บทที่ 88 เกือบถูกเข้าใจผิด!!
ก๊อก!ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะกิจกรรมสยิวยามเช้า จนทำให้คนใต้ร่างตกใจรีบพลิกตัวหนีใบหน้าคมแล้วควานหาผ้าห่มมาคลุมร่างไว้ทันที
“นายครับ มีคนมาขอพบครับ” เสียงกิตดังขึ้น ทำให้ริมฝีปากหนาต้องหยุดลงทันทีด้วยความเสียดาย ที่อีกนิดก็ใกล้จะถึงปากทางร่องผลิตน้ำหวานมาให้กินชื่นใจอยู่แล้วเชียว
‘ไอ้กิต ไอ้ห่า!!อีกแล้วนะมึง’ เขาทั้งที่สบถภายในใจ และการแสดงออกภายนอกที่ถ้าใครมาได้เห็นใบหน้าบึ้งตึงของเขาในตอนนี้ ก็คงบอกได้คำเดียวว่าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
“ใครวะ!!!” เสียงตวาดลั่นห้อง จนทำให้ฉันถึงกับสะดุ้ง
และก่อนที่ฉันจะทันได้หายตกใจ ใบหน้าสาวก็เห่อร้อนแดงก่ำขึ้นมาทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ร่างกายตัวเองกำลังเปลือยเปล่า เนื่องจากเสื้อผ้าได้ถูกถอดทิ้งไว้นอกห้องลับซึ่งมันก็คือห้องทำงานของเขา
แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้ฉันอับอายก็คือ พี่กิตน่าจะต้องเห็นเสื้อผ้าทุกชิ้นของฉันทั้งชิ้นที่ใช้ปกปิดภายนอกและชิ้นที่ใช้ปกปิด ‘ภายใน’ เพราะการที่เขาจะเดินมาถึงหน้าประตูห้องลับได้นั้น มันต้องเดินผ่านทั้งห้องเข้ามา โดยเฉพาะบริเวณตรงโต๊ะทำงานของคุณเซฟเขา ที่เราเริงรักกันอย่างเมามันเมื่อคืน มันต้องมีชิ้นส่วนเสื้อผ้าตกอยู่แถวนั้นบ้างแหละ
‘โอ๊ยๆๆๆ แล้วฉันจะมองหน้าพี่กิตยังไงล่ะเนี้ย’ ฉันได้แต่คิดในใจ
เขาที่ลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อที่จะเดินไปเปิดประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวสุดๆ ทำให้ฉันต้องเบิกตากว้างกับขนาดที่อยู่ตรงกึ่งกลางกายของเขา ที่ตอนนี้กำลังตั้งขึ้นชี้หน้าฉันอยู่
“เฮือก ~~” น้ำลายเหนียวไหลลงคอด้วยความอยาก เอ๊ย!!ยากลำบาก ฉันมองไปตามร่างเปลือยเปล่าที่เดินไปยังประตูเพื่อที่จะเปิดไปชำระความกับคนที่มารบกวนเวลาเข้าได้เข้าเข็มของเขา
“ฮะ...เฮียค่ะ” ฉันสลัดหัวเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ ก่อนจะเอ่ยเสียงตะกุกตะกักเรียกเขาเพื่อจะบอกอะไรบางอย่าง
เขาเอี้ยวตัวกลับมาตามเสียงเรียกของฉันเพื่อรอฟังว่าฉันจะพูดอะไร...
“เฮียจะไม่พันผ้าขนหนูหน่อยหรอค่ะ” ฉันที่ทำหน้าพยักพเยิดไปที่ท่อนล่างอันเปลือยเปล่าของเขา
เขาที่ก้มมองไปยังด้านล่างของร่างกาย โดยลืมไปเลยว่าตอนนี้ตัวเองก็ตัวเปล่าเล่าเปลือยยื่นชี้อาวุธใส่หน้าคนอื่นไปทั่วอยู่ และมันคงไม่ดีแน่ถ้าลูกน้องมาเห็นเขาในสภาพนี้ เดี๋ยวมันจะเอาไปเป็นปมด้อยตัวเองซะเปล่าๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันกายท่อนล่างของเขาเอาไว้
“อ่อ...ละ..แล้วก็...เสื้อผ้าเอลิซ อยู่ข้างนอก เฮียไปเอามาให้เอลิซด้วยนะคะ” ฉันกลั้นใจพูดออกไป ความอายที่มีทำให้ใบหน้าขาวเนียนใสแดงก่ำเต็มไปด้วยเลือดฝาด
เขาพยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู
ติ๊ด~~ แกร๊ก~~
ร่างสูงสง่ายืนเท้าสะเอว โดยที่มืออีกข้างยกพาดขอบประตูไว้ เพื่อรอจัดการคนที่ยืนอยู่หลังประตู
“นี่เสื้อผ้าครับนายมีทั้งของนายและของคุณเอลิซด้วยครับ” คนเป็นลูกน้องที่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่าได้ทำผิดพลาดด้วยการขัดกิจกรรมเข้าจังหวะยามเช้าของเจ้านายเข้าให้แล้ว รีบยื่นถุงใส่เสื้อผ้าที่มีทั้งของเจ้านายและนายหญิงของเขา ก่อนจะรีบพูดถึงสาเหตุที่เสี่ยงตายมาขัดจังหวะด้วยความรวดเร็ว
“แล้วก็มีคนมาขอพบนายด้วยครับ ผมจำได้ว่าเป็นคนที่นายเคยให้ไปสืบประวัติ รู้สึกจะชื่อว่า ‘มาคินทร์’ นี่แหละครับ เอ๊ะ!! ‘มาคินทร์’ นี้มันคนตระกูลวงศ์เวชรุ่งเรืองนี่ครับ” กิตที่เพิ่งจะนึกออกถึงข้อมูลของคนที่มาขอพบเจ้านายของเขา ก่อนจะทำตาโตด้วยความตกใจ
สายตาคมมีความสงสัยพาดผ่านเล็กน้อย โดยคิดว่าทำไมไอ้มาคินทร์ถึงมาขอพบเขา หรือว่าพ่อมันส่งให้มันมาเจรจาเรื่องนั้นกับเขาอีกครั้ง เหอะ...ไอ้คนตระกูลนี้หน้าด้านหน้าทนจริงๆ
แต่วินาทีนี้เขาไม่สนใจอะไรใครทั้งนั้น คนเดียวที่เขาให้ความสนใจในตอนนี้ ก็คือแม่กวางน้อยอกอวบน่าฟัด ผู้มีน้ำรักที่หวานละมุนชื่นใจ ที่ ณ เวลานี้นั่งมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มกำลังรอเขากลับไปปรนเปรอรสสวาทให้เธออยู่เท่านั้น
เขารับถุงเสื้อผ้ามาไว้ในมือ ก่อนจะบอกลูกน้องคนสนิทกลับไป...
“ไปบอกมันกูไม่ว่าง” เขาพูดพลางโบกมือไล่
ก่อนที่กิตลูกน้องคนสนิทจะทันได้หันหลังเดินจากไป เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า...
“เอ๊ะ!! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงบอกว่าในนี้มีเสื้อผ้าเอลิซด้วยใช่ไหม” ใบหน้านิ่งเมื่อครู่เริ่มดำทะมึนขึ้นมาทันที
“ใช่ครับ” เสียงตอบรับกลับหนักแน่น เรียวปากยกยิ้มรอรับคำชมจากเจ้านาย
“งั้นก็แปลว่า ข้างในก็ต้องมีชุดชั้นในเมียกูด้วยงั้นสิ” เขาเริ่มกดเสียงเข้มถาม
“ชะ...ใช่ครับ!!” กิตเริ่มทำตัวไม่ถูก รอยยิ้มที่มีถูกกลืนหายไปในลำคอพร้อมคำพูดที่ติดขัด เขาไม่เข้าใจว่าเจ้านายถามคำถามพวกนี้กับเขาทำไม แล้วทำไมเจ้านายต้องทำท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าเขาด้วย
“ไอ้กิต...มึง” ยังไม่ทันที่กิตจะได้คำตอบในสิ่งที่เขาตั้งคำถามกับตัวเอง คอเสื้อเชิ้ตที่อยู่ด้านในสูทก็ถูกกระชากขึ้นทันที
“ดะ...เดี๋ยวครับนาย ผมทะ...ทำอะไรผิดครับ ผมงงไปหมดแล้ว” กิตรีบกุลีกุจอจับมือเจ้านายไว้ด้วยความร้อนรน พร้อมถามออกไปด้วยเสียงสั่นที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“มึงกล้าดียังไงมาจับเสื้อในกางเกงในเมียกูว่ะห๊ะ!!!” ความหึงครอบงำจนเขาไม่มีสติ จนหน้ามืดตามัวจะต่อยลูกน้องคนสนิทให้ได้
“นายครับใจเย็นๆ ก่อนครับนาย ฟังผมอธิบายก่อน” กิตพูดละล่ำละลักโดยหวังว่าเจ้านายจะหยุดฟังบ้าง โชคดีที่คำพูดของเขาทำให้เจ้านายของเขายังยั้งมือไม่ได้ตะบันหน้าเขาออกไป แต่แม้ว่ามือจะหยุดแต่ก็ยังมีสายตาที่จับจ้องมาเหมือนอยากจะประหัตประหารเขาให้ตายลงตรงนั้น
“คืออย่างนี้ครับ เมื่อคืนผมเห็นว่านายไม่ได้บอกว่าจะกลับไปที่เพนท์เฮ้าส์ ผมก็เลยคิดเอาเองว่านายกลับคุณเอลิซคงจะค้างที่นี้ พอรุ่งเช้าผมก็เลยโทรไปหาป้าเสริมให้แกไปเตรียมชุดเอาไว้มาให้นายกับคุณเอลิซครับ แล้วผมก็ให้ลูกน้องเอามาส่งให้ผมที่นี่ จากนั้นผมก็เอามาให้นายนี่แหละครับ” กิตอธิบายไปตามความจริงทุกอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เพราะกลัวว่าจะขาดข้อมูลสำคัญไปจนทำให้เขาชะตาขาดได้
เขาที่มองหน้าลูกน้องนิ่ง จนลูกน้องเริ่มใจคอไม่ดี
“จริงๆ นะครับนาย ไม่เชื่อนายก็โทรไปหาป้าเสริมถามแกได้เลยครับ” กิตพูดสำทับหาป้าเสริมมาเป็นพยานในคำพูดของตน แต่ใจก็ยังคงหวาดหวั่นกับสายตาอำมหิตของเจ้านายที่ส่งมาอยู่ดี พร้อมกับเกร็งหน้ารอเผื่อเจ้านายของเขาไม่เชื่อแล้วอยากจะตะบันหน้าเขาขึ้นมาจะได้ไม่ถึงกับกรามหัก
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 51
แสดงความคิดเห็น