บทที่ 229 หลอกให้ตายใจ
ชายชั่วหยุดมือที่กำลังจาบจ้วงเรือนร่างของเรน่า ก่อนจะหันมาพูดจาอย่างรู้ทันความคิดของฉัน
“หึหึ...มึงตั้งใจจะหลอกกูเพื่อช่วยอีนี่ล่ะซิ...อย่าคิดว่ากูไม่รู้ทันมึงนะ” เขาแค่นเสียงเย้ยหยันใส่ฉัน ก่อนที่เขาจะหันกลับไปเพื่อที่จะสนุกกับหน้าอกของเรน่าต่อ
“ฮึก...ฮึก เอลิซ” เสียงเรน่าเรียกชื่อฉันอย่างแผ่วเบา ดวงตาสีฟ้าที่เคยสดใสกลับเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและความหวาดกลัว
ฉันส่งสายตากลับไปให้เรน่าเพื่อบอกเป็นนัยว่าฉันกำลังหาทางช่วยเธออยู่ ก่อนที่ฉันจะเอื้อนเอ่ยคำพูดเพื่อโน้มน้าวใจคนชั่วตรงหน้าต่อ
“หลอกหรอ...ฉันว่านายคิดให้ดีๆ นะ ว่าที่ฉันพูดน่ะจริงไหม” ฉันหยั่งเชิงเขาไปอีกครั้ง ด้วยทีท่ามั่นใจ
และมันก็ได้ผล เมื่อเขาเริ่มที่จะลังเลและหยุดมือที่จะกระทำการชั่วร้ายต่อเรือนร่างของเรน่าลง พร้อมกับเริ่มใช่ความคิด...
ฉันไม่ปล่อยให้เขาได้ใช้เวลาคิดหาเหตุผลมาลบล้างนาน รีบพูดใส่เชื้อไฟให้เขาได้คล้อยตามฉันในทันที
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา มาร์คเขาคอยช่วยเหลือฉันทุกอย่าง เขารู้ดีว่าฉันกำลังตกเป็นเป้าเพื่อเป็นเหยื่อล่อเซบาสเธีย แต่เขาเลือกที่จะปิดบังข้อมูลทุกอย่างของฉันเพื่อไม่ให้ท่านผู้นำของตระกูลนายรู้” ฉันที่พูดในสิ่งที่ตนเองพอจะรู้มาจากครั้งที่เคยแอบฟังคุณมาร์คกับคุณเซฟคุยกัน
“แม้กระทั่งเรื่องที่ฉันตกเป็นของเซบาสเธียอย่างไม่เต็มใจ เขาเองก็เป็นคนช่วยฉันเรื่องการให้ยาคุมกำเนิด นายก็น่าจะรู้ว่าเขาเรียนทางด้านเภสัชมาใช่ไหมล่ะ นายไม่แปลกใจบ้างหรอว่าทำไมมาร์คเขาถึงยอมมาเปิดร้านขายยาแถวที่พักของเซบาสเธียได้อย่างทันท่วงที ไม่อย่างนั้นป่านนี้ฉันคงท้องกับเซบาสเธียไปแล้ว นั่นเพราะอะไรนายรู้ไหม เพราะว่าพวกเราคิดกันเอาไว้แล้วว่าสักวันหนึ่งฉันกับมาร์คเราจะย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกันไงล่ะ” ฉันที่เสริมเติมแต่งเรื่องราวจากความเป็นจริงเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
“มึงอย่ามาตอแหล...ก็เมื่อไม่กี่วันกูยังเห็นไอ้มาร์คมันตามเทียวไปรับไปส่งอีนี่อยู่เลย” เขาที่แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่เชื่อ แต่สายตากลับมีความสับสนและลังเลอยู่ไม่น้อย
“นั่นก็เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในแผนการของเราสองคนยังไงล่ะ...ฉันที่ตอนนี้ก็ทำให้เซบาสเธียเขาไว้ใจจนขนาดที่ฉันอยากจะไปไหนมาไหนก็ได้แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ยากเลยที่ฉันจะนัดเจอกับมาร์คเขาบ่อย ๆ อ่อ...แล้วอีกอย่าง นายคงไม่รู้ซินะว่าฉันเพิ่งจะไปแอบนัดเจอมาร์คเขามาเมื่อไม่นานมานี้ และไทม์ไลน์เวลานั้นก็คือก่อนที่เขาจะไปมาหาสู่กับเรน่าเพียงแค่วันเดียว คนฉลาด ๆ อย่างนาย คงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรอกมั้ง” ฉันที่เห็นทีท่าและความลังเลแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเขาแล้ว ก็ยิ่งพูดจี้ให้เขาเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดให้มากที่สุด
“ยังไง...” เขาถาม ด้วยความรู้สึกสับสนที่ไม่อาจปิดบังได้
“ก็...อย่างที่ฉันบอก นอกจากคนของตระกูลนายจะหาพยายามหาจุดอ่อนของเซบาสเธียแล้ว ฉันก็รู้ว่านายเองก็หาจุดอ่อนของมาร์คเพื่อจัดการเขาเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นฉันเองไม่แย่เอาหรอกเหรอ ถ้าตัวเองต้องกลายเป็นจุดอ่อนให้ผู้ชายสองคนพร้อม ๆ กัน เพราะฉะนั้นแผนการของฉันกับเขานั่นก็คือ ให้เขาเบนเข็มไปหาผู้หญิงคนใหม่ แล้วไปทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจฉันอีกต่อไปแล้ว และมันก็ได้ผล...หึหึ...ขนาดนายเองยังคิดเลยว่าเรน่าคือรักใหม่ของมาร์คเขา...ฮ่าๆๆ เท่ากับแผนการของเราประสบความสำเร็จเลยนะเนี้ย” ฉันที่แม้ว่าใจจะสั่นกลับคำโป้ปดทั้งหมดเพราะกลัวว่าเขาจะจับพิรุธได้ แต่ก็ได้แต่ทำใจให้นิ่งแล้วปั้นหน้ากับน้ำเสียงให้สงบเยือกเย็นเพื่อแสดงให้แนบเนียนต่อไป...
แต่ทว่า...การแสดงที่ฉันกำลังจัดฉากอยู่นั้น สิ่งที่ฉันแต่งแต้มเรื่องราวเป็นตุเป็นตะเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงอีกคน กลับทำให้ฉันไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังทำให้หัวใจของผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แหลกสลาย...
น้ำตาของเรน่ารินไหลออกมาไม่ขาดสายอย่างเงียบ ๆ ริมฝีปากที่เม้มแน่นเพื่อกักเก็บก้อนสะอื้นเอาไว้ไม่ให้ร้องไห้โฮออกมา อีกทั้งหัวใจที่กำลังเจ็บปวดเหมือนกับถูกมีดกรีดลึกลงไป ความรู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้นทำให้ความหวาดกลัวที่มีอยู่ในตอนแรกครั้งที่ถูกคนชั่วลวนลามหายวับไปกับตา...
“แล้วมึงมาบอกเรื่องนี่กับกูตอนนี้ทำไม เพราะถ้าเป็นอย่างที่มึงบอกกูจริง ๆ กูอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายไปหามึงก็ได้นะ...หึหึ” เมฆินทร์ได้เผยไต๋ความลังเลสุดท้ายของเขาออกมา เพื่อต้องการย้ำให้ตัวเองมั่นใจว่าสิ่งที่ฉันพูดออกไปทั้งหมดนั้นมันคือเรื่องจริง
“ฉันไม่แคร์อยู่แล้วถ้าหากจะต้องตกเป็นของนายอีกคน เพราะถ้ามันทำให้เซบาสเธียเลิกยุ่งกับฉัน เนื่องจากฉันมีมลทินแล้วฉันก็ยอมเสียสละ” ฉันที่แม้จะรู้สึกขยะแขยงและรู้สึกกลัวอยู่ในใจลึก ๆ ต่อสิ่งที่ฉันพูดออกไป แต่ฉันก็จำต้องแสดงละครต่อเพราะฉันไม่อยากให้เรน่าต้องมาเสียหายเพราะเรื่องของฉัน
“แต่ว่ามันยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญอยู่เหมือนกัน ที่ทำให้ฉันต้องเปิดเผยความจริงออกมา นั่นก็เพราะว่าความรู้สึกของฉันตอนนี้มันเริ่มจะทำไม่ได้แล้ว แล้วนายอยากรู้ไหมล่ะว่าเหตุผลนั้นคืออะไร” ฉันที่ยังแสร้งแสดงละครต่อเพื่อหลอกให้เขาตายใจ
“อะไร...?”
เขาที่ตอนนี้ดูจะเชื่อฉันแทบหมดใจ แต่ก็ยังคงมีฟอร์มอยู่
“เหตุผลนั้นก็คือ ฉันรู้สึกถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี รู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำหัวใจ เมื่อต้องเห็นว่านายมองว่าเรน่าเป็นคนรักของมาร์ค ฉันที่คิดมาตลอดว่าฉันทนได้เพราะทุกอย่างมันคือแผนการ แต่พอได้มีเห็นกับตาได้ถูกทำให้เหมือนกับว่าฉันไม่ได้เป็นคนสำคัญของมาร์คเขาเลย มันทำให้ฉันเหมือนกับถูกปล้นความรักของฉันไป ความรู้สึกนั้นฉันยอมไม่ได้ ฉันทนไม่ได้ และฉันก็คิดว่านายคงรู้สึกถึงความรู้สึกของฉันดี...” ฉันบอกถึงความรู้สึกอันจอมปลอมของตัวเองออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อีกทั้งแววตาที่แข็งกร้าวไม่ยอมลงให้ใครของฉันที่ช่วยเสริมให้คำพูดเหล่านี้ยิ่งดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
คิ้วเข้มของชายชั่วตรงหน้าที่ขมวดเข้าหากันอย่างคนที่กำลังคิดตามคำพูด มันทำให้ฉันมั่นใจเลยว่าเขาเชื่อคำพูดของฉันแล้ว
และสิ่งที่ฉันคิดก็เป็นผล เมื่อเขาแสดงอาการออกมาว่าเชื่อสนิทใจ
“ฮ่าๆๆๆ เออดี...งั้นเดี๋ยวกูสนองให้มึงเอง ต้องการรักษาหน้า รักษาศักดิ์ศรีความรักโง่ ๆ ของมึงมากนักใช่ไหม ผู้หญิงโง่ ๆ แบบมึงสงสัยจะมีดีแค่ช่วงล่าง แต่สมองกลวงโบ๋...ฮ่าๆๆๆ” เมฆินทร์ที่ดูจะเชื่อคำบอกเล่าของฉันจนหมดสิ้น ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ ก่อนที่เขาจะผละกายออกจากเรน่าแล้วตรงมาที่ฉันทันที
หัวใจที่บีบแน่น แต่ยังต้องรักษาใบหน้าเย่อหยิ่งนั้นเอาไว้ ทำให้ฉันทำได้เพียงแค่ภาวนาในใจให้สิ่งที่ทดบอกว่าผู้ชายที่ฉันรักจะมาช่วยเหลือฉันได้ทัน...
และในขณะที่เขากำลังจะฉีกชุดเดรสสีหวานของฉันออก...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 13
แสดงความคิดเห็น