ตอนที่ 970 ทะเลเลือด
ตอนที่ 970 ทะเลเลือด
ดินแดนดาร์คไนท์มีขนาดใหญ่มากและเพื่อป้องกันความขัดแย้ง มันจะมีพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาใกล้อาณาเขตของกันและกันได้
แน่นอนว่าทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ เพราะคนบางคนก็หาเลี้ยงชีพภายใต้เขตแดนที่อันตรายแบบนี้นี่เอง เพียงแต่สินค้าลักลอบก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยเช่นกัน
ในความเป็นจริงโดยส่วนใหญ่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนคือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตผู้มีสติปัญญา และเนื่องจากโมฮาผู้ควบคุมสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดของดาร์คไนท์ได้อาศัยอยู่ในบริเวณชายแดนด้วย จึงทำให้ชายแดนของดินแดนดาร์คไนท์มีการป้องกันที่แข็งแกร่งมาก
เพื่อตามหาโมฮาผู้ซึ่งครอบครองอาวุธมายาธาตุพืชอีกชิ้น เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องบุกเข้าไปภายในถิ่นที่อยู่ของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์
ฟุบ!
เจมินี่ภายใต้การควบคุมของเซี่ยเฟยเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วผ่านปากของสิงโตดำขนาดใหญ่ ก่อนที่ยานขนาดเล็กจะหลบไปซ่อนตัวในเงามืดของดาวเคราะห์
“อันตรายมาก! ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกดาร์คไนท์จะใช้สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ในการปกป้องชายแดน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงเป็นดินแดนที่ลักลอบเข้าไปได้อย่างยากลำบากขนาดนั้น” ลินนิจกล่าวพร้อมกับเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก หลังจากที่พวกเขาหลบรอดอันตรายมาได้อย่างฉิวเฉียด
ตุบ!
เซี่ยเฟยโยนร่างของเหวินฉางไปกระแทกกับกำแพงโลหะอย่างรุนแรง จนทำให้ชายอ้วนแสดงสีหน้าออกมาอย่างเจ็บปวด
หลานชายของราชาดาร์คไนท์คนนี้ถูกทรมานภายใต้เงื้อมมือของเซี่ยเฟยอย่างแสนสาหัส ทำให้ร่างกายของเขาซูบผอมลงเรื่อย ๆ แม้แต่บริเวณรอบดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ มีรอยคล้ำเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
เดิมทีเหวินฉางคิดว่าเรื่องการมีชีวิตที่แย่กว่าความตายเป็นแค่เรื่องราวในตำนาน แต่หลังจากที่เขาได้พบกับเซี่ยเฟย เขาก็ตระหนักว่าความตายเป็นสิ่งที่แสนสบายที่สุดสำหรับเขาในเวลานี้แล้ว
“โมฮาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน? ฉันพยายามลาดตระเวนตามตำแหน่งที่แกบอกแล้ว แต่ฉันกลับไม่เจออะไรนอกจากพวกสัตว์ประหลาด นี่แกกำลังโกหกฉันอยู่งั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยตะคอกถามขณะใช้มือดึงหูของชายอ้วนอย่างรุนแรง
ตอนนี้เหวินฉางเป็นเพียงนกตัวน้อยที่ตื่นตระหนกเพียงแค่การเคลื่อนไหวง่าย ๆ ของเซี่ยเฟยก็เพียงพอจะทำให้ชายคนนี้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวแล้ว ซึ่งด้วยความกลัวในปัจจุบันมันก็อย่าว่าแต่เขาจะกล้าโกหกเซี่ยเฟยเลย เพราะในใจของเขาคาดหวังเพียงแค่ตัวเองจะตายจากไปเพื่อหลบหนีจากความทรมานนี้โดยเร็วที่สุด
“ฉันสาบานต่อหน้าราชาดาร์คไนท์เลยว่าโมฮาอาศัยอยู่ที่นี่จริง ๆ เขาเป็นพวกมีนิสัยแปลก ๆ ที่ไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนอื่น นอกจากลูกศิษย์ของเขาอย่างจีต้าแล้วรอบ ๆ ตัวของเขาก็มีเพียงแค่อสูรดาร์คไนท์เท่านั้น”
“แต่โมฮาไม่ชอบตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ไหนนานเกินไป เขาจึงชอบย้ายที่อยู่อาศัยเป็นระยะ ๆ ปกติทางเดียวที่จะเจอกับโมฮาได้คือคำสั่งเรียกตัวจากราชา นอกเหนือจากนั้นมันก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาความโชคดีเราถึงจะหาตัวเขาจนเจอ” เหวินฉางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ แสดงให้เห็นว่าความทรมานที่เขาได้พบเจอในก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่แสนสาหัสมากเพียงใด
“ฉันว่าที่เขาพูดก็มีเหตุผลนะ ปกติพวกที่ชอบอยู่กับสัตว์อสูรก็มักจะปลีกวิเวกไปอยู่ตัวคนเดียวอยู่แล้ว หลาย ๆ คนถึงกับใช้ชีวิตเหมือนกับสัตว์อสูรเลยด้วยซ้ำ ไม่แน่คนที่ชื่อโมฮาคนนั้นอาจจะมีพฤติกรรมแบบนี้ก็ได้” ลินนิจกล่าว
เซี่ยเฟยเคยรู้จักผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมสัตว์อสูรมาก่อน เขาจึงรู้ดีว่าสิ่งที่เหวินฉางพูดมาคือความจริง ยิ่งไปกว่านั้นลินนิจก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก ข้อมูลที่ลินนิจให้มาจึงไม่ค่อยแตกต่างไปจากความจริงมากนัก
การทรมานอันแสนเจ็บปวดยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งในตอนสุดท้ายเหวินฉางก็เป็นลมล้มหมดสติพร้อมกับฟัน 2 ซี่ที่หลุดออกมาจากปาก
ลินนิจทำได้เพียงแต่กลืนน้ำลายอย่างลับ ๆ เมื่อได้เห็นความโหดเหี้ยมของเซี่ยเฟยต่อศัตรู และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นวิญญาณอมตะแต่เขาก็ไม่คิดที่จะเป็นศัตรูของเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มเดินไปดูระบบเรดาร์เพื่อสังเกตตำแหน่งของอสูรดาร์คไนท์ทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนี้ เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งของสัตว์ประหลาดแล้ว เซี่ยเฟยก็ได้พบว่ามันมีอสูรดาร์คไนท์กลุ่มใหญ่กำลังรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่บริเวณหนึ่ง
เจมินี่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังจุดที่อสูรดาร์คไนท์กำลังรวมตัวกัน และเมื่อพิจารณาจากจุดแสงบนหน้าจอเรดาร์ พื้นที่บริเวณนั้นก็ควรจะมีสัตว์ประหลาดรวมตัวกันอยู่ไม่น้อยไปกว่า 10,000 ตัว
เซี่ยเฟยเริ่มจัดแจงอาวุธอุปกรณ์ของตัวเองอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าเขากำลังจะออกไปทำการสู้รบกับศัตรูอีกครั้ง
“นั่นนายจะทำอะไร?” ลินนิจถามอย่างสงสัย
“ออกไปฆ่าพวกมันน่ะสิ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบง่าย ๆ และเมื่อขนอุยที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ยินความต้องการของเจ้านาย มันก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาในทันที
นับตั้งแต่ที่หงส์ครามวิวัฒนาการซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขนอุยก็รู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ มันจึงต้องการจะพิสูจน์ว่าถึงแม้มันจะยังไม่ได้วิวัฒนาการแต่มันก็ยังคงเป็นผู้ช่วยที่แข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม เมื่อได้ยินว่าเซี่ยเฟยกำลังจะออกไปเผชิญหน้ากับศัตรู ดวงตาน้อย ๆ ของมันจึงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความบ้าคลั่ง
“เซี่ยเฟย! นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ?! นั่นมันอสูรดาร์คไนท์นับหมื่นตัวเชียวนะ คนปกติต่างก็หลีกเลี่ยงพวกมันทั้งนั้นแหละ ทำไมนายถึงคิดจะเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกมันโดยตรง?” ลินนิจกล่าวอย่างปวดหัว
“ในเมื่อเราหาโมฮาไม่เจอเราก็แค่ต้องบีบบังคับให้มันมาหาเราเอง เหวินฉางบอกเองว่ามันคือคนที่ชื่นชอบอสูรดาร์คไนท์มาก ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะยืนดูของรักของหวงของมันตายไปเรื่อย ๆ โดยไม่ทำอะไร” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างใจเย็น
ลินนิจชะงักค้างไปในทันทีเมื่อได้ยินว่าเซี่ยเฟยต้องการจะล่อเสือออกมาจากถ้ำ แต่แผนการนี้มันก็เป็นแผนการที่บ้าคลั่งอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมันหมายความว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอสูรดาร์คไนท์เป็นหมื่น ๆ ตัว
ไม่นานเจมินี่ก็เดินทางมาถึงพื้นที่บริเวณที่ฝูงอสูรดาร์คไนท์รวมตัวกัน เซี่ยเฟยกับขนอุยจึงออกจากยานรบด้วยความรวดเร็ว หลังจากที่เซี่ยเฟยเก็บเจมินี่เข้าไปในแหวนมิติเรียบร้อยแล้ว เขาก็เตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดต่อสู้อย่างเต็มกำลัง
เนตรมนตรา!
วิชาเนตรจากวิชามนตราอสูรถูกใช้ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เขามองเห็นเหล่าบรรดาอสูรร้ายที่อยู่ในระยะไกล สัตว์เหล่านี้กำลังรวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่ม ๆ โดยบางกลุ่มกำลังนอนหลับพักผ่อน บางกลุ่มกำลังหยอกล้อกัน แต่มันไม่มีใครสังเกตเห็นเซี่ยเฟยที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ฝูงของพวกมันเลย
ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็ชูแขนขวาปล่อยใบหญ้าให้เติบโตขึ้นมาอย่างช้า ๆ โดยภายนอกหงส์ครามดูไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก นอกเหนือจากใบหญ้าที่เพิ่มขึ้นมาและความยาวของใบหญ้าที่ยืดยาวไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร
วินาทีถัดมาชายหนุ่มก็สะบัดมือออกไปอย่างรุนแรงราวกับว่าเขากำลังสะบัดแส้ ทำให้ใบหญ้าขนาดยักษ์ทั้งแปดใบโบกสะบัดก่อให้เกิดคลื่นลมอันรุนแรง
การเคลื่อนไหวอันรุนแรงของเซี่ยเฟยก่อให้เกิดคมดาบสายลมที่มีความยาวนับ 10 กิโลเมตรขึ้นมาในทันที ก่อนที่คมดาบสายลมเหล่านี้จะตัดผ่านฟากฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
นี่คือผลลัพธ์จากการที่หงส์ครามได้กลืนกินไม้จันทร์กระซิบเข้าไป ซึ่งมันก็ทำให้ใบหญ้าทั้งแปดสามารถสร้างคมดาบสายลมโจมตีในระยะไกลได้ และคมดาบแต่ละเล่มยังมีความยาวมากกว่า 10 กิโลเมตร
คมดาบสายลมเคลื่อนที่เข้าไปท่ามกลางฝูงอสูรดาร์คไนท์อย่างดุร้าย และก่อนที่พวกมันจะทันได้รู้สึกตัวร่างของพวกมันก็ถูกตัดขาดออกจากกันเป็นชิ้น ๆ
เหล่าบรรดาอสูรดาร์คไนท์มองไปรอบ ๆ อย่างสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกมันจะจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยที่ยืนอยู่ท่ามกลางฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
วินาทีต่อมาอสูรร้ายเป็นจำนวนมากก็ถาโถมเข้าหาเซี่ยเฟยอย่างโกรธเกรี้ยว ข้อหาที่ชายคนนี้กล้าเข้ามาในเขตแดนของพวกมัน
อิ้ว!
ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับร่างกายของมันที่ขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็เริ่มรวบรวมพลังงานเอาไว้ในหน้าอกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
“ฆ่าพวกมันให้หมด!!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการ
ลินนิจเข้าควบคุมเนอร์วาน่าลอยบินไปด้านหน้าเพื่อสังหารศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนี้
ขนอุยพ่นลำแสงพลังงานออกมาจากปาก และไม่ว่าใครก็ตามที่สัมผัสเข้ากับลำแสงพลังงานของมัน สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็จะระเหิดกลายเป็นไอ
หงส์ครามโบกสะบัดอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเพื่อทำการปลดปล่อยคมดาบสายลมออกไปอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อผู้ช่วยทั้งสามของเซี่ยเฟยเริ่มลงมือพร้อมกัน แม้แต่อสูรร้ายนับหมื่นก็ไม่สามารถเจาะทะลุการโจมตีอันบ้าระห่ำพวกนี้เข้ามาได้ เหล่าบรรดาอสูรร้ายจึงเสียชีวิตลงไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่พวกมันไม่สามารถสร้างอันตรายต่อเซี่ยเฟยได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“นี่สินะความตื่นเต้นของการฆ่า” ลินนิจอุทานขึ้นมาเสียงดังขณะที่ดวงตาของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
หลังจากติดตามเซี่ยเฟยมาสักพักแม้แต่ลินนิจก็เริ่มติดเชื้อความบ้าคลั่งจากชายหนุ่มคนนี้ไปแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงเรื่องนี้มันจะโทษลินนิจคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะแม้แต่แท่งทองที่ดูซื่อ ๆ ก็ยังติดเชื้อความบ้าคลั่งไปจากเซี่ยเฟยด้วยเหมือนกัน
แม้ว่าอสูรร้ายเหล่านี้จะไม่สามารถสร้างอันตรายให้กับเซี่ยเฟยได้ แต่พวกมันก็ไม่เคยหวาดกลัวความตาย พวกมันจึงส่งเสียงร้องคำรามเพื่อเรียกกำลังเสริมมาเพิ่มเติม
กาลเวลาผ่านพ้นไปเปลี่ยนให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นทะเลเลือด ซึ่งหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปประมาณ 1 ชั่วโมง เหล่าบรรดาอสูรดาร์คไนท์ก็ถอยกลับไปโดยไม่ทราบสาเหตุปล่อยให้เซี่ยเฟยยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง
ในเวลาเดียวกันเสียงดังกึกก้องก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่อสูรร้ายสีดำขนาดใหญ่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนจะปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเขาอย่างกะทันหัน
“โมฮาสมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอสูรดาร์คไนท์จริง ๆ ถึงแม้เผ่าดาร์คไนท์จะไม่สามารถพิชิตอาวุธมายาได้ แต่เขาก็ควบคุมให้อสูรในพันธสัญญาเป็นคนพิชิตอาวุธมายาแทนเขาอีกที” ลินนิจกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นร่างของสัตว์อสูรที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
***************
หา!! ไม่เคยคิดเลยนะเนี่ยว่าให้สัตว์อสูรในพันธสัญญาพิชิตอาวุธมายาแทนได้ด้วย!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 409
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น