บทที่ 7...3/3

ใจดวงนี้สื่อถึงรัก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 7...3/3

          รถสองคันกำลังมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพฯ โดยมีปลายทางอยู่ที่ปราณบุรี ภามขับรถเองในวันนี้เพราะเขากับเมษาต้องติดต่อกับพี่ภูมิ เขายังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้แม้กระทั่งโมกข์ การได้พบวิญญาณคงเป็นเรื่องที่อธิบายยากและคนที่จะเข้าใจคงยากเช่นกันหากว่าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง เขาจึงขับรถนำแล้วให้โมกข์ขับรถตามเพื่อดูแลความปลอดภัย 

          ตอนที่จอดรถเพื่อเติมน้ำมัน ภามบอกเมษาว่าขอจับมือเพื่อที่จะแน่ใจว่าพี่ภูมิอยู่ใกล้ๆ พอทั้งสองจับมือกันแล้วมองไปก็เห็นภูมิยืนอยู่ห่างออกไปหลายก้าว ราวกับรู้ว่าอาจเมษาอาจจะตกใจ

          “พี่ภูมิมาแล้ว” ภามพยักหน้ากับพี่ชายเป็นเชิงรับรู้การมีอยู่ของอีกฝ่าย ก่อนจะหันมามองเมษาด้วยสายตาเป็นห่วง “คุณไม่เป็นไรนะ”

          เมษารู้ตัวเองดีว่าใจเต้นแรงเพราะการเห็นวิญญาณ แต่ไม่ได้กลัวเพราะรู้แล้วว่าวิญญาณที่เห็นเป็นพี่ชายของภาม เขามีใบหน้าเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตและมีความเป็นมิตรอีกด้วย

          “ฉันไม่เป็นไรค่ะ เริ่มจะชินแล้ว”

          เมื่อแน่ใจว่าหากภามจับมือกับเมษาพอถึงผับที่รู้ชื่อแล้ว ในตอนนั้นพี่ภูมิจะอยู่ที่นั่นแล้วช่วยหาผู้ชายที่ชื่อว่าปราบ ภามจึงปล่อยมือของเมษาแล้วพาเธอกลับมาที่รถ ก่อนจะเดินทางต่อ โดยมีโมกข์ขับรถตามมาเพื่อคุ้มกัน เพียงแต่ว่าก่อนที่จะขึ้นรถเมษาถือบางอย่างไปให้โมกข์ ภามมองตามรู้สึกอยากรู้ ทั้งที่เขาไม่ค่อยอยากรู้เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เขาอยากรู้ว่าเมษาไปหาโมกข์ทำไม

          แม้จะสงสัยแบบนั้น แต่ภามก็ขับรถออกจากปั๊มน้ำมันไปเงียบๆ แต่หูก็ได้ยินเสียงจากเมษาที่กำลังเปิดถุง ภายในนั้นมีกล่องสีขาวที่พอเปิดออกแล้วภายในรถก็หอมกลิ่นดอกไม้จางๆ ดอกอะไรกันนะ?

          “ฉันทำขนมมาค่ะ คุณอยากทานไหมคะ แต่ว่าบอกไว้ก่อน ขนมบางอย่างฉันก็เพิ่งทำเป็นครั้งแรก” เมษาหยิบคุกกี้ข้าวโอ๊ตกับคุกกี้เรดเวลเวทมาให้ภามอย่างละชิ้น

          ภามมองคุกกี้สีน้ำตาลชิ้นหนึ่ง ส่วนอีกชิ้นหน้าตาแปลกๆ เป็นสีแดงสลับขาวรูปร่างคล้ายลูกฟุตบอล ที่แท้กล่องที่เมษาให้กับโมกข์คือขนมที่เธอกำลังให้เขาชิมนี่เอง

          “ปกติแล้วคุณขอให้ใครช่วยชิม แล้ววิจารณ์ขนมที่ทำเป็นครั้งแรกงั้นหรือ” ชายหนุ่มถามพร้อมกับกินคุกกี้เรดเวลเวทไปด้วย

          “ยัยมีน...น้องสาวของฉัน พี่เขม คิน ป้ารุจา น้าวิกา ป้าพิส บางทีก็ลูกค้าที่มาทานขนมที่ร้านบ่อยๆ คุณถามทำไมหรือคะ”

          ภามหันมามองเมษาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหันไปมองถนนต่อ วันนี้นอกจากเขาแล้ว โมกข์ก็เป็นอีกคนที่เมษามอบขนมให้

          “ต่อไปให้ผมชิมก็ได้นะ ผมก็อยู่ใกล้ๆ คุณนี่นา ตอบแทนที่คุณทำอาหารเช้าให้ผมทานไง”

          แม้จะเป็นคำชวนแสนธรรมดา แต่พอออกมาจากภาม ทำให้เมษาต้องคิดให้มาก เขาดูเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่เธอควรอยู่ตรงนี้ยังไม่ข้ามเส้นไป บางทีเขาอาจจะแค่มีน้ำใจเท่านั้น

          “ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากรบกวนคุณบ่อยๆ”

          “ผมอยากให้รบกวน คุณไม่ต้องเกรงใจหรอก” ภามตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหันมายิ้มให้เมษา แล้วตั้งใจขับรถ

          เมษาใช้ความนิ่งแทนคำตอบ เธอเคยมีความรักและเสียใจจากความรักมาแล้ว หากจะมีความรักอีกครั้งเธอย่อมมองถึงอนาคตไม่ใช่การเป็นคู่ควงของใครแค่ช่วงเวลาหนึ่ง เธอไม่รู้จักภามมากพอที่จะบอกได้ว่าที่เขาทำในตอนนี้เพราะอะไรกันแน่ระหว่างเขาสนใจเธอจากใจจริงหรือว่าเป็นการบริหารเสน่ห์ของเขาเท่านั้น

 

รถของภามกำลังจอดหน้าสถานบันเทิงที่เขาได้ชื่อมาจากการสืบสวนของตำรวจที่ลงรายละเอียดไว้ว่าพี่ชายของเขาไปไหนก่อนที่จะเสียชีวิต โมกข์จอดรถข้างๆ รถของภาม พอจะรู้อยู่แล้วว่าภามมาที่นี่เพราะอะไร ซึ่งเขาคาดเดาว่าชลัชคงให้ข้อมูลมา

ภามลงจากรถแล้วมองเมษาเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนจะจับมือของหญิงสาว ภูมิปรากฏตัวยืนเยื้องภามไปเล็กน้อย เมื่อพร้อมแล้วภามจึงเดินเข้าไปในผับที่เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดบริการเพราะเพิ่งจะ 11 โมงเช้า

ภายในผับที่โมกข์เป็นคนช่วยเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อคให้ภามค่อนข้างเงียบ แต่มีคนเดินไปเดินมาอยู่บ้าง พนักงานทำความสะอาดถามโมกข์ โมกข์จึงบอกว่าขอพบกับผู้จัดการของร้านหรือเจ้าของผับก็ได้ ก่อนจะให้นามบัตรของภามไป เพียงครู่เดียวหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากหลังร้าน เมษาเห็นแล้วคิดว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก

“พวกคุณมีธุระอะไรหรือคะ ผับยังไม่เปิดบริการค่ะ ถ้าอยากมาเที่ยวนี้คงต้องรอตอน 6 โมงเย็นนะคะ” ผู้จัดการร้านถามอย่างเป็นมิตร “หรือว่าเด็กที่นี่ไปทำอะไรเข้า”

ภามหันไปทางพี่ชายที่พยักหน้าทันที แสดงว่าเคยเห็นผู้จัดการร้านคนนี้มาก่อน

          “ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าปราบ ภามลองถามจากผู้จัดการร้าน อาจมีใครจำได้บ้าง” ภูมิเอ่ยเพราะรู้อยู่แล้วว่ามีเพียงแค่ภามกับเมษาที่ได้ยินเขา

          เมษาได้ยินเช่นเดียวกับภาม หญิงสาวหันไปมองภามและรอฟังว่าเขาจะถามผู้จัดการอย่างไรเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการ

          “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ เด็กที่นี่ไปทำอะไรบ่อยๆ หรือครับ” ภามถามยังไม่อยากเข้าเรื่องเพราะจะดูรีบร้อนเกินไป

          ผู้จัดการร้านถอนใจ “บางทีมันก็ไปต่อกับแขกน่ะสิคะ พอเมียรู้ก็มาตามอาละวาดน่ะ แล้วพี่พาเมียมาด้วย ฉันก็ต้องถามไว้ก่อนสิคะ”

          “ฉันไม่...” เมษาจะปฏิเสธ แต่หยุดคำเพราะภามบีบมือเธอเอาไว้แน่น

          “ผมไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นหรอก เมียผมเข้าใจ เพียงแต่ว่าผมมาหาคนที่เคยรู้จัก พอดีว่าผมเคยยืมเงินไป ตอนนี้มีเงินแล้วเลยจะกลับมาคืน” ภามตามน้ำไปหากผู้จัดการร้านจะเข้าใจแบบนี้ เขาก็จะเลยตามเลยเพราะคงไม่ได้มานี่อีกแล้ว

          ผู้จัดการร้านถอนใจค่อยยิ้มออก “ใครเหรอคะพี่”

          “ปราบ พอดีผมไปทำงานที่อื่นเสียนานไม่ได้ติดต่อกันเลย รู้แต่ว่าปราบเคยทำงานที่นี่”

          เมษาทำหน้านิ่งสายตามองไปที่คุณภูมิกับผู้จัดการร้านสลับกัน ภามเองก็คงลุ้นรอคำตอบเหมือนกันเพราะเขาบีบมือของเมษาเบาๆ

          “ปราบลาออกไปนานแล้วนะคะ เป็นปีแล้ว” ผู้จัดการร้านตอบ

          “ถ้างั้นขอเบอร์ได้ไหมคะ เผื่อว่าฉันจะติดต่อไปทางนั้นเอง” เมษาถามเมื่อภามมองมาที่เธอ หากเขาถามจี้ต่อคงดูมีพิรุธเกินไป

          “ไม่รู้จะยังมีเบอร์ไหมนะ”

          ภามเห็นท่าทีของผู้จัดการร้านที่ทำทีหาเบอร์ในโทรศัพท์ก็พอจะรู้ทัน จึงหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ออกมาหนึ่งพันแล้วส่งให้ ผู้จัดการคนนั้นรับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะหาเบอร์อย่างตั้งใจ

          “นี่ไง เจอเบอร์แล้ว แต่ตอนนี้ปราบไปอยู่ที่ไหน ฉันไม่รู้หรอกนะคะ พอออกจากร้านไปก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย”

          โมกข์เข้ามาบันทึกโทรศัพท์ไว้ที่เครื่องของเขา คิดว่าออกไปจากร้านแล้วค่อยให้ชลัชช่วยตรวจสอบว่าเจ้าของเบอร์นี้เป็นใครและอยู่ที่ไหน ภามกับเมษาเดินเรื่อยๆ ออกมาจากผับ ภูมิพยักหน้าว่าให้ตามไปที่นั่นก่อนที่ภามกับเมษาจะปล่อยมือแล้วเข้าไปในรถเพื่อขับออกไปจากบริเวณนั้น

 

ภามจะหาคำตอบได้ไหมว่าใครฆ่าพี่ชาย ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.