บทที่ 213 เหตุการณ์ก่อนหน้า
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ~~
--- เรน่า Talk ---
หลังจากที่ฉันเคลียร์ใจและเคลียร์ทุกอย่างกับรักแรกของฉันจนจบสิ้นเรียบร้อย จากเหตุการณ์วันนั้นฉันก็ไม่ได้ติดต่อเขากลับไปอีกเลย
ความรู้สึกสบายใจในฐานะเพื่อนมันคงเป็นความรู้สึกแบบนี้ซินะ เพราะตั้งแต่วันนั้นที่ฉันจากเขามา ฉันก็ยังอดแปลกใจตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมหัวใจของฉันตอนนี้มันแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว หรือถ้าจะพูดให้ถูกเลยก็คือ ความรู้สึกของฉันมันเหมือนกับว่าฉันไม่เคยรักเขามาก่อน มันช่างน่าแปลกจริง ๆ เลยความรู้สึกของคนเรา เพราะบทจะตัดก็ขาดได้แบบไม่เหลือเยื่อใย คงเหลือไว้เพียงความปรารถนาดีที่ไม่มีอะไรแอบแฝง...
ฉันที่รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก และรู้สึกดีใจที่ตัวเองเลือกตัดสินใจถูกที่เคลียร์กับเขา และได้กลับไปเป็นเพื่อนกับเขาอีกครั้ง
ฉันเหม่อคิดอะไรเพลิน ๆ ไปเรื่อย ๆ ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าฉันจะเคยงี่เง่าคิดร้ายแต่สุดท้ายฉันก็เลือกทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง และผลของการกระทำของฉันที่ส่งกลับมา นอกจากจะไม่ทำให้ฉันต้องเสียมิตรภาพที่มีมานานไปแล้ว ฉันยังได้มิตรภาพใหม่เพิ่มมาอีกด้วย มันทำให้ฉันภูมิใจจนอดยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้...
แต่แล้วจู่ ๆ บางอย่างก็ได้ผุดขึ้นมาในโสตประสาทของฉันจนทำให้ใบหน้าสวยเฉี่ยวสุดแสนจะเซ็กซี่ของฉันถึงกับเสียอาการ...
ฉ่า ~~
ดวงหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นมาทันที ด้วยความเขินอาย พร้อมกับอาการทางร่างกายที่ทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่ใบหน้าของใครบางคนผุดฉายวาบขึ้นมากลางความคิด
หลายวันก่อนหน้านี้ ~~
วันนั้นเป็นวันที่ฉันจำได้ดี...มันเป็นวันที่อากาศดีเป็นใจให้ไปเดินชอปปิ้งเป็นอย่างยิ่ง ฉันที่เลือกไปเดินห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองสุดหรูที่ฉันมักจะไปเป็นประจำเพื่อผ่อนคลาย ก่อนที่อีกไม่กี่วันฉันจะต้องบินกลับไปยังประเทศบ้านเกิดเพื่อกลับไปหาพ่อกับแม่ของฉัน และเพื่อไปรับกรรมที่ฉันได้ก่อเอาไว้...
หลังจากที่ฉันชอปปิ้งเสร็จ ในขณะที่ฉันออกมายืนรอและกำลังจะกดโทรศัพท์เรียกคนขับรถให้มารับ ดวงตาสีฟ้าสุกใสก็ได้เหลือบไปเห็น อะไรบางอย่างที่ดูคุ้นตาที่อยู่ตรงบริเวณริมถนนด้านหน้าห้างสรรพสินค้าชั้นนำกลางกรุง
และด้วยอะไรก็ไม่รู้มาดลใจ จึงนำพาให้เท้าของฉันเดินไปหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นในทันที
ก๊อกๆๆๆ
ฉันเดินไปเคาะหน้าต่างรถหรูฝั่งด้านข้างคนขับ เนื่องจากฉันรู้ดีว่าเจ้าของรถคันนี้เป็นใคร นั่นก็เพราะฉันมั่นใจว่ารถยี่ห้อนี้และรุ่นนี้ในแถบโซนนี้มีแค่เขาคนเดียวที่เป็นเจ้าของ และเหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจมากที่สุด นั่นก็คือ...ฉันที่เคยนั่งอยู่ในรถหรูคันนี้มาก่อนแล้ว...เพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางจำมันผิดแน่นอน
อืดดดด ~~
กระจกรถที่ถูกเลื่อนลงมาผ่านหน้าฉัน หลังจากที่เจ้าของรถคงเห็นแล้วว่าใครเป็นคนมาเคาะหน้าต่างรถของเขา
“อ้าวนึกว่าใคร...พาร์ทเนอร์นั้นเอง” เสียงนุ่มทุ้มแต่แหบพร่าเล็กน้อยเอ่ยทักทายพร้อมด้วยสายตายียวนกวนประสาทเช่นเดิมเหมือนอย่างที่ฉันเคยเจอ
และสิ่งที่เขาแสดงความเป็นมิตรต่อฉัน มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้เลยว่า นี่ฉันคิดถูกแล้วใช่ไหมที่เดินเข้ามาทักเขาก่อน...
“แหม...เจอหน้าก็ปาก...ใส่เลยนะ...ชิ” ฉันอดแว้ดใส่เขาไม่ได้ คนอุตส่าห์เดินเข้ามาทักทายกลับมากวนประสาทกันได้ซะนี่
(เห้อออ...อยู่ดีไม่ว่าดีไอ้เรน่าเอ๊ย หาเรื่องให้ตัวเองอารมณ์เสียซะได้) ฉันบ่นกับตัวเองในใจ
ก่อนที่ตัวฉันเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไป เนื่องจากตอนนี้เริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว
“ดะ...เดี๋ยวซิคุณ...กลับมาก่อนนนน...” เสียงเรียกดังลั่นตามหลังฉันมาทันที หลังจากที่เขาเห็นฉันกำลังจะเดินผละหนีออกไปจากรถเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
ฉันหยุดลังเลสักพักก่อนจะตัดสินใจหันกลับไปหาเขา แต่คราวนี้ฉันเลือกที่จะยืนกอดอกมองเขาแทน เพื่อรอให้เขาเอ่ยพูดออกมาก่อน เพราะถ้าเกิดเขาพูดจาไม่ถูกหูอีกครั้งละก็ คราวนี้ฉันเดินไปไม่หันกลับมามองอีกเป็นแน่...
“แหม...แซวนิดแซวหน่อยทำเป็นขี้งอนไปได้ ขึ้นมานั่งบนรถก่อนสิคุณ...จะไปยืนตากแดดตากลมทำไม เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี...ถึงผมอยากจะได้เงินจากการรักษาคนรวย ๆ อย่างคุณ แต่ผมก็ไม่อยากได้คนไข้ด้วยวิธีนี้นะคร้าบบบบ...” เขาเอ่ยชวนให้ฉันขึ้นรถ แต่ก็ไม่วายที่จะกวนประสาทตามประสาคนปากปีจอใส่ฉันอีกรอบ
(หึ...ดูสิดูปากแบบนี้...ชาตินี้คงจะหาแฟนได้หรอกย่ะ...เชอะ) ฉันที่อดหมั่นไส้เขาไม่ได้ ถึงกับแอบอวยพรเขาอยู่ในใจ ก่อนที่ฉันจะคิดทบทวนอีกครั้งว่าควรจะขึ้นไปนั่งบนรถเขาต่อหรือว่าควรจะจบบทสนทนากับเขาเพียงแค่นี้
ในขณะที่ฉันกำลังคิดทบทวนถึงความคิดแรกของฉัน ที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับเขาแล้ว (ก็ปากปีจอซะขนาดนี้) แต่พอได้ฟังในสิ่งที่เขาพูด บวกกับอากาศที่เริ่มร้อนขึ้นจนทำให้ฉันเริ่มรู้สึกถึงความไม่สบายตัว แถมรถที่จะมารับฉัน ฉันก็ยังไม่ได้เรียกมา ดังนั้นความคิดที่ว่าถ้าหากตอนนี้ฉันจะขึ้นไปนั่งตากแอร์บนรถของเขาก่อนสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
และในช่วงเวลาที่ฉันกำลังยืนชั่งน้ำหนักอยู่ในใจอยู่นั้น...
“เอ๊าคุณ...ไม่ร้อนหรือไง หรืออยากจะเป็นลมแล้วให้ผมลงไปอุ้มกันห๊ะ” เสียงนุ่มทุ้มที่แฝงได้ด้วยน้ำเสียงทะเล้นก็ถูกส่งมากวนประสาทฉันอีกรอบ
ฉันมองบนด้วยความรู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะตัดสินใจขึ้นไปนั่งบนรถสปอร์ตสุดหรูของเขา
“ก็แค่เนี้ย...” เขาที่แม้จะพึมพำค่อนแคะใส่ฉัน แต่ทว่า...มันก็ดังมากพอที่ฉันจะได้ยิน
“ชิ...ฉันเห็นว่าอากาศมันร้อนหรอกนะ...ถึงได้ขึ้นมานั่งตากแอร์สักหน่อย เพราะถ้าขืนยืนต่อแล้วเป็นลมเป็นแล้งไป ฉันกลัวว่าจะถูกคนแถวนี้เรียกค่ารักษาแบบขูดเลือดขูดเนื้อจนหมดตัว” ฉันอดแซะเขากลับไม่ได้ คนอะไรไม่กัดฉันมันจะตายหรือไงย่ะ และอีกอย่างที่ฉันต้องรีบพูดเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายขึ้นรถผู้ชายมาง่ายดายแบบนี้
เขายักไหล่ให้ฉันเบา ๆ ก่อนที่ใบหน้ายียวนจะหันไปมองข้างหน้ารถอย่างไม่ยี่หระอะไร
“และที่เรียกฉันให้หยุดน่ะ มีอะไรหรือเปล่า” ฉันที่ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับเขา เอ่ยถามถึงเหตุผลก่อนหน้านี้ที่เขาเรียกไม่ให้ฉันเดินกลับไป...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 22
แสดงความคิดเห็น