี่ยวกะแกหรอก ไปไป”

***** +++++ *****

   ได้เวลา นัดโบว์ก็มานั่งรอตามสถานที่ ที่เพ็ญนัด โบว์ยกนาฬิกาดูเวลายังไม่ 9 โมงเช้า เธอมาก่อนเวลา เพ็ญ บอกทางเผด็จให้พาไปยังที่นัด เป็นร้านแกแฟน่ารักๆไม่ใหญ่มากนักของเพื่อนเธอซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับโลตัส แถวๆฝั่งธนซึ่งไม่ไกลบ้านเธอ และเผด็จเท่าใดนัก เบียร์เห็นก็จำได้ นึกว่าที่ไหน พอจอดรถ เบียร์ก็พาเด็กๆลงมา เผด็จ ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน

   โบว์ นั่งรอจนปวดฉี่ เพราะทานเข้าไปเยอะกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ เบียร์เดินเข้ามาพอดี พอเห็นโบว์ลุก ก็เลยวิ่งเข้าไปหาก่อน

“พี่โบว์” โบว์หันมา

“ไอ้เบียร์ แหมแก กว่าจะมาได้”

“รถติดนิดหน่อยค่ะพี่ขอโทษด้วย แล้วพี่จะไปไหนเนี่ย”

“ไปชิ้งฉ่องไปไหม”

“ตามสบายเลยพี่” แล้วโบว์ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพ็ญพา 2 ทะโมนเข้ามาพอดีคลาดกันนิดเดียว

“อ้าวไหนหละพี่โบว์มารึยัง”

“มาแล้วไปห้องน้ำ เอ้าเด็กๆอยากทานอะไรสั่งได้เลย ที่นี้เค้กอร่อยมาก หรือจะเอาโดนัท”

   เบียร์พาน้องๆไปเลือกขนม สักครูโบว์ก็เดินกลับมา เห็นเด็กๆนั่งทานขนมอยู่ ก็คิดว่าคงใช่เพราะเบียร์นั่งอยู่ด้วย

“มาแล้ว เพ็ญนี่พี่โบว์” เพ็ญยกมือสวัสดี แล้วก็บอกเด็กๆหยุดกินสวัสดีคุณครูในอนาคตก่อน ทั้งสองคนก็ยกมือสวัสดี

“น่ารักทั้งสองคนเลย ชื่ออะไรกันบ้างครับ” โบว์พยายามจะทำให้สองคนเป็นกันเอง จะได้สอนง่ายๆ

“ผมขนมเบื้องครับ” เบื้องแนะนำตัวก่อน

“หนูขนมผิงค่ะ” แล้วผิงก็แนะนำตัวตามมา

“แล้วไหนหละคะ พ่อของเด็ก จะได้คุยรายละเอียดกัน” แล้วก็นั่งลงหันหลังให้กับประตู

“เดี๋ยวก็มาคะ จอดรถแล้วบอกปวดท้อง นั่นมาโน่นแล้ว” โบว์ไม่ได้หันไปเพราะไม่ได้สนใจอะไร

   เผด็จเปิดประตูเข้ามา เพ็ญโบกมือว่าอยู่ทางนี้ เขาก็เดินเข้ามา แล้วมายืนอยู่ข้างหลังโบว์

“มาแล้วค่ะพี่ คุณพ่อของสองคนนี้อยู่ข้างหลังพี่ค่ะ”

   โบว์ค่อยๆหันไป เห็นช่วงขาก่อนแล้วจึงมองขึ้นไป คุ้นๆคางแบบนี้ แต่ยังไม่ชัด มันใกล้เคียงมาก เธอตกใจนิดๆและคิดว่าคนที่เธอเห็นคือใคร ต้องไม่ใช่แฟนตัวเอง แล้วเธอก็ยืนขึ้นมา เพื่อขอเห็นหน้าชัดๆเท่านั้นแหละ เธอพูดในใจ “ป๊า”  

“สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก ครับคุณครู” โบว์ช๊อก เป็นลมหมดสติทันที เมื่อรู้ว่า คนที่เห็นยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือแฟนตัวเอง

   เผด็จ อยู่ตรงนั้น เอาแขนซ้ายรับโบว์ไว้ทัน ก่อนที่เธอจะล้มลงไปหัวฝาดพื้น

“พี่โบว์” เบียร์ ตะโกนออกมา

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 15 .. “ น่ารักน่าชัง ”

ตอนที่ 14 .. “ ยินดีที่ได้รู้จัก ”

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.