Porpiang Writer 2 : Age of Megaversal บทที่ 6 ฮอร์ครักซ์ ออลฟอร์วัน ฮอร์ครักซ์ ออลฟอร์วัน...

Porpiang Writer 2 : Age of Megaversal

-A A +A

Porpiang Writer 2 : Age of Megaversal บทที่ 6 ฮอร์ครักซ์ ออลฟอร์วัน ฮอร์ครักซ์ ออลฟอร์วัน...

หมวดหนังสือ: 

    คราวนี้ถึงช่วงที่ตันอย่างหนักของเหล่าเรล์มออฟเทลส์จริง ๆ แล้ว เพราะพวกเขาต้องมีการแบ่งงานให้ตามหาฮอร์ครักซ์ และคนที่แอตลาสมอบหมายให้อย่างเต็มรูปแบบก็คือ อีวิลโคลน 303 ซึ่งแปลงร่างเป็นช่างทำอาวุธสมิธ (Smith The Weaponsmith) เมื่อตอนอยู่หมู่บ้านดราโกวิลเลจ (Drago Village) เป็นคนจัดการเพียงคนเดียว แต่เหล่าเรล์มออฟเทลส์เองก็ตั้งใจว่าจะเตือนว่าตอนนี้พวกผู้เสพความตายกับสมาพันธ์วิลเลินกำลังตีกันเองอยู่ แถมอาจจะมีมือที่สามจากโลกความเป็นจริงมาแทรกแซงการทะเลาะกันก็เป็นได้

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2021
บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซ็นเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

    “ตอนนี้พี่มีอะไรจะให้ผมช่วยบ้างล่ะ?” โทโดโรกิ โชโตะ (Shoto Todoroki) หนุ่มผมสองสีถามพอเพียงทางวิดีโอคอลต่างมิติ ซึ่งเป็นระบบการติดต่อสื่อสารที่ล้ำยุคมาก แม้จะอยู่คนละมิติกัน แต่พอเพียงก็สามารถวิดีโอคอลกับโชโตะได้
    “ดูจากสถานการณ์ตอนนี้พี่ก็ไม่มีอะไรจะให้เธอช่วยหรอก” พอเพียงตอบ “แต่จะไปหวังให้ทุกอย่างมันดีขึ้นมันก็จะเกินไปหน่อย เพราะว่าตอนนี้เท่าที่พี่เขียนมา พี่พอจะนึกอะไรบางอย่างได้เกี่ยวกับสองอัตลักษณ์คู่ตรงข้ามอย่างวันฟอร์ออล (One For All Quirk) และออลฟอร์วัน (All For One Quirk) นะ”
    “จริงเหรอครับ?” โชโตะถาม
    “ใช่แล้วโชโตะ” พอเพียงตอบ “แต่พี่ก็ไม่รู้จะว่ายังไงนะเพราะว่าอิซึคุยังไม่รู้เรื่องนี้เท่าที่ควร เดี๋ยวพี่จะเล่าให้เขาฟังทีหลังเองนะ”
    “ครับผม” โชโตะพูด “ผมจะไม่รบกวนพี่ละนะ แล้วเจอกันครับพี่เพ้นท์”
    “โชคดีโชโตะ” พอเพียงตอบ
    แต่พอวิดีโอคอลของโชโตะจบลง ก็มีวิดีโอคอลใหม่ที่พอเพียงต้องรับสายอีกหนึ่งอัน นั่นก็คือ...
    “ฮัลโหลพี่...” บาคุโก “คัตจัง” คัตซึกิ (Katsuki “Kacchan” Bakugo) ทักทายพี่ชายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเบื่อโลกมาก ๆ
    “ไง คัตซึกิซัง” พอเพียงพูด “ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”
    “ทำไม ผมดูเหมือนคนเบื่อโลกเหรอ?” คัตซึกิแทบจะย้อนพี่ชายตัวเอง
    “หืม เดี๋ยวนี้กล้าย้อนศรรุ่นพี่งั้นเหรอ” พอเพียงพูด น้ำเสียงแฝงความหมั่นไส้ผสมมันเขี้ยวไปในตัวจนคัตซึกิสะดุ้งและรีบขอโทษทันที
    “ขอโทษครับพี่!” คัตซึกิยกมือไหว้ “อารมณ์ผมมันพาไปอ่ะ คือต้องเข้าใจนะพี่ ผมเป็นคนหัวร้อนง่ายแล้วก็ชอบทำงานเดี่ยว ผมไม่ค่อยชอบยุ่งกับใครอยู่แล้วด้วย”
    “พี่รู้ดี” พอเพียงบอก “เพราะว่าเท่าที่พี่อ่านมังงะและดูอนิเมะเรื่องมายฮีโร่อะคาเดเมียเนี่ย มีอยู่ช่วงหนึ่ง คือภาคค่ายหน้าร้อนกับภาคบุกฐานทัพ เธอโดนพวกสมาพันธ์วิลเลินจับตัวไป แล้วจากนั้นออลไมท์ก็มาช่วยเธอและก็ได้เผชิญหน้ากับออลฟอร์วัน (All For One The Villain) แล้วมันก็ทำให้ออลไมท์ต้องเกษียณจากการเป็นฮีโร่มืออาชีพไป”
    “อย่างนั้นเองหรอกเหรอ??” คัตซึกิร้อง
    “ใช่” พอเพียงตอบ “แล้วก็ช่วงสอบใบอนุญาตฮีโร่ชั่วคราว ตอนนั้นเธอสอบไม่ผ่านใช่ไหม?”
    “ใช่พี่” คัตซึกิตอบ “ผมสอบไม่ผ่าน แต่ผมได้ใช้โควต้าแก้ตัวแล้วเรียบร้อย”
    “งั้นพี่จะเล่าอะไรให้เธอฟังนะ” พอเพียงพูด “ในเวอร์ชั่นต้นฉบับ ก่อนที่เธอจะใช้โควต้าแก้ตัว เธอได้ชวนอิซึคุมาคุยเรื่องที่มาของอัตลักษณ์วันฟอร์ออล แล้วก็มีการประลองพลังอีกครั้ง เธอก็ชนะไป”
    “ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?” คัตซึกิถาม
    “เอ้า ก็อย่าลืมสิว่ามันหลังจากที่เธอโดนสมาพันธ์วิลเลินจับตัวไปนะ ที่เธอประลองพลังกับอิซึคุตอนดึกก็เพราะว่าเธอรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้ออลไมท์ปลดระวางตัวเองไง” พอเพียงตอบ
    “แต่ออลไมท์ที่โลกนี้ก็ไม่ได้ปลดระวางตัวเองนะ” คัตซึกิบอก “เขายังทำงานเป็นฮีโร่อยู่”
    “อืม...พี่เห็นแล้วล่ะ” พอเพียงพูด “เอาล่ะ ถ้าเธอได้มาอยู่ที่บ้านพี่ เธอจะทำอะไรเป็นอันดับแรก?”
    “ผมก็ต้องอ่านหนังสือของพี่น่ะสิ” คัตซึกิตอบ “ผม...พยายามจะทำความเข้าใจให้ได้ว่าไอ้เดกุมันต้องการอะไรกันแน่”
    “เอางี้” พอเพียงพูด “แล้วเธอได้รู้ที่มาของอัตลักษณ์ของอิซึคุแล้วหรือยัง? เวอร์ชั่นเรล์มออฟเทลส์น่ะนะ”
    “ผมรู้แล้วล่ะ” คัตซึกิตอบ “เจ้าเดกุมันเล่าทุกอย่างเลย ผมคิดว่าผมจะต้องทำความเข้าใจให้ได้ เพราะผมรู้ไงว่าผมต้องจัดการกับไอ้ขี้ยาคนนั้น”
    “ขี้ยา... อ๋อ เธอหมายถึงโทมูระใช่ไหม?” พอเพียงถาม
    “ใช่” คัตซึกิตอบ “ในเวอร์ชั่นออริจินัล ไอ้หมอนั่นมันเป็นต้นเหตุให้ออลไมท์ปลดระวางตัวเอง ดังนั้น ผมในเวอร์ชั่นนั้นต้องฆ่าไอ้ขี้ยานั่นให้ได้ และตัวผมเองก็ไม่ต่างกัน เพราะมันถึงขั้นบุกมายังถิ่นของพี่อย่างนี้ผมก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ”
    “โอเค” พอเพียงพูด “งั้นพี่ไม่รบกวนละนะ”
    “ครับ พี่เพ้นท์ แล้วไว้โทรมาอีกนะ” คัตซึกิพูด
    แต่วิดีโอคอลกับคัตซึกิยังไม่ทันจบ อีกสายก็มาแทรกอีกแล้ว คราวนี้คือ อุราระกะ โอชะโกะ (Ochaco Uraraka) ซึ่งเป็นว่าที่แฟนของอิซึคุเอง
    “ฮัลโหล” พอเพียงพูด
    “อ้าว พี่เพ้นท์เองเหรอคะ แล้วเดกุคุงไปไหนอ่ะ?” โอชะโกะถาม
    “เขากำลังไปเฝ้าไข้อยู่” พอเพียงตอบ “หนูวิดีโอคอลหาพี่งั้นเหรอ?”
    “ใช่ค่ะ” โอชะโกะตอบ “หนูอยากจะบอกเดกุคุงว่า หนูคิดถึงเขามาก”
    “อืม” พอเพียงพูด “พี่เข้าใจ เพราะเวลาคนมีความรักกัน มักจะมีความคิดถึงซึ่งกันและกันเสมอ”
    จู่ ๆ โอชะโกะก็ทำสีหน้าเขินอายและหน้าแดงมาก ซึ่งพอเพียงก็เป็นหนึ่งในคนที่เข้าใจความรู้สึกของเธอดี
    “ไม่เป็นไร มันไม่ผิดหรอกที่หนูจะทำหน้าแบบนั้น” พอเพียงตอบ “แฟนพี่ก็ทำหน้าแบบนั้นเหมือนกันแหละ พี่เข้าใจดี”
    “ค่ะ...” โอชะโกะบอก “เอาเป็นว่าตอนนี้จะว่ายังไงต่อเหรอคะ?”
    “ก็...พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” พอเพียงพูด “เพราะว่าตอนนี้เหมือนเป็นศึกชนกันระหว่างผู้มีพลังวิเศษสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเป็นพ่อมดแม่มดสายดำ กับอีกพวกคือพวกวิลเลิน ซึ่งมันเกิดขึ้นที่โลกที่พี่อยู่ซะด้วย พี่เครียดอย่างหนักเลยล่ะนะ”
    “อ๋อ งั้นหนูไม่รบกวนพี่แล้วนะคะ บ๊ายบายค่ะ” โอชะโกะพูด
    “โชคดี” พอเพียงตอบ

    ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ยังค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและลุกขึ้นมา เขาพบว่าแขนข้างขวาของเขามีสำลีหุ้มเทปใสราวกับว่าไปโดนฉีดวัคซีนหรืออะไรสักอย่าง เขาหันมามองพอเพียง โซเฟีย และอิซึคุแบบงง ๆ
    “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” ยังพึมพำ
    “เขาตื่นแล้วครับพี่เพ้นท์!” อิซึคุร้อง
    “นี่มันอะไรกันเนี่ย ที่นี่ที่ไหน?” ยังถาม
    “นายอยู่ในบ้านของฉันเองแหละ” พอเพียงพูด
    “เธอมาได้ยังไงเหรอ?” โซเฟียถาม
    “นี่คุณ...” ยังอุทานเมื่อได้เห็นอิซึคุ “คุณที่บอกว่าจะพาผมออกไปจากดินแดนที่ถูกลืมนี่ ผมเจอคุณพร้อมกับเซบาสเตียนด้วย (Sebastian The Elf) คุณก็อยู่ในบ้านนี้ด้วยเหรอ?”
    “ฟังก่อนนะ” พอเพียงพูด “นายมาที่เมกะเวิร์สนี้เพื่ออะไร เพราะปกติ ปกติคนที่มาที่นี่ได้ก็เพราะว่าโลกของตัวเองเกิดภัยพิบัติที่ไม่มีใครในโลกนั้นจัดการได้ด้วยตัวเองและเสี่ยงที่จะลุกลามมายังที่นี่ได้นะ”
    “ผมไม่เข้าใจ ตอนนี้ผมจำอะไรไม่ได้เลย...โอ๊ยยยย!!” ยังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดในหัว “ผมรู้สึก...ผมเจ็บมากเลย”
    “เป็นอะไร ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนนะ” อิซึคุพูด
    “นี่คุณชื่ออะไรกัน?” ยังถามพอเพียง
    “ฉันชื่อ พอเพียง มาสเตอร์” พอเพียงแนะนำตัว “เรียกฉันว่าเพ้นท์แล้วกันนะ และนี่ก็คือบ้านของฉัน จริง ๆ ที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า เรียลลิตี้เมกะเวิร์ส เมกะเวิร์สแห่งความเป็นจริงน่ะ”
    “เมกะเวิร์สแห่งความเป็นจริงงั้นเหรอ? แล้วตกลงผม...ผมมาที่นี่พร้อมกับคุณอิซึคุอย่างนี้แล้วมันหมายความว่ายังไงกันแน่?”
    “จะเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณเตือนก็คงไม่ผิดเท่าไหร่” พอเพียงตอบ “ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่ได้ก็มีแต่คนที่มาส่งสาส์นเตือนว่าภัยคุกคามที่จะเป็นอันตรายต่อเรียลลิตี้เมกะเวิร์สกำลังจะคืบคลานเข้ามาเท่านั้นแหละ”
    “ผมไม่เข้าใจอ่ะ” ยังว่า
    “ฉันพยายามที่จะเตรียมตัวเพื่อรับมือกับศึกที่กำลังจะมาถึงอยู่แล้วเชียว แต่กลับเจอกับนายและอิซึคุเฉยเลย” พอเพียงตอบ
    “อย่างนั้นเองเหรอครับ” ยังว่า
    “นายมาจากโลกหมายเลข 303 จักรวาลเรล์มออฟเทลส์ใช่ไหม?” พอเพียงถามยังเพื่อกลับเข้าประเด็น
    “ฉันว่าค่อย ๆ พูดกับเขาดีกว่านะ” โซเฟียบอก “เพราะดูเหมือนเขาจะความจำเสื่อมด้วย”
    “นั่นสินะ” พอเพียงบอก “คือยัง ฉันหมายถึงหมายเลขโลกที่นายจากมาน่ะ”
    “คือใช่ ผมมาจากโลกนั้น แต่ผมไม่มีหมายเลข” ยังบอก “ผมเกิดมาจากโลก... เอ่อ... โลกอ่ะ คุณรู้จักใช่ไหม?”
    “โลกเหรอ?” พอเพียงถาม “หมายถึงโลกนอกจักรวาลเรล์มออฟเทลส์ใช่ไหม?”
    “จะว่ายังงั้นก็ได้มั้งครับ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี คือผม...อ๊ากกก!!” ยังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง
    “ยัง ทำใจดี ๆ ไว้นะ” พอเพียงพูด “นายแน่ใจนะว่าร่างกายของนายไม่ได้ต่อต้านน้ำยาขับศาสตร์มืด”
    “อะไรคือน้ำยาขับศาสตร์มืดครับ” ยังถามหลังจากหายเป็นปกติแล้ว
    “นายเป็นอะไรไป พอจะบอกได้ไหม?” พอเพียงถาม
    “ผมจำไม่ได้” ยังตอบ “ผมจำได้แค่ว่าผมโดนอะไรไม่รู้”
    “ตั้งสติก่อนนะ” อิซึคุว่า “ค่อย ๆ นึก”
    จากนั้นยังก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง...

ศูนย์รวมเรล์ม

    ความพยายามของเหล่าสมาพันธ์วิลเลิน ในการจะตอบโต้พวกผู้เสพความตายและลอร์ดโวลเดอมอร์นั้นยังคงดำเนินต่อไป แต่ล่าสุด แทนที่อีวิล 303 จะหาฮอร์ครักซ์และอุปกรณ์สำหรับทำลายฮอร์ครักซ์ให้ครบ ๆ กลับกลายเป็นว่า สงครามนี้ทำให้มีฮอร์ครักซ์เพิ่มอีกสองสามชิ้นแล้ว และฮอร์ครักซ์พวกนี้ก็คือ โนมุ (Nomus) สัตว์ประหลาดของสมาพันธ์วิลเลินนั่นแหละ ซึ่งมันแย่เกินไปแล้ว ยังไม่ทันจะหาฮอร์ครักซ์ให้มันครบ ๆ เลย มีมาเพิ่มอีกสองสามชิ้นแล้ว ซึ่งคนที่ควรจะต้องรู้เป็นคนแรกก็คือเทพเจ้าคลั่งแอตลาสเดอะไททันนั่นแหละ แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ซะงั้น และ...
    “แอตลาส” ออริจินส์ 013 บอกแอตลาส “นี่เธอไม่รู้รึว่า ตอนนี้ฮอร์ครักซ์มันมีมาเพิ่มอีกสามชิ้นแล้ว!”
    “อะไรนะลุงสะใภ้??” แอตลาสอุทานด้วยความตกใจ “มีมาเพิ่มอีกแล้วเรอะ??”
    “ใช่แล้ว!” ออริจินส์ 013 ตอบ “โวลเดอมอร์มันทำให้พวกโนมุของสมาพันธ์วิลเลินกลายเป็นฮอร์ครักซ์!”
    “บ้าแล้วลุง!!” แอตลาสร้อง “เจ้าโวลเดอมอร์เนี่ยนะทำอย่างนี้ได้??”
    “ใช่” ออริจินส์ 013 ตอบ “โวลเดอมอร์ฆ่าพวกวิลเลินไปแล้วสามคน แล้วทำให้โนมุอีกสามตัวเป็นฮอร์ครักซ์”
    “นี่จิตใจของมันทำด้วยอะไรกันเนี่ย” แอตลาสพูด “แล้วมันใช้สิ่งมีชีวิตในการเป็นฮอร์ครักซ์ได้อีกต่างหาก!!”
    “ฮอร์ครักซ์สามารถเป็นได้ทั้งวัตถุสิ่งของยันสิ่งมีชีวิต” ออริจินส์ 013 ผู้คลุกคลีอยู่กับศาสตร์มืดของเอ็นเดอร์ตอบ “แต่ไม่มีการแนะนำให้ใช้สิ่งมีชีวิตเป็นฮอร์ครักซ์ เพราะเห็นได้ชัดว่าการไว้วางใจมอบวิญญาณส่วนหนึ่งของเราให้สิ่งมีชีวิตที่คิดได้และเคลื่อนไหวได้เองเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ๆ ที่วิญญาณจะถูกทำลายไปพร้อมกับสิ่งมีชีวิตนั้น ฉันเอาประโยคนี้มาจากศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จากแฮร์รี่เล่มหก บทฮอร์ครักซ์น่ะ”
    “อ๋อ” แอตลาสพูด “แล้วพวกเราจะทำยังไงดี ผมเองก็ไม่สามารถเข้าไปจัดการอะไรในเรียลลิตี้เมกะเวิร์สได้เลยนะ”
    “เจ้าโวลเดอมอร์มันแยกชิ้นส่วนวิญญาณไปตั้งสิบส่วนแล้วตอนนี้” ออริจินส์ 013 ตอบ “ไม่นึกเลยว่าสภาพวิญญาณหลักของมันจะเป็นยังไง”
    “ผมว่าคงดูไม่จืดเลยล่ะลุงสะใภ้” แอตลาสพูด “แค่เจ็ดชิ้นก็ทำให้วิญญาณของมันเหลือแต่ร่างทารกโดนถลกหนังไปแล้ว ถ้าฉีกวิญญาณเพิ่มอีกจะขนาดไหน”
    “ฉันก็จินตนาการไม่ออกเช่นกัน หลานเขยของฉัน” ออริจินส์ 013 ตอบ
    “ลุงพี” วูล์ฟพูด “ตอนแรกผมก็นึกว่าไอ้หน้างูนั่นจะเหมือนกับอะลูคาร์ด (Alucard) แต่ที่ไหนได้มันยิ่งกว่านั้นอีก ผมไม่ยักกะนึกสภาพเลย เพราะเขาเชื่อว่า เลขเจ็ดเป็นเลขวิเศษที่มีพลังอำนาจมากที่สุด เขาเลยฉีกวิญญาณจนครบเจ็ดชิ้นพอดี แต่ชิ้นหนึ่งเขาไม่ได้ตั้งใจจะสร้างให้เป็นฮอร์ครักซ์ หรือตั้งใจแต่ต้องการจะให้อย่างอื่นเป็นฮอร์ครักซ์มากกว่าจะเป็นแฮร์รี่”
    “แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ถ้ารวมกับโนมุอีกสามตัว นั่นหมายความว่าเขาสร้างฮอร์ครักซ์ไปแล้วสิบชิ้น” ออริจินส์ 013 บอก “คราวนี้แหละงานยากของจริง”
    “มันทำได้ยังไงกับเรื่องพวกนี้?” แอตลาสถาม
    “ฉันได้สืบดูทางกระแสจิตแล้ว หลานเขย” ออริจินส์ 013 ตอบ “มันมีช่วงหนึ่งที่วิลเลินที่ไม่ได้มาจากเรล์มหมายเลข 394 มาบุกโลกแล้วเข้าไปโจมตีพวกโวลเดอมอร์ แล้วมันก็ถูกฆ่าตายและเอาพวกโนมุของพวกมันมาเป็นฮอร์ครักซ์เพิ่มอีกสามชิ้น”
    “แล้วยังไงกันเนี่ย” แอตลาสพูด “แฮร์รี่ก็อยู่ที่บ้านของเพ้นท์ แถมไอ้ถ้วยฮัฟเฟิลพัฟ รัดเกล้าเรเวนคลอ ล็อกเก็ตสลิธิริน และนากินียังไม่มารวมที่นี่เลย นี่ยังมีเพิ่มอีกสามชิ้นอีกแล้ว สรุปคือตอนนี้ฮอร์ครักซ์ยังเหลือแค่แปดชิ้น สงสัยต้องเข้าไปเตือนอีวิล 303 ซะแล้วล่ะ”
    “ฉันจะเตือนเขาเอง” ออริจินส์ 013 ตอบ “เขาอยู่ในความรับผิดชอบของฉันโดยตรง”

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2021
บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซนเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

    “ยังงี้นี่เอง แสดงว่านายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้ระบุเรล์มใด และเคยมีพลังลึกลับที่ผสมปนเปกันอยู่ในร่างกาย ทั้งฮีโร่บรายน์สตีฟโอและเอ็นเดอร์ดรากอน...” พอเพียงว่า “...บางคนอาจจะคิดว่านายหนักกว่าที่พวกเขาคิด แต่นายก็ไม่ได้หนักเท่าไหร่ เพราะฉันคิดว่ายังมีคนที่หนักกว่านายตั้งเยอะ”
    “ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ผมอยากจะหยุดทุกอย่าง แต่ตอนนี้ผมสับสนและมึนงงไปหมดแล้ว ถ้าจะให้ผมจับต้นชนปลายผมก็บอกไม่ถูกว่าจะพูดยังไง” ยังพูด “ผมแค่จะบอกว่ามีทั้งเอ็นเดอร์ดรากอน วิเธอร์ เอ็นติตี้_เอ็กซี แล้วก็นัลล์...อ๊ากกก!!!
    ยังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง คราวนี้ความทรงจำทั้งหมดหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา เขาโดนเอ็นติตี้_เอ็กซีบุกเข้ามาทำร้ายและไล่ล่าเซบาสเตียนจนถึงอาร์กตันซิทาเดล (Arcton Citadel) แล้วจากนั้นพวกวิเธอร์ก็เข้ามารุมทำร้ายเอ็นติตี้_เอ็กซีราวกับผลกรรมตามสนองจนใกล้จะตาย เขาจึงขอความช่วยเหลือจากมังกรเอ็นเดอร์ดรากอน นั่นจึงทำให้เขาได้พลังจากเอ็นเดอร์ดรากอนไป แต่ไม่ทันไรพวกวิเธอร์ก็ซุ่มโจมตีซะก่อน
    “ยัง เป็นอะไรไป?” พอเพียงถาม “ร่างกายนายกำลังต่อต้านน้ำยาขับศาสตร์มืดอีกแล้วเหรอ?”
    พอยังหายดีแล้ว เขาจึงบอกพอเพียงว่า “ผมจำได้แล้ว! ผมจำได้ว่า ผมโดนเอ็นติตี้_เอ็กซีทำร้าย แล้วบุกไปจนถึงปราสาทเอลฟ์ จากนั้นมันก็โดนวิเธอร์ลอบทำร้าย และมันก็กำลังจะใกล้ตาย มันจึงขอร้องให้เอ็นเดอร์ดรากอนช่วยมัน แล้วจากนั้นเอ็นเดอร์ก็ให้พลังมันไป แต่ไม่ทันไรพวกของวิเธอร์ก็ซุ่มโจมตีมัน จนมันหมดสติไป...”
    และความทรงจำกดดันร่างกายของยังอีกครั้ง เขาเห็นภาพที่เอ็นติตี้_เอ็กซีกำลังจะตายด้วยน้ำมือของทหารเลียมแห่งดราโกวิลเลจ (General Liam of Drago Village) ที่พาวิเธอร์มากลืนกินร่างของปีศาจร้าย...
    “ใช่แล้ว เลียม...” ยังพูด “เขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง เขาเป็นลูกน้องของวิเธอร์ ในเมื่อเจ้าเอ็นติตี้_เอ็กซีได้พลังของเอ็นเดอร์ดรากอนไปแล้ว เขาก็มาทำร้ายมันให้มันสลบไป แล้ววิเธอร์ก็ปรากฏตัว มันกำลังทำอะไรบางอย่างกับร่างกายของเอ็นติตี้_เอ็กซี”
    “แสดงว่าเจ้าวิเธอร์ก็ทำสำเร็จแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นนายคงไม่โดนอิซึคุลากมาหาฉันหรอก” พอเพียงตอบ “พวกเราเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ในตอนนี้ นอกจากจะคุยเป็นเพื่อนไม่ให้นายเครียด”
    “แล้วผมหรือคุณเพ้นท์มีทางไหนที่จะกลับมาช่วยคนอื่น ๆ ได้บ้างไหมครับ?” ยังถาม
    “คือว่า...” พอเพียงอ้ำอึ้ง “ฉันเองก็ตอบไม่ได้หรอกนะ เพราะว่าฉันเองก็มีหน้าที่ที่สำคัญที่ฉันต้องทำ รวมไปถึงภัยคุกคามอื่น ๆ ทั้งในและนอกกิกะเวิร์สแห่งเมกะเวอร์เซียสที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ฉันต้องปวดหัวกับเรื่องพวกนี้มากจน...”
    “แสดงว่าผมเองก็ไม่มีโอกาสช่วยคนบริสุทธิ์ที่กำลังลำบากเลยอย่างนั้นเหรอ!!
    “ก่อนจะช่วยคนอื่นน่ะ ช่วยตัวเองก่อนเถอะไอ้หนู!! นายไม่เข้าใจหรอกว่าการช่วยเหลืออย่างถ่องแท้น่ะมันเป็นยังไง!
    “พี่เพ้นท์!!
    เสียงของหนุ่มผมเขียวทำให้พอเพียงระงับอารมณ์ทันและบอกอิซึคุเพียงแค่ว่า “ขอโทษด้วยนะ”
    ยังหันมามองโซเฟียและบอกว่า “จะว่าไปผู้หญิงคนนี้คือ...”
    “อ๋อ คู่รักของฉันเองแหละ” พอเพียงตอบ “เอาเถอะไอ้หนู เวลานี้ก็มีแต่พวกเขาแล้วล่ะ เหล่าเรล์มออฟเทลส์ยังไงล่ะ”

วันอังคารที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2021
เกาะไฮดรัสทูเรีย

    “นายแน่ใจนะกับแผนการพวกนี้?” โทมูระถามชายผู้ลึกลับที่มาเยี่ยมปราสาทสมาพันธ์วิลเลิน
    “แน่ใจสิ” เสียงปีศาจของชายผู้ลึกลับตอบ “เราสองคนต่างก็มีอัตลักษณ์ออลฟอร์วันเป็นของตัวเอง และฉันเองก็มีแผนการใหญ่ของฉันแล้ว ฉันเรียกมันว่า โปรเจกต์ไครซิสอะพอคาลิปส์ (Project Crisis Apocalypse)”
    “มันมีอะไรกัน บอกมาหน่อยซิ” โทมูระพูด
    ชายผู้ลึกลับซึ่งอยู่ใต้หน้ากากครอบปากและหมวกฮูดสีดำจึงอธิบายไปว่า
    “คืองี้นะ ชื่อจริงของฉันคือ คิริกายะ ชูอิจิ หรือชื่อวิลเลินของฉันคือ จักรพรรดิวิลเลิน (Emperor of Villains/Shuichi Kirigaya) ฉันเป็นบอสใหญ่ของเรื่อง เอ็มเพอเรอร์วอร์ (Emperor War) หนึ่งในจักรวาลคู่ขนานของมายฮีโร่อะคาเดเมีย และอยู่ในพหุจักรวาลเดียวกับฟิกชั่นวอร์น่ะ ฉันมีความแค้นต่อน้องชายของฉัน คิริกายะ มาโกโตะ หรือชื่อฮีโร่ จักรพรรดิฮีโร่ (Emperor of Heroes/Makoto Kirigaya) อย่างมาก และฉันก็เกลียดพวกฮีโร่ด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันได้สืบทอดออลฟอร์วันต่อจากนายท่านชื่อเดียวกับอัตลักษณ์ และเมื่อฉันรู้ว่าผู้มีอัตลักษณ์นี้ต่อจากท่านออลฟอร์วันไม่ได้มีแค่คนเดียว ฉันก็เลยรวบรวมพรรคพวกผู้มีอัตลักษณ์ออลฟอร์วัน และริเริ่มแผนการใหญ่ของฉันให้ได้”
    “เข้าใจละ” โทมูระพูด “แล้วแผนการของนายคืออะไร?”
    “ฉันจะจับนักเรียนปีหนึ่งห้องเอจากทั้งออมนิเวิร์สแห่งนี้มารวมตัวกันที่โลกของฉัน” จักรพรรดิวิลเลินตอบ “แล้วจากนั้นฉันจะดูว่า ใครมีอัตลักษณ์วันฟอร์ออล คนคนนั้นจะต้องให้วันฟอร์ออลกับศัตรูที่มีออลฟอร์วันคนนั้นด้วยการเจาะเลือด และเอาเลือดของผู้มีวันฟอร์ออลมาสกัดเป็นหัวเชื้ออัตลักษณ์ให้พวกผู้มีออลฟอร์วันได้ฉีด จากนั้นฉันก็จะให้เด็กนักเรียนพวกนั้นได้สัมผัสออลฟอร์วันผ่านการฉีดหัวเชื้อที่สกัดแล้วเช่นกัน แต่จะให้ฉีดหัวเชื้อออลฟอร์วันอย่างเดียวคงไม่พอหรอก ต้องล้างสมองพวกมันด้วยเพื่อที่จะให้เป็นทาสรับใช้ของสมาพันธ์วิลเลิน และจะได้จัดการกับพวกฮีโร่ให้หมดเลย”
    “แล้วเด็ก ๆ จากเรล์มออฟเทลส์ล่ะ โดนด้วยหรือเปล่า?” โทมูระถาม
    “อ๋อ ถ้าเป็นพวกนี้ จะนับเป็นกรณีพิเศษ” จักรพรรดิวิลเลินตอบ “พวกเขาจะไม่ได้โดนล้างสมองหรอก แต่พวกเขาจะกลายเป็นแหล่งสำรองความทรงจำมีชีวิตให้กับนักเรียนปีหนึ่งห้องเอที่โดนล้างสมองแทนไง”
    “อ๋อ” โทมูระบอก “แต่มันก็ต้องมีแผนสำรองนะ เผื่อมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา”
    “ถ้าเรื่องนั้นฉันเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว” จักรพรรดิวิลเลินตอบ “ฉันจะเตรียมกองฮาร์ดดิสก์ในการสำรองความทรงจำไว้เยอะอยู่แล้ว เผื่อมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาน่ะ”
    “อืม” โทมูระบอก “แล้วจะให้ฉันบอกพวกเด็กนักเรียนจากโลกของฉันเลยไหม?”
    “บอกไปเลยก็ดี” จักรพรรดิวิลเลินบอก “แต่ฉันจะบอกแผนทั้งหมดแก่พวกเขาแค่กลุ่มเดียวเท่านั้น” จากนั้นเขาก็หัวเราะต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2021
บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซนเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

    ยังหลบมุมร้องไห้อยู่ในห้องอย่างเงียบ ๆ เพราะสิ้นหวังที่จะช่วยเหลือทุกคนแล้ว
    “พี่เพ้นท์ครับ” อิซึคุบอกพี่ชายของเขา “ผมรู้สึกเห็นใจยังจริง ๆ เลยนะครับ”
    “ไม่เป็นไรหรอก” พอเพียงพูด “เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”
    “แล้วเขาจะมีทางจัดการกับมันได้บ้างไหมครับ?” อิซึคุถาม
    “พี่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน” พอเพียงตอบ
    อิซึคุเดินเข้ามาปลอบยังและบอกว่า “ไม่ต้องร้องไห้นะ”
    “ผมไม่ได้ร้องครับ ฝุ่นมันเข้าตา” ยังพูดเสียงสะอื้น
    “ไม่เป็นไรหรอก อยากร้องก็ร้องไปเลย ไม่มีใครว่า” พอเพียงพูด
    “นี่ผมทำได้แค่รอใช่ไหมครับ?” ยังถาม
    “จะว่าแบบนั้นก็ได้ ฉันเองก็ทำได้แค่คุยกับนายไม่ให้นายคิดมาก” พอเพียงตอบ “แต่ถ้าเกิดว่านายมีคำถามมากกว่านั้นละก็ ฉันเองก็คงจะตอบให้นายตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดว่านายมีคำถาม ฉันว่านายต้องไปคุยกับคนที่อยู่ในห้องรับแขกของบ้านนี้นะ”
    “ห้องรับแขก?” ยังถาม
    “ฉันเชื่อว่านายรู้จักแน่นอน” พอเพียงตอบ
    ยังเชื่อในคำตอบของพอเพียงจึงเดินออกจากห้องไป
    เมื่อยังเดินจากห้องนอนของพอเพียงไปแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาเองขึ้นมาดูข้อความใหม่ที่ส่งมาจากลูกน้องสังกัดไอดีพีเอ็ม เรียกให้เขาไปทำภารกิจที่เร่งด่วน
    “พี่ต้องไปแล้วล่ะ” พอเพียงพูดแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกงของตัวเอง “พี่โดนเรียกตัวให้ไปทำภารกิจเร่งด่วนแล้ว”
    “อ้าว จะไปแล้วเหรอครับ?” อิซึคุถาม
    “ใช่” พอเพียงตอบ “แล้วเจอกันเมื่อภารกิจของพี่เสร็จสิ้นแล้ว” ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านและเข้าไปในโรงรถทันที

    พอเพียงได้เลือกเอารถบูกัตติ ชิรอน นัวร์ คลาสสิกออกมาเพื่อลุยอีกครั้ง เขารีบขับรถออกไปยังสถานที่เกิดเหตุทันที

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2021
ศูนย์วิจัยซีมเลสฮิวแมนประเทศไทย กรุงเทพมหานคร

    เมื่อพอเพียงมาถึง ปรากฏว่าเรื่องมันชักจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว ทันทีที่เขามาถึงหน้าศูนย์วิจัย เขาก็ได้เห็นทุกอย่างวุ่นวายไปหมดแล้ว เมื่อซีมเลสฮิวแมนกำลังทำการทดลองสร้างมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ แต่กลับถูกขัดขวางจากหลายฝ่ายด้วยกัน ทั้งฝ่ายโวลเดอมอร์เอย ฝ่ายสมาพันธ์วิลเลินจากเรื่องเอ็มเพอเรอร์วอร์เอย (คราวนี้ไม่ใช่จากโลกหมายเลข 394 (เอเลเมนท์คิง) แล้วล่ะ) ฝ่ายองค์กรภารดรภาพแห่งวายร้ายเอย แล้วก็ฝ่ายมัลแวร์ลีเจี้ยนของเดอะแบล็คอีก จนการทดลองล่มไม่เป็นท่า
    พอเพียงได้กระโจนเข้าสู่ลานนองเลือด ที่ห้าฝ่ายต่างสาดกระสุนใส่กันอย่างกับข้าวสารเสก (อีกแล้วเหรอเนี่ย?) แต่เดอะแบล็คผู้นำมัลแวร์ลีเจี้ยนใช้พลังโกงกว่าคนอื่น นั่นก็คือการเปลี่ยนแขนข้างขวาให้เป็นปืนใหญ่แบบเกาส์แคนนอน (Gauss Cannon) หรือไม่ก็บัลลิสต้า (Ballista) จากเกมดูมทั้งภาค 2016 และอีเทอร์นัล (Doom 2016 and Eternal) แล้วยิงทุกจุดที่ศัตรูอยู่
    พอเพียงจึงรีบนำกองทัพไอดีพีเอ็มเข้าไปซัลโวตัวร้ายทุกฝ่ายให้ได้เพื่อไม่ให้เละเทะไปมากกว่านี้ เพราะเขารู้ว่าเขาต้องรับมือกับศึกจากทั้งบนโลกและจากนอกโลกอีก แต่ทว่า...
    พอเพียงเห็นชายคนหนึ่งปรากฏตัวกลางลานนองเลือด เขามีนัยน์ตาสีแดงแบบแวมไพร์ ผมทรงปกติสีดำ และหูของเขาชี้ขึ้นคล้ายเอลฟ์ เขาใส่เสื้อสูทสีดำและมีผ้าคลุมแบบแดร็กคูล่าด้วย ซึ่งพอเพียงจำได้ทันทีว่าชายคนนี้คือใคร เขาคือวิกเตอร์ (Victor The Young Former Vampire) ชายผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้รับใช้ของออริจินส์โคลน 293 (Origins Clone 293) ในสมัยที่เขายังเป็นแวมไพร์ เคียงข้างกับจิน อดีตแวมไพร์ทอมบอยที่รับใช้และรักออริจินส์ 293 อย่างมาก
    ทันทีที่วิกเตอร์ลงถึงพื้น เขาพบกับผู้คนที่เป็นฝ่ายศัตรูที่เตรียมจะโจมตีเขา
    “อ๋อ อยากชิมดาบของฉันก็ไม่บอกนะ เข้ามา!” วิกเตอร์พูดและชักดาบขึ้นมา
    “วิกเตอร์!! ข้างหลัง!!” พอเพียงตะโกนเรียก และวิกเตอร์ก็หันหลังตามที่พอเพียงบอกจนกระทั่งโดนเดอะแบล็คถีบไปทางพวกสมาพันธ์วิลเลิน
    “นี่แก...อะไรกันเนี่ย” วิกเตอร์พึมพำ มือของเขายังถือดาบอยู่ เขาพุ่งเข้าไปฟันแฮกเกอร์ด้วยความเร็วสูง แต่เดอะแบล็คเร็วกว่าเพราะวาร์ปไปอยู่ข้างหลังวิกเตอร์ แล้วถีบเขาส่งไปทางพวกไอดีพีเอ็ม
    “ทำไมนายทำอย่างนี้เนี่ย!” พอเพียงร้อง
    “อ๊ะ นายน้อยเองเหรอ?” วิกเตอร์ถามพอเพียง
    “ใช่” พอเพียงพูด “รู้ได้ยังไง”
    “เดี๋ยวผมอธิบายทีหลัง ว่าแต่ไอ้หมอนี่มันคือใครกันแน่” วิกเตอร์ชี้มาที่แฮกเกอร์
    พอเพียงจึงตอบอดีตแวมไพร์หนุ่มว่า “เดอะแบล็ค แฮกเกอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพีน่ะสิ”
    “งั้นผมคงจะไว้ชีวิตมันไม่ได้แล้วล่ะ” วิกเตอร์บอกและตั้งท่าเตรียมจะสู้
    “แกคิดเหรอว่าแกจะเก่งเกินกว่าจะเป็นแค่กระสอบทรายให้ฉันจัดการเล่น” แฮกเกอร์ถามอดีตแวมไพร์หนุ่ม
    “ฝันไปเถอะ!” วิกเตอร์ตอบ จากนั้นเขาก็พุ่งไปโจมตีเดอะแบล็คทันที
    “อย่า!!” พอเพียงตะโกนห้ามแต่ก็ช้าไปแล้ว

    เวลาผ่านไป สกิลการต่อสู้ของวิกเตอร์ที่อุตส่าห์ได้รับการฝึกฝนมาจากวูล์ฟเป็นอย่างดีกลับมีสเกลพลังที่ “สด” กว่าเจ้าแฮกเกอร์ราวฟ้ากับเหว ทำให้ฝ่ายที่เป็นกระสอบทรายกลายเป็นวิกเตอร์เสียเอง
    “นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมเราถึงจัดการเจ้าหมอนี่ไม่ได้เลย” วิกเตอร์พึมพำ
    “วิกเตอร์ ฉันว่าฉันจัดการกับพวกมันเองดีกว่า” พอเพียงพูด “ถ้านายยังสู้อีก ฉันเกรงว่านายจะตายแน่นอน”
    “ไปให้พ้นหน้าฉันซะเถอะ” แฮกเกอร์สั่ง “ถ้าแกยังสดอยู่ตรงนี้ต่อล่ะก็ แกได้กลายเป็นกระสอบทรายให้ฉันอัดจนตายแน่ไอ้หนุ่ม!”
    “ก็ได้...” วิกเตอร์ตอบศัตรูด้วยความแค้น “ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าแฮกเกอร์!”
    และแล้วต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปยังที่ของตัวเอง เพราะการมาของอดีตแวมไพร์หนุ่มทำให้ทุกอย่างพังลง ส่วนพอเพียง เขาพาวิกเตอร์ขึ้นชิรอนนัวร์คลาสสิกแล้วขับกลับไปยังบ้านอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางวิกเตอร์ก็ได้มีเรื่องคุยเยอะเลยทีเดียวนั่นก็คือ...
    “นายน้อยครับ” วิกเตอร์เอ่ย “นายน้อยอาจจะสงสัยว่า ทำไมผมถึงเรียกคุณแบบนั้น นั่นก็เพราะว่าเจ้านายทุกคน รวมถึงพี่วูล์ฟด้วย เป็นร่างแยกของเจ้านายตัวจริงที่ชื่อ ลี พาเกอร์ ที่อยู่ในโลกเดียวกับคุณ และคุณก็เป็นหลานชายของเขาด้วย ผมจึงเรียกคุณว่านายน้อยนั่นแหละครับ”
    “ฉันไม่ว่าอะไรหรอก” พอเพียงตอบ “ขนาดแจ้ตัวจริงยังเรียกฉันอย่างนี้เลย”
    “ตอนแรกผมถูกส่งให้ไปช่วยเหลืออีวิล 303 แต่แอตลาสกลับส่งไปผิดที่ ผมเลยโดนเล่นงานซะหนักเลย” วิกเตอร์พูด “เอาเถอะ ไหน ๆ ผมก็ได้เจอกับนายน้อยไปแล้ว ผมอยากให้นายน้อยคุยเป็นเพื่อนกับผมระหว่างทางหน่อยนะครับ”
    “ได้สิ” พอเพียงตอบ “นายอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ?”
    “หลายอย่างเลยครับนายน้อย ผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี” วิกเตอร์ตอบ
    “เอาเป็นว่า...” พอเพียงพึมพำ “จะเริ่มอธิบายยังไงดี... เออนี่! ในโลกนี้ยุคสมัยใหม่นี้ ก็มีอะไรน่าสนใจอยู่หลายเรื่องเหมือนกันนะ”
    “เรื่องอะไรบ้างครับ?” วิกเตอร์ถาม เขายิ้มอย่างตื่นเต้นเป็นครั้งแรกภายใต้ใบหน้าที่เย็นชาของเขา
    “องค์กรซีมเลสฮิวแมน เป็นองค์กรที่ริเริ่มสร้างเซรุ่มสำหรับสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดโดยเริ่มมาจากโครงการลับสุดยอดโปรเจกต์อันโนน (Project Unknown) ที่มีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบตามแบบของมัน ทรงพลัง แข็งแกร่ง ฉลาด ทนทานต่อโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นอมตะ และเป้าหมายแรกคือการทดลองกับเด็กทารกแรกเกิดที่เป็นฝาแฝดต่างเพศจากไข่ใบเดียวกัน นายได้ยินแล้วเป็นยังไง ไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ?”
    “มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?” วิกเตอร์ถาม “มันจะมีโอกาสเหรอที่เด็กแบบนี้จะเกิดขึ้น?”
    “ก็เพราะความโรคจิตของสมาชิกองค์กรนี้เกือบทั้งหมดไงล่ะ” พอเพียงตอบ “พวกมันอ้างว่าเด็กทารกแรกเกิดแบบนั้นมีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่าคนทั่วไป ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากทารกแรกเกิดคนอื่น ๆ เลยสักนิดเดียว และเมื่อไม่มีทารกแรกเกิด องค์กรนี้ก็ได้ทำการทดลองกับเด็กทารกทั่วไปคนอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะตายทั้งนั้น ต่างกันที่ความช้าเร็วในการตายเท่านั้นเอง ซึ่งไอ้พวกนี้มันยังไม่ยอมรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายกับครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตอีกต่างหาก
    “จนกระทั่ง มีอดีตสมาชิกองค์กรซีมเลสฮิวแมนหน้าหล่อคนหนึ่งตัดสินใจจะอยู่ข้างผู้เสียหายและเริ่มต่อต้านโครงการนี้ เขาชื่อ จอห์น คอร์เรีย (John Corria) ผู้ที่จะเป็นฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของซีมเลสฮิวแมนที่จะพาองค์กรเข้าสู่ช่วงขาลงไปตลอดกาล แม้ในช่วงแรก ๆ เขาพยายามจะทำทุกวิถีทาง แต่กลับไม่เป็นผลเมื่อสมาชิกองค์กรกลับไม่ได้อยู่ข้างเขาเลย และหนึ่งในนั้นคือการขู่ว่าเขาจะแฉทุกอย่างที่เป็นโปรเจกต์อันโนน แต่กลับถูกขู่กลับว่าถ้าเขาแฉจะถูกสั่งเก็บทิ้ง แต่ยังไงเขาก็ยังต้องดิ้นรนกันต่อไป เพราะว่าเขายังมีพันธมิตรอย่างเหนียวแน่น นั่นก็คือเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ แดเนียล ‘แดน’ ไทเลอร์ (Daniel “Dan” Tyler) และพวกเขาดิ้นรนอยู่กับอำนาจขององค์กรหน้าเงินมานานจนกระทั่งวันที่ 1 มกราคม ปี 2000
    “ใครจะไปคิดว่าวันนั้นจะเป็นจุดสูงสุดของซีมเลสฮิวแมน เมื่อพวกมันได้ไปดักที่โรงพยาบาลฮีลฮอว์ค (Healhawk Hospital) เพื่อรอรับลูกฝาแฝดต่างเพศจากไข่ใบเดียวกันไปทดลอง และครอบครัวผู้โชคร้ายก็คือครอบครัวเดลวิน (The Delwin Family) ผู้ยากจนสุด ๆ และไม่นึกเลยว่าลูกของตัวเองจะต้องกลายเป็นยอดมนุษย์ เมื่อคุณนายเดลวินคลอดออกมาเป็นฝาแฝดที่ตรงกับที่ซีมเลสฮิวแมนต้องการ ซึ่งแฝดชายเกิดก่อนแฝดหญิงประมาณไม่กี่นาที จากนั้นเด็ก ๆ ก็โดนพวกนักวิทยาศาสตร์จากซีมเลสฮิวแมนเข้ามาเอาตัวไปฉีดยารุ่นใหม่ล่าสุดในขณะนั้น และมันก็ทำให้สองฝาแฝดเดลวินกลายเป็นยอดมนุษย์รุ่นบุกเบิก และก็ถูกพวกซีมเลสฮิวแมนตั้งชื่อให้ว่า อดัม สำหรับแฝดชาย และอีฟ สำหรับแฝดหญิง
    “โอเค มันคือประวัติศาสตร์ของจริง และมันคือจุดสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวที่ซีมเลสฮิวแมนเคยเข้าถึง คือหลังจากความสำเร็จของโครงการนี้ เหล่าซีมเลสฮิวแมนก็พยายามจะแจกเซรุ่มไปทั่วโลก แต่คุณจอห์นกับคุณแดนใช้ไม้ตายสุดท้าย นั่นก็คือประมวลกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบ ควบคุม และคุ้มครองสิทธิยอดมนุษย์ คุณจอห์นได้ร่างประมวลกฎหมายนี้ขึ้นมาเพื่อควบคุมคุณภาพของเหล่ามนุษย์ที่สมบูรณ์แบบไม่ให้ใช้ชีวิตสะเปะสะปะในสังคมต่อไปได้เลย และแน่นอนร่างนี้ผ่านฉลุย องค์การสหประชาชาติได้ตั้งประมวลกฎหมายนี้มาเป็นกฎหมายสากล และแน่นอนว่าพวกมันก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้กฎหมายนี้ผ่านไปได้แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะร่างกฎหมายนี้ถูกประกาศบังคับใช้ และผลงานจากโครงการโปรเจกต์อันโนนก็ต้องถูกรัฐบาลแต่ละประเทศแบ่งกันยึดดูแลและกีดกันไม่ให้ซีมเลสฮิวแมนมีส่วนร่วมกับผลงานโครงการนี้เลย
    “แต่ก็ใช่ว่าซีมเลสฮิวแมนจะไม่เหลือผลงานสำรองเลย เพราะพวกมันยังแอบเก็บผลงานสำรองที่มาจากโครงการนี้ไว้เป็นของตัวเอง แล้วไปซ่อนไว้ในคลังตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือ ศูนย์วิทยาศาสตร์แกรนด์เชเพิร์ด (Grand Shepard Science Facility) วันที่ 14 เมษายน 2006 ฉันกับเพื่อน ๆ ของฉันได้เจอกับเด็กแสบคนหนึ่งกำลังหลุดออกไปป่วนห้องทดลองที่เป็นเขตหวงห้าม พวกฉันก็เลยไล่ตามเด็กแสบร่วมกับน้า ๆ นักวิทยาศาสตร์อีกสองสามคน แต่เจ้าเด็กนั่นหยิบหลอดทดลองที่มีสารไวไฟในตู้เก็บแล้วก็ทำมันแตก โชคร้ายที่มันดันติดไฟเร็วและในตู้เก็บนั้นก็มีสารไวไฟอีกหลายสารในตู้เก็บ ซึ่งเจ้าเด็กนี่ดันทำแตกใกล้ตู้ดังกล่าวซะด้วย แต่มันก็ยังมีความโชคดีซ่อนอยู่ คือนักวิทยาศาสตร์ที่นั่นได้พาเด็กแสบหนีออกไปแล้ว แต่ไม่ได้เอาพวกฉันออกไป คราวนี้แหละ ตู้เก็บสารก็ระเบิดตู้ม! เกิดเป็นโกโก้ครันช์เลยทีเดียว
    “หลังจากนั้นพวกฉันตื่นขึ้นมา พวกฉันก็เปลี่ยนไป และเป็นสาเหตุที่นัยน์ตาของฉันกับข้อมือของฉันกลายเป็นแบบนี้แหละ” พอเพียงพูด “หนึ่งในเพื่อนของฉัน ธันวา บรูทัลบลัด เศษแก้วกระจกนั้นฝังลึกเข้าที่เบ้าตาข้างขวา ถ้าไม่ได้พลังฮีลลิ่งแฟกเตอร์นี่ตาคงบอดไปนานแล้ว แต่เขามีแล้ว ทำให้เมื่อฉันดึงกระจกออกมา เขาจึงมีรอยแผลเป็นที่ตา พวกเราทุกคนมีพลังที่สมบูรณ์แบบ พละกำลังเหนือมนุษย์ มีพลังฟื้นฟูได้ทั้งกับตัวเองและคนอื่น ยิงพลังได้ มีซูเปอร์วิชั่นที่มีคุณสมบัติแบบวิสัยทัศน์อินทรีจากเกมชุดอัสแซซินส์ครีด คือสามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางได้ แยกแยะสถานภาพของบุคคลหรือระบุสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้ และมีปัญญาเลิศล้ำ
    “พอข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ซีมเลสฮิวแมนก็โดนวิจารณ์อย่างหนักเลยล่ะ และฉันก็ได้รู้เรื่องโครงการนี้มาจากพ่อของฉันเองแหละ เขาเคยเป็นหัวหน้ามาเฟียตระกูลมาสเตอร์ (The Master Family) ซึ่งเป็นตระกูลของฉันเอง รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการครอบจักรวาล พอเพียงเอ็นเตอร์ไพรส์ (Porpiang Enterprise) และเมื่อฉันรู้ ฉันก็คิดที่จะต่อต้านซีมเลสฮิวแมน เพราะฉันไม่ต้องการให้พวกเขาได้เป็นยอดมนุษย์โดยไม่ผ่านการใช้กฎหมายจากรัฐบาลของแต่ละประเทศ เพราะพวกมันยังบังคับฉีดเซรุ่มให้เด็ก ๆ กลายเป็นยอดมนุษย์แล้วไม่ให้พวกเขาลงทะเบียนยอดมนุษย์อีก! โหดร้ายไหมล่ะ!”
    “ผมว่าโหดร้ายเหมือนกันนะนายน้อย” วิกเตอร์ตอบ “เพราะว่ายังไงมันก็เพื่อคุณภาพของผู้มีพลังวิเศษนะ”
    “ใช่ ฉันก็ว่าอย่างนั้น” พอเพียงตอบ “แต่นอกจากนี้ สิบสองวันหลังจากอุบัติเหตุที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ มันมีแก๊งขโมยเด็กกลุ่มหนึ่งที่ทำงานให้กับซีมเลสฮิวแมนโดยตรงไล่จับเด็กอายุใกล้เคียงกับฉันออกมาฉีดเซรุ่มให้หมด ลุงลีถือเป็นคนเดียวที่ได้รับภารกิจให้ไปจัดการกับพวกขโมยเด็ก แต่กลับถูกพวกมันจับรมควันที่มีเซรุ่มนั้นอยู่ด้วย ทำให้เขาก็ได้พลังวิเศษเหมือนกัน และในที่สุด พวกเราทั้งทีมพอเพียงไรเตอร์และลุงลีก็ได้เข้าไปลงทะเบียนยอดมนุษย์และได้บัตรยอดมนุษย์มาเลย
    “ส่วนสองฝาแฝดเดลวิน ไม่ต้องห่วง พวกเขาก็ลงทะเบียนไปแล้วเรียบร้อย ส่วนฉันก็ยังต้องทรมานกับพลังซูเปอร์วิชั่นที่ไม่เสถียร จนกระทั่งฉันได้แว่นตาอัจฉริยะจากคุณจอห์นมาช่วยไว้ และแม้ซูเปอร์วิชั่นของฉันเสถียรจนไม่ต้องใส่แว่นแล้ว แต่ฉันก็ยังคงใส่แว่นอันนี้แหละมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากมันมีประโยชน์มากกว่าการกรองสายตาจากซูเปอร์วิชั่น แต่ไอ้พวกแก๊งขโมยเด็กเนี่ยมันยังไม่เข็ด ยังพาตัวเด็กคนอื่น ๆ มาทดลองต่อไป โชคดีหน่อยที่ช่วงหลัง ๆ พวกตำรวจเริ่มเข้ามาขัดขวางได้ก่อนที่จะได้ฉีดเซรุ่มไปแล้ว แต่ไอ้หัวหน้าแก๊งยังหนีไปได้จนกระทั่งถูกจับในปี 2015 ซึ่งตรงนี้มันสารภาพอย่างหมดเปลือกแต่ไม่ใช่เพราะสำนึกผิดหรอกนะ แต่สะใจที่ได้สืบสานเจตนารมณ์ของซีมเลสฮิวแมน ส่วนเด็ก ๆ ที่ถูกจับมา ถ้าเกิดถูกฉีดเซรุ่มไปแล้ว บางส่วนก็จะยอมลงทะเบียนยอดมนุษย์ แต่อีกส่วนนั้นมีแผนบางอย่างที่ฉันจะบอกหลังจากนั้น
    “ในขณะเดียวกันฉันก็ได้รู้จักกับหนึ่งในกลุ่มที่โดนจับมาเมื่อปี 2006 นั่นก็คือทีมเอ็มซีพีเอ พวกเราได้คุยกัน แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมา รวมถึงต้องเจอกับภารกิจที่ต้องคุ้มกันสองฝาแฝดเดลวินอีกด้วย พวกซีมเลสฮิวแมน มันจ้องจะกลับมาเอาเรื่องพวกเดลวินอีกครั้ง จนกระทั่ง ยอดมนุษย์อีกาปรากฏตัวขึ้น และในวันนั้นฉันก็ได้รู้จักกับองค์กรยอดมนุษย์เพื่อสันติสุขเป็นครั้งแรก เพราะพวกเขามาช่วยสองฝาแฝดเดลวินอีกแรง แต่ตอนนั้นพวกเขาเหล่านั้นยังไม่ได้ลงทะเบียนสนธิสัญญาคอร์เรียเลย และหลังจากนั้นน่ะนะ ฉันก็ได้เจอเรื่องมากมาย เช่น การได้พบกับพวกองค์กรภารดรภาพแห่งวายร้ายในขณะที่ฉันกำลังตามล่าขุมทรัพย์ โดยพวกมันมาเพื่อเอาขุมทรัพย์มาเป็นอาวุธในการครองโลก แต่ฉันไม่ยอมให้มันง่าย ๆ หรอก เพราะเกาะที่ซ่อนขุมทรัพย์ชิ้นนี้ไว้นั้นมีความรู้สึกผูกพันกับฉันมาก และคนที่จะได้ขุมทรัพย์ชิ้นนี้ไปต้องเป็นฉัน ฉันเท่านั้นที่จะได้ขุมทรัพย์ชิ้นนั้นไป และแถมพวกองค์กรยอดมนุษย์ฯ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับองค์กรภารดรภาพฯ ยังตามมารังควานถึงเกาะที่ฉันจะล่าขุมทรัพย์ด้วย กลายเป็นการไล่ล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    “หลังจากที่ฉันหนีออกมาพร้อมกับขุมทรัพย์ในมือฉันได้แล้ว เหตุการณ์ต่อไปคือการจับจอมโจร ซึ่งเป็นภารกิจแรกในฐานะสมาชิกองค์การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสากล หรือ ไอดีพีเอ็ม ฉันเลยคิดว่า ปราบธรรมดาเดี๋ยวโลกไม่จำ ฉันใช้แผนการจับกุมแบบแหวกแนว แต่กลับลงเอยที่ว่ายอดมนุษย์ดันมาทำพังซะก่อน กลายเป็นการไล่ล่าสุดกำลังสุดวายป่วง แต่ก็จบไปได้ด้วยดี
    “เวลาผ่านไป ฉันเจอเหตุการณ์ระเบิดสองจุด คือที่สี่แยกสามลำกล้อง (Three Caliber Juction) ที่อยู่ย่านสยาม อีกที่คือแยกสะพานอนุกรม (Serial Bridge Juction) ที่อยู่ใกล้บริษัทเวิลด์เทรดอันลิมิเต็ด (World Trade Unlimited) และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการเถลิงอำนาจของแฮกเกอร์ร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี เดอะแบล็ค ซึ่งเขาประกาศว่าการวางระเบิดสองจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหญ่ คือขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่รุนแรงยิ่งกว่าระเบิดซาร์บอมบาของอดีตสหภาพโซเวียตเป็นพันเท่า แถมยังมีเชื้อไวรัสซอมบี้อีกต่างหาก! โดยเขาขู่ว่าจะจุดชนวนในอีกห้าปีข้างหน้า ก็คือปี 2025 และตอนนั้นถูกเก็บไว้ในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา โดยที่เขาจะขู่แบบนี้ก็เพื่อล่อให้เซสเตอร์เจ้าแห่งเวลา (Sester The King of Time) มาตายด้วยน้ำมือของเจ้าแฮกเกอร์”
    “แล้วทำไมเจ้าหมอนั่นถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับนายน้อย?” วิกเตอร์ถาม
    “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” พอเพียงตอบ “เพราะตอนนี้ฉันยังไม่รู้ปูมหลังของมันเลย แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ความลับเกี่ยวกับต้นกำเนิดขององค์กรยอดมนุษย์ฯ และองค์กรภารดรภาพฯ ก็แตกอย่างรวดเร็วเมื่อเจ้าแฮกเกอร์รู้ว่า ทั้งสองเกิดมาจากการทดลองของซีมเลสฮิวแมน ดังนั้น หวยแห่งความโชคร้ายก็เลยมาลงที่สองฝาแฝดเดลวินเนี่ยแหละ ไปฝังตัวอ่อนปีศาจให้สองฝาแฝดตั้งท้อง...”
    พอเพียงหันไปมองที่วิกเตอร์ที่ทำหน้างง ๆ อยู่ แล้วบอกว่า “อย่าทำหน้าอย่างนั้น! ฉันพูดจริง! อีฟ เดลวินท้องไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคืออดัม เดลวินดันท้องด้วยเนี่ยแหละ! โอ๊ย! นี่มันปรากฏการณ์ใหม่แล้วนะเนี่ย ซึ่งฐานทัพของเจ้าแฮกเกอร์นั้นมันประจำอยู่ที่เกาะควอลาสทาร่า และนั่นแหละ มหกรรมการถล่มเกาะจึงเริ่มต้นขึ้น และวุ่นวายกันอย่างมากเลยนะ คิดดูว่ามันจะเละเทะขนาดไหน แล้วยิ่งมีศัตรูจากนอกโลกมาอีก อย่างชาวครูเซดีส (Crusadese) จากดาวครูเสด พวกนี้คือกบฎที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับอาณานิคมคราเคเซีย (Krakezia Planet) นำโดยนายพลซอร์-ดาน (General Zor-Dan) ซึ่งก็ม่องเท่งไปในมหกรรมถล่มเกาะนั้นแล้วเรียบร้อย เพราะมีพวกที่เลวร้ายกว่าคือ อินเฟอร์นอส ดิ อันไนฮิเลเตอร์ กับไนท์แมร์ลีเจี้ยน (Nightmare Legion) มาพร้อมกับมหาจอมมารสูงสุดเกฟเวอร์รัส จอมมารสายนักปราชญ์ ซึ่งหลังจากสงครามใหญ่ครั้งนั้น ฝ่ายอินเฟอร์นอสเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนล่าถอยออกไป และพวกวายร้ายเหล่านี้ก็ถูกจับไปเรียบวุธ และพวกยอดมนุษย์ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนก็ตัดสินใจลงทะเบียนเพื่อตีกรอบในการเป็นยอดมนุษย์เลย
    “แต่วันหนึ่ง ฉันฝันร้าย ฝันว่าฉันถูกฮีโร่บรายน์ฆ่าตาย ฉันจึงคิดว่ามันต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน ฉันจึงค้นดูข้อมูลในหนังสือที่ฉันเขียนไว้ และฉันก็รู้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว เพราะเหตุการณ์ที่ฉันเคยเขียนไว้นั้นมันเกิดขึ้นจริงแล้วเรียบร้อย และมีอีกหลายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เอาที่สด ๆ ร้อน ๆ ที่สุดเลยก็คือ หนึ่ง ลุงแฮร์รี่ ลุงรอน และป้าเฮอร์ไมโอนี่มาที่บ้านฉันเพื่อเป็นที่หลบภัย แล้วโวลเดอมอร์ก็ตามมาบุกถึงบ้านฉัน โชคดีที่ฉันเตรียมรับมือกับพวกคำสาปโทษผิดสถานเดียวมาพร้อม ฉันเลยสามารถเอาอยู่กับพวกพ่อมดแม่มดสายดำ จากนั้นฉันก็ได้เจอกับยัง ลูซิเฟอร์ และอิซึคุ และช่วยรักษาพวกเขาไว้นั่นแหละ ฉันยังไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคตนะ”
    “อย่างนี้นี่เอง” วิกเตอร์พูด “ผมเข้าใจแล้วครับ ไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนขนาดนี้ แสดงว่าอัน-แฟนทาสต์เป็นมนุษย์ทรงปัญญาจริง ๆ ด้วย ขนาดผมที่เป็นอดีตแวมไพร์และมีอายุมากกว่านายน้อยตั้งเยอะยังไม่เคยรู้ขนาดนี้มาก่อน”
    “รู้ไหม นายน่ะเป็นคนที่เย็นชา” พอเพียงบอก
    “ทำไมนายน้อยถึงคิดว่าผมเย็นชาขนาดนั้นล่ะ” วิกเตอร์ถาม นี่เป็นครั้งแรกในรอบทั้งชีวิตของเขาหลังจากที่เขาเป็นแวมไพร์ การได้คุยกับพอเพียงทำให้เขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบอื่นบ้าง
    “นายดูเหมือนไม่มีความรู้สึก แต่ข้างในน่ะนายรู้สึกผูกพันมากเลยนะ” พอเพียงตอบ “โดยเฉพาะฉันและลุงออริจินส์โคลน 293”
    “ผมมีความรู้สึกผูกพันกับเจ้านาย 293 มากกว่านายน้อยอีกนะ” วิกเตอร์แย้ง
    “ฉันเข้าใจ ๆ” พอเพียงตอบ “เอาล่ะ ฉันว่าน่าจะเปิดเพลงฟังแล้วกันนะ ฉันก็ทำเพลงมานาน ฉันเพิ่งปล่อยอัลบั้มใหม่มาสด ๆ ร้อน ๆ เลย ฉันจะให้ฟังทั้งอัลบั้มเลยดีกว่านะ”
    จากนั้นพอเพียงก็ได้กดปุ่มที่แผงควบคุมรถยนต์ และแตะหน้าจอทัชสกรีนที่พอเพียงติดตั้งมาให้ และที่เขาเปิดฟังก็คือเพลงทั้งหมดในอัลบั้มฟรอมฟิกชั่นทูเรียลลิตี้ที่เขาเพิ่งวางจำหน่ายไปนั่นแหละ
    “ผมขอถามหน่อย ปกตินายน้อยชอบเล่นดนตรีแนวไหน?” วิกเตอร์ถาม
    “อ๋อ ปกติฉันจะชอบทำดนตรีเมทัลและฮาร์ดคอร์พังก์แหละ” พอเพียงตอบ “เป็นคนที่ชอบทำดนตรีมัน ๆ เข้าว่าเลยล่ะ”
    “อ๋อ” วิกเตอร์ว่า
    “ฉันคิดว่าฉันจะแวะบ้านของฉันก่อน ไปดูว่าตอนนี้อาการของยังเป็นยังไงบ้าง” พอเพียงพูด
    “โอเคครับ” วิกเตอร์พูด “ผมอยากจะพบหน้าคุณอิซึคุอีกครั้ง”
    “ไม่เป็นไร” พอเพียงตอบ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.