บทที่ 63: อัญเชิญหุ่นต่อสู้ระดับสูง
การปะทะทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่ว
ถึงกระนั้นร่างของหลินหยวนกลับไม่ขยับไปไหนเลยสักนิด กลายเป็นแขนขวาที่แข็งแกร่งของหูว่านซานที่ระเบิดออกพร้อมกลับเลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นอยู่กลางอากาศ
แรงกระแทกที่รุนแรงทำให้ไททันตัวยักษ์ใหญ่ต้องถอยหลังไปหลายก้าว
“เป็นไปได้ยังไง?!” หูว่านซานตะโกนก้องด้วยความตกใจในขณะที่ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะต่อยแขนเขาจนแหลกเป็นชิ้น ๆ
นี่ฉันอยู่ในร่างไททันเชียวนะโว้ย!!
“อ้อ ฉันลืมบอกแกไปอย่างหนึ่ง” หลินหยวนเอ่ยเสียงเย็น “ฉันจำไม่ได้แล้วว่าฉันฆ่าไททันระดับ 5 ไปกี่ตัวแล้ว แต่มันก็น่าจะเยอะมากถึงจำไม่ได้แบบนี้”
ทันใดนั้นเขาก็ปลดปล่อยพลังฉงถงระดับสูง ไม่นานม่านพลังสีแดงทองที่เย็นยะเยือกก็กระจายออกไปทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวสั่น
หนี!
หูว่านซานไม่ลังเลเลยที่จะหันหลังวิ่งหนีไป
ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าผู้ชายผมดำที่ดูไม่โดดเด่นคนนี้ทรงพลังมากแค่ไหน
ไอ้หมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดชัด ๆ!
ลำพังแค่ตัวเขาเองจะไปสู้กับสัตว์ประหลาดแบบนี้ได้อย่างไร?!
แต่หลินหยวนไม่ยอมปล่อยศัตรูไปง่าย ๆ
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขาก็คิดอยากจะฆ่าหูว่านซานอยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่มีโอกาสก็เท่านั้น ในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นไททัน เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยับยั้งชั่งใจอีก
“เพลิงจักรพรรดิชาดหิรัณย์! ”
หลินหยวนพูดเสียงเย็น ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีแดงทองก็ลุกโชนในดวงตาของเขา
ในพริบตาเพลิงจักรพรรดิชาดหิรัณย์ก็แผดเผาไปทั่วร่างของเป้าหมาย
ความเจ็บปวดรวดร้าวทำให้หูว่านซานในร่างไททันกรีดร้องดังก้องไปทั่วฟ้า ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที ร่างใหญ่โตนั้นก็ถูกเผาไหม้จนเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านถูกพัดลอยไปตามลม แม้แต่ชิ้นส่วนของร่างกายก็ไม่มีเหลือให้เห็น
หลังจากที่เหล่าไททันซึ่งอยู่รอบ ๆ ได้เห็นความแข็งแกร่งของหลินหยวน พวกเขาก็ชะงักฝีเท้าของตัวเอง
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครคิดอยากจะเอาชีวิตมาทิ้งง่าย ๆ แบบนี้
พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไอ้เด็กผมดำคนนี้อย่างแน่นอน
“ยังมีอีกเยอะเลยแฮะ…” หลินหยวนมองไปรอบตัวพลางพึมพำกับตัวเอง
สำหรับเขาแล้ว ความแตกต่างทางด้านจำนวนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร
วินาทีต่อมา เด็กหนุ่มเพ่งสมาธิใช้พลังจิตของตัวเอง แล้วหุ่นต่อสู้ 7 ตัวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
หุ่นต่อสู้พวกนี้มีอักขระเวทมนตร์ที่ซับซ้อนสลักอยู่ทั่ว มันเป็นหุ่นต่อสู้ระดับสูงที่เขาได้รับเป็นรางวัลลงชื่อเข้าใช้ครั้งก่อน โดยที่หุ่นแต่ละตัวมีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับผู้มีพลังพิเศษแรงก์ S และยังเลียนแบบสกิลของโฮสต์ได้อีกด้วย
หลังจากที่หลินหยวนเรียกหุ่นต่อสู้พวกนี้ออกมา พวกมันก็เข้าสู่โหมดเตรียมพร้อมต่อสู้และคัดลอกสกิลอันใดอันหนึ่งของเขามาเรียบร้อยแล้ว
หุ่นที่คัดลอกสกิลสายฟ้าจะมีสายฟ้าแล่นอยู่รอบตัว!
หุ่นที่คัดลอกสกิลน้ำแข็งจะมีไอเย็นยะเยือกแผ่ออกมา!
หุ่นที่คัดลอกสกิลอันเดดจะมีไอแห่งความตายล้อมรอบ!
หุ่นที่คัดลอกสกิลรักษาจะมีความสามารถในการรักษาตัวเองที่ยอดเยี่ยม!
ที่สำคัญกว่านั้น หุ่นพวกนี้มีพลังต่อสู้แรงก์ S
พูดง่าย ๆ ก็คือหุ่นต่อสู้ระดับสูงทุกตัวนั้นมีพลังเทียบเท่ากับไททันภัยพิบัติ ไททันที่แปลงร่างมาจากมนุษย์เหล่านี้ไม่มีทางสู้หุ่นต่อสู้ของเขาได้อย่างแน่นอน!
“ฆ่าพวกมันให้หมด!” หลินหยวนที่มีสีหน้าเย็นชาเอ่ยปากออกคำสั่งทันที
วินาทีต่อมา หุ่นต่อสู้ทั้งหมดก็พุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วเต็มกำลังพิกัด โดยที่แต่ละตัวมีเป้าหมายแตกต่างกันไป
ไม่นานสถานที่แห่งนี้ก็เปลี่ยนกลายเป็นทุ่งสังหารไปเสียแล้ว!
“อย่านะ!!”
“ฉันไม่อยากเป็นไททันสักหน่อย ฉันโดนบังคับ!!”
“ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย… ฉันไม่ได้อยากเข้าร่วมลัทธิไททัน!!”
บนสนามรบมีเสียงของไททันตะโกนร้องขอชีวิตดังขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงเสียงคร่ำครวญร้องขอความเมตตา บางตัวถึงขั้นร้องขอความช่วยเหลือจากโม่จิ่วโหยวโดยหวังว่าอีกฝ่ายจะมาช่วยชีวิตพวกตน
ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ มัจจุราชหน้าหยกไม่มีท่าทีจะลงมือเลย
เขาเอาแต่ยืนมองภาพที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา บางครั้งเขายกยิ้มมุมปากมองภาพไททันถูกสังหารอย่างไม่สะทกสะท้าน
ไม่นานไททันตัวแล้วตัวเล่าก็ตายด้วยน้ำมือของหุ่นต่อสู้
หุ่นต่อสู้พวกนั้นเปรียบเสมือนเครื่องจักรสังหารที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมาก มันเป็นเพชฌฆาตที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ในเวลาไม่ถึง 3 นาที บนสนามรบก็เหลือเพียงซากศพของไททัน
เมื่อตกเป็นเป้าหมายของหุ่นต่อสู้แล้ว ไม่มีไททันตัวไหนหลบหนีไปได้เลยแม้แต่ตัวเดียว
จนกระทั่งตอนนี้ หลินหยวนไม่ได้ขยับตัวเลยสักครั้ง
นั่นเป็นเพราะพลังของไททันพวกนั้นไม่ได้สูงตั้งแต่แรก ถึงพวกมันจะแปลงร่างกลายเป็นไททันแล้วและมีพลังเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายเท่า แต่ในสายตาของเด็กหนุ่ม พวกมันก็ยังอ่อนแอเกินไป การที่พวกมันทนรับการโจมตีจากเขาเพียงครั้งเดียวก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว
หลังจากที่หุ่นต่อสู้ระดับสูงทำตามคำสั่งของหลินหยวนสำเร็จลุล่วง พวกมันก็กลับมายืนรอรับคำสั่งอยู่เบื้องหลังเขาอีกครั้ง
แปะ ๆๆ!
จู่ ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น
หลินหยวนจึงหันไปทางต้นเสียงและพบว่าคนที่ปรบมือก็คือโม่จิ่วโหยว
“เป็นการต่อสู้ที่วิเศษมากจริง ๆ ไม่ธรรมดาเลยนะ แล้วตอนนี้… ก็เหลือแค่แกกับฉันแล้ว” มัจจุราชหน้าหยกกล่าวพร้อมกับยิ้มกริ่ม “ฉันต้องยอมรับเลยว่าแกเป็นศัตรูที่สมน้ำสมเนื้อกับฉันมากจริง ๆ ถ้าฉันเดาไม่ผิด แกคงจะสงสัยฉันตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?”
“ใช่” เด็กหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ “แต่ฉันไม่คิดว่าแกจะเป็นคนของลัทธิไททัน แกวางแผนจะเปลี่ยนคนพวกนี้ให้กลายเป็นไททันตั้งแต่แรกแล้วงั้นเหรอ?”
“แผน? ล้อกันเล่นหรือไง” โม่จิ่วโหยวหัวเราะ “ทำไมแกถึงคิดว่าฉันจะวางแผนแย่ ๆ แบบนี้กัน? การเปลี่ยนขยะพวกนี้ให้กลายเป็นไททันเป็นเพียงความคิดชั่ววูบเท่านั้น ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ฉันแค่เอาขยะมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์เท่านั้นแหละ”
“เสียดายจริง ๆ ที่ขยะพวกนี้มันอ่อนแอเกินไป พวกมันไม่มีคุณสมบัติพอให้ฉันใช้งานด้วยซ้ำ ตอนแรกฉันก็แค่คิดว่าอย่างน้อยพวกมันน่าจะสร้างปัญหาอะไรให้แกได้บ้าง”
พอพูดถึงเรื่องนี้ชายชุดดำก็เปลี่ยนใจทันที เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวต่อว่า “ขอยอมรับตามตรงเลยว่าแกแข็งแกร่งมาก ถ้าแกยอมเปลี่ยนเป็นไททัน แกจะยิ่งแข็งแกร่งมากกว่าตอนนี้ซะอีก แกก็เห็นกับตาแล้วนี่ คนที่เปลี่ยนเป็นไททันก่อนหน้านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีเยี่ยม คนที่แข็งแกร่งอย่างแกไม่ควรถูกร่างมนุษย์อ่อนแอผูกมัดเอาไว้”
“ถ้าแกยอมร่วมมือกับฉัน หนทางหลังจากนี้จะต้องราบรื่นมาก หลังจากที่เผ่าไททันทำลายมนุษย์จนสิ้นซากแล้ว แกก็จะกลายเป็นฮีโร่ของเผ่าไททัน และแกก็จะได้ดื่มด่ำกับความรุ่งโรจน์บนโลกใบนี้ชั่วนิรันดร์กาล”
“เฮอะ ดื่มด่ำกับความรุ่งโรจน์ชั่วนิรันดร์งั้นเหรอ?” หลินหยวนแค่นเสียงเยาะเย้ย “ทำไม? ไม่มีลูกกะจ๊อกให้ใช้งานแล้วเหรอ?”
“แกคิดว่าแค่โยนเศษกระดูกเหลือ ๆ มาเป็นรางวัลแล้วทุกคนจะต้องกระดิกหางให้แกหรือไง?”
“คนอย่างแกไม่สมควรพูดถึงความรุ่งโรจน์ด้วยซ้ำ” เด็กหนุ่มจิกกัดด้วยคำพูด แต่โม่จิ่วโหยวดูเหมือนไม่โกรธเลยสักนิด บนใบหน้าของอีกฝ่ายยังคงมีรอยยิ้มประดับเช่นเคย
แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสายตาของเขาฉายแววผิดหวังอยู่เล็กน้อย
“ไม่คิดเลยว่าวิสัยทัศน์ของแกจะคับแคบแบบนี้ นั่นสินะ… พวกมนุษย์สายตาสั้นอย่างแกมันมีอยู่ล้นโลก มนุษย์เลยต้องพินาศแบบนี้ไง!”
“แต่ช่วยมองสถานการณ์ตรงหน้าให้ดีหน่อยเถอะว่าอนาคตของมวลมนุษยชาติมันมืดมนมากแค่ไหน มีเพียงเดินตามผู้ที่มีอำนาจและแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะทำให้เราสามารถสร้างยุคสมัยใหม่ขึ้นมาได้!”
ทันทีที่โม่จิ่วโหยวพูดจบ ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป
พลังมัจจุราชสีม่วงเข้มจำนวนมหาศาลพลุ่งพล่านออกมาจากตัวเขา ในเวลาเดียวกัน ร่างกายก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าโม่จิ่วโหยวเองก็กำลังเข้าสู่ภาวะการแปลงร่างเป็นไททันเช่นกัน!!
10 เมตร… 20 เมตร… 30 เมตร… 50 เมตร…
เพียงแค่ 10 วินาที ร่างของมัจจุราชหน้าหยกก็ขยายใหญ่ทะลุไปถึง 50 เมตรแล้ว
ตามปกติความแข็งแกร่งของไททันนั้นเชื่อมโยงกับความสูงของร่างกาย แล้วมนุษย์ที่แปลงร่างเป็นไททันส่วนใหญ่พลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นจากตอนที่เป็นมนุษย์แบบเท่าทวีคูณ
ก่อนที่โม่จิ่วโหยวจะเปลี่ยนเป็นไททัน เขาเองก็เป็นผู้มีพลังพิเศษแรงก์ S อยู่แล้ว ดังนั้นตัวเขาที่อยู่ในร่างไททันจึงมีพลังเทียบเท่ากับไททันมหาวิบัติ
หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นไททันเสร็จสมบูรณ์ เขาก็ก้มหัวใหญ่โตไม่ต่างจากเทพที่อยู่บนสวรรค์มองมดปลวกอย่างหลินหยวนที่เล็กเท่ากับเม็ดฝุ่น
“ความหมายของการมีอยู่ของเราก็คือการกำจัดมนุษย์โง่เขลาอย่างแก สักวันหนึ่งมนุษย์อย่างแกจะถูกเผ่าไททันของเราบดขยี้ให้สิ้นซาก!”
สิ้นเสียงตะโกน โม่จิ่วโหยวก็ปล่อยหมัดออกไป
ทันใดนั้นหุ่นต่อสู้ระดับสูงที่อยู่ด้านหลังหลินหยวนก็เปิดกลไกป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติ
เพื่อปกป้องเจ้านาย ร่างหุ่นต่อสู้จึงเปลี่ยนเป็นสายฟ้าพุ่งเข้าไปประจันหน้ากับการโจมตีของศัตรู
ตูม!!
หมัดของโม่จิ่วโหยวปะทะเข้าใส่หุ่นต่อสู้ ขณะเดียวกัน พลังสีม่วงเข้มก็หลั่งไหลออกมาราวกับสายน้ำเชี่ยวกราก
เปรี๊ยะ ๆ ตูม!!
บนตัวหุ่นต่อสู้ปรากฏรอยร้าวตรงจุดที่ถูกกระแทก จากนั้นมันก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่แล้วระเบิดแตกเป็นเสี่ยง ๆ กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 113
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น