Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 14 ศัตรูจากต่างมิติ

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc

-A A +A

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 14 ศัตรูจากต่างมิติ

หมวดหนังสือ: 

        ตอนนี้ทุกอย่างในเกาะควอลาสทาร่าดูจะแย่ลงเรื่อย ๆ แถมเหตุการณ์เหล่านั้นถูกนำไปถ่ายทอดสดทั่วโลกแล้วด้วย การที่ทั้งอินเฟอร์นอส เกฟเวอร์รัส และเดอะแบล็คเข้าประจัญบานแบบนี้ อาจทำให้ทั้งเกาะพังพินาศไปเลยก็ได้

        ดังนั้น พอเพียงจึงต้องใช้พลังที่โหดยิ่งกว่าเดิมเพื่อจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้บุกรุกครั้งนี้ แต่ศัตรูจากเรียลลิตี้เมกะเวิร์สก็ยังไม่ยอมแพ้ ประกอบกับแอบคาใจกับใบหน้าใต้หมวกเหล็กของมหาจอมมารสูงสุดด้วย ดังนั้น ซอร์ดานจึงหาโอกาสที่เมื่อเกฟเวอร์รัสพุ่งเข้ามาใกล้แล้ว เขาจะดึงเอาหมวกออกมาจากหัวให้ได้ และในที่สุด หมวกลิชคิงสีแดงก็หลุดจากหัวเกฟเวอร์รัส แต่ใบหน้าของเกฟเวอร์รัสที่อยู่ใต้หมวกนั้นก็คือ พอเพียงที่ดวงตาสีแดงเลือด และไม่ได้สวมแว่นตา

        “อะไรกัน หน้าของเกฟเวอร์รัส เหมือนหน้าของฉันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!!” พอเพียงอุทาน

        “ไม่ต้องแปลกใจไป ข้าจะเล่าอะไรให้ฟัง” เกฟเวอร์รัสตอบ

 

        และภาพแฟลชแบ็กก็ย้อนกลับไป ในอาณาจักรโลธาเรีย เกฟเวอร์รัส โลธาร์ (Gaverous Lothar) เดิมมีผมยาวสีขาว นัยน์ตาสีฟ้า และสวมชุดเกราะสีน้ำเงินขอบทองทั้งตัว ได้อยู่กับบิดาและมารดาของเขา รวมถึงน้องชายของเขา ไซเฟียส โลธาร์ (Sypheous Lothar) เจ้าชายที่ผมรองทรงสูงสีทอง นัยน์ตาสีทอง สวมชุดเกราะสีทองทั้งตัว

        กษัตริย์แห่งอาณาจักรโลธาเรียนั้นมีนามว่า โครดัส โลธาร์ (King Chrodus Lothar) เขาอยู่ในวัยกลางคน มีผมสีขาว มีเคราบาง และนัยน์ตาสีเขียว สวมชุดนายพลสีขาวและสวมมงกุฎสีทอง

        มเหสีของโครดัสมีนามว่า เซเรียล โลธาร์ (Queen Seriel Lothar) เธอเป็นหญิงวัยกลางคนผมยาวสีทองและนัยน์ตาสีฟ้า สวมชุดเดรสแขนยาวสีขาวและสวมมงกุฎสีเงิน

 

“ข้าน่ะเคยเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรโลธาเรีย ข้ามีพ่อซึ่งเป็นราชาผู้ปกครองเมือง มีแม่ผู้เป็นราชินี และมีน้องชายด้วย ข้าเป็นนักรบที่ทั้งเก่งกาจและฉลาดด้วย แต่วันหนึ่ง ทุกอย่างก็ต้องพังทลาย...” - เกฟเวอร์รัส

 

        วันหนึ่ง ความมืดได้เข้ามากลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่อาณาจักรโลธาเรียที่สงบสุขซึ่งไม่พ้นที่ความมืดจะกลืนกินทั้งหมด ประชากรทั้งหมดในเมืองนี้ถูกเปลี่ยนให้มีดวงตาสีเลือดและผิวสีขาวซีด แต่เกฟเวอร์รัสกลับเป็นคนเดียวที่สีผิวไม่ได้เปลี่ยนตามคนอื่น ๆ

 

“ความมืด พลังแห่งความมืด มันกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง มันเปลี่ยนประชากรที่รักของข้าให้กลายเป็นอันเดดตาสีเลือด เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้เป็นนรกบนดิน และที่แย่ที่สุดคือ มันเข้าครอบงำร่างกายของข้า แม้เมกะเวิร์สแห่งนี้จะยังเป็นมิตรและยังยินดีต้อนรับผู้มาเยือนจากนอกเมกะเวิร์สมากแค่ไหน แต่ข้าก็ไม่มีความสุขอีกเลย...” - เกฟเวอร์รัส

 

        พลังแห่งความมืดเริ่มเปลี่ยนหน้าตาของเกฟเวอร์รัสทีละเล็ก ทีละน้อย จนกระทั่งใบหน้าของเกฟเวอร์รัสกลายเป็นใบหน้าของพอเพียงอย่างถาวร

 

“อำนาจของข้า แม้จะมีมากแค่ไหน มันก็ซื้อสิ่งที่เคยมีในอดีตไม่ได้เลยสักนิดเดียว ข้าอยากจะหลุดพ้นจากคำสาปนี้ไปให้ได้ แต่วิธีเดียวที่ข้าจะพ้นคำสาปนี้ได้ ต้องฟื้นฟูสมดุลของกิกะเวิร์สให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ และระหว่างนี้ ข้าตัดสินใจว่า จะเป็นจอมมารสายปรัชญา ข้าจะแสดงความโหด ดิบ เถื่อน ถ้าข้าจำเป็นเท่านั้น...” - เกฟเวอร์รัส

 

        “และตอนนี้” เกฟเวอร์รัสพูด “ข้าจะปิดบัญชีเจ้าให้ได้เลย อินเฟอร์นอส!!”

        “...สแมช!!!

        พอเพียงพุ่งเข้าไปต่อยหน้าอินเฟอร์นอสก่อนใครเพื่อน จากนั้นก็ใช้พลังเคออสสเปียร์ (Chaos Spear) ขว้างเข้าไปที่อินเฟอร์นอสซ้ำอีกรอบ ส่วนเดอะแบล็คที่เห็นพอเพียงทำแบบนั้น ก็เข้ามาขวาง และต่อยเข้าที่ท้องของพอเพียงกระเด็นออกไปให้พ้นทาง จากนั้นก็หันมาเอาเรื่องกับอินเฟอร์นอสต่อ

        ส่วนเกฟเวอร์รัส เขาจับซอร์ดานทุ่มใส่พื้นเหมือนกับฉากที่ออปติมัสไพรม์ร่างเนเมซิสทุ่มบัมเบิ้ลบีซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ ในภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาค 5 ของไมเคิล เบย์เป๊ะเลย ส่วนแกรนด์มาสเตอร์ไมนด์ก็เข้าไปยิงลำแสงสีชาดใส่ทั้งนายพลชาวครูเซดีสและมหาจอมมารสูงสุด จากนั้นก็ต่อยเกฟเวอร์รัสหน้าหันไป จากนั้น รางวัลกระสอบทรายชั่วคราวยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 ได้ตกเป็นของแกรนด์มาสเตอร์ไมนด์ไปแล้วเรียบร้อย เพราะมหาจอมมารสูงสุดได้หันเข้าไปทำร้ายสุดยอดวายร้ายแทนให้น่วมกันไปข้างหนึ่ง จนกว่าจะมีใครมารับรางวัลดังกล่าวไปแทนอีกหนึ่งคน

        ในขณะเดียวกัน ซอร์ดานที่หลุดจากตำแหน่งกระสอบทรายชั่วคราวยอดเยี่ยมแห่งปี ก็ได้ตำแหน่งคืนมาอีกครั้งหลังจากที่หันไปต่อกรกับอินเฟอร์นอสอีกครั้ง

        ส่วนเดอะแบล็คเมื่อหลุดได้แล้ว ก็โดนพอเพียงสวนกลับอีกครั้ง คราวนี้มาเป็นวิทยายุทธแบบหนังจีนกำลังภายในเต็มที่เลย หลังจากที่พอเพียงโดนหมัดของแฮกเกอร์จุกเล็กน้อย เขาก็ชาร์จวันฟอร์ออลอีกครั้งแล้วพุ่งเข้าไปเตะก้านคอเดอะแบล็คด้วยท่าชู้ตสไตล์ (Shoot Style) แล้วจากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาแฮกเกอร์ร้ายอีกครั้ง แต่คราวนี้เจ้าแฮกเกอร์ไหวตัวทัน และงอกกรงเล็บที่หลังมือออกมา มันเป็นกรงเล็บที่จะฉีดเชื้อไวรัสเข้าร่างกาย ซึ่งถ้ารีดคนใดนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงถุงมือฉีดยาของสแกร์โครว์หรือหุ่นไล่กาจากเกมชุดแบทแมนอาร์คฮัมก็ได้ นั่นแหละ ลักษณะคล้าย ๆ แบบนั้นเลย

        พอเดอะแบล็คงอกกรงเล็บเสร็จแล้ว เขาก็พุ่งเข้าไปแล้วกระซวกกรงเล็บเข้าที่ท้องของพอเพียงเพื่อฉีดไวรัสเข้าไปในตัวเลย วินาทีนั้นพอเพียงกับเดอะแบล็คก็ลงจอดที่พื้น แต่มือของเจ้าแฮกเกอร์ข้างหนึ่งยังเจาะที่ท้องของพอเพียงอยู่ ซึ่งพวกเขายืนเพื่อแทรกจังหวะพักระหว่างต่อสู้ แต่ไรต์จะไม่ทำให้จังหวะพักนั่นเป็นจังหวะวายหรอก ไรต์รู้นะว่ารีดบางคนคิดอะไรอยู่ จะไม่ใส่เอฟเฟกต์หวานแหววให้ด้วยแล้ว!

        เดอะแบล็คดึงมือตัวเองออกจากท้องของพอเพียง จากนั้นก็หันกลับไปจัดการกับอินเฟอร์นอสและเกฟเวอร์รัสต่อ ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันจนเดือดได้ที่เลย ส่วนพอเพียง ที่ไม่รู้เลยว่าร่างกายของตัวเองมีภูมิคุ้มกันที่ต้านทานไวรัสได้ ก็รีบพุ่งตามไปต่อสู้อีกรอบ สุดท้าย พวกกบฎดาวครูเสดกลับถูกพวกอินเฟอร์นอสโจมตีจนเรียบ และซอร์ดานซึ่งยังเหลือรอด ก็จบชีวิตลงด้วยการถูกอินเฟอร์นอสที่เหลืออดมาก ๆ จับหักคอตายอนาถ

        และเดอะแบล็คที่ทนไม่ไหวเอามาก ๆ จึงเปลี่ยนแขนตัวเองให้เป็นปืนยิงลำแสงเลเซอร์แล้วยิงลำแสงทมิฬทะลุร่างของอินเฟอร์นอสอย่างรุนแรง ร่างของอินเฟอร์นอสเริ่มเซหลังจากโดนลำแสงทมิฬนั้นเจาะทะลุร่าง แล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ ล้มลง ก่อนที่ร่างจะสลายไป ทำให้พวกกองทัพของอินเฟอร์นอสนั้นรีบหนีออกไปจากโลกนี้ทันที

        “อ้าว จบง่ายแค่นี้เหรอเนี่ย?” พอเพียงถาม

        “นั่นสิ” ภัททิต้าพูด “จบง่าย ๆ แค่นี้เองเหรอ?”

        หลังจากที่ยิงปลิดชีพปีศาจร้ายเสร็จแล้ว เดอะแบล็คก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า ราวกับว่าอิสรภาพของเขานั้นเดินทางมาถึงจุดจบแล้ว พวกไอดีพีเอ็มพากันจับพวกซีมเลสฮิวแมน องค์กรภารดรภาพแห่งวายร้าย และเหล่ามัลแวร์ลีเจี้ยนเข้าซังเตไปทีละคน ทีละคน จนกระทั่งถึงตาของเดอะแบล็คเป็นฝ่ายถูกจับไปบ้างแล้ว ในขณะที่ฝ่ายเกฟเวอร์รัสก็เปิดประตูมิติออกไปจากโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน

        ส่วนพวกองค์กรยอดมนุษย์เพื่อสันติสุข ทุกคนเริ่มตัดสินใจว่าจะให้สมาชิกทุกคนลงทะเบียนสนธิสัญญาคอร์เรีย เพื่อจำกัดกรอบที่สำคัญเกี่ยวกับการเป็นยอดมนุษย์ให้ได้ ส่วนพวกวายร้ายก็ถูกจัดระดับวายร้ายแบบเดียวกับระดับยอดมนุษย์เช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พอเพียงกับภัททิต้าต้องการจะให้เกิดขึ้นมานานแล้ว

 

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2020

บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซ็นเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร

 

        พอเพียงที่ปราศจากอุปกรณ์ต่อสู้ที่เขาใช้ในเกาะควอลาสทาร่า ได้เดินมาดูคลังอาวุธของตัวเอง และภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นอดีตที่ลืมไม่ลงจริง ๆ

        แต่มันทำให้เกิดข้อสงสัยบางอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องต่างมิติที่ได้บุกเข้ามายังโลกใบนี้ รวมไปถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา มันทำให้เขาอยากรู้ว่า ในอนาคต มันจะมีอะไรอีกที่เขาจะต้องเผชิญบ้าง

        ส่วนทางด้านโรงรถเอง เขาก็มีรถยนต์บูกัตติสมัยใหม่ที่เยอะเอาเรื่องเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเวย์รอน ชิรอน หรือรุ่นสมัยใหม่อื่น ๆ เรียกว่าเป็นดอกเห็ดเลยล่ะ แน่นอนว่าเมื่ออยู่ใต้ชายคาโรงรถของบ้านมาสเตอร์ ก็ไม่พ้นที่พวกมันจะถูกดัดแปลงให้เป็นรถปลั๊กอินไฮบริดขับเคลื่อนสี่ล้อและติดอาวุธด้วย ถือว่าเป็นรถที่ทั้งเร็วและแข็งแกร่งจริง ๆ

        หลังจากที่องค์กรภารดรภาพแห่งวายร้ายและเหล่ามัลแวร์ลีเจี้ยนถูกจับเข้าซังเตทั้งหมด พอเพียงก็ยังไม่ทราบว่าตอนนี้โลกอื่น ๆ จะเป็นยังไงบ้าง แต่จู่ ๆ เขาก็เห็นนิมิตบางอย่างที่เขาจะเผชิญ นิมิตเหล่านี้มีทั้งการที่อินเฟอร์นอสที่มาพร้อมกับดาบดาร์กเมกะเวอร์ซัลซอร์ดที่บรรจุลูกแก้วเมกะเวอร์ซัลเพิร์ลครบเจ็ดเม็ดในมือ ทำการถล่มเมืองใหญ่ ๆ ในโลกความเป็นจริงจนพินาศ ต่อมาคือภาพของชายที่เหมือนลุงลีกำลังถูกทรมานอย่างรุนแรง และการต่อสู้กันระหว่างเดอะแบล็คกับฮีโร่บรายน์ (Herobrine) ศัตรูใหม่ที่จะมาถล่มโลกความเป็นจริงอีกหนึ่งราย และภาพสุดท้ายคือ ตัวพอเพียงที่ได้เป็นผู้นำฮีโร่วัยรุ่นเข้าต่อกรกับอินเฟอร์นอส ซึ่งกลุ่มที่เขาเป็นผู้นำ คือนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมยูเออะคาเดมี่นั่นเอง (UA Academy High School) ซึ่งหลังจากนิมิตสุดท้ายจบลง พอเพียงก็เริ่มสับสนว่า ในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นอีก ดังนั้น เขาจึงต้องหาคำตอบให้ได้ว่า นิมิตนั้นมันแฝงความหมายไว้ว่าอะไรกันบ้าง

        ตอนนี้ พอเพียงได้รับพลังวิเศษที่มากกว่าพลังจากยาเพอร์เฟกต์ฮิวแมน มันคือพลังของเรียลลิเทียส เมกะเวิร์สไททันนั่นเอง เขาเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน และได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาผ่านความทรงจำของเรียลลิเทียสทั้งหมด

        ด้วยพลังที่เหนือชั้น บางครั้งเขาสามารถเชื่อมต่อมิติระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกมิติอื่นได้ ถือได้ว่าเป็นการเปิดประตูมิติกลาย ๆ และเชื้อเชิญให้คนจากต่างมิติเข้ามานี่แหละ

 

        “แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ?”

        เอไอแฮมิลตันถามพอเพียง หลังจากที่ได้ฟังเจ้านายของตนอธิบายเกี่ยวกับพลังเพิ่มเติมของเขา

        “ฉันคิดว่ามันก็ดีสิ” พอเพียงตอบ “ฉันอยากจะรู้เสียจริง ๆ ว่า มิติคู่ขนานที่เกิดขึ้นนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

        “เอาเถอะค่ะคุณมาสเตอร์” เรย์นะพูด “ฉันได้คอยฟังข่าวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในเกาะควอลาสทาร่า ซึ่งมันเป็นกระแสที่ลากยาวอย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญและเหล่านักวิชาการต่างตั้งข้อสังเกตที่มีต่อเหตุการณ์เหล่านี้ เหตุการณ์ที่หลายฝ่ายได้เข้าไปโจมตีที่เกาะควอลาสทาร่า ต่อกรกับเหล่ามัลแวร์ลีเจี้ยน แล้วจากนั้นประตูมิติก็ได้เปิดออก และกองทัพปีศาจจากมิติคู่ขนานก็เข้าโจมตีเกาะนี้ซ้ำอีกครั้ง แล้วก็มีพวกศัตรูที่เป็นมนุษย์ต่างดาวมาที่โลกของเราด้วย...”

        “แต่ผมเห็นนิมิตในอนาคต โลกของพวกเราอาจจะย่ำแย่กว่านี้ เพราะว่าปีศาจได้พลังที่เหนือกว่า และเข้ามาโจมตีโลกของเราอีกครั้ง” พอเพียงพูด “ผมไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ว่าแต่ เรื่องซีมเลสฮิวแมนไปถึงไหนแล้วล่ะ?”

        “ซีมเลสฮิวแมนเหรอคะ?” เรย์นะถาม “ถ้าเป็นเรื่องนั้น ดิฉันคิดว่า น่าจะเป็นช่วงที่ระส่ำระสายขององค์กรและสุ่มเสี่ยงจะล้มละลายจริง ๆ แล้วค่ะ ถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่ทำอะไร องค์กรนี้อาจจะล้มละลายไปเลยก็ได้”

        “องค์กรแบบนี้ ผมละชอบสาปแช่งให้มันล้มละลายเร็ว ๆ เสียจริง” พอเพียงบอก “ผลิตยาที่ทำให้ประชากรมนุษย์มีพลังวิเศษไปตั้ง 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้สภาพของโลกเราไม่ต่างจากโลกของมายฮีโร่อะคาเดเมียเลย”

        “อืม...” แฮมิลตันพูด “แต่นายไม่ได้มีแค่พลังจากยานั่นอย่างเดียว?”

        “ไม่หรอก” พอเพียงตอบ “ไม่ใช่แค่จากยา แต่พลังจากการอวตารของเมกะเวิร์สไททันเรียลลิเทียส ฉันเองก็ได้เหมือนกัน”

        “แล้วคุณเรย์นะ” แฮมิลตันพูด “ประวัติขององค์กรฮีโร่และองค์กรวายร้ายในตอนนี้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างแล้วหรือยัง”

        “ใช่แล้วค่ะ” เรย์นะตอบ “หลังจากเหตุการณ์ที่เกาะควอลาสทาร่า คนเริ่มขุดคุ้ยประวัติความเป็นมาของทั้งสององค์กรมากขึ้นแล้ว และเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วโลกเลยค่ะ”

        “ถ้าอย่างนั้นก็ดี” พอเพียงพูด “ผมจะได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับสาธารณชนได้รับทราบ”

 

ที่ห้องบัลลังก์ ปราสาทแห่งอาณาจักรโลธาเรีย เมกะเวิร์สหมายเลข 013

 

        ประตูมิติเปิดออกมา และเกฟเวอร์รัส มหาจอมมารสูงสุด ได้เดินออกมาพร้อมกับถือหมวกที่เขาใส่เป็นประจำ และคนที่ออกมาต้อนรับคือ เจ้าชายไซเฟียส

        “ท่านพี่ เป็นยังไงบ้าง?” ไซเฟียสถาม

        “พี่ไม่เป็นไรหรอก” เกฟเวอร์รัสตอบ “แต่พี่เองก็รับมือกับไอ้ปีศาจนั่นยากเหมือนกัน มันบุกแม้กระทั่งเรียลลิตี้เมกะเวิร์ส”

        “ท่านพี่ ข้าจะบอกอะไรให้นะ อินเฟอร์นอสมันไม่เคยละเว้นเลยแม้แต่เมกะเวิร์สเดียว มันคิดจะทำลายทุกอย่างอยู่แล้ว ดังนั้น เรียลลิตี้เมกะเวิร์สเองก็คงจะไม่เหลือ” ไซเฟียสพูด

        “แต่พี่คิดว่ามันคงลืมไปว่าพลังวิเศษจากเมกะเวิร์สอื่น ๆ จะมีผลกับเรียลลิตี้เมกะเวิร์สแค่หนึ่งในสี่เท่านั้นเอง พลังที่พี่ใช้ ถ้าใช้กับเมกะเวิร์สอื่นมันรุนแรงมาก มนุษย์คนไหนก็แทบจะไม่รอดเลย แต่กับเรียลลิตี้เมกะเวิร์ส พลังของพี่ถูกลดทอนไปจนใกล้เคียงกับพลังของอัน-แฟนทาสต์ที่เป็นยอดแฮกเกอร์อย่างเดอะแบล็คเลย อินเฟอร์นอสก็เช่นกัน” เกฟเวอร์รัสว่า “แต่มันกลับไม่รู้ตัวเลยว่าความรุนแรงของมันถูกลดทอนไปถึงสามในสี่ และพวกอัน-แฟนทาสต์ก็พยายามจะต่อต้านพวกมันด้วย”

        “ท่านพี่ พวกอัน-แฟนทาสต์น่ะก็เป็นแค่มนุษย์ที่ยังไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลกต่างมิติอะไรเท่าไหร่หรอก” ไซเฟียสตอบ “ข้าสืบเสาะหาเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลกแห่งความจริงแล้ว พวกเขายังไม่รู้จักอะไรที่มันเป็นแฟนตาซีเหนือธรรมชาติเท่าที่ควร แม้พวกเขาจะเป็นมนุษย์ทรงปัญญาที่ได้สร้างของมาทดแทนพลังเวทมนตร์ เช่น ยานพาหนะ และอุปกรณ์สื่อสารก็เถอะ แต่พวกเขายังไม่เข้าใจความเหนือธรรมชาติเลยสักนิดเดียว”

        “พูดคุยอะไรกันอยู่เหรอลูก?”

        เสียงของพ่อกับแม่ของเขา โครดัสและเซเรียล ดังขึ้นจากข้างหลังสองพี่น้อง แน่นอนว่าพวกเขายังคงเหมือนเดิม เพียงแต่สีผิวซีดลงและดวงตาสีเลือด

        “เสด็จพ่อ!” เกฟเวอร์รัสอุทาน

        “เสด็จแม่!” ไซเฟียสร้อง

        “พวกลูกกำลังคุยเรื่องเรียลลิตี้เมกะเวิร์สอยู่น่ะครับ” เกฟเวอร์รัสพูด

        “ใช่แล้วครับท่านพี่” ไซเฟียสเสริม

        “ว่าแต่ เจ้าได้เจอใครบ้างล่ะที่เมกะเวิร์สแห่งนั้น?” พระเจ้าโครดัสถาม

        “ก็...” เกฟเวอร์รัสอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า “ตอนที่ลูกไปจัดการกับอินเฟอร์นอสที่เรียลลิตี้เมกะเวิร์ส ลูกได้พบกับผู้ปรับสมดุลกิกะเวิร์สแล้ว แล้วก็ร่างอวตารของเรียลลิเทียส เมกะเวิร์สไททันของเรียลลิตี้เมกะเวิร์สด้วย”

        “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” พระนางเซเรียลบอก “แม่แค่อยากจะบอกเจ้าว่า แม่เป็นห่วงเจ้านะ เกฟเวอร์รัส”

        “พ่อด้วย” พระเจ้าโครดัสเสริม

        “ข้าก็เป็นห่วงท่านพี่เช่นกัน” ไซเฟียสว่า

        “พ่อบอกไว้ก่อนนะว่า การที่เจ้าเป็นพาหะนำพลังให้กับไนท์แมเรียสน่ะ มันมีความเสี่ยงที่เจ้าอาจจะโดนมันกลืนกินร่างก็ได้” พระเจ้าโครดัสพูด “ดังนั้น ถ้ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในตัวเจ้า รีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะกลืนกินเจ้านะ”

        “ครับ ท่านพ่อ” เกฟเวอร์รัสพูด

        “ไม่ต้องห่วงหรอก”

        เสียงน่ากลัวดังขึ้น ปีศาจไนท์แมเรียส แม้จะถ่ายโอนพลังแทบจะทั้งหมดให้กับเกฟเวอร์รัสหมดแล้ว แต่ที่เหลือนอกจากนั้นยังคงสิงอยู่ในปราสาท

        “ข้าจะไม่กลืนกินเจ้าชายผู้มีคุณธรรมสูงส่งหรอก” ไนท์แมเรียสพูด “เพราะข้ามีกายเนื้อของข้าเองแล้ว และมันถูกเก็บไว้อยู่ใต้ภูเขาแห่งหายนะ (Moutain of Apocalypse) รอจนกว่าพลังของข้าจะพร้อมแล้วยังไงล่ะ”

        “แล้วชาวเมืองของข้าล่ะ?” พระเจ้าโครดัสถาม

        “ข้าก็จะปล่อยให้พวกเจ้าเป็นอิสระตามเดิม ส่วนลูกสมุนที่ข้าสร้างขึ้นมา จะอยู่ใต้อาณัติของข้าเท่านั้นแหละ” ไนท์แมเรียสตอบ

        “อย่างนี้นี่เอง” เกฟเวอร์รัสพูด “แล้วคำสาปที่เจ้ากลืนกินเมกะเวิร์สนี่ล่ะ เจ้าจะถอนคำสาปทิ้งหรือไม่?”

        “ถอนคำสาปเรอะ?” ไนท์แมเรียสร้อง “คนอย่างข้า จะถอนคำสาปโดยที่สมดุลของกิกะเวิร์สยังไม่ถูกปรับ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว! ข้าจะถอนคำสาปก็ต่อเมื่อสมดุลของกิกะเวิร์สกลับมาลงตัวอย่างที่มันควรจะเป็นแล้วเท่านั้นแหละ”

        เมื่อได้ยินดังนั้น เกฟเวอร์รัสก็โกรธมาก เขากำหมัดและคิดจะใช้พลังจัดการกับไนท์แมเรียส แต่ไซเฟียสน้องชายของเขากลับห้ามไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะสร้างความเสียหายให้กับปราสาทได้

        “ใจเย็น ๆ ก่อนท่านพี่” ไซเฟียสปราม “ข้ารู้ว่าท่านโกรธ แต่ข้าขอนะ มันยังไม่ใช่เวลาของท่าน”

        “ใช่ พี่รู้” เกฟเวอร์รัสพูด “ชาวเมืองโลธาเรียน่าจะเข้าใจความรู้สึกของพี่ ความรู้สึกที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับพลังชั่วร้ายที่อยู่ในร่างกายเนี่ย มันทรมานแค่ไหน”

        “พ่อรู้ มันทรมานจริง ๆ” พระเจ้าโครดัสบอก “แต่เจ้าน่าจะหนักที่สุด เพราะเจ้าเป็นพาหะนำพลังให้กับมัน”

        “เอาเถอะ ข้าไม่รบกวนพวกเจ้าละ แล้วพบกันใหม่นะ” ไนท์แมเรียสว่า จากนั้นก็ได้หายไปทันที

        “แล้วอย่างนี้พวกเราจะทำยังไงต่อ?” พระนางเซเรียลว่า

        “งั้นลูกจะไปที่เรียลลิตี้เมกะเวิร์ส” เกฟเวอร์รัสพูด “ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าตอนนี้เรียลลิเทียสเป็นอย่างไรบ้าง”

        “ระวังตัวด้วยนะ” พระเจ้าโครดัสบอก

        จากนั้น เกฟเวอร์รัสก็เปิดประตูมิตินำไปสู่เรียลลิตี้เมกะเวิร์สทันที

 

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2020

บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซ็นเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร

 

        พอเพียงอยู่ในห้องรับแขก เปิดกล่องทรูวิชั่นส์ดิจิทัลเอชดี 2 เพื่อดูรายการต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสารคดีทั้งสิ้น ทั้งทรูปลูกปัญญา, ทรูเอ็กซ์พลอร์ไวลด์ (True Explore Wild), ทรูเอ็กซ์พลอร์ไลฟ์ (True Explore Life) และทรูเอ็กซ์พลอร์ไซ (True Explore Sci) และแน่นอนช่องเอแอลทีวีของไทยพีบีเอสก็ได้เริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมด้วย จึงไม่แปลกที่เขาจะได้ดูช่องนี้ด้วย และอีกอย่างคือ เอแอลทีวีเป็นช่องดิจิทัลทีวีภาคพื้นดิน ดังนั้น บ้านไหนมีดิจิทัลทีวีก็ดูได้

        ทันใดนั้นประตูมิติสีแดงก็เปิดออก เกฟเวอร์รัสซึ่งมาในชุดแบบพอเพียงก็ได้เดินเข้ามาในห้องและนั่งบนเก้าอี้ แต่พอเพียงที่มีสัมผัสที่ไวมาก ก็ค่อย ๆ วางรีโมตลงแล้วค่อย ๆ เอามือข้างหนึ่งไปควักปืนพกออกมาจากกระเป๋าในเสื้อคลุม ดึงออกมา แล้วหันปากกระบอกปืนไปทางเกฟเวอร์รัสอย่างช้า ๆ เนื่องจากความไม่มั่นใจกำลังครอบงำจิตใจของพอเพียง

        “คนที่สู้ก่อนถามทีหลัง ข้าเคยเจอมาเยอะแล้ว” มหาจอมมารสูงสุดในร่างของพอเพียงบอกพอเพียงตัวจริง “ได้โปรดเถอะ เก็บอาวุธชิ้นนั้นไว้กับตัวเถอะ เจ้าไม่อยากใช้มันหรอก”

        “ทำไม” พอเพียงถามสั้น ๆ แต่มือกลับวางปืนลงบนโซฟา

        “ดีมาก” เกฟเวอร์รัสพูด “ข้ารู้แล้วล่ะว่าเจ้าไม่ต้องการจะทำร้ายข้า”

        “เอาเถอะ” พอเพียงพูด แล้วก็หันไปมองเกฟเวอร์รัส ที่ตอนนี้นั่งเก้าอี้นวมข้างโซฟา “จะเข้าบ้านทั้งที เข้าตามตรอก ออกตามประตูเหมือนพวกอัน-แฟนทาสต์คนอื่น ๆ ไม่ได้หรือไง?”

        “ก็คิดดูสิ ถ้ามนุษย์คนหนึ่งมีพลังสามารถเทเลพอร์ตตัวเองไปไหนมาไหนก็ได้ จะให้เข้าออกตามสำนวนที่เจ้าพูดน่ะมันธรรมดาเกินไป” เกฟเวอร์รัสตอบ “ที่อัน-แฟนทาสต์ชาวไทยยุคนี้พูดว่ายังไงนะ ธรรมดาโลกไม่จำสินะ”

        “อ๋อ” พอเพียงบอก

        “ก็นั่นแหละ” เกฟเวอร์รัสพูด “แล้วข่าวคราวในโลกใบนี้ไปถึงไหนแล้วล่ะ?”

        “ในโลกนี้น่ะเหรอ?” พอเพียงว่า “ก็มีค่อนข้างเยอะเหมือนกัน”

        “อืม” เกฟเวอร์รัสว่า “ในโลกนี้มีน้ำอะไรให้ข้าดื่มบ้าง?”

        “อ๋อ มีสิ” พอเพียงพูด จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วเปิดตู้เย็น หยิบเอากล่องน้ำส้มทิปโก้ออกมา และก็เตรียมแก้วไว้สองใบ จากนั้นก็เทน้ำส้มลงไปในแก้ว

        เกฟเวอร์รัสหยิบแก้วน้ำส้มใบหนึ่งออกมาแล้วยกดื่ม

        “แปลกแฮะ” เกฟเวอร์รัสพูด “มันมีแค่นี้เองเหรอ?”

        “ยังมีน้ำอีกเยอะ” พอเพียงพูด “แต่นี่คือที่ฉันมีนะ”

        “ไม่เป็นไรหรอก” เกฟเวอร์รัสบอก และระหว่างที่มองพอเพียงดื่มน้ำส้มจากแก้วของตัวเอง เจ้าชายแห่งโลธาเรียก็บอกว่า “คิด ๆ ดูไป พลังของข้าก็ถูกลดทอนลงไปมากเลยนะ”

        “ถ้าศัพท์วงการเกมออนไลน์ก็น่าจะเป็นเนิร์ฟสินะ” พอเพียงพูด “แล้วถูกเนิร์ฟไปมากแค่ไหนล่ะ?”

        “น่าจะสามในสี่” เกฟเวอร์รัสบอก “เพราะเมกะเวิร์สแห่งนี้เป็นเมกะเวิร์สแห่งเดียวที่มีตัวตนอยู่จริง ๆ ต่างจากเมกะเวิร์สอื่น ๆ ในกิกะเวิร์สแห่งเมกะเวอร์เซียสที่เป็นเพียงเมกะเวิร์สคู่ขนานเท่านั้น”

        “อืม” พอเพียงพูด “แต่อีกไม่นานโลกนี้ก็จะมีพลังวิเศษแล้วล่ะ ไม่ต่างจากเมกะเวิร์สคู่ขนานเลย”

        “เจ้าหมายความว่ายังไง?” เกฟเวอร์รัสถาม

        “ข่าวที่มันเยอะคือ เรื่องเกี่ยวกับการทดลองสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด จนมันเริ่มบานปลายไปจนถึงขั้นมียอดมนุษย์และวายร้ายอยู่เกลื่อนโลกไปแล้ว” พอเพียงพูด “ฉันให้นายดูข่าวก็ได้”

        ว่าแล้วพระเอกก็ได้หยิบรีโมตเปลี่ยนช่องเป็นช่องข่าวที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับโครงการของซีมเลสฮิวแมน

        “ซีมเลสฮิวแมนเหรอ?” เจ้าชายที่เป็นพาหะนำพลังของความมืดถาม “ชื่อบริษัทไม่ค่อยคุ้นหูเลย”

        “ก็แหงล่ะ” พอเพียงพูด “มันเป็นบริษัทที่อยากจะท้าทายธรรมชาติ นอกจากโปรเจกต์อันโนนที่สร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบจนเกิดเป็นยอดมนุษย์แล้ว มันยังมีโครงการทดลองอื่น ๆ อีกมาก เช่น การสร้างมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ๆ หรือสร้างสัตว์ประหลาดอะไรของพวกเขา หึ...เชื่อไหม ว่าถ้าเกิดสิ่งที่พวกเขาทดลองมันควบคุมไม่ได้ ใครจะลำบากรู้ไหม? ก็ฉันเนี่ยแหละ”

        “ทำไมเจ้าต้องลำบากล่ะ?” เกฟเวอร์รัสถาม

        “ที่ฉันลำบากเพราะว่า ฉันเป็นสมาชิกองค์การไอดีพีเอ็มไง” พอเพียงบอก “แถมถูกเลือกให้เป็นเป็นหนึ่งในแคนดิเดตผู้นำสูงสุดของหน่วยซะด้วย”

        “หน่วยไอดีพีเอ็ม?” เกฟเวอร์รัสถาม

        “องค์การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสากล” พอเพียงพูด “ถ้านายนึกภาพไม่ออก นึกถึงหน่วยชีลด์ในมาร์เวล นั่นแหละ สเกลนั้นเลย”

        “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” เกฟเวอร์รัสพูด

        “เอาเถอะ ฉันเองก็งานยุ่งมากเลย” พอเพียงพูด “ไม่ใช่แค่งานของไอดีพีเอ็มเท่านั้นนะ งานพอเพียงเอ็นเตอร์ไพรส์ฉันก็ต้องดูแลอีก”

        “อืม...” เกฟเวอร์รัสพูด “เจ้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ ที่เจ้าเกิดมาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบทุกอย่าง รู้อะไรไหม ข้ารู้น่าว่าเจ้าคือร่างอวตารของเรียลลิเทียส เมกะเวิร์สไททันแห่งเรียลลิตี้เมกะเวิร์ส และตอนนี้เจ้าเองก็คงจะระลึกชาติได้แล้วสินะ”

        “ใช่” พอเพียงตอบ “ฉันระลึกชาติได้แล้ว และฉันรู้ว่าฉันคือใคร ฉันคือพอเพียง”

        “อืม” เกฟเวอร์รัสบอก “เอาล่ะ ข้าคิดว่าคงพอแล้วล่ะกับการมาเยือนที่นี่”

        ว่าแล้วมหาจอมมารสูงสุดก็ลุกขึ้นและเปิดประตูมิติอีกครั้ง เขาพูดทิ้งท้ายว่า “แล้วเราคงจะได้พบกันใหม่” ก่อนจะเดินเข้าไปในประตูมิติและมันก็ปิดลง

        “...เช่นกัน” พอเพียงพูด

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.