บทที่ 11 เดมอนเริ่มเคลื่อนไหว 1

มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 11 เดมอนเริ่มเคลื่อนไหว 1

 

วินสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอันแสนคุ้นเคย ชายหนุ่มในร่างเด็กจึงชักชวนชายชราให้เคลื่อนร่างไปยังเป้าหมาย เพียงไม่นานชายทั้งสองก็เห็นบางสิ่งที่แสนคุ้นตา ชายหนุ่มในตาสีทองชุดสีดำกำลังยืนกอดอก ทำท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเหตุการที่กำลังเกิดขึ้น

“ในที่สุดพวกเจ้าทั้งสองก็มาเสียที่ ข้าแปลกใจที่เมฆาไม่มากับพวกเจ้าด้วย แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่สลักสำคัญอะไร”

“ร่างอสูรนี่ถูกใช้กันไม่รู้จักจบจากสิ้น นอกจากฉันที่ไม่ชอบแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนจะชอบมันเสียจริง”

ชายหนุ่มเบื้องหน้ายกยิ้ม “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะวิน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะตัดสินใจข้ามเวลามายังสมัยนี้ด้วย พลังเวทในยุคนี้ลดลงมากกว่ายุคของเจ้าและข้า แต่ว่านี่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่พวกเราจะยุ่งวุ่นวายกับยุคสมัยของพวกเขา”

เขาว่าก่อนที่จะเสมามองยังโยดา

“หลานของเจ้า ถึงม้ว่ามันจะเป็นตัวแปรสำคัญของสงครามนี้ แต่ว่าข้าอยากให้มันเลือกเองว่ามันจะอยู่ฝ่ายไหน จะเป็นฝ่ายมนุษย์เหมือนเจ้ากับวิน หรือว่าจะเป็นฝ่ายเทพเหมือนพระเจ้าหรือว่าจะเป็นฝ่ายปีศาสเหมือนเคออส เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องที่พวกมันควรเลือกเอง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าต้องไปยุ่งวุ่นวาย”

โยดายกยิ้มขึ้น ชายชรานำมือมาไพล่หลังของตนเอง เขาพยายามทำท่าทางให้สบายที่สุด แต่ว่าในใจของเขากับเย็นเยือก 

“นับว่าเป็นความคิดเห็นที่ดีนะ แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่กลงการอะไรของท่าน”

“เจ้าจะกล่าวเช่นนี้ไม่ได้ หลานของเจ้าอยากขึ้นเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ ดังนั้นมันต้องเข้าทดสอบ ไม่สิข้าหมายถึงว่าวันแห่งราชันจะมาถึงแล้ว ดังนั้นการตัดสินใจของหลานของเจ้าจะจำเป็นสำหรับการทดสอบของข้า ถ้าหากมันไม่สามารถผ่านการทดสอบได้ข้าก็จะไม่ให้ประตูเข้าสอบ”

“หลานของข้าต้องการเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ ไม่ใช่ผู้ปกครองโลกเวทมนตร์”

“โชคชะตาได้กำหนดเอาไว้แล้ว พวกเจ้าไม่อาจจะขัดได้”

สิ้นคำกล่าวของชายหนุ่ม พลังกดดันของโยดาก็ปะทุขึ้น จิตสังหารของชายชราทำให้ผืนแผ่นดินสั่นไหว 

“พลังของจักรพรรดิเวทมนต์ ไม่ได้เห็นมาเสียนาน แต่ว่าหากเจ้าเจอกับคิงเดมอนพลังแค่นี้คงเป็นได้แค่ของเล่น ข้าจะบอกว่าเรื่องนี้เจ้าไม่ต้องทำอะไรแล้ว ทั้งเลืองเจ้านั่น เรื่องของเดมอนที่กำลังมายังโลกนี้ และเรื่องของหลานของเจ้า “

“แล้วจะให้ข้าทำสิ่งใด”

“เจ้ามีหน้าที่เพียงแค่ฝึกฝนคนบนโลกนี้ให้มีพลังเทียบเท่าจักรพรรดิเวทมนตร์”

สิ้นคำกล่าวของขชายตรงหน้า ชายหนุ่มในร่างเด็กกับชายชราก็กืนน้ำลายลงคออย่างยากรำบาก การฝึกคนให้มีพลังเทียบเท่าจักรพรรดิเวทมนตร์นั้นเป็นเรื่องยาก แต่ว่ามันคงเป็นทางเลือกสุดท้ายหากต้องการกำจัดเดมอนที่กำลังบุกมาบนโลกนี้ ไม่สิหากมีแค่มอนสเตอร์ หรือเดมอนคงไม่เท่าไร แต่ศัตรูที่โลกนี้ต้องเจอคือพวกเทพที่ต้องการนำดินแดนของพวกเขาคืน

“การฝึกทุกคนให้รับมือกับพวกมอนสเตอร์ที่มายังโลกนี้มันก็ยาก แต่ว่า”

ก่อนที่โยดาจะกล่าวจบ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีทองก็โบกมือห้าเสียก่อน เขาเสมองไปยังวิน

“เจ้าคงจำสิ่งนั้นได้ใช่ไหม”

วินนึกอยู่เพียงคู่ ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับ “หรือว่าเจ้าหมายถึงโอสถเทวา”

ชายหนุ่มมนัยน์ตาทองพยักหน้ารับ เขายิ้ม 

“เมื่อประตูทั้งสามได้เปิดออก เจ้าสิ่งนั้นก็จะปรากฏขึ้น หลังจากวันที่โลกได้ถูกจัดระเบยบไหม เราก็จะได้คนที่มีประสิทธิ์ภาพพอที่จะต่อสู้”

“แล้วคนที่เหลือล่ะ” ชายหนุ่มในร่างเด็กกล่าว

“เจ้านี่ยังอ่อนหัดเสมอเลยนะวิน ต่อให้เราจะพยายามปกป้องโลกนี้มากแค่ไหน เราก็ไม่สามารถปกป้องมันได้จริง ๆ หรอก แล้วเจ้าคงไม่ลืมหรอกใช่ไหมว่า ความตายก็คือการกำเนินใหม่ แค่มนุษย์ในโลกนี้ไม่เข้าใจเพียงเท่านั้น เหมือนกับเจ้าที่เคยผ่านเหตุการเหล่านั้นมาก่อนย่างไงละ”

เมฆาเคลื่อนร่างอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อไปยังที่แห่งหนึ่ง เพียงไม่นานเขาก็มาถึง ชายหนุ่มมองดูลูกสาวตัวน้อยที่ยืนข้างเด็กหญิ

ระหว่างที่เขากำลังปล่อยตัวปล่อใจอยู่นั้นเอง ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสถึงพลังมหาศาลที่กำลังพุ่งตรงมา ชายหนุ่มตัดสินใจเคลื่อนร่างออกไปในทันที

เพียงไม่นานเมฆาก็พบกับชายหนุ่มที่มีผมสีทองนัยน์ตาสีฟ้าท่าทางใจดีด้านหลังของชายผู้นั้นถือดาบขนาดยักษ์  หูของชายหนุ่มผู้นั้นไม่ใช่หูของมนุษย์ แต่มันกับเป็นหูของเจ้าสิ่งนั้น

“ม่คิดเลยว่าพวกเดมอนจะออกจากประตูมิติได้เร็วขนาดนี้”

“ที่พวกเราออกมาได้เร็วก็เพราะว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในระดับคลาสเอยังไงละ ไม่สิถ้าเป็นคนยุคของพวกเจ้าคงเรียกว่าระดับนักเวทละมั้ง”

“เรื่องนั้นไม่สำคัญ ยังไงระดับของพลังเวทก็มีไว้เพื่อป้องกันพวกเดมอนอย่างพวกแกอยู่แล้ว”

ชายหนุ่มยกยิ้ม “พวกมนุษย์อย่างพวกเจ้าก็แปกดีเหมือนกัน บ้างก็เรียกพวกเราว่ามอนสเตอร์ บ้างก็เรียกพวกเราว่าปีศาจ หรือไม่ก็เรียกพวกเราว่าอสูรร้าย ยังมีเดมอนอีกยังงั้นหรอ”

“มอนสเตอร์คือพวกที่ทำตามสัญชาตญาณ ส่วนเดมอนคือพวกที่สามารถแยกสัญชาตญาณออกจากความต้องการที่เหมือนกับสัตว์ป่าได้”

“เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องที่มนุษย์อย่างพวกนายคิดกันเองทั้งนั้น”

ชายหนุ่มกล่าว ก่อนที่จะชี้ดาบใส่เมฆา

“ว่าแต่ นายสินะที่ถือครองกายาอสูรต่อจากผู้ที่เคยชนะมหาสงครามเมื่อร้อยปีก่อน เจ้านั่นเล่นงานพวกเราไว้แสบมาก ฉันคงต้องตอบแทนสักหน่อย”

“กายาอสูรหรอ หมายถึงร่างกายแบบนี้ใช่ไหม ฉันไม่เคยอยากได้มันเลยแม้แต่นิดเดียว”

“เพราะว่ามีมันแล้วจะมีปัญหาเพิ่มใช่ไหม”

เมฆายิ้ม ก่อนที่จะส่ายหัว “ไม่ใช่หรอ เพราะว่าถ้ามีมัน ไม่สิตั้งแต่มีมันฉันก็ไม่เคยสัมผัสพลังเวทในระดับที่ต่ำกว่าจักรพรรดิเลยสักครั้ง นายไม่ต้องทำถ้าทางแปลกใจหรอก ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีพลังระดับจักรพรรดิ แต่ว่าพวกเราก็ไม่สามารถใช้มันได้”

“มีพลังแต่ไม่สามารถใช้มันได้ยังงั้นหรอ หรือว่าพลังมันถูก”

ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้กล่าวสิ่งใดจบ ร่างกายของเมฆาก็โผล่ขึ้นด้านหลัง ดาบเวทมนตร์ที่ถูกเสกขึ้นมาตอนไหนไม่สามารถทราบได้ก็ได้สะบั้นคอของชายตรงหน้าในพริบตา

เลือดสีแดงฉานไหลลงสู่พื้นดิน “พลังที่มีมากกว่าจักรพรริเวทมนตร์ ก็คือพลังทั้งสามที่หลอมรวมกันเป็นสิ่งที่เรียกว่าออล่า นี่แหละคือพลังของพวกเรา”

 

ระหว่างการต่อสู้ที่กำลังดุเดือดเบเลือดผ้าน จู่ ๆ ทุกคนในที่แห่งนั้นก็ต้องยุติการฆ่าฟันกันชั่วคราว เมื่อจู่ ๆ ได้มีพลังบางอย่างพุ่งตรงมาทางของพวกไบรท์ เด็กหนุ่มละสายตาออกจากศัตรูที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่จะเสมองไปยังพลังมหาศาลที่มุ่งตรงมาทางตนเอง

“อะไรกำลังมาทางนี้”

สิ้นคำกล่าวของรูรุ จู่ ๆ ชายหนุ่มผมดำผมสีแดงนัยน์ตาสีทองก็ปรากฏร่างขึ้นอยู่ไม่ไกล

“ในที่สุดก็เจอสักที ลูกของนายท่าน”

สายตาของผู้มาใหม่จับจ้องมายังไบรท์ ก่อนที่ชายคนนั้นจะยกยิ้ม  ก่อนที่จะสาวเท้าตรงมาอย่างช้า ๆ 

 

 

สวัสดีนักอ่านที่รัก โทษนะครับที่ผมหายไปนาน พอดีวุ่นกับเรื่องสอบนิดหน่อย รวมทั้งเรื่องเรียนจบด้วย ตอนนี้ก็รอใบอยู่ สอบเสร็จแล้วน่าจะมีเวลามาเขียนนิยายได้ แต่ว่าผมจะต้องหายไปอีกวันที่ 19 แล้วน่าจะกับมาเขียนได้วัน 1 ของเดือนหน้า ถามว่าทำไมก็เพราะว่าผมต้องไปบวดครับ แหมมาถึงก็จะขอลาไปเลย ฮ่าๆๆๆ ผมอับได้ทุกวันยกเว้นวันที่ 18 19 แหละ ไม่ต้องห่วง อ้อ อีกอย่างวันที่ไม่น่าจะลงได้น่าจะมีดังนี้

วันจันทร์ แต่พรุ่งนี้ลงได้ เพราะสอบภาษาญี่ปุ่น น่าจะแปบเดียว

วันอังคาร เรียนจีนแต่ลงได้ เพราะว่าเรียน 16:00

วันพุทธ น่าจะลงได้ แต่ว่าติดสอนภาษาอังกฤษ 

friday ลงน่าจะได้ เพราะว่าติดเรียนแต่เลิกเรียนเร็วอยู่ เรียนญี่ปุ่นนี่แหละ

วันที่ว่ามานี่ถ้าหายไปก็อย่าด่ากันน้านักอ่านที่รัก ใครที่คิดว่ามันช้าก็กดตามแล้วดองไว้ก็แล้วกัน ส่วนใครกลัวว่าไม่จบ ผมก็กลัวเหมือนกันว่าจะจบตอนไหน เพราะว่าไม่มีใคร comment เลย เลยคิดอยู่ว่าน่าจะไม่นุก เลยคิดจะปิดเรื่อง แล้วเขียนเรื่องใหม่ รอบหน้าคงพอสมเหตุสมผลอยู่ เพราะไปเรียนมาแล้วจ้าองค์ประกอบของนิยาย การวางโครงเรื่อง เขียนทรีทเม้นท์ และออกแบบตัวละครื 
เอาละใครเห็นก็ฝากกดอะไรสักอย่างหน่อยน้า 

เปิดอ่านฟรี คืออุดมการของนิทราการ ฮ่าๆๆๆ เอแต่ตอนอ่านก่อนนี้คือฮ่าๆๆๆ 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.