เริ่มต้นเป็นเรื่อง ลงท้ายเป็นรัก 2: เข้าโรงพยาบาล (Rewrite)

เริ่มต้นเป็นเรื่อง ลงท้ายเป็นรัก (Rewrite14.09.2566)

-A A +A

เริ่มต้นเป็นเรื่อง ลงท้ายเป็นรัก 2: เข้าโรงพยาบาล (Rewrite)

“ฮือ....” น้ำตาไหลเป็นสายอย่างหยุดไม่อยู่ เมื่อภิรมย์พรนึกถึงข่าวร้ายที่ได้รับจากชายคนรักตอนหัวค่ำ เรื่องเขาทำผู้หญิงอีกคนท้อง และต้องรับผิดชอบแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นในเดือนหน้า เหมือนฟ้าถล่มลงกลางหัว คล้ายโลกดับกะทันหัน ช็อกพูดอะไรไม่ออกไปหลายนาที พลางล้มตัวฟุบหน้าร้องไห้กับหมอนยกใหญ่ จนดึกดื่นก็ยังห้ามน้ำตาไม่ได้ ข้าวปลาไม่กิน กระทั่งเวลาเลยไปตีหนึ่งยังข่มตาหลับไม่ลง จึงตัดสินใจออกมาขับรถผ่อนคลายอารมณ์ ทว่ามันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก

สัญญาณไฟจราจรด้านหน้าเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง กำลังจะกลายเป็นสีแดง ด้วยความประมาท ขาดสติเพียงชั่วครู่ ภิรมย์พรตัดสินใจไม่เหยียบเบรกเพราะเห็นถนนยังโล่ง แต่ไม่นานนักรถจากอีกทางก็วิ่งมา ทำเอาหัวใจที่บอบช้ำอยู่แล้วสะดุ้งเฮือกหักพวงมาลัยหลบ แต่ก็หลบไม่พ้น รถอีกฝ่ายชนเข้าด้านข้างท้ายอย่างจัง ก่อนจะเสียหลักพุ่งเข้าพงหญ้าข้างทาง และสติดับวูบไป

 

 

 

 

 

“ใกล้ถึงบ้านแล้วหรือ?” เสียงรอสายดังอยู่ไม่นาน เสียงคุ้นเคยของใครคนหนึ่งก็มาแทนที่ คนปลายสายถามทันทีที่กดรับสายเขาเรียบร้อย

“ยังครับแม่ ผมจะกลับบ้านช้าหน่อย พอดีมีธุระกะทันหันครับ” กันตพัชร์เกริ่นมาก่อน ยังไม่คิดรีบบอกเรื่องสำคัญกับคนเป็นแม่

กลัวว่าท่านจะไม่ทันตั้งตัว และตกใจเกินไป

“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมมีธุระตอนนี้ล่ะ จะตีสองแล้วนะ?”

แม่ของเขานึกแปลกใจ

“เรื่องมันยาวครับ ผมประสบอุบัติเหตุ โชคดีที่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นยังไงบ้าง เห็นหมดสติไปตั้งแต่รถพยาบาลยังไม่มา ตอนนี้ผมทำแผล ตรวจร่างกายอยู่โรงพยาบาล เสร็จแล้วคงจะอยู่รอดูอาการฝ่ายนั้นสักหน่อยครับ” กันตพัชร์พยายามอธิบายเสียงเรียบราวกับคุยเรื่องทั่วไป เพื่อไม่ให้บุพการีตื่นตระหนกมากนัก

“ตายจริง! ลูกไม่เป็นอะไรแน่นะ” ถึงจะรู้ว่าลูกไม่เป็นอะไรมาก เธอก็อดหลุดปากอุทานไม่ได้

“ผมโอเคครับ ห่วงแต่คู่กรณี” เขาบอกจากใจจริง

“งั้นเดี๋ยวแม่จะออกไปหา เราอยู่โรงพยาบาลไหน?” น้ำเสียงแม่แสดงความเป็นห่วงชัดเจน

“โรงพยาบาล....ครับแม่ นายฟลินท์ไปเข้าเวร แม่ขับรถมาเองระวังด้วยนะครับ” เขาบอกชื่อโรงพยาบาลให้ปลายสายทราบ ก่อนกำชับตบท้ายด้วยความเป็นห่วง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าห้อง ทว่าคนนอนลืมตาอยู่บนเตียงกลับไม่ได้ใส่ใจ และได้ยินมันเลยสักนิด จนในที่สุดประตูก็ถูกเปิดเข้ามา แต่เธอก็ยังไม่รู้สึกตัว

“ฟื้นแล้วหรือครับ” ผู้มาเยือนทักทายขึ้นก่อน ต่อเมื่อเห็น

คนป่วยไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงเดินเข้าไปแตะแขนเบาๆ

“คุณ...” กันตพัชร์เรียกอีกฝ่าย

“คุณ...ได้ยินผมไหม?” เขาเน้นเสียงหนัก และดังขึ้น เพื่อให้เธอได้ยิน แต่กว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองก็ผ่านไปสองสามวิแล้ว

“เรียกฉันหรือคะ?” คนป่วยถามมาอย่างสุภาพ ทว่าก็ดู

ไร้วิญญาณอย่างไรอยู่

“ครับ เป็นไงบ้าง” เขาโต้ตอบเธอด้วยความสุภาพเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้นคะ ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“เรื่องมันยาวครับ แต่ที่แน่ๆ คุณประสบอุบัติเหตุ และสลบไป ตอนนี้คุณอยู่โรงพยาบาล”

“คุณโอเคไหม?” เขาถามให้แน่ใจ เพราะดูหญิงสาวบนเตียงจะหลุดเหม่อบ่อยเหลือเกิน

“ค่ะ...” อีกสองสามวิถัดมาอีกฝ่ายก็ตอบกลับด้วยเสียงเรียบ

ไร้ชีวิต

ชายหนุ่มเห็นสภาพหญิงสาวแบบนั้นก็นึกอยากช่วยให้สดชื่นขึ้น ก่อนจะจำได้ว่าตนปอกแอปเปิลแช่เย็นเอาไว้ จึงหันหลังเดินไปที่ตู้เย็น เปิดช่องฟรีซหยิบตลับพลาสติกออกมา เขาคิดว่าถ้าเธอได้กินคงช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง

“ผมปอกแอปเปิลแช่ไว้ คุณกินสักหน่อยนะครับ” กันตพัชร์พูดกับเธออย่างอ่อนโยน ก่อนหยุดเว้นจังหวะรออีกฝ่ายตอบกลับ

“...ฉันไม่หิวค่ะ” กว่าภิรมย์พรจะเอ่ยปากก็ผ่านไปสองสามวินาที น้ำเสียงเธอยังราบเรียบเหมือนเดิม

“คุณควรกินนะครับ คุณจะสดชื่นขึ้น และรู้สึกดีขึ้น” เขายิ้มบางๆ บอกเสียงนุ่มอย่างหวังดี น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอารีนั้นทำให้หญิงสาวต้องเหลือบตามองอย่างอดไม่อยู่ ใจสัมผัสถึงความปรารถนาดีจากชายหนุ่มได้ชัด ยิ่งเธอเห็นรอยยิ้มที่ส่งมาด้วย ก็ยิ่งปฏิเสธน้ำใจเขาไม่ลง สุดท้ายจึงยอมรับปากกินแอปเปิลอย่างว่าง่าย

แขนเรียวบางข้างหนึ่งที่ไม่ได้เข้าเฝือกดามไว้ของคนไข้สาวพยายามดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ก่อนจะได้แขนแข็งแรงจากชายหนุ่มมาช่วยประคองและปรับเตียงให้ จานผลไม้ถูกยกมาวางตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเธอสามารถจิ้มกินเองได้เขาก็ผละไปเอาส้มถุงใหญ่มาปอกต่อ

รสหวานอมเปรี้ยวเบาๆ กลิ่นแอปเปิลหอมๆ และความชุ่มฉ่ำเย็นสดชื่นช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ทว่าหมอกมัวในอกเบาบางได้ไม่นานก็คลุ้งขึ้นมาใหม่ ภาพวันวานระหว่างเธอและคนรักฉายชัดกลางสมอง ดูเหมือนมันจะตามหลอกหลอนซ้ำเติมไม่เลิกรา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุขตอนที่อยู่กับเขา รักแท้ การทุ่มเท และความดีของเธอซึ่งให้ไปตลอดเวลาคบกัน ทุกอย่างไม่ได้ช่วยการันตีเส้นทางรักเลย รวดร้าว เจ็บจุกอยู่ในใจ ร้องไห้จนร้องไม่ออกอีกแล้ว

“ภิรมย์พร” ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น พร้อมสัมผัสอ่อนโยนตรงข้อมือผู้ป่วย

“ครูจิตติกาญจน์!” ภิรมย์พรหันมาตามเสียงเรียก ก่อนหลุดปากเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ เจ้าของชื่อเห็นอย่างนั้น

ก็พยักหน้าพร้อมส่งแววตาอารีมาให้

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” คนพูดยิ้มน้อยๆ อย่างมีเมตตา

“ครูมาได้ยังไงคะ?” เธอแปลกใจจนอดถามไม่ได้ ครู

จิติกาญจน์เคยเป็นครูประจำชั้นของเธอสมัยเรียนมัธยมปลาย และเป็นครูประจำวิชานาฏศิลป์ด้วย

“ก็คู่กรณีเธอเป็นลูกชายครูน่ะสิ เมื่อเช้าครูมาเยี่ยมเธอทีหนึ่ง เลยรู้ว่าคนที่ลูกชายครูมีเรื่องด้วยเป็นเธอ แต่ตอนนั้นเธอยังไม่ฟื้น

คงจะไม่รู้ว่าครูมาเยี่ยม แล้วจำได้ไหมว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น” ท้ายประโยคจิตติกาญจน์ถามเพื่อเช็กอาการของลูกศิษย์ จากที่กันตพัชร์เล่าให้ฟัง แพทย์บอกว่าหญิงสาวแขนซ้ายหัก และได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง อาจต้องอยู่รักษาอาการที่โรงพยาบาลเป็นสัปดาห์

“ไม่แน่ใจค่ะ แต่...” เธอเหลือบมองไปทางชายหนุ่มที่ง่วนอยู่กับการปอกส้มอีกด้าน แล้วพูดต่อ

“คุณคนนั้นเล่าให้ฟังบ้างแล้วค่ะ”

“อื้ม” จิตติกาญจน์พยักหน้ารับ

“แสดงว่าเธอได้คุยกับฟีนิกซ์แล้ว” ครูของภิรมย์พรพูดต่อ

“คะ?” สมองของภิรมย์พรประมวลช้าไปนิดหนึ่ง ทำให้ไม่เข้าใจว่าครูวัยกลางคนหมายถึงอะไร

“นี่ยังไม่รู้จักกันหรือ” เห็นท่าทางลูกศิษย์แบบนั้น จิตติกาญจน์ก็เข้าใจทันที

“ผมเห็นเธอน่าจะยังไม่พร้อม เลยไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากเท่าไหร่ครับแม่” ถึงกันตพัชร์จะมัวแต่ปอกส้มอยู่ ทว่าหูของเขากลับ

ได้ยินการสนทนาระหว่างสองหญิงต่างวัยชัดเจนทุกคำ

“หมายความว่ายังไงคะ?คุณเรียกครูจิตติกาญจน์ว่าแม่อย่างนั้นหรือคะ?” ภิรมย์พรยังตามไม่ทัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอาการทางสมองของเธอด้วย

“ครับ แม่ผมเอง ผม ฟีนิกซ์ ครับ” คำตอบของชายหนุ่มทำให้

ภิรมณ์พรต้องหันไปหาครูของตนเพื่อขอคำยืนยันให้แน่ใจอีกครั้งหนึ่ง

“ใช่แล้วล่ะ ลูกชายครูเอง” จิตติกาญจน์เห็นอย่างนั้นจึงบอกออกไป แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ภิรมย์พรก็ร้องออกมา พลางรีบยกมือกุมขมับตนเองไว้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด ทำให้คนเป็นครูต้องเข้าไปปลอบ และบอกให้นอนพักผ่อนก่อน

ผ่านมาสามวัน กันตพัชร์ยังแวะมาเยี่ยมภิรมย์พรตลอดทั้งเช้าเย็น มาช่วยพาเธอเข้าห้องน้ำ และเอาเครื่องดื่มอุ่นๆ อร่อยๆ มาฝาก ตกเย็นก็ซื้อผลไม้ ซื้อขนมมาให้กิน อยู่คุยด้วยจนหมดเวลาเยี่ยม หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงดีด้วยนัก อาจเพราะเธอเป็นลูกศิษย์แม่ของเขาหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม การกระทำของเขาก็ช่วยให้หัวใจที่กำลังเหน็บหนาวได้สัมผัสไออุ่นจากความใส่ใจดูแลเหล่านั้นไม่น้อย

สำหรับชายหนุ่ม หลังจากรับรู้เรื่องราวของภิรมย์พรจากคนเป็นแม่ ว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า เขาก็รู้สึกเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก จึงอยากมอบสิ่งดีๆ ที่พอจะทำได้ให้บ้าง ไหนจะความรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้เธอบาดเจ็บอีกเล่า เขาอยากไถ่โทษ ด้วยการดูแลเธอระหว่างยังรักษาตัว แม้แต่เดิมตนไม่ใช่คนทำให้เกิดเรื่อง ทว่าคนมีพื้นฐานจิตใจอ่อนโยนมากอย่างเขาก็อดรู้สึกต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างไม่ได้

“แผลผ่าตัดที่แขนเป็นยังไงบ้างครับ หมอว่ายังไงบ้าง”

อุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้แขนขวาภิรมย์พรหัก มีเลือดออกภายใน แพทย์จึงกำหนดเวลาผ่าตัดให้เมื่อวาน

“ก็ดีขึ้นค่ะ หมอบอกอยู่ฉีดยาแก้อักเสบ แลทำกายภาพบำบัดไปอีกสักอาทิตย์ก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ” หญิงสาวเล่าด้วยสีหน้าดีขึ้นจากสองวันก่อน แม้ว่าจะยังเหลือรอยหม่นให้เห็นอยู่ก็ตาม

“นับว่าเป็นข่าวดีครับ แต่ต้องอยู่โรงพยาบาลอีกหลายวัน

ถ้าคุณเบื่ออาหารที่นี่บอกผมได้นะ อยากกินอะไรเป็นพิเศษก็บอกผมได้ ผมจะทำมาให้กิน” กันตพัชร์พูดกับเธอหลังจากเอากล่องพลาสติกใส่ส้มแช่เย็นมาให้หญิงสาว

“กับข้าวที่นี่อร่อยค่ะ คงจะยังไม่เบื่อง่ายๆ อีกอย่างไม่อยากรบกวนคุณฟีนิกซ์มากเกินไปด้วยค่ะ แค่นี้คุณก็ดูแลดีมากจนเกรงใจจะแย่แล้วค่ะ” ภิรมย์พรมองส้มแกะเปลือก เอาเมล็ดออกเรียบร้อย ที่ชายหนุ่มอุตส่าห์ทำให้ก็อดประทับใจไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

“ไม่ลำบากหรอกครับ ถ้าคุณพริ้งอยากกินอะไรเป็นพิเศษ

ก็บอกผมได้” เขาบอกอย่างมีน้ำใจ

“คุณฟีนิกซ์ทำเมนูอะไรเป็นบ้างหรือคะ” เธอเป็นฝ่ายชวนเขาคุยบ้าง อย่างน้อยจะได้ไม่ว่างมากเกินไปจนฟุ้งซ่านอีก

“หลายเมนูเลยครับ ได้ทั้งคาวและหวาน”

“ครูจิตติกาญจน์เป็นคนสอนหรือคะ?” หญิงสาวชักรู้สึกสนใจขึ้นมา เพราะปกติเท่าที่เธอเจอผู้ชายแต่ละคน แทบหาใครทำอาหารแบบเป็นจริงเป็นจังไม่ได้เลย มากสุดก็แค่ทำเมนูง่ายๆ กินแก้ขัดได้เท่านั้น

“ก็ส่วนหนึ่งครับ แต่อีกส่วนผมก็ศึกษาเอง”

“คุณชอบทำอาหารหรือคะ” คนฟังชักสนใจ

“ก็ชอบนะครับ มันเพลินดี อีกอย่างพี่ชายผมเขาชอบกินด้วย และเขาชอบฝีมือผม เลยใช้ให้ทำกับข้าวให้กินบ่อยๆ อยากกินอะไรเขาก็มักมาให้ผมทำให้กิน บางเมนูทำไม่เป็นก็ต้องศึกษา”

“คุณฟีนิกซ์มีพี่ชายด้วยหรือคะ” เธอเพิ่งทราบ

“พี่ชายฝาแฝดน่ะครับ”

“ฝาแฝดหรือคะ” หลุดปากถามซ้ำไปอย่างนั้นเอง

“ครับ”

ขณะสองหนุ่มสาวกำลังคุยกันอยู่ในห้องพักพิเศษคนไข้ โดยที่ใครไม่ทันคาดคิด ประตูหน้าห้องก็มีบางคนเปิดเข้ามาไม่บอกกล่าว

คนมาใหม่เหมือนชะงักที่หน้าประตูนิดหนึ่ง ก่อนภิรมย์พรกันตพัชร์จะหันไปมอง และแวบแรกที่สายตาหญิงสาวหันไปเห็น หัวใจก็ต้องกระตุกแรงทันที

“เขต!...”

คนมาใหม่มองสองหนุ่มสาวในห้องสลับกันไปมาด้วยแววตาเคลือบแคลง ก่อนจะยอมสงบใจเดินเข้าไปหาภิรมย์พร เพราะคิดได้ว่าตนตั้งใจมาเยี่ยมอาการเจ็บเธอ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะมีใคร โดยเฉพาะเป็นผู้ชายหน้าตาดี อยู่ด้วย

“พริ้ง..เป็นไงบ้าง ผมรู้ข่าวคุณตอนโทรไปหาพี่ริ พอพี่ริบอกว่าคุณประสบอุบัติเหตุ ลางานหลายวัน ผมก็รีบมาทันที” เขาบอกด้วยใจจริง แม้จะมีบางส่วนเกินจริงไปเล็กน้อยก็ตาม แต่เขาก็ห่วงเธอมาก

คนเจ็บบนเตียงได้แต่พยายามสะกดกลั้นน้ำตาไว้สุดขีด กระนั้นถ้าใครมองดีๆ ก็จะเห็นว่าสีหน้าแววตาเธอปวดร้าวแค่ไหน หญิงสาวตั้งสติอยู่ครู่ พยายามทำใจให้เข้มแข็ง ก่อนฝืนตอบอีกฝ่ายออกไปเสียงแหบ ทั้งที่ไม่ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้น

“ฉันโอเคค่ะ”

“หมอว่าไงบ้าง?” ผู้มาใหม่พูดเสียงอ่อนลงอีกด้วยความรู้สึกผิดในใจ เขาเข้าใจปฏิกิริยาของเธอดี ทว่าระหว่างนั้น จู่ๆ เสียงเปิดประตูก็ดังมาจากหน้าห้องอีกครั้ง ไม่มีใครทันสังเกตว่าคนเปิดได้เคาะก่อนหรือไม่ และการปรากฏตัวของใครอีกคนที่เพิ่งเข้ามาก็ส่งผลให้ชายหนุ่มที่มาก่อน และคนไข้บนเตียงตาเบิกโตอย่างตกใจทันที!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.