ตอนที่ 795 พลังรูปแบบที่ 2 ของกฎแห่งความโกลาหล
ตอนที่ 795 พลังรูปแบบที่ 2 ของกฎแห่งความโกลาหล
ขณะนี้ศึกระหว่างราชากฎขั้นที่ 5 และจักรพรรดิกฎผู้เสียสติก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เซี่ยเฟยเร่งการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังปะทะกัน จู่ ๆ ฮาเดสก็เร่งความเร็วขึ้นอย่างกะทันหันจนทำให้ร่างของเขาไปปรากฏตัวที่ด้านข้างของชายหนุ่ม
นักรบผู้เสียสติปล่อยหมัดขวาออกไปอย่างรุนแรงโดยเล็งไปที่บริเวณหน้าอกของศัตรู
เซี่ยเฟยก็มีปฏิกิริยาการตอบสนองที่รวดเร็วเช่นเดียวกัน เมื่อเขาได้เห็นว่าเขาไม่สามารถหลบการโจมตีในครั้งนี้ได้พ้น เขาจึงเลือกที่จะเคลื่อนไหวเพื่อจู่โจมเข้าใส่กันและกัน
ตูม!
เสียงปะทะระหว่างสองฝ่ายดังลั่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน พร้อม ๆ กับร่างของชายหนุ่มที่ถูกกระแทกออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่
ทางฝั่งของฮาเดสก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เพราะถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะยังไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ แต่กฎแห่งความโกลาหลของเซี่ยเฟยก็ทำให้แขนขวาของเขาหักภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว
พลังการทำลายของเซี่ยเฟยทำให้กระดูกภายในแขนขวาของฮาเดสแตกออกจากกันเป็นชิ้น ๆ แต่สัตว์ประหลาดร่างเขียวตัวนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญกับแขนขวาของมันเลย เพราะทันทีที่เซี่ยเฟยถูกกระแทกออกไปมันก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
อย่างไรก็ตามในขณะที่มันกำลังจะตามไปซ้ำศัตรูที่ยังคงตั้งหลักไม่ได้อยู่นั่นเอง มันก็ตระหนักว่าขาทั้งสองข้างของมันถูกใบหญ้าสีฟ้าพันธนาการเอาไว้แน่น จนทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวไปจู่โจมเข้าใส่ชายหนุ่มได้
ยิ่งไปกว่านั้นบนใบหญ้าสีฟ้ายังเต็มไปด้วยแท่งหนามอันแหลมคม จนทำให้ขาของฮาเดสเต็มไปด้วยรอยบาดแผลอย่างมากมาย แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของสัตว์ประหลาดตัวเขียวมีความแข็งแกร่งมากเกินไป แม้แต่หงส์ครามก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายใด ๆ ต่อสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ถ้าหากว่าอีกฝ่ายเป็นนักรบคนอื่น นักรบพวกนั้นก็คงจะถูกฉีกกระชากขาออกจากร่างกายได้อย่างง่ายดายแล้ว
ระหว่างนั้นขนอุยที่เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีก็พุ่งตัวออกไปอย่างฉับพลัน เพราะเมื่อศัตรูถูกพันธนาการร่างกาย มันก็หมายความว่าสัตว์ประหลาดร่างเขียวไม่สามารถที่จะหลบหลีกต่อการโจมตีของมันได้
ตูม!
ร่างของเซี่ยเฟยตกลงไปบนยานรบขนาดยักษ์ของสมาคมวิหคดำราวกับอุกกาบาตที่กำลังร่วงหล่นลงสู่พื้น
ในเวลาเดียวกันร่างของฮาเดสก็ถูกหงส์ครามดึงตามร่างของเซี่ยเฟยไปอย่างใกล้ชิด และเมื่อมันได้ถูกจู่โจมจากขนอุย ร่างของมันก็พุ่งทะลุเข้าไปภายในยานรบขนาดยักษ์ด้วยเช่นกัน
ตูม ๆ ๆ ๆ
เสียงระเบิดจากการปะทะดังติดต่อขึ้นมาหลายครั้ง พร้อมกับเปลวไฟที่พุ่งทะยานออกไปบนฟากฟ้า
ฮาเดสพยายามตั้งหลักกลับมาท่ามกลางเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เพื่อมองหาเซี่ยเฟยด้วยแววตาอันดุร้าย แต่น่าเสียดายที่ชายหนุ่มได้ซ่อนตัวเข้าสู่มุมมืดของยานอวกาศแล้ว
—
เซี่ยเฟยกัดฟันพยายามโน้มตัวออกมาจากมุมมืดเพื่อสังเกตสถานการณ์ของทางฝั่งฮาเดส
ภาพที่เขาเห็นคือสัตว์ประหลาดร่างเขียวกำลังส่งเสียงร้องคำราม พร้อมกับทุบทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าจนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาซ้ำ ๆ
ตั้งแต่ที่ฮาเดสถูกเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดร่างเขียว การปะทะกับเซี่ยเฟยก็เป็นครั้งแรกเลยที่ทำให้มันได้รับบาดเจ็บแบบนี้ ฮาเดสจึงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากและพยายามตามหาเหยื่อเพื่อระบายความโกรธภายในใจของมัน
ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็ยกมือซ้ายขึ้นมาจับบริเวณหน้าอกด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด และถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับการปกป้องจากชุดดาร์กยูนิคอร์น แต่การโจมตีของฮาเดสก็รุนแรงมากจนทำให้แม้แต่ชุดเกราะชั้นยอดก็ยังได้รับความเสียหายอย่างหนักด้วยเช่นกัน
“แข็งแกร่งมาก” เซี่ยเฟยกัดฟันพยายามระงับความเจ็บปวดเอาไว้
“ฉันว่ามันแข็งแกร่งกว่าที่นายคิดเอาไว้ซะอีก ลองดูไปที่มันอีกทีหนึ่งสิ” โอโร่กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อเซี่ยเฟยชะโงกหน้าไปมองสัตว์ประหลาดร่างเขียวอีกครั้ง เขาก็ได้เห็นฮาเดสกำลังส่งเสียงร้องคำรามและพยายามฟื้นฟูแขนขวาที่ถูกทำลายกลับขึ้นมาใหม่
“มันมีความสามารถในการฟื้นฟูระดับสูงแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานด้วยความตกตะลึง
ในเวลาเดียวกันศีรษะของฮาเดสก็ค่อย ๆ นูนขึ้นมาทางด้านบนอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่มันจะมีศีรษะขนาดเล็กปรากฏซ้อนขึ้นมาบนศีรษะขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำลัทธิเทพโบราณ
“ฉันว่านั่นจะต้องเป็นตัวตนที่แท้จริงของหน้ากากโบราณแน่ ๆ มันคงสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากนาย มันเลยเลือกที่จะปรากฏกายขึ้นมาแบบนั้น” โอโร่กล่าว
เซี่ยเฟยใช้ดวงตาอันเฉียบคมจ้องไปยังร่างที่อยู่เหนือศีรษะของฮาเดส ก่อนที่เขาจะได้พบว่าร่างที่เพิ่งงอกออกมานั้นมีลักษณะใบหน้าคล้ายกับพังพอน และมีดวงตาสีเหลืองอำพันคล้ายกับดวงตาของอสรพิษ
พลังงานภายในร่างของฮาเดสยังคงเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับว่าการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตบนศีรษะของเขานั้นทำให้พลังงานของสัตว์ประหลาดร่างเขียวเพิ่มสูงขึ้น
วินาทีแรกที่สังเกตเห็นพลังงานนี้ เซี่ยเฟยก็ชะงักค้างด้วยความตกตะลึง แต่หลังจากที่เขาตั้งสติได้เรียบร้อยแล้วเขาก็รีบวิ่งเข้าใส่ศัตรูด้วยความรวดเร็ว
เห็นได้ชัดเลยว่าความแข็งแกร่งของฮาเดสกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และถ้าหากว่าเขายังคงรอต่อไป มันก็คงจะทำให้สถานการณ์ทางฝั่งเขาอันตรายขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
เมื่อไม่มีเวลาให้คิดตัดสินใจเซี่ยเฟยก็เลือกที่จะจู่โจมอย่างเด็ดขาด โดยการพยายามทุ่มพลังทั้งหมดสังหารฮาเดสลงให้ได้ ก่อนที่สัตว์ประหลาดร่างเขียวตัวนี้จะมีพลังมากเกินกว่าที่เขาจะต้านทานไหว
“ฆ่ามัน!!” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดังเพื่อสั่งการให้ขนอุยและหงส์ครามจู่โจมเข้าใส่ศัตรูอย่างสุดกำลัง
อิ้ว!
ขนอุยเป็นผู้นำสำหรับการโจมตีในครั้งนี้ โดยมันได้ขยายร่างกายจนมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเป็น 2 เท่า ขนทุกเส้นมีความแหลมคมราวกับหนามเหล็ก ทั่วทั้งร่างมีพลังงานปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น พร้อมกับพุ่งจู่โจมเข้าใส่ศัตรูด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
การเคลื่อนไหวของขนอุยรวดเร็วมากจนทำให้สัตว์ประหลาดร่างเขียวไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้ มันจึงจำเป็นจะต้องสะบัดมือขวาออกไปเพื่อป้องกันการโจมตีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน
ตูม!
ฮาเดสมั่นใจมากว่ามันสามารถหยุดการโจมตีของเจ้าตัวน้อยเอาไว้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่คาดคิดคือสัตว์อสูรที่มันกำลังคว้าจับร่างอยู่นั้น เป็นเหมือนกับระเบิดเวลาที่กำลังจะระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง
อิ้ว!
ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามด้วยความดุร้ายพร้อมกับปลดปล่อยพลังงานที่สะสมอยู่ภายในร่างของมันออกมาอย่างบ้าคลั่ง
พริบตาต่อมาร่างขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดตัวเขียวก็ถูกอสูรตัวน้อยผลักจนครูดถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กำแพงโลหะที่อยู่ด้านหลังของฮาเดสถูกกระแทกจนพังทลายลงไป แต่การประลองพลังของระหว่างสองฝ่ายก็ยังไม่สิ้นสุดลง
ฮาเดสมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสน เพราะมันไม่คิดว่าสัตว์อสูรตัวเท่าฝ่ามือของมันตัวนี้จะมีพละกำลังมหาศาล จนทำให้ร่างของมันถูกบังคับให้ครูดถอยหลังไปอย่างต่อเนื่องแบบนี้
กรร!
สัตว์ประหลาดร่างเขียวส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่มันจะกางกรงเล็บทั้งห้าออกอย่างฉับพลันเพื่อจู่โจมเข้าใส่ร่างของขนอุยที่กำลังผลักดันร่างของมันอยู่
กรงเล็บของฮาเดสเป็นสิ่งที่อันตรายมาก แต่พลังงานที่อยู่รอบ ๆ ร่างของขนอุยกลับเป็นสิ่งที่อันตรายมากยิ่งกว่า
ทุกครั้งที่เจ้าตัวน้อยดูดซับพลังงานจากคริสตัลต้นกำเนิด มันจะเก็บสะสมพลังงานเอาไว้ภายในร่างของมันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ภายในร่างของมันมีพลังงานอัดแน่นอยู่อย่างบ้าคลั่ง และพลังงานพวกนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำลายลงไปได้ง่าย ๆ
การเผชิญหน้าในครั้งนี้ขนอุยได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง และถึงแม้ว่ามันจะยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ แต่มันก็ยังสามารถผลักดันร่างของฮาเดสกระเด็นหลุดออกไปจากยานอวกาศอีกครั้งหนึ่งได้
หงส์ครามมีขนาดร่างกายอันใหญ่โต มันจึงไม่เหมาะสมที่จะใช้ในการจู่โจมภายในที่แคบ ดังนั้นเมื่อศัตรูถูกผลักดันจนกระเด็นออกไปในอวกาศอีกครั้ง อาวุธมายาจากสมัยโบราณจึงสามารถแสดงพลังของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
ขวับ!
ใบหญ้าทั้งห้าตวัดออกไปพันรอบร่างของสัตว์ประหลาดร่างเขียวอย่างรุนแรง คล้ายกับงูเหลือมที่ร่างเต็มไปด้วยหนามแหลมกำลังพุ่งเข้ารัดเหยื่ออย่างเต็มกำลัง
ดอกไม้พลังงานทั่วทั้งใบหญ้ากำลังเบ่งบานออกอย่างเต็มที่ และถึงแม้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะงดงามมาก แต่มันกลับเป็นดอกไม้แห่งความตายที่มีความแหลมคมดุจดั่งเพชร ที่กรีดผ่านผิวหนังของฮาเดสจนทำให้ทั่วทั้งร่างของอีกฝ่ายชุ่มโชกไปด้วยเลือด
ระหว่างที่ขนอุยกับหงส์ครามกำลังพยายามอย่างหนัก เจ้านายของพวกมันอย่างเซี่ยเฟยก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน โดยในตอนนี้วิชาที่เขาซุ่มฝึกซ้อมมาเป็นเวลานานก็ได้มีโอกาสนำออกมาใช้ในการสู้จริงเป็นครั้งแรก
นิ้วชี้ภายในมือขวาของชายหนุ่มพุ่งตรงออกไปยังร่างที่อยู่เหนือศีรษะของสัตว์ประหลาดร่างเขียว พร้อมกับพลังงานของกฎแห่งความโกลาหลที่ถูกรวบรวมไว้ยังปลายนิ้วเพียงจุดเดียว ทำให้มันเป็นพลังงานของกฎแห่งความโกลาหลที่หนาแน่นที่สุดเท่าที่เซี่ยเฟยจะทำได้
เซี่ยเฟยเคยคิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้วว่าวันหนึ่งเขาจะต้องได้พบกับศัตรูที่ร่างกายยากที่จะทำลายลงไปได้ เขาจึงพยายามคิดค้นวิธีรวบรวมพลังงานมาไว้ในจุด ๆ เดียว เพื่อเพิ่มพลังงานในการทะลุทะลวงให้กับการโจมตีของกฎแห่งความโกลาหล
ดัชนีโกลาหล!
นี่คือการโจมตีรูปแบบที่ 2 ของกฎแห่งความโกลาหล ที่เซี่ยเฟยเพิ่งจะประยุกต์ใช้ออกมาได้เพียงแค่ไม่นาน
ฮาเดสที่ถูกควบคุมโดยหน้ากากโบราณไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อการโจมตีของเซี่ยเฟยแม้แต่นิดเดียว แต่ชายหนุ่มสามารถมองเห็นความหวาดกลัวในแววตาของสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือศีรษะของสัตว์ประหลาดร่างเขียวได้อย่างชัดเจน
“นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ?! ถ้าหากว่านายรวบรวมพลังทั้งหมดมาไว้ที่จุด ๆ เดียวแบบนั้น ร่างกายของนายมันก็จะปราศจากการป้องกันไปเลยนะ” โอโร่อุทานขึ้นมาเสียงดัง
น่าเสียดายที่ตอนนี้เซี่ยเฟยไม่ได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับอันตรายของตัวเองแล้ว เพราะเขารู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจบการโจมตีให้ได้ภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ในเวลานั้นเขาก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮาเดสอีกต่อไป
ความลังเลเป็นจุดอ่อนถึงตายของนักรบทุกคน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตเซี่ยเฟยจึงใช้กระบวนท่าสังหารโดยไม่คิดที่จะเหลือพลังในการปกป้องร่างของตัวเองไว้
สิ่งมีชีวิตปริศนาบนศีรษะของฮาเดสเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย และมันก็ไม่ได้มีความคิดที่จะหลบการโจมตีของเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว คล้ายกับว่ามันจงใจหลอกล่อให้ชายหนุ่มจู่โจมเข้ามา พร้อม ๆ กันนั้นแขนของฮาเดสก็กำลังเคลื่อนที่ออกไปโดยตั้งใจที่จะทำลายเซี่ยเฟยให้ตกตายไปพร้อม ๆ กัน
ไม่ว่ายังไงฮาเดสก็เสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว การต่อสู้ในครั้งนี้จึงสมควรจะเรียกว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยกับสิ่งมีชีวิตปริศนาตัวนี้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าร่างกายของฮาเดสจะถูกทำลายลงไปเป็นชิ้น ๆ แต่ตราบใดก็ตามที่มันยังมีเศษชิ้นเนื้อหลงเหลืออยู่เพียงแค่เล็กน้อย สิ่งมีชีวิตปริศนาก็ยังคงดำรงชีวิตของมันอยู่ได้ ดังนั้นถึงแม้การโจมตีของเซี่ยเฟยจะดูอันตราย แต่ในความเป็นจริงมันกลับไม่สามารถสร้างความคุกคามให้กับสิ่งมีชีวิตปริศนาตัวนี้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ฉึก!
เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นไปตามที่ทุกคนคาดคิด นิ้วของเซี่ยเฟยเจาะทะลุหน้าผากอันแข็งแกร่งของฮาเดสและสอดนิ้วเข้าไปในสมองของเขา
ในระหว่างที่สิ่งมีชีวิตปริศนากำลังเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดีที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนการของมัน จู่ ๆ ใบดาบสีแดงก็ถูกเสือกแทงเข้ามาภายในรูที่นิ้วของเซี่ยเฟยได้เจาะทำลายเอาไว้
ฉึก!
สิ่งมีชีวิตปริศนากับฮาเดสได้ใช้พลังงานร่วมกัน บลัดบิวเทียสจึงได้ดึงพลังงานออกมาจากร่างของสัตว์ประหลาดตัวนั้นด้วย ขณะเดียวกันมือทั้งสองข้างของสัตว์ประหลาดร่างเขียวก็ได้คว้าร่างของเซี่ยเฟยเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน มันจึงก่อให้เกิดฉากที่น่าสลดใจ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็พยายามทำร้ายให้อีกฝ่ายตายลงภายใต้การโจมตีครั้งสุดท้ายของพวกเขา
***************
จะจบแค่นี้หรือจะมีต่อ…
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 511
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น