บทที่ 368 ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์

“ฉันควรจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพวกเขาสองคนดีไหมนะ?” ลู่หยางคิดกับตัวเองภายในใจ ก่อนจะตัดสินใจว่าอย่างน้อยเขาก็ควรจะเตือนฉือมู่กับฉงป้าเอาไว้หน่อย

ถึงยังไงทั้งสองฝ่ายก็เคยช่วยเหลือเขาเอาไว้ในอดีต แม้ในสงครามครั้งที่ผ่านมาทั้งคู่อาจจะแล้งน้ำใจไปบ้างแต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสองคนเอาไว้

เมื่อคิดได้แบบนั้นลู่หยางก็ทำการเชิญฉือมู่กับฉงป้าเข้ามาในพื้นที่พิเศษ

—

อีกด้านหนึ่ง

ฉือมู่กับฉงป้าเห็นประกาศในกระทู้ทางการแล้วและพวกเขาก็กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับสถานการณ์ที่ลู่หยางกำลังพบเจอ

“สมน้ำหน้า! ลู่หยางมันอยากไม่มาเป็นพันธมิตรกับพวกเราดีนัก” ฉงป้ากล่าว

“คราวนี้บลัดบราเธอร์คงจะต้องหยุดพัฒนาไปอีกนาน การลงมือของโซลออฟอีเทอนิตี้ในครั้งนี้คงจะทำให้สมาชิกของบลัดบราเธอร์ลาออกไปเป็นจำนวนมาก” ฉือมู่กล่าว

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยอยู่นั่นเอง พวกเขาก็ได้รับคำเชิญจากลู่หยาง อย่างไรก็ตามทั้งคู่กลับหัวเราะขึ้นมาและกดปฏิเสธไปพร้อม ๆ กัน

“ทีตอนนี้ล่ะอยากจะมาขอความช่วยเหลือ บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่มีเวลาไปคุยด้วยหรอกนะ” ฉงป้ากล่าว

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เป้าหมายใหญ่ของหวังเถิงคงจะเป็นลู่หยางสินะ แบบนี้มันก็ดีพวกเราจะได้มีเวลานั่งรอรับผลประโยชน์” ฉือมู่กล่าว

—

ลู่หยางมองดูคำเชิญที่ถูกปฏิเสธอย่างประหลาดใจ จากนั้นเขาก็ทำได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างจนปัญญา

หลังจากออกมาจากพื้นที่พิเศษเขาก็กลับไปยังสปิริตอะคาเดมี่เพื่อทำการเก็บเลเวลอย่างต่อเนื่อง เพราะสิ่งที่เขาสามารถทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลานี้คือการเพิ่มเลเวลให้มากที่สุด ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กลัวสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นมาเลย เพราะถึงแม้ว่ามันจะมีคนมาหาเรื่องเขาจริง ๆ แต่เขาก็มีวิธีรับมือเตรียมพร้อมเอาไว้อยู่แล้ว

หลังจากกวาดสายตามองดูรอบ ๆ เขาก็ได้พบว่าพวกแมงมุมโบราณยังไม่เกิดใหม่ ลู่หยางจึงหันไปบอกกับพวกฮั่นเฟยว่า

“ทุกคนรออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวฉันจะไปล่อศัตรูมาใหม่”

ชายหนุ่มกระโดดลงจากรูบนเพดานเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทดลองหมายเลข 1 ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้จัดการกับมอนสเตอร์บริเวณทางเดินหน้าห้องทดลองจนหมดแล้ว คราวนี้เขาจึงตัดสินใจเข้าไปในห้องทดลองดูบ้าง

ห้องทดลองของสถาบันมีอยู่ทั้งหมด 22 ห้อง โดยในแต่ละห้องจะมีบอสอยู่ 1 ตัว บอสแต่ละตัวต่างก็ล้วนแล้วแต่มีเลเวล 60 ขึ้นไป และเมื่อพวกมันตายจะมีโอกาส 50% ที่จะดรอปใบเปลี่ยนอาชีพลงมา

ลูกศิษย์ทั้ง 12 คนของฮั่นจงยังไม่ได้รับการเปลี่ยนอาชีพ ลู่หยางจึงอยากจะลองเสี่ยงดวงดูจากที่นี่เพื่อหาใบเปลี่ยนอาชีพไปให้กับน้อง ๆ

สภาพภายนอกของห้องทดลองดูคล้ายกับฝาหม้อ ซึ่งหลังจากที่เขาได้เดินมาที่ประตูเขาก็มองเห็นตั๊กแตนกลายพันธุ์ผ่านกระจกจำนวนนับไม่ถ้วน

ฟี้ส!

จู่ ๆ มันก็มีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มจึงเพ่งมองเข้าไปในห้องทดลองก่อนจะได้พบกับตั๊กแตนกลายพันธุ์ตัวหนึ่งที่มีความสูงกว่าตั๊กแตนกลายพันธุ์ตัวอื่น ๆ

ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์ (บอส)

เลเวล 60

พลังชีวิต 50,000/50,000

ตั๊กแตนเหล็กเป็นอาวุธชีวภาพที่สปิริตอะคาเดมี่ทำการวิจัยขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ของพวกมันในช่วงสงคราม ตั๊กแตนกลายพันธุ์จึงมีแรงกระโดดและแรงฟันที่รุนแรง ขณะที่ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์มันก็คือตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่สวมชุดเกราะเหล็กและมีพลังมากกว่าตั๊กแตนกลายพันธุ์โดยทั่วไป

บอสตัวนี้มีพลังป้องกันทั้งสองด้านสูงกว่า 5,000 หน่วย ซึ่งมันเป็นพลังป้องกันที่การโจมตีธรรมดาแทบจะเจาะไม่เข้าเลย

ลู่หยางเริ่มร่ายคาถาเพื่อทำการเรียกอุกกาบาตสีแดงเพลิงพุ่งลงไปจากช่องหน้าต่าง ก่อนที่อุกกาบาตลูกนั้นจะปะทะเข้ากับตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์อย่างแม่นยำ

ฟี้ส!

ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์มองไปทางลู่หยางด้วยแววตาอันดุร้าย ก่อนที่มันจะส่งเสียงกรีดร้องและนำตั๊กแตนกลายพันธุ์ 1 ใน 3 ของห้องบุกเข้าหาศัตรูที่กล้ามายั่วยุพวกมัน

ระหว่างนั้นร่างของชายหนุ่มก็ได้กลายเป็นแสงสีขาวเทเลพอร์ตถอยหลังออกไป 30 เมตร ต่อมามันก็มีเปลวไฟลุกขึ้นใต้เท้าก่อนที่เขาจะวิ่งกลับไปยังสนามประลองอย่างรวดเร็ว

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์สูงกว่าตั๊กแตนกลายพันธุ์เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น มันจึงไล่ตามความเร็วของลู่หยางไม่ทันและทำได้เพียงแต่วิ่งตามหลังไปอย่างห่าง ๆ

อย่างไรก็ตามตั๊กแตนกลายพันธุ์ก็มีสกิลในการเร่งความเร็วในการเคลื่อนที่ มันจึงใช้สกิลใส่ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์ในทันทีทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของบอสเพิ่มขึ้นมาอีก 100%

หากผู้เล่นทั่วไปได้มาพบเจอสถานการณ์นี้ พวกเขาคงจะตายแน่ ๆ แต่น่าเสียดายที่ลู่หยางได้อัปเกรดหัวใจเทพอสูรจนถึงระดับ 3 ทำให้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดถูกเพิ่มขึ้นมาจนถึงเลเวล 5 ซึ่งมันก็ทำให้ความเร็วของเขาในขณะนี้ยังคงเร็วกว่าบอสอยู่ 5%

เมื่อลู่หยางกระโดดขึ้นไปบนช่องว่างตรงเพดาน พวกตั๊กแตนกลายพันธุ์ก็ยังคงอยู่ห่างออกจากเขาไปประมาณ 30 เมตร

“นั่นมันบอสใช่ไหมพี่!” ฮั่นเฟยถามหลังจากได้เห็นตั๊กแตนตัวหนึ่งที่ถูกหุ้มด้วยชุดเกราะทั้งตัว

ลู่หยางยังไม่มีเวลามานั่งอธิบายในตอนนี้ เพราะตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์มีความสามารถในการกระโดดที่สูงมาก เขาจึงเริ่มท่องคาถาก่อนที่บอสจะมายืนอยู่ใต้เพดานและกำลังจะกระโดด

เฟลมสตอร์ม!

คลื่นพายุสีแดงเพลิงกลืนกินร่างของตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์เข้าไปยังรวดเร็ว

-1

แม้ตัวเลขความเสียหายจะไม่ได้สูงมากนัก แต่การโจมตีนี้ก็สามารถขัดจังหวะการกระโดดของมันได้ และในช่วง 1 วินาทีที่มันติดสถานะสตั๊น ลู่หยางก็ได้ทำการปล่อยสกิลไฟร์วอลล์ลงไปตรงบริเวณใต้ฝ่าเท้าของบอส

กว่าที่ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์จะฟื้นคืนสติ ลู่หยางก็ปาน้ำยาเอคโคออฟเมจิกลงไปแล้วทำให้ความต้านทานเวทมนตร์ของมันถูกลดลงไปอีก 30%

ฟี้ส!

ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์จ้องมองมายังลู่หยางด้วยดวงตาทรงสามเหลี่ยม จากนั้นมันก็มองไปยังพวกฮั่นอิ่งที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ก้าวถอยหลังไปอย่างช้า ๆ

“นั่นมันกำลังจะทำอะไร?” ฮั่นอวี่ถาม

“บอสตัวนี้มีความสามารถมากพอที่จะกระโดดขึ้นมาได้ ฮั่นอวี่ นายเตรียมใช้ธนูสตั๊นยิงสกัดกั้นมันเอาไว้ด้วย” ลู่หยางกล่าว

ฮั่นอวี่รีบเตรียมตัวตามคำแนะนำของลู่หยางอย่างรวดเร็ว และในขณะที่ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์กำลังพุ่งเข้ามาเด็กหนุ่มก็ยิงธนูเข้าใส่หัวของมัน

-1

ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังคงน้อยนิดอยู่เช่นเดิม แต่ธนูดอกนี้ก็ทำให้มันติดสตั๊นอยู่กับที่แล้วมันก็เป็นอีกครั้งที่ฝั่งของลู่หยางสามารถสกัดกั้นการกระโดดของมันได้

“ฮั่นอิ่งเตรียมใช้ชาโดว์วอยด์” ลู่หยางสั่ง

ชาโดว์วอยด์เป็นสกิลที่สามารถสร้างมินิสตั๊นขึ้นมาได้เพียงแค่ 0.1 วินาที แต่การเกิดสถานะผิดปกติเพียงแค่น้อยนิดนี้ มันก็มากเพียงพอที่จะหยุดตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์เอาไว้ได้แล้ว

ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์ไม่ยอมจมอยู่ใต้ทะเลเพลิงด้านล่างง่าย ๆ และมันก็ยังคงเตรียมพุ่งใส่ศัตรูของมันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มันกำลังจะกระโดดขึ้นมา มันก็มีแสงสีดำสว่างวาบพร้อมกับร่างของมันที่สะดุดล้มลงไปกับพื้น

ลู่หยางฉวยโอกาสนี้ท่องคาถาปล่อยเวทมนตร์ออกมาติด ๆ กัน โดยสกิลที่เขาเลือกใช้ออกมานั้นนั่นก็คือสกิลเบลซซิงเบิร์สที่มีผลในการผลักศัตรูออกไป

เอฟเฟกต์การผลักของสกิลเบลซซิงเบิร์สจะมีผลตามความแตกต่างของเลเวลผู้ใช้กับเป้าหมาย ซึ่งถ้าหากว่าเป้าหมายมีเลเวลต่ำกว่าผู้ใช้ เบลซซิงเบิร์สก็จะผลักทำให้อีกฝ่ายกระเด็นถอยหลังไป แต่ถ้าอีกฝ่ายมีเลเวลสูงกว่าผู้ใช้ เบลซซิงเบิร์สจะทำให้เป้าหมายเสียการทรงตัวไปเพียงแค่เล็กน้อย

การจู่โจมของลู่หยางมีการเล็งเป้าหมายเอาไว้อย่างแม่นยำ ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่ตั๊กแตนเหล็กกลายพันธุ์พยายามลุกขึ้นมา มันก็จะถูกเบลซซิงเบิร์สพุ่งเข้าใส่จนล้มลงไปอีกครั้งหนึ่ง

-1,500

-1,500

...

ความเสียหายจากทะเลเพลิงบนพื้นยังคงปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และเนื่องมาจากการโจมตีของลู่หยางทำให้มันไม่สามารถลุกยืนขึ้นมาได้ ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 20 วินาทีบอสตัวนี้ก็ถูกลู่หยางสังหารลง

กองไอเท็มร่วงหล่นลงมาจากบอสอย่างมากมาย ซึ่งท่ามกลางสิ่งของเหล่านั้นนั่นก็คือใบเปลี่ยนอาชีพอุปกรณ์ระดับเงินเลเวล 50 และกล่องสีทองใบเล็ก ๆ อีกใบหนึ่ง

“ใบเปลี่ยนอาชีพ!” ฮั่นเฟยร้องตะโกนอย่างดีใจ

ห่างออกไปไม่ไกลตั๊กแตนกลายพันธุ์ก็กำลังพุ่งเข้ามาแล้ว แต่ลู่หยางไม่อยากจะเสียเวลาในการเก็บของที่อยู่บนพื้น เขาจึงสะบัดมีดเอสเคพเดจเจอร์ภายในมือออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นร่างของลู่หยางก็กลายเป็นแสงสีขาวเทเลพอร์ตลงไปเก็บไอเท็มที่อยู่บนพื้น ซึ่งกว่าที่เขาจะเก็บไอเท็มชิ้นสำคัญมาจนหมด ตั๊กแตนกลายพันธุ์ก็กำลังพุ่งเข้ามาห่างจากเขาไปไม่ถึง 1 เมตร

“พี่ระวัง!” มู่หยูร้องตะโกน

ในขณะที่ตั๊กแตนกลายพันธุ์กำลังจะใช้ขาคู่หน้าเพื่อฟันร่างของลู่หยางอยู่นั่นเอง จู่ ๆ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงสีฟ้าก่อนจะกลับมาปรากฏด้านบนเพดานอีกครั้งหนึ่ง

 

 

---

คนลุ้นก็ใจหายใจคว่ำ