บทที่ 240 ความรู้สึกของเมฆินทร์
ผมนอนช็อกยิ่งเสียกว่าเจอผีหลังจากได้ยินประโยคแทงใจดำประโยคนั้น เธอมีลูกกับมัน นับจากนี้ผมจะไม่มีหวังในตัวเธออีกแล้วเหรอ ผมที่แทบกระอักเลือดกับความจริงที่ได้รับรู้
แต่แล้วความรู้สึกเคียดแค้นก็ประเดประดังเขามา ผมจะมานอนยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้ ผมจะเป็นไอ้ขี้แพ้ไม่ได้!! เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็เลือกที่จะเอาความรู้สึกเหล่านั้นให้มาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองมีพลังที่จะลุกขึ้นมา เพื่อพาร่างตัวเองให้หนีไปจากสถานการณ์ที่กำลังเสียเปรียบอยู่ ณ ตอนนี้ก่อน และจะกลับมาเพื่อล้างแค้น...!!
และในจังหวะที่ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะหนีออกไปก่อน เพราะสถานการณ์ตอนนี้ผมตกเป็นรองอย่างมาก แต่เมื่อผมลุกขึ้นมาแล้วได้พบกับภาพบาดตาบาดใจ ภาพตรงหน้านั้นมันถึงกับทำให้ผมเสียสติเลือกที่จะทำตามสัญชาตญาณความต้องการที่อยู่ภายในส่วนลึกของตัวเองทันที
ภาพที่เธอโอบประคองใบหน้าอันน่าหมั่นไส้ของไอ้เซบาสเธีย คำพูดหวาน ๆ ที่ฟังยังไงก็รู้ว่าเธอรักมันหมดใจ และนอกจากนั้นมันยังทำให้ผมได้รู้ความจริงถึงเรื่องระหว่างเธอกับไอ้มาคินทร์ว่ามันเป็นเรื่องที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อโกหกผม...หน็อย...กล้ามากนะ กล้าที่จะหลอกผมได้...แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันทำให้ผมสบายใจที่ได้รู้ว่าผมไม่ได้กินของต่อจากไอ้มาคินทร์มัน...!!
ผมพยุงตัวขึ้นมา พร้อมกับเสียงของเธอที่ยังพูดเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงที่ฟังดูอบอุ่นบอกกับคนที่เธอรัก น้ำเสียงเหล่านั้นมันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกอิจฉา ความคิดที่ว่าทำไมต้องเป็นมันที่ได้ครอบครองผู้หญิงอย่างเธอ ทำไมไม่เป็นผมที่ได้เจอและครอบครองเธอก่อน ทำไมไม่เป็นผม...ที่ควรได้รับความรักจากผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเปลี่ยนแปลงไป...
ความต้องการในส่วนลึกของหัวใจ ทำให้ผมออกอาการไปอย่างอัตโนมัติ ผมที่ไม่อยากจะฟังคำห่วงหาอาทรที่เธอมีกับชายอันเป็นที่รักของเธออีกต่อไปแล้ว มันจึงทำให้ผมเลือกที่จะพาเธอไปด้วยกัน ผมจะไม่ยอมที่หนีรอดออกไปแค่เพียงลำพังแน่นอน และไม่ว่าใครก็ไม่ควรที่จะได้เธอไปครอบครองนอกจากผมเท่านั้น...!!
หลังจากนั้นเหตุการณ์ชุลมุนก็เกิดขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทของไอ้เซบาสเธียเข้ามา ผมที่เกือบจะเสียท่า แต่ทว่า...โชคก็ยังเลือกที่จะเข้าข้างผม (สงสัยคงเป็นบุพเพสันนิวาส ที่จะทำให้ผมได้ครอบครองเธอ) เพราะสถานการณ์ทุกอย่างนั้นช่างเป็นใจให้ผมไปเสียหมด และมันก็ทำให้ผมได้พาเธอมายังเซฟเฮ้าส์ได้อย่างปลอดภัย...
ระหว่างทางที่นั่งรถมายังที่นี่ ผมที่ไม่อาจจะละสายตาไปจากเธอได้เลย เพราะทีท่าของเธอที่ดูจะหวาดกลัวผมในตอนแรก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกเจ็บที่หัวใจเหลือเกิน แต่ผมก็คือผม...นิสัยปากหมา...พูดจาดี ๆ ไม่เป็น มันทำให้ผมพูดจาไม่ดีกับเธอออกไป และยังทำให้เธอร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวอีกด้วย
แต่จะโทษที่ผมเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ มันเป็นเพราะผมเองก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใคร มันเป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
หลังจากที่ผมพาเธอนั่งรถมาจนเกือบเช้าของอีกวัน เธอที่ยังคงหลับสนิทดูไม่ได้สติอยู่ ดวงตาที่หลับพริ้ม พร้อมกับริมฝีปากอันอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ ใบหน้านวลเนียนที่น่ารักใสซื่อบริสุทธิ์ดวงนั้น มันทำให้ผมอดเอ็นดูเธอไม่ได้
ผมอุ้มเธอด้วยอ้อมกอดของตัวเอง กลิ่นกายอันหอมหวานของเธอที่ลอยเข้ามาปะทะจมูก ยิ่งทำให้เลือดลมในกายหนุ่มของผมพลุ่งพล่าน ผมมองเธอด้วยไฟปรารถนาที่ปะทุขึ้น ก่อนที่ตัวผมจะพาเธอเดินตรงไปยังห้องหอรอรักของเรา...
ผมนั่งเฝ้าดูอาการของเธออยู่สักพัก อีกทั้งยังนั่งมองใบหน้าสวยหวานของเธออย่างไม่รู้สึกเบื่อ จนกระทั่งเธอเริ่มจะขยับตัว นั่นเลยทำให้ผมได้รู้ว่าอีกในไม่ช้าเธอจะตื่นจากการพักผ่อน
และไม่รู้ทำไมเมื่อผมได้เห็นเธอที่กำลังจะตื่นแบบนั้น ปฏิกิริยาแรกของผมที่แสดงออกกลับเป็นรีบกุลีกุจอลุกออกไปรอนอกห้องทันที เพราะจู่ ๆ ผมก็รู้สึกอายขึ้นมาถ้าหากเธอตื่นมาแล้วเห็นว่าผมนั่งมองหน้าเธออยู่แบบนี้
ผมที่เมื่อออกมารอนอกห้องอยู่สักพัก พร้อมกับยืนแอบฟังอยู่ที่นอกประตู และเมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอได้ตื่นจากการพักผ่อนแล้ว ผมก็รีบปรับสีหน้าและอารมณ์ตัวเองให้กลับดุดันเช่นเดิม ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที
‘ตื่นแล้วหรอ หลับจนนึกว่าตาย’
(ปากหนอปาก พูดดี ๆ กับเขาไม่ได้หรือไงว่ะไม่เมฆเอ๊ย...) ผมด่าตัวเองในใจ
ผมพูดไปตามนิสัยดิบเถื่อนของตัวเอง จนทำให้เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แต่ผมก็กลบเกลื่อนทำเป็นไม่เห็นสายตาคู่นั้น แล้วถามเธอต่อไป
‘หิวหรือยังกินอะไรหน่อยไหม...’ ผมพูดพร้อมกับเดินลงไปนั่งข้างกายเธอ แต่แล้วทีท่าของเธอที่ขยับร่นหนีผมด้วยความรังเกียจก็ทำให้ผมรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันที
‘หึ...รังเกียจกูขนาดนี้เลยหรอ เดี๋ยวคืนนี้กูจะทำให้มึงร้องครางเรียกชื่อกูไม่หยุดเลย’
(อ่ะ...เอาอีกแล้วปากมึงนี่นะไอ้เมฆ เห้ออออ ชาตินี้เขาคงจะรักมึงหรอก ไอ้เวร...เอ๊ยยยย) ผมอดไม่ได้ที่จะด่าตัวเองอีกครั้งในใจ หลังจากหลุดปากพูดจาไม่ดีกับเธอ
และถึงแม้ว่าการแสดงออกของเธอที่มีต่อผมมันจะชัดเจนว่าเธอรังเกียจผม และมันก็ทำให้ผมโกรธจนต้องกำมือแน่นมากแค่ไหน แต่ทว่า...ความรู้สึกก้นบึ้งของหัวใจกลับรู้สึกไม่อยากจะทำร้ายเธอ ไม่อยากจะเห็นน้ำตาของเธอ และไม่อยากที่จะทำให้เธอเจ็บอีกต่อไป ทั้งที่โดยปกติแล้วผมไม่เคยแคร์ผู้หญิงคนไหนแบบนี้ และถ้ามีผู้หญิงคนไหนมาทำท่าทางใส่ผมแบบนี้ จุดจบเดียวของพวกมันคือโดนผมขย่มจนช้ำในตาย...
ผมที่รู้ตัวดีว่ากำลังจะแสดงด้านมืดใส่เธอ จึงเลือกที่จะเตรียมตัวลุกหนีเดินออกไปจากห้อง เพื่อออกไประงับสติอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติก่อน
และก่อนที่ผมจะทันได้เดินก้าวออกไป...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 40
แสดงความคิดเห็น