ตอนที่ 909 สิ่งที่ไม่ควรจะมีอยู่ในจักรวาล
ตอนที่ 909 สิ่งที่ไม่ควรจะมีอยู่ในจักรวาล
ทุกคนต่างก็รู้สึกตกใจในสิ่งที่ไลก้าทำลงไป มีเพียงฟลินน์เท่านั้นที่รู้ว่าเซี่ยเฟยเป็นคนทำเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ขึ้นมา
วิธีการอันโหดเหี้ยมของเซี่ยเฟยทำให้ฟลินน์มีเหงื่อไหลซึมขึ้นมาทั่วทั้งร่างกาย การดัดแปลงหุ่นยนต์เป็นครั้งสุดท้ายจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ฟลินน์แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเซี่ยเฟยจะใช้วิธีการนี้ แต่ผลลัพธ์ก็ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มจะสามารถสังหารศัตรูของเขาได้เท่านั้น แต่เซี่ยเฟยยังโยนความผิดทุกอย่างไปให้กับศัตรูอีกด้วย
ไลก้าทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีกลับทำให้เขาร่วงหล่นจากสวรรค์ลงสู่นรกอย่างฉับพลัน เพราะว่าเขาไม่เพียงแต่จะพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชเท่านั้น แต่เขายังเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกศิษย์, เพื่อนร่วมงานและพนักงานในบริษัทเสียชีวิตไปอย่างมากมาย
ผู้คนเริ่มส่งเสียงตะโกนด่าทอจนทำให้ไลก้าหน้าซีดเผือด และถึงแม้ว่าเขาจะอยากทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ตัวเอง แต่ภายในสมองของเขามันกลับว่างเปล่า
ทันใดนั้นบราวนิ่งผู้ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีคนปัจจุบันก็เดินเข้ามาภายในงานประมูล พร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก จากนั้นเขาก็ทำการระบายทุกคนออกไปเหลือเพียงแค่เซี่ยเฟยกับไลก้าซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้มากที่สุด
“ผู้อำนวยการไลก้า คุณกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง?! นี่คืองานประมูลของบริษัทนะ” บราวนิ่งตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันดุร้าย
แม้ว่าบราวนิ่งจะให้ความเคารพอดีตเจ้านายของตัวเองคนนี้มาก แต่คราวนี้ไลก้าก็ก่อเหตุอย่างอุกอาจมากเกินไปจริง ๆ บราวนิ่งจึงจำเป็นจะต้องจัดการเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความยุติธรรม ไม่อย่างนั้นมันก็จะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเขาในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้นผู้เห็นเหตุการณ์ในคราวนี้ยังมีจำนวนมากเกินไป และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงบุคคลปริศนาที่ยอมทุ่มคะแนนประมูลออกมามากกว่า 3,600 ล้านคะแนนเลย ดังนั้นถึงแม้บราวนิ่งจะอยากช่วยเหลือไลก้ามากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าจะเอาตัวเองมาเสี่ยงกับตัวตนระดับสูงที่เขาไม่รู้จัก
“ฉันไม่ได้เป็นคนทำ! มันเหมือนกับมีคนมาควบคุมฉันอีกที!!” ไลก้ากัดฟันร้องคำรามขณะมองไปทางเซี่ยเฟย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีหลักฐาน แต่ชายหนุ่มคนนี้คือผู้ต้องสงสัยที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด
“คุณเลิกโยนความผิดให้คนอื่นสักที! พูดตามตรงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันจบแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วยคุณได้อีกต่อไป ใครก็ได้เอาตัวเขาไปเดี๋ยวนี้!!” บราวนิ่งพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เดินเข้ามาเพื่อนำตัวไลก้าออกไป แต่จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ยื่นมือออกไปเพื่อหยุดพวกเขาเอาไว้ซะก่อน
“ผู้อำนวยการบราวนิ่งหุ่นยนต์ของผมถูกทำลายไปแล้ว แบบนี้ผมยังจะได้คะแนนจากการประมูลอยู่ไหมครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างไร้เดียงสา
บราวนิ่งมองไปทางเซี่ยเฟยพร้อมกับขมวดคิ้ว เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มจะกล้ามาทวงคะแนนต่อหน้าเขา
โดยปกติแล้วพนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างเซี่ยเฟยไม่มีคุณสมบัติที่จะมาต่อรองกับผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอย่างบราวนิ่งได้เลย แต่สถานการณ์วันนี้กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะชายหนุ่มคือผู้คิดค้นระบบจำลองพลังกฎขึ้นมา
พนักงานทั่วทั้งบริษัทต่างก็ได้เห็นเหตุการณ์ในก่อนหน้านี้ด้วยตาของพวกเขาเอง สมาชิกระดับสูงของบริษัทที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดถึงกับใช้คะแนนทั้งหมดของเขาเพื่อทุ่มซื้อหุ่นยนต์ตัวนั้น ซึ่งมันเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าหุ่นยนต์ของเซี่ยเฟยมีความสำคัญกับบริษัทมาก
ด้วยความสำเร็จของเซี่ยเฟยในวันนี้ ในอนาคตอีกฝ่ายจะต้องพุ่งทะยานขึ้นบนฟากฟ้าอย่างแน่นอน บราวนิ่งจึงไม่ต้องการจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกขุ่นเคืองใจ
“ไม่ต้องห่วงการประมูลได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว และเนื่องมาจากไลก้าคือคนทำลายหุ่นยนต์ของนาย เขาก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบคืนเงินที่ควรจะเป็นของนายด้วยตัวเขาเอง” บราวนิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเฟยพยักหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจนัก แต่ในความเป็นจริงเขาอยากจะกระโดดดีใจตั้งแต่ตรงนี้เลย อย่าลืมว่าคะแนนที่เขาจะได้รับมีมูลค่าถึง 3,600 ล้านคะแนน หรือมันอาจจะกล่าวได้ว่าตอนนี้เขาคือคนที่มีคะแนนสูงมากที่สุดของบริษัท
สีหน้าของไลก้าดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น ขณะที่เขาชี้นิ้วไปทางเซี่ยเฟยอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำ
คะแนนที่สาขานิรันดร์ประมูลมาได้นั้นมีมูลค่าเพียงแค่ 1,260 ล้านคะแนน แล้วถึงแม้ว่าเขาจะใช้คะแนนทั้งหมดในการจ่ายหนี้ออกไป แต่เขาก็ยังคงเหลือหนี้มากกว่า 2,400 ล้านคะแนนอยู่ดี
แม้ว่าทางคณะกรรมการบริษัทจะผ่อนปรนไว้ชีวิตเขาหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่เขาก็คงจะต้องทำงานเป็นทาสรับใช้บริษัทเพื่อชดเชยหนี้จำนวนกว่า 2,400 ล้านคะแนน
“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!” เซี่ยเฟยก้มลงกระซิบข้างหูไลก้าเบา ๆ ขณะที่คนอื่นมองเห็นราวกับว่าชายหนุ่มกำลังพยายามปลอบใจชายชราคนนี้อยู่
คำพูดของเซี่ยเฟยทำให้ไลก้ากระอักเลือดออกมาอย่างเจ็บใจ ก่อนที่เขาจะส่งเสียงร้องโหยหวนขึ้นมาราวกับคนบ้าและใช้มือจิกผิวหนังตัวเองอย่างเจ็บปวด
ในที่สุดบราวนิ่งก็ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่นำตัวไลก้าออกไป และเมื่อเซี่ยเฟยเดินออกมาจากโดมสำหรับการจัดงานประมูล เขาก็ได้รับการต้อนรับจากคณาจารย์ทั้ง 11 คนของสาขาอิสระอย่างอบอุ่น
ตอนแรกทุกคนต่างก็ตั้งข้อสงสัยกับเซี่ยเฟย เพราะถึงแม้ว่าฟลินน์จะให้การรับรองว่าชายหนุ่มคนนี้คือลูกศิษย์ของเขาจริง ๆ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะไม่เคยได้พบกับเซี่ยเฟยแม้แต่ครั้งเดียวในตลอดช่วง 12 ปีที่ชายหนุ่มได้ศึกษาอยู่ภายในสาขาอิสระ
อย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยเฟยช่วยให้สาขาอิสระเอาชนะสาขานิรันดร์ได้สำเร็จ ความสงสัยภายในใจของทุกคนก็หายไปโดยสิ้นเชิง เพราะตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าเซี่ยเฟยคือคนจากสาขาอิสระหรือไม่ สิ่งสำคัญจริง ๆ คือชายหนุ่มคนนี้คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะต่างหาก
“อย่าพึ่งดีใจมากเกินไป มันยังมีลมพายุที่รอพัดโหมกระหน่ำเข้าหาพวกเราอยู่” เซี่ยเฟยดึงตัวฟลินน์เข้ามากระซิบข้างหูเบา ๆ
คำเตือนจากชายหนุ่มทำให้ฟลินน์สะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะเขาเกือบลืมไปเลยว่าเทคโนโลยีที่พวกเขาสร้างขึ้นมาได้สร้างความตกตะลึงไปให้กับคนทั้งบริษัท
“พวกเราควรจะทำยังไงดี? ทางบริษัทจะบังคับให้พวกเราส่งมอบเทคโนโลยีนั้นให้กับพวกเขาหรือเปล่า?” ฟลินน์ถามด้วยความตื่นตระหนก
“ผมขอให้คำแนะนำกับคุณสั้น ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามปล่อยข้อมูลของเทคโนโลยีนั้นให้กับบริษัทอย่างเด็ดขาด” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ห้ามปล่อยข้อมูล!?”
“ใช่ คุณต้องห้ามเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ออกมาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผมก็จะจัดการคุณเหมือนกับไอ้พวกนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
ฟลินน์พยักหน้าอย่างหวาดกลัว เพราะในตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าหากเซี่ยเฟยต้องการจะลงมือฆ่า เป้าหมายของชายหนุ่มย่อมไม่มีทางรอดชีวิตอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นฟลินน์ยังรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเซี่ยเฟยผ่านทางอัลฟ่าแล้ว มันจึงทำให้เขานึกถึงคำพูดที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า
การเผชิญหน้ากับราชันย์มันก็ยังดีกว่าการไปยุ่งกับหมาป่าสกายวิง!
—
ตอนนี้ผู้คนทั่วทั้งบริษัทต่างก็กำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานประมูล ซึ่งทุกคนต่างก็พูดจาต่อว่าไลก้าอย่างสนุกปาก แต่ไม่มีใครพูดถึงเซี่ยเฟยผู้ซึ่งเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้เลย
ณ ห้องวิจัยภายในสาขาอิสระ
เซี่ยเฟยยังไม่ได้เดินทางกลับไปที่บริษัท แต่รออยู่ในสาขาอิสระเพื่อดูว่าเขาควรจะต้องเคลื่อนไหวยังไงต่อไป
ในไม่ช้าอัลฟ่าก็ปรากฏตัวขึ้นตรงเวลา แต่ในคราวนี้เซี่ยเฟยไม่ได้เริ่มทำการเรียนรู้ตามปกติ แต่เขากลับกำลังจับจ้องมองไปยังหน้าจอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ
“วันนี้ไม่เรียนเหรอ?” อัลฟ่าถาม
“ไม่ ตอนนี้ผมต้องการใช้คะแนนของบริษัทโดยเร็วที่สุด และคุณก็น่าจะรู้ด้วยว่าทันทีที่ผมพบตัวคุณ ผมจะนำตัวคุณหนีออกมาในทันที ก่อนหน้านั้นผมเลยจำเป็นจะต้องใช้คะแนนของบริษัทให้หมด” เซี่ยเฟยพิมพ์ตอบ
“นั่นก็เป็นความคิดที่ดี ว่าแต่ทำไมนายถึงกำลังดูสินค้าในบัญชีระดับ 4 ด้วยคะแนนในปัจจุบันของนายแล้วนายสามารถเข้าถึงสินค้าในบัญชีระดับ 5 ได้แล้วด้วยซ้ำ” อัลฟ่าถามอย่างสงสัย
“ความจริงในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาสอนผมว่าของที่ดีที่สุดไม่จำเป็นจะต้องเป็นของที่แพงที่สุด แต่มันจะต้องเป็นของที่เหมาะสมกับผมที่สุดในบรรดาสิ่งของทั้งหมด” เซี่ยเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
อัลฟ่ายังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเพิ่มเติม เพราะเซี่ยเฟยมีคะแนนอยู่มากกว่า 3,600 ล้านคะแนน ซึ่งมันก็หมายความว่าชายหนุ่มจำเป็นจะต้องใช้เวลาชอปปิงนานพอสมควร
เซี่ยเฟยกัดริมฝีปากพร้อมกับปิดสินค้าในบัญชีระดับ 4 อย่างไม่เต็มใจ และค่อย ๆ เปิดบัญชีสินค้าระดับ 5 ซึ่งเป็นบัญชีสินค้าระดับสูงสุดของบริษัทฟิกส์
ภาพที่ปรากฏทำให้ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะเขาได้พบกับสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายไม่ว่าจะเป็นอาวุธหรืออุปกรณ์ระดับจอมเทพ
อุปกรณ์ของบริษัทฟิกส์คืออุปกรณ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในจักรวาล ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์เหล่านี้ยังไม่สามารถหาซื้อได้เพียงเพราะว่ามีเงินเพียงอย่างเดียว
ดวงตาของชายหนุ่มกวาดผ่านหน้าจอเหมือนนักล่าที่กำลังไล่เหยื่อ และเพียงแค่การอ่านคำแนะนำบนอุปกรณ์แต่ละชิ้น มันก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ชายหนุ่มเลือกสินค้าอยู่สักพัก แต่ในระหว่างที่เขากำลังแตะนิ้วเพื่อยืนยันคำสั่งซื้อ ทันใดนั้นอัลฟ่าก็ได้ส่งข้อความขึ้นมาขัดจังหวะ
“ทำไมนายไม่ไปดูสินค้าในบัญชีระดับสูงสุดล่ะ? บางทีมันอาจจะมีของที่นายชอบอยู่ในนั้นก็ได้”
“บัญชีระดับ 5 ไม่ใช่บัญชีระดับสูงสุดงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยพิมพ์ถามกลับไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“มันยังมีสินค้าบางรายการที่ซ่อนอยู่และสินค้าพวกนั้นก็คือสินค้าระดับสูงสุดของบริษัทจริง ๆ” อัลฟ่ากล่าว
“ในบัญชีระดับสูงสุดมันมีสินค้าแบบไหนอยู่งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยพิมพ์ถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมีอยู่ในจักรวาล” อัลฟ่าตอบกลับมาอย่างใจเย็น
***************
เป็นครั้งแรกที่ชอปปิงโดยไม่ใช้เงินตัวเอง 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 330
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น