บทที่ 56 จะฆ่าให้หมด

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 56 จะฆ่าให้หมด

หมวดหนังสือ: 

สิ้นประโยคที่เอ่ยออกมาจากปากหยักทรงเสน่ห์ คำว่า ‘ช็อค’ น่าจะเหมาะกับฉันที่สุดในตอนนี้ เมื่อฉันได้ยินคำตอบของเขา คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันทันทีด้วยความงงงวยและความคิดที่ตามมาว่า...คนอะไร คนที่ไหนที่จะอยู่ในโทรศัพท์ และเขาหึงใคร ในระหว่างที่ฉันยืนมึนอยู่ตรงนั้น เขาก็เดินมาช้อนร่างฉันอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วเดินไปยังรถสปอร์ตสุดหรูที่ลูกน้องเปิดประตูรถรอไว้อยู่แล้ว  ก่อนจะวางฉันลงบนเบาะด้านข้างคนขับอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยเดินอ้อมไปขึ้นรถทางด้านคนขับ

 

และการกระทำทั้งหมดระหว่างเขากับฉันคงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครไม่เห็น เพราะตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน ทำให้มีพนักงานทะยอยกันออกมาหน้าบริษัทมากมายและแทบทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

ฉันนั่งนิ่งอยู่บนรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ระหว่างนั้นรถก็แล่นออกมาจากบริษัท เพื่อมุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอันดับหนึ่งของประเทศ

 

“โกรธเฮียหรอค่ะ”  เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เพื่อทำลายความเงียบ หลังจากที่ตั้งแต่ขึ้นรถมา ฉันไม่พูดกับเขาสักคำ

 

“...............”  ฉันเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไป เนื่องจากความรู้สึกที่หลากหลายตีปะปนกันไปมาอยู่ภายในหัวสมองของฉันตอนนี้ มันทำให้ฉันพูดไม่ออกจริงๆ

 

“เฮียขอโทษ เฮียบอกแล้วไง เดี๋ยวเฮียซื้อให้ใหม่ เอารุ่นที่ดีที่สุดแพงที่สุดไปเลย”  เขายังพยายามพูดคุยหาข้อเสนอมาเพื่อทำให้ฉันอารมณ์เย็นลง เพราะเห็นว่าฉันยังคงเงียบไม่ตอบ

 

“...............” 

 

“พูดอะไรหน่อยได้ไหม เฮียขอโทษที่ทำลายของของเอลิซ”  เขาเอ่ยคำขอโทษซ้ำ แววตาที่อ่อนลงจับจ้องมายังใบหน้าด้านข้างของฉัน ท่าทางลุกลี้ลุกล้นเหมือนอยากจะดึงฉันเข้าไปกอด แต่ติดตรงที่ต้องคอยจับพวงมาลัยรถยนต์

 

ฉันยังคงไม่พูดไม่ตอบโต้อะไรเขา จนกระทั่งรถได้เคลื่อนมาถึงห้างสรรสินค้าและเข้าจอดในช่องจอดของผู้บริหาร

 

‘หึ...ที่นี่ก็คงไม่พ้นเป็นกิจการของเขาอีกสินะ...ชิ’  ฉันแค่นบ่นในใจ

 

ภายใต้แอร์ที่เย็นฉ่ำ แต่อารมณ์ของหญิงสาวกำลังครุกรุ่น จนทำให้คนข้างๆ กระสับกระส่ายทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เอ่ยพูดขึ้นทำลายความเงียบจากหญิงสาวที่มีมานานตั้งแต่ออกจากบริษัท

 

“ใจคอจะโกรธผัว จะไม่พูดกับผัว เลยหรือยังไงค่ะ”  เขาเริ่มออกลูกอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน โดยหวังว่าฉันจะหายโกรธและให้อภัยเขา

 

ฉันหันไปมองหน้าเขา ที่ตอนนี้ทำตาละห้อยใส่ฉัน มือที่เอื้อมมาหวังจะจับมือฉันแต่กลับโดนฉันสะบัดมือหนี จนทำให้เด็กน้อยในร่างคนโต ถึงกับหน้าถอดสี

 

“เฮ้ออออ”  ฉันถอนหายใจอย่างคนเอือมระอา

 

“ไม่ต้องมาผงมาผัวอะไรทั้งนั้นค่ะ เอลิซไม่มีผัวงี่เง่าแบบนี้หรอกนะคะ แล้วคุณเซฟได้โปรดอธิบายการกระทำให้เอลิซเข้าใจด้วยค่ะ ”  ฉันอดไม่ได้ที่จะว่ากล่าวเขาไปอย่างเหลืออด ก่อนจะถามเขากลับไปด้วยคำถามเดิมที่เขายังไม่ได้ตอบ

 

“คุณเซฟ เลยหรอ เรียกเฮียเหมือนเดิมสิค่ะ”  เขาหน้าจ๋อยลงทันทีเมื่อฉันเรียกชื่อเขาแทนสรรพานามเดิมที่เคยเรียกกัน

 

“อธิบายมาค่ะ อย่านอกประเด็น” ฉันนั่งกอดอก สายตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพื่อรอคำตอบ

 

“กะ..ก็ เฮียบอกไปแล้วไง ว่าหึง!!” เขาเอ่ยตะกุกตะกักเหมือนจะเพิ่งรู้สึกได้ว่า สิ่งที่เขาทำมันมากเกินไป แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็คนมันรัก มันหวง มันหึง แค่ความคิดมันพุ่งขึ้นมา มือมันก็หยิบขว้างออกไปแล้ว

 

“หึงที่ว่านี่ใครค่ะ ใครที่มันอยู่ในโทรศัพท์เอลิซ เพราะตั้งแต่ที่เอลิซอยู่กับคุณเซฟมา เอลิซไม่เคยได้ติดต่อกับใครเลย โทรศัพท์ก็เพิ่งจะชาตเพราะว่าจะได้ออกมาข้างนอก ที่เอาออกมาก็เพื่อมาถ่ายรูปสวยๆ และเผื่อจะได้มาถ่ายรูปคู่กะ...กัน...”  ฉันร่ายยาวใส่เขาเป็นชุด ก่อนจะหลุดปากออกไปถึงเจตนาที่ฉันนำโทรศัพท์ออกมาด้วย จนต้องรีบกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ แต่ก็คงไม่ทันสะแล้วเพราะเขาคงได้ยินทุกประโยคที่ฉันพล่ามออกไป

 

“อยากถ่ายรูปคู่กับเฮียหรอค่ะ ถ่ายตอนนี้เลยก็ได้นะ มามะ เดี๋ยวเฮียถ่ายให้”  ใบหน้าคมยกยิ้มกว้างขึ้นมาทันที แล้วทำท่าทางกระดี๊กระด๊าอยากถ่ายรูปด้วยกันสุดๆ มือหนาพยายามโอบไหล่ฉันให้เข้าไปซบเขา ก่อนที่ฉันจะสลัดตัวออก

 

“ไม่ค่ะ อ..ธิ..บาย..มา”  ฉันเน้นคำพูด

 

“เฮ้อออ เอลิซอ่ะ แค่เฮียบอกว่าหึงก็น่าจะเข้าใจแล้ว จะสาวความทำไมอีกล้าาา” เขาบ่นกระปอดกระแปดใส่ฉัน ส่วนมือก็เปิดกล้องโทรศัพท์ค้างไว้

 

ฉันถลึงตามองเขา และตั้งใจว่าถ้าไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน วันนี้ก็ไม่ต้องไปไหน นั่งมันอยู่ที่บนรถนี่แหละ

 

“อะ..อะ..เฮียยอมแล้วค่ะ เฮียยอมเมียแล้ว เฮ้อออ เวรจริงๆ เลยกู ถ้าใครรู้ว่าเซบาสเธียมานั่งหงอเมียแบบนี้ใครมันจะเกรงกลัวว่ะ”  ประโยคหลังเป็นเขาที่พูดเบาๆ กับตัวเอง แต่ว่าฉันได้ยิน

 

“ที่เฮียไม่พอใจที่เอลิซยังใช้เบอร์เก่า ก็เพราะเดี๋ยวเผื่อมีคนเก่าๆ โทรกลับมาหาเอลิซ ถ้ามันมาง้อเอลิซล่ะ แล้วถ้าเอลิซใจอ่อนล่ะ แล้ว...”

 

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเอลิซใจอ่อนที่จะกลับไปจริงๆ เฮียจะยอมหรอค่ะ” เป็นฉันที่พูดสวนเขาขึ้นมา ทั้งที่เขายังพูดไม่ทันจบ

 

“กูไม่ยอม ของของกู เมียกู กูจะฆ่าแม่งให้หมด”  อารมณ์เขาปรี๊ดขึ้นทันที

 

ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยพูดมึงกูกับฉัน ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วกวนประสาทเขาต่อ

 

“แต่เอลิซก็มีชีวิตของเอลิซ เฮียก็มีชีวิตของเฮีย ถ้าวันหนึ่งเฮียหมดรักเอลิซแล้ว แล้วเขายังรอเอลิซอยู่ เอลิซก็ไม่ผิดที่จะกลับไปหาเขา”  ฉันทำทีเป็นเอ่ยเสียงเรียบพูดจาดูจริงจัง แต่ในใจกลับลุ้นว่าเขาจะแสดงพฤติกรรมแบบไหนออกมา

 

“จะไม่มีวันนั้น เด็ดขาด!!” เขาเอ่ยเสียงเข้ม เน้นทุกคำ พร้อมส่งสายตาแน่วแน่มาให้ จนฉันรู้สึกดีใจ

 

“แต่ถ้าเราสองคนรักกัน เฮียก็ต้องป..ล่อ...ย...อุ๊บ!!”  เสียงฉันถูกกลืนหายลงไปในลำคอ เนื่องจากคนขี้หึง จับต้นคอเรียวระหงให้เข้าหาเพื่อจัดการปิดปากที่ชอบพูดทิ่มแทงหัวใจเขาให้เจ็บแสบ แล้วออกแรงกดริมฝีปากหนาบดขยี้เข้ากับริมฝีปากอิ่ม ความรุนแรงของการบดขยี้แสดงถึงอารมณ์ขุ่นเคืองที่เริ่มปะทุขึ้นของเขา

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.