ตอนที่ 1,001 เซี่ยเฟยถูกลักพาตัว

ในที่สุดสกายวิงก็บรรลุข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรกับเครน เพราะไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยคอนสแตนที่เป็นตัวการในการสังหารอีวิลวิงของตระกูลไปอยู่แล้ว การมีผู้ช่วยเพิ่มมากขึ้นเพียงแค่เล็กน้อย มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อแผนการของพวกเขามากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามเซี่ยกู่เฉิงก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าศัตรูของเขาจะไม่ใช่ผู้สร้างเพียงคนเดียว แต่เป็นผู้สร้างที่ร่วมมือกันถึงเจ็ดคน ยิ่งไปกว่านั้นแผนการแก้แค้นของสกายวิงยังมีความเกี่ยวพันกับแผนการอันเน่าเฟะของพวกผู้สร้างอีกด้วย

แม้สองประเด็นนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง แต่สำหรับสกายวิงมันก็เป็นเรื่องที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยคนที่ทำร้ายสมาชิกในตระกูลของพวกเขาไป ไม่ว่าคนคนนั้นมันจะเป็นใครก็ตาม

“เอาล่ะต่อจากนี้ไปพวกเราคือพันธมิตรกัน” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวอย่างหนักแน่น ในทันทีที่เขาพูดจบลงกระเรียนขาวก็ส่งสัญญาณเตือนขึ้นมาอย่างกะทันหัน โดยมันเป็นการติดต่อมาจากเซี่ยเฟยที่อยู่ในค่ายผู้พิทักษ์

“นายได้คำตอบมาแล้วหรือยังว่าตอนนี้ประตูจักรวาลเป็นยังไงบ้าง?” เซี่ยกู่เฉิงถาม

“สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ครับ ดูเหมือนจะมีพวกรีเวิร์สหลุดออกมาจากประตูจักรวาลทุกสัปดาห์ และมีแนวโน้มที่จะหลุดออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าประตูจักรวาลจะทนได้อีกนานสักแค่ไหน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เซี่ยกู่เฉิงพยักหน้ารับ เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันมันก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่เขาประเมินเอาไว้เท่าไหร่

หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ มันก็หมายความว่าสกายวิงจะต้องเร่งดำเนินการเพื่อจัดการกับผู้สร้างทั้งเจ็ดก่อนที่ประตูจักรวาลจะพังทะลายลง

ก่อนที่พวกเขาจะเผชิญหน้ากับศัตรูจากภายนอก พวกเขาก็ควรจะต้องจัดการศัตรูภายในให้หมดสิ้นไปเสียก่อน ท้ายที่สุดทั่วทั้งจักรวาลก็ควรจะต้องรวมกำลังเป็นหนึ่งเดียว พวกเขาจึงจะมีความสามารถในการต่อต้านภัยคุกคามจักรวาลได้ ไม่อย่างนั้นสถานการณ์มันก็จะกลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสามฝ่าย

ชั่วครู่หนึ่งเซี่ยกู่เฉิงก็จมอยู่ในห้วงความคิด แต่คำพูดของเซี่ยเฟยได้ดึงสติของเขากลับคืนมาเสียก่อน

“บรรพบุรุษ ก่อนหน้านี้ผมสังหารรีเวิร์สในค่ายผู้พิทักษ์ได้สำเร็จ แต่ผมกลับได้สิ่งสำคัญอย่างที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน” เซี่ยเฟยกล่าว

“นายได้อะไรมา?” เซี่ยกู่เฉิงถามอย่างเร่งรีบ

“ผมได้หลักฐาน! มันเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่าผู้สร้างได้ทรยศต่อดินแดนกฎ มันคือหลักฐานที่แสดงว่าผู้สร้างยอมแลกดวงวิญญาณของทุกคนเพื่อป้องกันไม่ให้รีเวิร์สบุกโจมตีจักรวาล” เซี่ยเฟยกล่าว

เซี่ยกู่เฉิงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างดีใจ ขณะที่เครนที่รับฟังบทสนทนานี้อยู่ก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นกัน

“เยี่ยมมาก! ถ้าเรามีหลักฐานเราก็จะสามารถดึงคนทั่วทั้งดินแดนกฎมายืนเคียงข้างเราได้ นานมากแล้วที่ฉันพยายามหาหลักฐานพวกนี้ ไม่คิดเลยว่าในท้ายที่สุดสกายวิงจะเป็นคนที่ได้รับหลักฐานมา” เครนกล่าวอย่างตื่นเต้น

เซี่ยเฟยชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นชายชราที่เขาไม่รู้จัก แต่ในเมื่อบรรพบุรุษไม่ได้พูดอะไรเขาจึงไม่ได้ตั้งคำถามอะไรขึ้นมาด้วยเช่นกัน

“เซี่ยเฟย เรื่องนี้คือเรื่องเร่งด่วน นายควรรีบนำหลักฐานกลับมาโดยเร็วที่สุด” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ได้ครับ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

หลังจากตัดการสื่อสารเซี่ยเฟยก็กล่าวคำอำลากับพวกผู้พิทักษ์ โดยบอกว่าตระกูลของเขามีเรื่องด่วนที่จะจำเป็นจะต้องกลับไปจัดการในทันที

“มันเป็นเรื่องด่วนมากไหม? ตอนนี้ผู้นำของเรากำลังรีบกลับมา คุณจะไม่รอพบกับท่านโมเสสก่อนเหรอ?” แพนเดียนีกล่าวอย่างกังวล

“ขออภัยด้วยครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมากจริง ๆ เอาไว้วันหลังผมจะหาโอกาสมาพบปะกับทุกคนใหม่” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเด็ดขาดและถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่พูดอะไร แต่แพนเดียนีก็รู้ดีว่าเรื่องเร่งด่วนนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตกลงมาจากร่างของรีเวิร์สแน่ ๆ

พูดตามตรงว่าแพนเดียนีก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าลูกปัดวิญญาณมันคืออะไร แต่เนื่องมาจากชายหนุ่มเป็นคนสังหารอสูรกายตัวนั้น มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เซี่ยเฟยจะได้ครอบครองของสิ่งนั้นไป

—

เซี่ยเฟยรีบใช้เข็มทิศมิตินิรนามเพื่อเดินทางกลับไปหาเซี่ยกู่เฉิง แต่ในระหว่างที่เขากำลังจะเดินทางออกจากประตูมิติไปหาบรรพบุรุษและเครนอยู่นั่นเอง จู่ ๆ ภาพเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ช่องว่างมิติที่เคยมั่นคงเริ่มพังทลายลงในทันที แม้แต่ช่องทางเดินที่เป็นเหมือนกับอุโมงค์ก็กำลังบิดเบี้ยวไปอย่างผิดรูป

“รีบหนีเร็วเข้า! ช่องว่างมิติกำลังจะพังทลายลงไปแล้ว!!” ลินนิจส่งเสียงตะโกน เซี่ยเฟยจึงเร่งความเร็วหลบหนีออกไปจากช่องว่างมิติสุดกำลัง

ระหว่างนั้นพลังปริศนาก็ดึงร่างของเซี่ยเฟยออกไปยังด้านข้าง ทำให้ร่างของชายหนุ่มหายตัวไปจากจุดเดิมในทันที ซึ่งในมุมของเซี่ยกู่เฉิงเขาก็เห็นว่าเซี่ยเฟยกำลังจะปรากฏตัวออกมา แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็หายตัวไปโดยที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

“เกิดอะไรขึ้น? การเดินทางผ่านเข็มทิศมิติเกิดข้อผิดพลาดงั้นเหรอ?!” เซี่ยกู่เฉิงอุทานอย่างตกใจ

“ไม่! มันไม่ใช่ข้อผิดพลาด! แต่มันคือฝีมือของสไมล์ เขาเป็นคนเดียวในพวกเราทั้ง 13 คนที่เชี่ยวชาญพลังมิติ และมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถดึงคนอื่นออกมาจากการเดินทางลักษณะนี้ได้” เครนกล่าวด้วยใบหน้าอันซีดเซียว

“เป็นไปไม่ได้! ถึงแม้ว่าสไมล์จะเชี่ยวชาญพลังมิติ แต่มันก็ไม่มีทางที่เขาจะสกัดกั้นเซี่ยเฟยไปได้อย่างแม่นยำขนาดนี้” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวด้วยความโกรธ

“อย่าลืมนะว่าเข็มทิศมิติมีพื้นฐานมาจากเขตอาคมมิติที่พวกเราทั้ง 13 คนร่วมกันสร้างมันขึ้นมา นับตั้งแต่ที่พวกฉันปลีกตัวออกมาพวกของคอนสแตนก็เป็นคนคอยดูแลเขตอาคมนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ การเดินทางผ่านเข็มทิศมิติของทุกคนจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาทั้งหมด” เครนกล่าวอย่างเคร่งเครียด

“อ๊าก!” เซี่ยกู่เฉิงส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ

ผู้คนในดินแดนกฎต่างก็คุ้นเคยกับความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยเข็มทิศมิติ เพราะมันเป็นการเดินทางในระยะไกลอย่างว่องไวมากที่สุด อย่างไรก็ตามพวกเขาก็หลงลืมไปเลยว่าผู้ที่เป็นคนสร้างเขตอาคมเคลื่อนย้ายเหล่านี้ขึ้นมานั่นก็คือฝีมือของผู้สร้าง

ปัจจุบันศัตรูของสกายวิงคือผู้สร้าง ดังนั้นหากพวกเขาเริ่มใช้เข็มทิศมิติ มันก็หมายความว่าผู้สร้างสามารถจับตัวพวกเขาระหว่างการเดินทางได้ทุกเมื่อ

เมื่อคิดได้จนถึงตอนนี้การหายตัวไปอย่างปริศนาของนักรบเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาก็ถูกคลี่คลายลงได้ในที่สุด เพราะหากผู้สร้างต้องการจะกำจัดใครสักคน นักรบคนนั้นก็จะถูกดึงตัวไปในระหว่างที่พวกเขาเดินทางผ่านเข็มทิศมิตินั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้นคราวนี้คนที่ถูกดึงตัวไปยังเป็นเซี่ยเฟย และเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเซี่ยกู่เฉิง ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจจนแทบจะระเบิดความโกรธของตัวเองออกมา

เซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะเป็นอีวิลวิงของตระกูลเท่านั้น แต่ชายหนุ่มยังเป็นผู้ครอบครองดีม่อนวิ่งเพียงหนึ่งเดียวนอกเหนือจากตัวเขาอีกด้วย ชายหนุ่มจึงกลายเป็นคนที่มีความสำคัญกับตระกูลมากถึงขั้นที่เซี่ยกู่เฉิงวางตัวเซี่ยเฟยไว้เป็นผู้สืบทอดของเขาในอนาคต

“คอนสแตนมันอยู่ไหน?!” เซี่ยกู่เฉิงถามด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

“ใจเย็น ๆ ก่อน ตอนนี้เรายังรวบรวมความแข็งแกร่งจากทั่วทั้งดินแดนกฎไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าเราเคลื่อนไหวบุ่มบ่ามมันก็เท่ากับเรากำลังมุ่งหาความตาย” เครนพยายามดึงสติเซี่ยกู่เฉิงกลับคืนมา แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะพยายามเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถหยุดยั้งความบ้าคลั่งของเซี่ยกู่เฉิงได้อีกแล้ว

“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ไอ้คอนสแตนมันอยู่ที่ไหน!!”

—

“มีอะไรหรือเปล่า?” ซีนถามอย่างสงสัย ซึ่งโอเชี่ยนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็กางแขนออกอย่างสับสนด้วยเหมือนกัน

“พวกเราต้องเปลี่ยนแผน ฉันเพิ่งตกลงเป็นพันธมิตรกับสกายวิงได้สำเร็จ แต่ตอนนี้เซี่ยกู่เฉิงกำลังมุ่งหน้าไปหาพวกคอนสแตนแล้ว” เครนกล่าว

“ทำไมจู่ ๆ เซี่ยกู่เฉิงถึงตัดสินใจอะไรบุ่มบ่ามแบบนั้น?” ซีนถามด้วยความประหลาดใจ

“เพราะว่าเซี่ยเฟยถูกดึงตัวไปผ่านเข็มทิศมิติน่ะสิ” เครนกล่าว

“เรื่องที่ว่าสกายวิงจะปกป้องสมาชิกทุกคนจากอันตรายไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร มันคือเรื่องจริงสินะ ถ้าเซี่ยกู่เฉิงไปที่วิหารเทพเจ้าคนเดียวมันก็ไม่ต่างไปจากการเอาชีวิตไปทิ้ง พวกเราควรจะทำยังไงดี? เซี่ยกู่เฉิงเป็นหนึ่งในกำลังเสริมสำคัญที่พวกเราจะขาดไปไม่ได้ ถ้าไม่มีเขาเราก็เอาชนะพวกคอนสแตนไม่ได้เหมือนกัน” ซีนถามอย่างเคร่งเครียด

“ทางฝั่งของพวกนายเป็นยังไงบ้าง?” เครนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ลีงโกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าฉันจะพูดยังไงเขาก็นั่งนิ่งเหมือนกับท่อนไม้ ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีทางดึงตัวเขามาช่วยพวกเราในภารกิจนี้ได้เลย” โอเชี่ยนกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“แล้วโอลเดนล่ะเป็นยังไงบ้าง?” เครนถามด้วยใบหน้าที่เริ่มจะซีดเซียวไปเล็กน้อย

“เรื่องนี้ฉันก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน นายก็น่าจะรู้ว่าโอลเดนเป็นคนชอบอิสระและจะตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง ฉันเล่าสถานการณ์ในปัจจุบันให้เขาฟังแล้ว แต่เขาถามฉันกลับมาเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น” ซีนกล่าว

“เขาถามว่าอะไร?”

“เขาถามว่าบลันท์กลับมาหรือยัง?”

คำตอบของซีนทำให้เครนขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเคร่งเครียดอีกครั้ง

โอลเดนคือผู้ที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในบรรดาผู้สร้างทั้ง 13 คน ชายคนนี้จึงเป็นผู้ที่มีความคิดรอบคอบมากที่สุดด้วยเช่นกัน เขาจึงรู้ดีว่าถ้าหากภารกิจนี้ไม่มีบลันท์อยู่ด้วย พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับคอนสแตนได้ แม้ว่าเซี่ยกู่เฉิงจะเป็นนักรบที่มีความเร็วเหนือแสง แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับคอนสแตนได้อยู่ดี

หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือในมุมมองของโอลเดน ภารกิจนี้ไม่มีวันได้รับชัยชนะและคำตอบของอีกฝ่ายก็น่าจะเป็นการเพิกเฉยต่อสถานการณ์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

“ช่างมันเถอะ เขาได้ตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว และมันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงอันตราย พวกเรารีบไปสมทบกับเซี่ยกู่เฉิงกันเถอะ พวกเราจะปล่อยให้เขาไปสู้กับพวกคอนสแตนเพียงคนเดียวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นโอกาสแบบนี้มันก็คงจะไม่มีมาอีกแล้ว” เครนถอนหายใจพร้อมกับกล่าวขึ้นมาอย่างจริงจัง

***************

พี่เฟยถูกกระชากตัวหายไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ บรรพบุรุษบ้าคลั่งแน่!!