ตอนที่ 918 ร่างที่แท้จริงของลินนิจ
ตอนที่ 918 ร่างที่แท้จริงของลินนิจ
แท่งทองเคลื่อนที่ในช่องว่างมิติอย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังดินแดนลับ โดยนำสถานีวิจัยสุดล้ำสมัยของบริษัทฟิกส์ไปเป็นสินทรัพย์ส่วนตัวของเซี่ยเฟย
การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มในคราวนี้เต็มไปด้วยความโลภอย่างแท้จริง เพราะเพียงแค่กองทัพหุ่นยนต์ที่นำโดยโซฟีภายในดินแดนลับก็มีพลังมหาศาลอยู่แล้ว หากเขาได้รับสถานีวิจัยชั้นยอดแห่งนี้ไป มันก็คงจะช่วยปรับปรุงความแข็งแกร่งของกองทัพได้เป็นอย่างมาก
เทคนิคการฝึกหนอนด้วงมิติที่เขาได้รับมาจากโอโร่มีส่วนสำคัญในแผนการครั้งนี้มาก เพราะเมื่อเขาทำการส่งสัญญาณผ่านช่องว่างมิติ แท่งทองก็สามารถปรากฏตัวขึ้นมากลืนสถานีวิจัยเข้าไปและหลบหนีเข้ามาภายในช่องว่างมิติได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้หนอนด้วงมิติยังมีภาพจำว่ามันคือสัตว์เลี้ยงของเผ่ามาร การเคลื่อนไหวในครั้งนี้จึงแทบที่จะไม่เหลือร่องรอยของเขาเอาไว้เลย ความเป็นจริงการเรียนรู้เทคนิคจากทั้งเผ่าเทพและเผ่ามารก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับชายหนุ่มได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่เขาได้ใช้เขตอาคมของเผ่ามารเพื่อทำลายเหล่านักฆ่าที่หมายปองจะเอาชีวิตเขานั่นเอง
เซี่ยเฟยได้เรียนรู้เทคนิคลับมาอย่างมากมายทั้งจากตระกูลสกายวิงและโอโร่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเผชิญหน้ากับนักรบทางฝั่งเทพ เขาก็สามารถใช้วิธีการของเผ่ามารในการจัดการกับนักรบเทพได้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเจอศัตรูเป็นเผ่ามาร เขาก็สามารถใช้เทคนิคของฝั่งเทพเพื่อจัดการกับนักรบเผ่ามารได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ตัวตนของเขาจึงกลายเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงกลางเผ่าเทพมาร และไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับใคร เขาก็สามารถใช้วิธีที่ได้เปรียบในการสังหารศัตรูได้ทั้งหมด
ภายในศูนย์บัญชาการ
ตรงข้ามของเซี่ยเฟยได้มีชายชรา 3 คนที่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องวิจัยขนาดใหญ่ โดยชายชราเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่น และถูกจับมาขังภายในบริษัทฟิกส์เช่นเดียวกันกับลินนิจ
ห้องขังของชายชราทั้งสามคนนี้ถูกปิดผนึกเอาไว้อย่างแน่นหนา และถูกเข้ารหัสด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนอย่างมากมาย เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลามากพอสมควรกว่าจะนำตัวชายชราทั้งสามคนออกมาได้
เดิมทีชายหนุ่มต้องการจะปล่อยลินนิจออกมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างราชาแห่งเผ่าจักรกลจึงเรียกร้องให้เขาปล่อยทั้งสามคนนี้ออกมาก่อน บางทีมันอาจจะเป็นเพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่กักขังเขาเอาไว้มีความแน่นหนามากเกินไป ลินนิจจึงอยากจะรวมพลังของชายชราทั้งสามคนเข้ากับเซี่ยเฟยเพื่อทำการปลดปล่อยตัวเองออกมา
ชายชราทั้งสามคนนี้ประกอบไปด้วยเท็ดดี้ปรมาจารย์ด้านเครื่องกล ยาบูริปรมาจารย์ด้านอิเล็กทรอนิกส์และเท็มเพลสปรมาจารย์นักประดิษฐ์ เมื่อรวมกับลินนิจราชาแห่งเผ่าจักรกล 4 คนนี้ก็ได้รวมตัวกันกลายเป็นกระดูกสันหลังของบริษัทฟิกส์
ชายหนุ่มทำการสอบสวนชายชราทั้งสามคนอย่างเข้มงวด เพื่อยืนยันว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีอะไรน่าสงสัย สิ่งที่เขาได้รับคือทั้งสามต่างก็ล้วนแล้วแต่เกลียดบริษัทฟิกส์สุดหัวใจ และรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่เซี่ยเฟยช่วยพวกเขาออกมา
“พวกเรารีบไปปลดปล่อยเหยื่อคนที่เหลือกันเถอะ พวกเราทั้งสามคนต่างก็รู้ดีว่าการถูกจำคุกเป็นเวลานานเจ็บปวดแค่ไหน เราต้องไม่ปล่อยให้ใครทนทุกข์ทรมานเหมือนกับพวกเราอีก” เท็มเพลสผู้ซึ่งเป็นปรมาจารย์นักประดิษฐ์ชั้นยอดตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“ใช่ ไม่ว่าพี่น้องคนสุดท้ายจะถูกคุมขังเอาไว้แบบไหน แต่ฉันไม่เชื่อว่าพวกเรา 4 คนจะไม่สามารถช่วยเขาออกมาได้” เท็ดดี้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“พวกเรารีบไปช่วยเขากันก่อนเถอะ อย่าพึ่งเสียเวลาคุยกันเลย” ยาบูริกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนนี้ต่างก็ถูกกักขังมาเป็นเวลานานเหมือน ๆ กัน พวกเขาจึงเข้าใจความรู้สึกของกันและกันเป็นอย่างดี ซึ่งในความเป็นจริงพวกเขาเพิ่งจะได้พบกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี พวกเขาจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่นัก
“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ลินนิจคุณล่ะคิดว่ายังไง?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ลองดูสิ แต่อย่าแปลกใจหลังจากที่ได้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของฉันล่ะ” ข้อความจากหน้าจอปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ
เซี่ยเฟยชะงักค้างไปเล็กน้อยโดยไม่เข้าใจว่าลินนิจกำลังหมายถึงอะไรกันแน่ ก่อนหน้านี้โซฟีเคยฉายภาพวิดีโอบิดาของเธอให้เขาดูหลายครั้ง เขาจึงคิดมาโดยตลอดว่าลินนิจคือหุ่นยนต์สีเงินที่สง่างาม แต่จากคำพูดที่อีกฝ่ายได้พูดมาลินนิจกำลังบอกว่าตอนนี้เขาไม่ใช่หุ่นยนต์แล้วงั้นเหรอ
—
ชายหนุ่มเดินตามคำแนะนำของลินนิจไปเรื่อย ๆ ก่อนที่เขาจะได้พบกับประตูหมายเลข 1 ที่ถูกปิดผนึกด้วยโลหะผสมถึงหกชั้น การปิดผนึกในครั้งนี้มีความหนาแน่นมากยิ่งกว่าคุกของยาบูริเสียอีก หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าลินนิจคือคนที่มีความสำคัญกับบริษัทมากยิ่งกว่า
คลืด!
ประตูโลหะหนาค่อย ๆ เปิดออกทีละบานเผยให้เห็นห้องลับที่มีความซับซ้อนสูงมาก ซึ่งชายชราทั้งสามคนต่างก็อ้าปากค้างขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะสถานการณ์ของลินนิจมันเลวร้ายมากยิ่งกว่าสถานการณ์ของพวกเขา
“พวกเราเข้าไปตรง ๆ ได้ไหม?” เซี่ยเฟยถามขณะยืนอยู่ที่ประตู
“เข้ามาได้ แต่อย่าไปแตะต้องอะไรเข้าล่ะ” เสียงสังเคราะห์ดังขึ้นมาจากอีกฟาก
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะส่งสัญญาณมือให้ชายชราทั้งสามคอยตามเขามาห่าง ๆ เพราะในห้องนี้เต็มไปด้วยความผันผวนของพลังงาน ที่มีความคล้ายคลึงกับความผันผวนของพลังงานที่ถูกส่งออกมาจากชิ้นส่วนอาร์ค
‘ลินนิจมีความเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอาร์คงั้นเหรอ!?’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจพร้อมกับขมวดคิ้ว จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปภายในห้องขัง ก่อนที่จะได้พบกับภาชนะรูปไข่ที่ล้อมรอบไปด้วยสายไฟและแขนกล
“อื้อหือ! ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่อันตรายมาก มันเชื่อมต่อเข้ากับระบบทำลายตัวเองของสถานีอวกาศด้วย ถ้าหากว่าเราต้องการจะปล่อยเขาออกมา อันดับแรกเราจะต้องตัดระบบทำลายตัวเองลงไปก่อน” เท็ดดี้ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องกลกล่าว
“ไม่! ระบบทำลายตัวเองนี้มีการต่อชนวนแบบวนซ้ำ ถ้าหากเราไปแตะต้องมันแค่เล็กน้อย มันอาจจะก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นมาได้เลย” ยาบูริส่ายหัวปฏิเสธคำพูดของเท็ดดี้
หลังจากนั้นชายชราทั้งสามคนก็เริ่มปรึกษาหารือถึงวิธีการช่วยลินนิจออกมาจากที่คุมขัง แต่ระบบรักษาความปลอดภัยนี้มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะระดมสมองช่วยกันคิด แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าพวกเขาจะช่วยลินนิจออกมาอย่างปลอดภัยได้
“ใครเป็นคนออกแบบระบบป้องกันนี้มา? มันดูเหมือนกับว่าระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่มันมีระดับสูงกว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันของบริษัทฟิกส์ซะอีก” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ชายชราทั้งสามต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยเช่นกัน เพราะระบบป้องกันภัยนี้มันอยู่เหนือเกินกว่าระดับของพวกเขา
“พวกคุณทั้งสามคนช่วยออกไปก่อนได้ไหม ฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับเซี่ยเฟย” ลินนิจกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เซี่ยเฟยหันไปพยักหน้าให้กับชายชราทั้งสามคนเล็กน้อย ก่อนที่ทุกคนจะออกไปอย่างระมัดระวังเหลือเพียงแค่เซี่ยเฟยกับลินนิจที่อยู่ภายในห้อง 2 คนเท่านั้น
ฟี่!
ภาชนะรูปไข่ที่ขังลินนิจอยู่เอาไว้ด้านในค่อย ๆ เปิดออก แต่ภาพที่ปรากฏคือด้านในมีแต่เพียงความกว้างเปล่าไม่เหลือร่องรอยของหุ่นยนต์ตัวสีเงินอยู่ภายในภาชนะชิ้นนี้เลย มีเพียงชิปชิ้นหนึ่งที่เชื่อมโยงด้วยสายไฟอันแน่นหนา
“อย่าบอกนะว่านี่คือร่างที่แท้จริงของคุณ?!” เซี่ยเฟยถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ คนพวกนั้นมันกลัวฉันหนีไป มันเลยทำลายร่างของฉันเหลือเอาไว้เพียงแค่ชิปหลักเพียงอันเดียวเท่านั้น” ลินนิจกล่าว
เมื่อทราบเหตุผลชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก เพราะท้ายที่สุดชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของหุ่นยนต์ก็คือชิปประมวลผลหลักชิ้นเดียวอยู่แล้ว ตราบใดก็ตามที่ชิปประมวลผลของหุ่นยนต์ยังอยู่พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนร่างกายของตัวเองใหม่ได้ตลอด
ยกตัวอย่างเช่น ตอนแรกที่เขาได้พบกับมอร์โรว์ ตอนนั้นมอร์โรว์ยังคงอยู่ในร่างของแมลงสาบ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์สามารถที่จะปรับเปลี่ยนร่างกายของตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้
“ผมคิดว่าผมพาคุณออกไปจากที่นี่ได้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย หลังจากที่เขาได้มองสำรวจแผงวรจรทั้งหมด
“นายจะทำยังไง?” ลินนิจถามอย่างสงสัย
“นี่คือชุดอุปกรณ์ตรวจจับทางกายภาพ ตราบใดก็ตามที่ผมเคลื่อนไหวด้วยความเร็วมากพอ ผมก็สามารถนำชิปอันอื่นมาแทนที่ชิปของคุณได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังวงจรอันหนาแน่น
“มันอันตรายมากเลยนะ” ลินนิจกล่าวอย่างกังวล
“ไม่ว่ามันจะอันตรายแค่ไหนแต่พวกเราก็ต้องลองดู ผมคำนวณมาแล้วว่าด้วยความเร็วในปัจจุบันของผม ผมสามารถช่วยคุณออกมาอย่างปลอดภัยแน่นอน และเมื่อผมแทนที่คุณด้วยชิปธรรมดาระบบทำลายตัวเองก็จะไม่ทำงาน เรียกได้ว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างมั่นใจ
—
ภายในสถานีวิจัยลับมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดของดินแดนกฎอยู่ครบทุกชนิด เซี่ยเฟยจึงสามารถผลิตชิปเลียนแบบชิปของลินนิจขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ชายชราทั้งสามกำลังยุ่งอยู่กับการถอดระบบรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อไม่ให้บริษัทฟิกส์ติดตามสัญญาณของสถานีวิจัยนี้ได้
“คุณพร้อมแล้วหรือยัง?” เซี่ยเฟยถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“พร้อมแล้ว แต่นายต้องจำไว้ว่าการถอดชิปของฉันออกมาจะทำให้ชิปของฉันได้รับความเสียหาย นายจะต้องติดตั้งฉันบนฐานใหม่ในเวลาที่สั้นที่สุด นายคงเห็นแล้วสินะว่าพลังงานที่ปล่อยออกมาจากชิปของฉันมันเต็มไปด้วยความผันผวนอันรุนแรง ถ้านายพร้อมนายก็เริ่มลงมือได้เลย” ลินนิจกล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะหายใจเข้าออกยาว ๆ ต่อมาเขาก็นำชิปทดแทนเอาไว้ในมือซ้าย ขณะที่มือขวาเตรียมหยิบลินนิจออกมาใส่ฐานวางใหม่ที่เขาได้เตรียมเอาไว้
ฟุบ!
ภายในเวลาไม่ถึง 1 ใน 10,000 วินาที เซี่ยเฟยก็ทำการสับเปลี่ยนชิปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็มองไปยังระบบตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด เพราะเขาไม่แน่ใจว่าการสับเปลี่ยนชิปในครั้งนี้ มันจะทำให้ระบบทำลายตัวเองถูกกระตุ้นขึ้นมาหรือเปล่า
แต่ในระหว่างที่ไฟของระบบตรวจสอบภายในห้องกำลังค่อย ๆ ดับลงไปแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยอยู่นั่นเอง จู่ ๆ แท่งทองก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรงคล้ายกับว่าพวกเขาถูกศัตรูซุ่มโจมตี
ที่แย่ไปกว่านั้นคือแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในครั้งนี้ยังทำให้ชิปของลินนิจหลุดออกไปจากฝ่ามือของเซี่ยเฟย แล้วมันก็ทำให้พลังงานเกิดความผันผวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
พลังงานที่ปล่อยออกมาจากชิปของลินนิจมีความคล้ายคลึงกับพลังงานภายในชิ้นส่วนอาร์คมาก ถ้าหากว่าพลังงานนี้เกิดการผันผวนจนระเบิดขึ้นมา มันก็อย่าว่าแต่สถานีวิจัยแห่งนี้เลย เพราะแม้แต่แท่งทองที่อยู่ด้านนอกก็จะถูกระเบิดจนเสียชีวิตไปด้วยเช่นเดียวกัน
สถานการณ์วิกฤตมาก!
ถ้าหากเซี่ยเฟยต้องการจะหยุดความผันผวนของพลังงานนี้ เขาจำเป็นจะต้องดูดซับพลังงานเข้าไปทั้งหมด
***************
ศัตรูมาแล้วสินะ?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 309
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น