4. สยบฉันทเสน่หา (จันทราเสี้ยว)

กรุราชันย์

-A A +A

4. สยบฉันทเสน่หา (จันทราเสี้ยว)

 

พลังฉันทเสน่หาตรึงใจให้กระวนกระวาย

--------------------------------------------------------------------

 

ครั้นจันทรปภาได้ยินอนงค์ปริศนาผู้นี้เอ่ยขึ้น ทั้งยังชี้ไปที่รูปสลักบนฝาผนัง เขาสะดุ้งตกใจตาค้าง แววตาสีเขียวคล้ำจ้องตาเธอเขม็ง

“อันใด...เจ้าจึงเสไป... นั่นเจ้าลุงและเจ้าป้าของข้า...ฮะ!!!” มานพฉกรรจ์ตนนี้ตะคอกดังแสบแก้วหูราวโกรธเธอมานับพันปี

 

ยังไม่ทันที่บัวระวงจะระวังตัว เขากระชากร่างบอบบางไร้อาภรณ์ส่วนบนเข้าไปนัวเนียร่างหนาอกแน่น แล้วจู่โจมจุมพิตไปทั่วร่างบางสั่นระริก เธอเริ่มระทวยอยู่ในอ้อมอกหนาดั่งเกราะ ความรุนแรงแต่แรกเริ่มผ่อนลงกลายเป็นความพิศวาสรุกเร้า ใจของหญิงสาวเต้นรัวดังเป็นจังหวะ...ไปตามเสียงหัวใจเต้นรัวของเขาเช่นกัน

 

 

การคลอเคลียเริ่มละมุนคืบคลานเคล้าคลึง ค่อยๆ ดำเนินไปทั่วร่างเธออย่างอ้อยอิ่งเสียงครางช่วงแรกดังแทรกรุนแรง ครั้นโลมเล้าเธอไปชั่วครู่ เขาจึงลดเสียงนุ่มลงกระเส่าเล็กน้อย สร้างอารมณ์ให้เธอรู้สึกสยิวขนลุก จากที่ร้องตอบโต้จึงเบาบางลงไปเรื่อยๆ

 

“อย่า...อย่า...อย่า...นะ นะ” เสียงของบัวระวงแหบแห้ง ทั้งไร้เรี่ยวแรงขัดขืน

 

ช่วงเช้าเป็นเวลาเสพสุขของเหล่านาคราชเพื่อความอิ่มเอม เป็นทิพยสุขหนึ่งของโอปาติกะเหล่านี้ในดินแดนบาดาลอันลี้ลับ

 

จันทรปภากำลังวางแผนในใจ จะร่วมเสพสุขกับนางเพื่อดึงพิษละมุนในตัวออกมาให้หมดตามคำสั่ง แม้ว่าจะล่วงเลยเวลาอันแสนวิเศษนั้นมาแล้ว

 

ยามรุ่งอรุณสุริยากำลังทอแสงจะทำให้อคิระแสนกัปของเขาสำแดงฤทธิ์ได้รุนแรงกว่ายามจันทราอับแสง เขาไม่แจ้งชัดในคำสั่งของแม่เจ้านิลตวงทำให้เกิดการผิดพลาดเสียพิธี มนุษย์กับโอปาติกะเช่นเขาจะเสพสังวาสกันอย่างไร

 

‘เจ้าลุงและเจ้าป้า ไม่ได้อยู่แล้ว ข้าคงมิอาจรู้แจ้งว่า จะกระทำเยี่ยงใดกับนาง’ เขานึกทดท้ออยู่ในอก

 

หอสังวาสนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพญานาคาได้กระทำพิธีสังวาสมาแต่โบราณ จันทรปภาคิดว่าทั้งสองยังสามารถเสพสังวาสต่างมิติร่วมกันได้ นั่นต้องเป็นบทอัศจรรย์ที่แตกต่าง เจ้าป้าเคยจุติเป็นพญานาคินีราชธิดาแห่งทิพยานคราก่อนจะดับสูญ เจ้าลุงต้องติดตามหาดวงจิตอย่างยาวนาน จนพบว่าท่านได้ไปจุติอยู่บนมนุสสภูมิ การสังวาสดั่งภาพสลักบนผนังนี้มีที่มาเพราะเหตุการณ์นั้น

 

นางปริศนาผู้นี้คือใคร เหตุที่ถูกพามาที่นี่ ช่างผิดแผกจากเจ้าป้าของเขา

 

แม้ขณะนี้เขาจะพะวงเพียงใด แต่ด้วยอารมณ์รัญจวนร่วมกับเธอผู้นี้ปลุกเร้าร่างของเขาให้ปั่นป่วนสั่นสะเทือน ร่างกายกำยำกระตุกเต้นไปทั่วทุกอณู แรงสะเทือนกระเพื่อมขึ้นลงทำให้สาวน้อยพอรับรู้อยู่บ้าง แต่น้ำหนักของเขาหนักมากทับร่างบอบบางจนแทบมิดบนตั่งสังวาส เธอหายใจระทวยเบาเป็นจังหวะเข้าออกตามแรงสะเทือนจากตัวเขา

 

“อืม...อืม... จิตข้ากระสัน...หลงเจ้าเยี่ยงนี้ ใคร่สังวาสกับเจ้าล่วงถึงราตรี” เขาพึมพำพะเน้าพะนอดื่มด่ำจมอยู่เนิ่นนาน หลงลืมภารกิจการดึงพละจากกลางใจของเธอผู้นี้ไปเสียสิ้น

กลิ่นของมนุสสาหอมฟุ้งขจายทั่วหอ เนื้อนวลใยเย้ายวนองค์ราชันย์จนใจแทบขาด เขาไม่เคยเริงสวาทกับมนุษย์มาก่อน อาการมัวเมาหลงใหลกับเธอผู้นี้แสนหวานเร้าใจเหลือเกิน

 

สมองของบัวระวงเหมือนถูกสั่งให้เคลิบเคลิ้มดั่งเป็นทาสรัก เธอหลงเพลิดเพลินไปหนึ่งชั่วยามเทียบเวลาได้ถึงหนึ่งวันในมิติของนาคา

 

สาวน้อยต้องมนต์สะกดบท อุษาสวาท เธอเคลิ้มสุขร่วมไปกับความกำหนัดของเขาโดยมิได้ขัดขืนแต่อย่างใด

 

จันทรปภามิอาจทำอะไรกับเธอได้นอกจากคลอเคลียเคล้าคลอไปทั่วร่าง การเสพสังวาสจึงมิได้บังเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ องค์ราชันย์ของนาคาธานีแห่งนี้เริ่มสิ้นหวัง เขามิอาจเสพสมเยี่ยงนาคาพึงกระทำต่อนาคีได้

 

เวลาล่วงเลยเข้าสู่ยามหนึ่ง อาการเหน็ดเหนื่อยของหญิงสาวที่ถูกเขาทับร่างเธอทั้งวัน ทำให้เธอหลับใหลจากยามบ่ายจนถึงย่ำค่ำ ส่วนบุรุษนาคาที่นอนทับบนร่างเธอได้เปลี่ยนไปหลับในท่ากึ่งเอนนอนอยู่เคียงข้าง

 

“ตายจริง...ทำอะไรฉันเนี่ย” บัวระวงรู้สึกตัว มีสติตอนยามสาม เธอลุกจากเตียงผลักหัวของบุรุษนาคาที่อยู่บนไหล่ด้านขวา เขายังไม่รู้สึกตัวแม้ว่าจะถูกเธอผลักร่างของเขาออกไปอย่างแรง

 

“แย่จริง นายต้องทำอะไรให้ฉันเสียหาย” เธอมองใบหน้าคมสัน จมูกโด่ง ดวงตาสวยได้รูป ปากกระจับหนาดูน่าชม

บัวระวงเริ่มหวั่นไหวไปกับรูปหน้าของเขา มองร่างกำยำเปลือยส่วนบนและท่อนล่างมีผ้าสีขาวบางๆ พันไว้หลุดร่วงเกือบเห็นอวัยวะส่วนสำคัญของเขา เธอนึกภาพด้วยสายตาประมาณขนาดของมัน สัดส่วนน่าจะเหมาะสมกับร่างกำยำของเขา

 

“อุ๊ย...แย่แล้ว!!!” สาวน้อยมองส่วนล่างของเธอ ผ้านุ่งที่สวมอยู่หลุดลงไปกองอยู่ที่พื้น เหลือแต่กางเกงในที่สวมรัดหน้าท้อง

 

เธอหันกลับไปดูเขาอีกครั้ง หวาดผวามือสั่น อารามตกใจทำอะไรไม่ถูก

“ว้าย...” เธอร้องเสียงดังลั่น

“อันใดจึงร้องโร่ดังทั่วหอ เจ้าเจ็บกระนั้นฤา” ร่างนาคราชที่เธอหันไปเห็นเพียงแว่บเดียว กลายเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา คนที่กำลังวุ่นวายกับเธอทั้งวัน

 

“ร่างนายเป็นนาคราช...”

เขาจ้องหน้าเธอ กำลังเข้ากอดรัดเธออีกครั้ง ผ้าพันไว้ส่วนล่างบางๆ หลุดร่วงไปในบัดดล

“ว้าย...นี่นายทำอะไรน่ะ ปล่อยภาพนู้ดต่อหน้าฉันรึ” สาวน้อยส่งเสียงแหวใส่ทันที

“พญานาคาเยี่ยงข้า...มิอาจทำอันใดกับเจ้าได้ ข้าอดสูยิ่งนัก” เขาพูดอย่างทดท้อ อยากได้เธอคนนี้ไว้เคียงคู่บนบัลลังก์เช่นเจ้าลุงของเขา

“จริงรึ...แล้วทำไมฉันจึงเปลือยอยู่กับนาย ตอนฉันตื่นขึ้นมา!!!” เธอพูดอายๆ

“ข้าพะเน้าพะนอ เจ้ายังมิได้เป็นของข้า” เขามองหน้าหญิงสาวปริศนาเบื้องหน้าที่ทำหน้าราวกับกลัวเขาที่สุด

“นายจะอยากได้อะไรจากตัวฉันหรือเปล่า ฉันจึงถูกนายอุ้มมาที่นี่ แค่มาเพื่อเสพสุขคงไม่ใช่หรอก จริงไหม” เธอเริ่มเป็นมิตร มองเขาอย่างสงสาร

“เจ้าทำข้าพะวง...แม่เจ้าจะโกรธา ดั่งไฟโลกันต์เผาร่างข้า” เสียงเขาประหนึ่งยอมแพ้

“ฉันจะช่วยนายเอง...”

“เจ้ามีฤทธาดอกรึ... จะต่อกรแม่เจ้าได้กระนั้นฤา” สีหน้าของเขาหนักใจ

“ข้าใคร่สังวาสกับเจ้า”

“นายนี่พิลึก... หื่นได้ทั้งวี่ทั้งวัน” เธอถอยห่างทันทีเมื่อเห็นเขาลุกจากตั่งสังวาส เดินเข้ามาหาเธอ

“ฉันรู้วิธี...แต่ไม่บอก ไม่งั้นฉันต้องแย่แน่ๆ”

“ข้ามิอาจให้เสียพิธี” เขาเริ่มกังวลกับเหตุการณ์ต่อมา

 

จันทรปภาเริ่มใช้ญาณอ่านใจเธอ ... แล้วในที่สุดเขาจึงใช้ไสยเวทเปิดใจ เข้าไปล้วงข้อมูลที่ต้องการ

“ข้ารู้แจ้งแล้ว...ภาพสลักของเจ้าลุงกับเจ้าป้า คือกรรมบถนาคากับมนุสสา” เขาหัวเราะเสียงดัง

 

บุรุษนาคาเสกคาถาดึงร่างเธอให้เข้ามาอยู่ในอ้อมอกแล้วกลายร่างเป็นพญานาคาเกล็ดสีเขียวคล้ำออกดำปนเหลืองประกายทอง กำลังทำท่าอุ้มเสพสม

 

               ครานั้นองค์ราชันกระสันสุด                   กระหวัดมุดเข้าโพรงพิสุทธิ์ใส

               ร่างบอบบางนางเธอโอนเอนไป             แท่งทะลวงเข้าสุดฉุดอารมณ์

               เสียงกรีดร้องดังลั่นสะท้านทั่ว                ใจเต้นรัวกังสดาลลั่นยามสาม

               สุดท่วงท่าทรวดทรงสง่างาม                  มิครั่นคร้ามต่อผอง...ภยันตราย

               แท่งทะลวงจึ่งถึงซึ่งกลางจิต                  เข้าพิชิตเธอแล้วอย่างสุขสม

               พละสวาทสีชมพูเร้าอารมณ์                   ได้เชยชมเธอแล้ว...อย่างอาลัย

               มิอาจทิ้งเธอไป...ผลักไสส่ง                   ด้วยลุ่มหลงน่าละมุนสุดโลมไล้

               เนื้อนวลผ่องพิสุทธิ์เป็นยองใย               โอ้ไฉไลใคร่เสพสม...เสมอวาร

 

หญิงสาวสลบไปขณะองค์ราชันย์เสพสังวาสในท่าอุ้มสม ท่าเดียวกับองค์อรินทร์พญานาคราชกับพระนางทิพปภา ที่ปรากฏอยู่บนผนังสีทองประกายเงาวาว

 

พลังฉันทเสน่หาของอนงค์ปริศนาผู้นี้ตรึงใจให้กระวนกระวาย เขาจำต้องไปถ่ายทอดพลังดวงชมพูนี้แก่แม่เจ้านิลตวง

 

“ข้าจำต้องหักเอาพละนางผู้นี้... อคิระแสนกัปข้าจักสูญไปกึ่งแสนกัป...เพื่อแม่เจ้า”

“จิตนางดับสูญ...ข้าจะมีใจอยู่ดอกฤา” จันทรปภาพึมพำ

 

องค์ราชันย์ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวอยู่ในใจ

‘........!!!’

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.