บทที่ 175 ข้อเสนอของคุณป้า
หญิงสาวที่ยืนหายใจแรง พยายามสูดเอาอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด จนทำให้หญิงสูงวัยที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกเอ็นดูในท่าทีนั้น
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า...แฮก ๆ น่ะ...หนูโอเคค่ะ...เฮือก ~~ “ฉันที่ยังแสดงอาการว่าไม่เป็นไรทั้ง ๆ ที่ตัวเองยืนหอบเอาอากาศเข้าหายใจแทบจะไม่ทันอยู่แล้ว
คุณป้าแปลกหน้าที่เห็นอาการของฉันที่ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่หอบแฮกไม่หยุด ก็อดขำในใจในท่าทางที่ดูพยายามอดกลั้นความเหนื่อยของฉันไม่ได้ ก่อนที่ท่านจะยื่นอะไรบางอย่างส่งมาให้ฉัน...
“อ่ะ...นี้จ้ะถือซะว่าเป็นการขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือป้าในครั้งนี้นะจ๊ะ...ป้าให้นะ” คุณป้ายื่นธนบัตรปึกใหญ่มาให้ฉัน พร้อมกับพยายามคะยั้นคะยอจะให้ฉันรับเงินก้อนโตนี้เอาไว้ให้ได้
ฉันถึงกับตกใจ รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน นั่นก็เพราะสิ่งที่ฉันทำฉันไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย
“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า หนูไม่ได้หวังที่จะได้อะไรตอบแทนอยู่แล้วค่ะ พอดีโจรมันวิ่งมาทางหนูพอดี หนูก็เลยมีโอกาส ได้ช่วยเอากระเป๋ามาคืนให้คุณป้าค่ะ” ฉันตอบไปตามความรู้สึกนึกคิดของฉันจริง ๆ พร้อมกับผลักเงินก้อนนั้นคืนกลับไป
“แต่ว่า...ป้ารู้สึกไม่สบายใจเลย...เอางี้หนูกินอะไรมาหรือยังจ้ะ...ถ้ายังเราไปหาอะไรกินกันดีไหม” คุณป้าที่ดูใจดีแถมยังสวยสง่า สวยในแบบที่ว่าถ้าตอนสาว ๆ คงจะมีหนุ่ม ๆ มาจีบจนหัวกระไดไม่แห้งแน่นอน ยังคงหาหนทางที่จะตอบแทนความดีที่ฉันทำอยู่
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ เดี๋ยวหนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะ ใกล้เวลาที่ผู้ปกครองหนูจะกลับบ้านแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยบอกคุณป้าเป็นนัย ๆ ว่าถึงเวลาที่ฉันจะต้องปลีกตัวแล้ว
“อ้าวหรอจ๊ะ...ว้าาา...เสียดายจัง หนูนี่ทั้งหน้าตาน่ารัก ทั้งมีน้ำใจ แถมยังนิสัยดีอีกด้วยนะ นี่ป้าก็มาหาลูกชายป้าที่อยู่แถวนี้เหมือนกัน ถ้าหนูยังไม่มีแฟนเอาไว้ป้าจะแนะนำลูกชายให้เอาไหมจ๊ะ...ลูกชายป้าหล่อน๊าาา” ฉันที่เขินจนหน้าแดงเพราะคำชมของคุณป้าคนสวย จนตัวแทบจะลอยขึ้นไปบนอากาศอยู่แล้ว ได้แต่ยืนยิ้มหวานส่งให้คุณป้าเพื่อตอบแทนคำชม
และถึงแม้ว่าสิ่งที่คุณป้าพูดมาเกี่ยวกับลูกชายของท่านจะดูดึงดูดให้ฉันอยากจะรู้จักลูกชายของท่านมากแค่ไหน แต่ทว่า...เพราะฉันมั่นใจว่าสามีของฉันนั้นหล่อที่สุดในโลกอยู่แล้ว ดังนั้นข้อเสนอของคุณป้าฉันคงต้องขออนุญาตปัดตกไปนะคะ ฉันที่แอบคิดแบบขำ ๆ ในใจเบา ๆ
“แหะๆๆ ไม่เป็นไรค่ะ...ขอบคุณสำหรับ ความหวังดีของคุณป้านะคะ พอดีหนูติดจองแล้วค่ะ...ฮ่าๆๆ” ฉันที่เอ่ยบอกท่านไปพร้อมกับแกมขำเบา ๆ ก่อนที่จะนึกไปถึงใบหน้าของผู้ชายที่จับจองฉันว่าถ้าเขาได้รู้ว่ามีคนมาเสนอผู้ชายให้กับฉัน เขาจะเกิดอาการคลั่งขนาดไหน...(หึหึ...แค่คิดก็สยองแทนคุณป้าแล้ว...นี่หนูถือว่าช่วยชีวิตคุณป้าแล้วนะคะ...)
ในขณะที่ฉันกำลังจะโชว์แหวนที่ฉันภูมิใจ ที่เป็นเสมือนเครื่องหมายของการจองให้คุณป้าได้ดู ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาเบี่ยงเบนความสนใจของคุณป้าไปเสียก่อน
“ท่านหญิงเธียร่าเป็นยังไงบ้างครับ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ ชายชุดดำที่วิ่งกระหืดกระหอบตรงเข้ามาถามไถ่ถึงความปลอดภัยของคุณป้าที่อยู่ตรงหน้าทันที
หญิงสูงวัยที่ดูอ่อนหวานใจดีในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมขึ้นมาทันที จนฉันเองถึงกลับอึ้งปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ...พอดีได้แม่หนูคนนี้ช่วยเอาไว้น่ะ” คุณป้าตอบกลับคนที่น่าจะเป็นบอดี้การ์ดของท่าน ด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังจนฉันรู้สึกเกรงขามขึ้นมาทันที
‘เฮือก ~~ พออยู่ในโหมดโหดคุณป้าก็ดูน่ากลัวจนน่าขนลุกเลยนะเนี้ย...ช่างละม้ายคล้ายกับ...’ ฉันที่แอบคิดถึงใครบางคนขึ้นมาทันที เพราะรู้สึกเหมือนกับมีเงาของเขาทาบทับอยู่บนไอสังหารของหญิงสูงวัยที่อยู่ตรงหน้า
ฉันที่ยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่สติจะถูกดึงกลับมาให้โฟกัสยังบุคคลทั้งสองที่กำลังสนทนากันอยู่
“ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ผมดูแลท่านหญิงไม่ดี” บอดี้การ์ดหนุ่มในชุดสีดำเอ่ยตำหนิตนเองพร้อมกับก้มหัวขอโทษผู้ที่เป็นเจ้านาย
“ไม่เป็นไร...ฉันเองก็ผิดด้วยแหละ ที่รีบเดินมาก่อนไม่รอพวกเธอ” คุณป้าใจดีเอ่ยเสียงเรียบตอบกลับไป
ฉันได้ยินดังนั้นถึงกับอึ้งในความมีคุณธรรมไม่เป็นมนุษย์ป้าขี้เหวี่ยงขี้วีน ยอมรับผิดในส่วนของตัวเอง ไม่โบ้ยให้กับลูกน้องไปเสียทุกอย่าง จนฉันรู้สึกชื่นชมคุณป้าในใจ (นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันมีคนในใจแล้ว ฉันก็อยากได้แม่สามีแบบนี้เหมือนกันนะเนี้ย...คริคริ)
“แล้วอีกอย่าง...โชคดีที่พอดีแม่หนูคนนี้เขามาช่วยฉันไว้ แถมยังจัดการไอ้โจรกระจอกนั่นซะอยู่หมัด” คุณป้าที่มีน้ำเสียงอ่อนลงยามเมื่อพูดเอ่ยชมฉันให้ลูกน้องฟัง
“อ่อ...แล้วอย่าลืมไปเคลียร์กับพวกตำรวจด้วยแล้วกัน...ส่วนมันก็จัดการตามสมควรด้วยนะ” เสียงที่ดูนิ่งเรียบในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมอย่างเห็นได้ชัย โดยเฉพาะคำว่าจัดการตามสมควรที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ทว่า...มันกลับทำให้ขนที่ต้นคอของฉันลุกซู่ขึ้นมาทันที
ฉันที่เห็นสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายหมดแล้ว ก็สมควรแก่เวลาที่ฉันต้องกลับไปที่เพนท์เฮ้าส์ได้แล้ว ส่วนบอดี้การ์ดที่ติดตามฉัน ฉันก็ได้ส่งสัญญาณบอกไปให้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ฉันเอาอยู่ไม่ต้องเข้ามา แต่ตลอดเวลาเขาก็ยังยืนดูเชิงอยู่ห่าง ๆ ด้วยความเป็นห่วงฉันอยู่ดี
“ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับบ้านก่อนเลยนะคะคุณป้า” ฉันบอกท่านด้วยท่าทีนอบน้อม พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ท่านเพื่อเป็นการบอกลา
“อ่ะ อ่ะ OK ได้จ้ะ” คุณป้าตอบกลับ ด้วยท่าทีที่รู้สึกเสียดาย เนื่องจากตัวเองยังอยากที่จะสนทนากับเด็กสาวหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนนี้อยู่
ฉันที่หลังจากพาตัวเองออกมาจากบทสนทนาอันน่าอึดอัดของพวกเขาทั้งสองแล้ว ฉันก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจเบา ๆ
‘เฮ้อ...สงสัยคุณป้าคนนั้นน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาซะแล้ว ดีนะที่เราไม่ได้เข้าไปพัวพันกับเขาด้วย’ ฉันที่นึกคิดไปในขณะที่กำลังขึ้นลิฟต์ส่วนตัวกลับไปยังเพนท์เฮ้าส์
และเมื่อย้อนกลับไปยังหญิงสูงวัยที่ยังยืนอยู่ที่เดิมนั้น...
“อ่ะโธ่เอ๊ย...ก็มัวแต่จัดการปัญหาตรงนี้ ฉันก็เลยลืมถามชื่อแม่หนูคนนั้นไปเลยว่าชื่ออะไร ฉันละถูกใจแม่หนูคนนี้มากเลยนะ ดูหน่วยก้านดีใช่ได้ นี่ถ้าตาเซฟได้มาเป็นเมียละก็คงจะดีไม่น้อยเลย” ท่านหญิงเธียร่าที่รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกพบกับแม่สาวน้อยที่ช่วยเหลือเธอไว้โดยที่ไม่กลัวอันตรายที่จะเกิดกับตัวเอง เอ่ยชมไม่หยุดปาก แถมด้วยความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ถามข้อมูลของหญิงสาวเก็บไว้ เผื่อวันข้างหน้าจะได้พบปะกันอีก
“เอ...หรือว่าฉันจะไปบอกให้ตาเซฟไปจัดการกับแฟนแม่หนูนั่น แล้วแย่งเอามาเป็นลูกสะใภ้เราดีนะ...หึหึ” หญิงสูงวัยที่งึมงำกับตัวเอง พร้อมกับความคิดร้ายที่ผุดขึ้นในหัวจนใบหน้าสวยสง่าดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาในทันที...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 74
แสดงความคิดเห็น