บทที่ 2 สุราหฤหรรษ์

นักบู๊หฤโหด

-A A +A

บทที่ 2 สุราหฤหรรษ์

บทที่ 2 สุราหฤหรรษ์

 

เรือโดยสารทอดสมอห่างจากฝั่งห้าวา ลมอรุณพัดปุยเมฆละอองหมอกแตกสลาย แสงทองลำแรกสาดเฉียงๆ ขอบฟ้าก็อร่ามเรืองรองขึ้นมาแล้ว เซี่ยเคอโยนทองแท่งลงบนโต๊ะห้องท้องเรือ ชายชราสวมหมวกฟางลนลานกล่าวปฏิเสธโบกมือขวักไขว่ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาสาดประกายอำมหิตจนวาววับ สอดคำเสียงเย็นชา

 

"น้อมเตือนอย่างจริงใจ หากไม่ยินยอมรับไว้ จะใช้เลือดในกายเจ้าอาบชโลมผืนน้ำในบัดดล"

 

ชายชราเจ้าของเรือหวาดหวั่นแทบเข่าทรุด ยื่นมือเกาะขอบโต๊ะผงกศีรษะกล่าวขอบคุณไม่หยุดยั้ง

 

ชายหนุ่มกระโดดปราดถึงฝั่ง กลางทางหลวงมีผู้สัญจรบางตา อาจเพราะยังเช้าตรู่ คนส่วนใหญ่เพิ่งทะยอยหุงหาอาหารรับประทาน ดินแดนศิวิไลซ์หยางโจว บ่งบอกรสนิยมเลิศหรูทุกยุคทุกสมัย กิจการเหลาสุราหลายวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ สร้างความเหน็ดเหนื่อยแก่ผู้รับใช้สายตัวแทบขาด หลั่งเหงื่อชุ่มโชกอาบไล้เสื้อผ้ามันระยับ

 

เซี่ยเคอบรรลุถึงหน้าร้าน กวาดตาสำรวจลอบชมเชย เหลาใหญ่โตสามช่วงตึกสองคูหา ปลูกสร้างโอฬารโอ่อ่านัก ผู้รับใช้ชักชวนถึงริมหน้าต่างชั้นสอง รอคอยเพียงชั่วครู่ จึงยกสุราอาหารมา ยิ้มแย้มประจบพลางเอ่ยถามว่า

 

"คุณชายมาร่วมงานรับตำแหน่งเจ้าสำนักคนใหม่ของผู้กล้าหาญแซ่หยางหรือ"

 

เซี่ยเคอชำเลืองมองมันแวบ ย้อนถามกลับว่า

 

"ผู้แซ่หยางนั้นเป็นใคร"

 

"ฮาๆ คุณชายดูไม่คล้ายคนถิ่นนี้ ผู้กล้าหาญแซ่หยางปีนี้เพิ่งสี่สิบเศษ หลังจากเจ้าสำนักกระบี่หักรุ่นก่อนเสียชีวิต ภาระจรรโลงคุณธรรมจึงตกทอดถึงท่าน"

 

"อ้อ เจ้าสำนักรุ่นก่อนตกตายนานเท่าใด"

 

ผู้รับใช้แยกเขี้ยวน้ำลายแทบหยดหยาด เหลียวซ้ายแลขวากริ่งเกรงมีผู้ลอบสังเกตุ แขกเหรื่อยังวิจารพูดคุยสับสน ปั้นหน้าเคร่งเครียดนิ่งเงียบงัน ค่อยลดซุ่มเสียงแผ่วเบา

 

"สองเดือนก่อนผู้ต่ำต้อยบังเอิญรับฟังจากสหายในสำนัก ซากศพผู้ตายละลายเป็นกองน้ำหนองสีดำคล้ำหย่อมหนึ่ง ในห้องปราศจากร่องรอยต่อสู้ขัดขืน คาดว่าเป็นพิษชั่วร้ายลอบประทุษ"

 

เซี่ยเคอเปลือกนอกรักษาความสงบเฉื่อยชา ทวนคำพิษชั่วร้าย ยามนั้นผู้คนโต๊ะใกล้เคียงเริ่มคลางแคลงสงสัยลอบชายตามองจึงยัดเศษเหรียญลงกระเป๋าอกเสื้อมัน พลางโบกมือกล่าวขอบคุณ รอจนผู้รับใช้ผละจาก แสร้งก้มหน้าใช้ตะเกียบคีบกับลงมือดื่มกิน สักครู่สรรพเสียงเซ็งแซ่เบาบาง กลุ่มคนชำระค่าอาหารลงจากเหลา ชายหนุ่มวางเงินแท่งทิ้งบนโต๊ะ ปะปนฝูงชนติดตามหลัง

 

สำนักกระบี่หักมีชื่อเสียงเลื่องลือ กระบี่เดี่ยวหมื่นลี้จางกวนรุ่นก่อน มีไมตรีคบหากับเหล่าเจ้าสำนักกระบี่มาตรฐานทั้งสี่แนบแน่น เมื่อหยางเต๋อขึ้นรับตำแหน่งสืบทอดปณิธาน ชนชาวยุทธจักรต่างส่งตัวแทนเข้าร่วมงานเฉลิมฉลอง เพียงเกียรติภูมิกระบี่เดี่ยวหมื่นลี้ ฐานะสำนักจึงถูกยกขึ้นทำเนียบกระบี่คุณธรรมแห่งยุค

 

หน้าซุ้มประตูตกแต่งโอ่อ่าภาคภูมิ บุรุษชุดเทาหลายคนประสานมือเชื้อเชิญต้อนรับด้วยอัธยาศัยมิตรภาพ ชั่วพริบตาโถงรับแขกก็แออัดชุมนุมด้วยผู้กล้าทุกสารทิศ โต๊ะสุราอาหารจัดเรียงราย เซี่ยเคอหันรีหันขวาง ลังเลเล็กน้อยขณะจะเดินหาโต๊ะเก้าอี้ ไหล่ซ้ายพลันถูกมือข้างหนึ่งแตะวูบ ซุ่มเสียงแกร่งกร้าวเสียงหนึ่งเอ่ยทักขึ้น

 

"น้องชายหากไม่รังเกียจ เราสองร่วมโต๊ะร่ำดื่มด้วยกันเป็นอย่างไร"

 

ชายหนุ่มหันขวับไป ด้านข้างยืนยิ้มแย้มด้วยบุรุษฉกรรจ์ร่างบึกบึนสูงใหญ่ ใบหน้าแดงเปล่งปลั่งขนคิ้วดกหนาใต้คางไว้เคราสามแฉกผู้หนึ่ง มันแม้ผิวกายหยาบกร้าน อาภรณ์รัดกุมยังใหม่เอี่ยม รีบประสานมือกล่าวว่า

 

"พี่ท่านเชิญตามสะดวก"

 

จากนั้นสอบถามชื่อแซ่ทำความรู้จักหลายประโยค คนทั้งสองหนึ่งเปิดเผยเที่ยงธรรม หนึ่งเพิ่งจากสำนักอาจารย์คลุกคลีเรื่องราวยุทธจักร กลับสนทนาถูกคอ บุรุษฉกรรจ์นั้นมีชื่อเสียงกระเดื่องดัง ฉายาคมดาบนอกกำแพงใหญ่หานต้าปิน

 

โต๊ะเก้าอี้เรียงจากในสุดออกนอก แยกย้ายสองฟากซ้ายขวา โต๊ะรีตัวแรกจัดตั้งอยู่กึ่งกลาง เนื้อไม้จันทน์ม่วงปูทับด้วยแพรลายสน รอบโต๊ะประกอบด้วยสามชายชราผมเผ้าหนวดเคราขาวดอกเลา ท่วงท่าเคร่งขรึมเยือกเย็น คนสุดท้ายกลับเป็นบุรุษวัยสี่สิบเศษ รูปกายอ้วนเตี้ยคางแหลมจมูกบี้แบน แก้มซ้ายมีไฝดำสามเม็ด เค้าหน้าอัปลักษณ์แฝงกลิ่นอายเยียบเย็นอยู่บ้าง คือหยางเต๋อเจ้าสำนักกระบี่หักรุ่นปัจจุบัน ส่วนชายชราทั้งสาม ย่อมจัดอยู่ทำเนียบชนชั้นผู้อาวุโสสูงสุด

 

รอจนอาหารรอบแรกใกล้ผ่านพ้น มันพลันผุดลุกขึ้น โบกมือกลับหลังวูบ สตรีเสื้อเงินหกนางอิริยาบทชดช้อยประคองถาดน้ำชาป้านสุราก้าวปราดรับใช้เพิ่มเติมให้ทุกโต๊ะ หญิงสาวทุกนางล้วนเยาว์วัย มิหนำซ้ำใบหน้าผุดผาดประกายตาแฝงแววยั่วยวนหยาดเยิ้ม บวกกับเรือนร่างแช่มช้อยบอบบาง กอบเป็นเสน่ห์รัดรึงชวนลุ่มหลง หญิงสาวชุดเงินนางหนึ่งเดินถึงโต๊ะเซี่ยเคอและคมดาบนอกกำแพงใหญ่ กระพริบตาเพ่งมองชายหนุ่มพลางกล่าวถามเสียงสดใส

 

"เอ๊ะ! คุณชายท่านนี้ไฉนไม่ดื่มชาจิบสุราเล่า"

 

คมดาบนอกกำแพงใหญ่หานต้าปินหัวร่อฮาๆ ลอบปรายตาแก่อีกฝ่ายแก้ต่างแทนว่า

 

"อ้อ สหายเราผู้นี้เพิ่งลนลานถึง น่ากลัวอีกสักครู่คงร่ำดื่มจนเมามาย"

 

หญิงสาวเสื้อเงินแย้มยิ้มหัวร่อคิก จากนั้นสาวเท้าผละจาก หานต้าปินถอนใจเฮือก เบนสายตาพลางถามไถ่

 

"น้องท่านไม่ชมชอบดื่มสุราหรือ"

 

"ข้าพเจ้านึกประหลาดอยู่บ้าง"

 

ขณะตอบสีหน้าขาวซีดแปรเปลี่ยนกลับกลาย หานต้าปินช่ำชองปานใด จอกสุรายกถึงมุมปากชะงักค้างถามอีกว่า

 

"มีอันใดไม่ถูกต้องกระมัง"

 

เซี่ยเคอพยักหน้า บอกกล่าวตามที่ผู้รับใช้บนเหลารับฟังมา หานต้าปินพริ้มตาครุ่นคิดเงียบงันชั่วน้ำเดือด บรรยากาศในโถงใหญ่ยังสับสนเงาคนพลุกพล่าน ยามนั้นหยางเต๋อทรงกายขึ้นอีกครา กระโดดปราดยืนหยัดบนโต๊ะกึ่งกลาง กวาดตาสามเหลี่ยมสำรวจกราดสองสามเที่ยวชูมือขวาเอื้อนเอ่ยเสียงแหลมเล็ก

 

"ทุกท่าน...ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง อาจารย์ผู้เฒ่าเสียชีวิตกะทันหัน ผู้น้องต่ำต้อยด้อยประสบการณ์ เมื่อแบกรับภาระหนักอึ้ง ยังหวังให้ชี้แนะสั่งสอน สหายบนเส้นทางตรากตรำน้ำค้างลมหนาว ตั้งใจมาอวยพรแก่เราผู้แซ่หยาง ขอยืมธูปบูชาพระ สุราจอกนี้ขอแทนบุญคุณพวกท่านทุกคน"

 

มืออีกข้างยกชูจอกทองคำจ่อถึงมุมปากแหงนหน้ากรอกเทรวดเดียว เหล่าผู้กล้าหลายสิบคนส่งเสียงโห่ร้องฮึกเหิม รินสุราปริ่มขอบถ้วยร่ำดื่มติดต่อกันหลายอึก ใ บหน้าแดงฉาน แสดงอาการเมามายเสียหลายส่วน

 

คนผู้หนึ่งตบโต๊ะคำรามกึกก้อง สีหน้าเลื่อนลอยคล้ายลิงโลดจนลืมตัว จึงเสียกิริยาร่ำร้องวุ่นวาย สายตาทุกคู่พุ่งเป้ายังคนผู้นั้น ที่แท้เป็นชายชราสวมหมวกปีกกว้าง พลันกดสองมือกับโต๊ะทะลึ่งปราดโผพุ่งสูงสองวา ละลิ่วลงยังที่ว่างกึ่งกลาง จากนั้นกรีดมือต่อยหมัด พลังลมเข้มแข็งเกรี้ยวกราดม้วนทะลักปานมรสุม จู่โจมใส่บุคคลใกล้เคียงสองคน พวกมันไหนเลยตระเตรียมป้องกันทันท่วงที เสียงแผดร้องห่าโลหิตฉีดพร่างพรม จานชามกระจัดกระจาย เศษกระเบื้องปริแตกเวียนว่อนรอบข้างในทันที

 

ผู้คนสองคนกระดูกซี่โครงหักยุบ กระทบกระเทือนอวัยวะภายใน ง๋ายหลังล้มตาย จากนั้นปรากฏผู้กล้าสองสามคนฮือโหมชักอาวุธ สะบัดกวัดแกว่งถาโถมเปิดฉากเข่นฆ่าชุลมุน คนที่เหลือกลอกตาตะเบ็งเสียงหัวร่อฮาๆ คล้ายชมดูเรื่องสนุกสนาน ครึกครื้นปีติยินดีกับการประหัตประหารยิ่ง ในบริเวณอบอวนด้วยรังสีฆ่าฟันกดทับบรรยากาศเขม็งเคร่งตึงเครียดแล้ว

 

ประกายบาดตาเจิดจ้าพร่าพราย คมดาบกระบี่ฉวัดเฉวียนพุ่งวน เงาคนประกบเกาะกลุ่ม ชั่วอึดใจเดียวก็แยกผละกระโดดโลดลิ่วละลานวูบวาบ ลมฝ่ามือพลังหมัด ราวบังเกิดพายุทรายเหลืองขนาดย่อมๆหลายสิบลูก

 

ชายชราทั้งสามยังนั่งแน่วนิ่ง ท่าทีกลับเซื่องซึมเหม่อลอย หยางเต๋อแสยะยิ้มชั่วร้าย หันไปโบกมือส่งสัญญาณ จากนั้นพลิ้วกายล่าถอยออกประตูด้านหลัง ชายชราทั้งสามเร่งฝีเท้าติดตามกระชั้นชิด ขณะโถงใหญ่เริ่มปรากฏคนสิบกว่าคนถาโถมชักอาวุธประกระบวนท่า กลิ่นคาวโลหิตฉุนเฉียว สภาพอลหม่านอนาถสุดทนทาน เหล็กโลหะกระทบเสียดประสาท เสียงตวาดด่าแผดร้องโอดโอย ซากศพแขนขาขาดกระเด็น ตับไตไส้พุงทะลักเกลื่อนกล่น หลอมรวมถักสานสำเนียงแห่งท่วงทำนอง

 

เซี่ยเคอถูกเหตุแปรเปลี่ยนสะกดจนตะลึงลาน เขาทั้งมิได้แตะต้องอาหารน้ำชา เค้นไหวพริบอย่างว่องไว ลมหอบหนึ่งโชยกลิ่นคาวคละคลุ้งปะทะนาสิก หานต้าปินสยิวกายเซถลาใบหน้าซีดเผือด ทันใดด้านข้างปรากฏกระบี่เล่มหนึ่งแทงสวบดุจประกายไฟ เซี่ยเคอสะท้านคืนสติ ส่งเสียงตวาดร้องเตือนพลางล้วงขลุ่ยสั้นสะบัดปัดป่าย หานต้าปินเคลื่อนขวางสองก้าว สภาพยิ่งนานยิ่งทวีความรุนแรงโกลาหน

 

คนผู้นั้นพอจ้วงแทงพลาด ก็กู่ร้องเบิ่งตาแข็งค้าง ถลันกวาดกระบี่ใส่หว่างเอวชายหนุ่ม เซี่ยเคอชิงลอยตัวหลบเลี่ยง หานต้าปินระงับอาการตระหนกขวัญแทบกระเจิดกระเจิง แม้งุนงงสงสัยทว่าสถานการณ์เฉพาะหน้าไม่เปิดจังหวะโอกาส ปากตวาดมือซ้ายฟันย้อนใส่ต้นคอฝ่ายตรงข้าม กระแทกมันคอหักพับร่างหมุนคว้างครางหนักๆทรุดฮวบ บนใบหน้ากลับปราศจากอาการเจ็บปวด มุมปากประดับรอยยิ้มรื่นรมย์

 

ทั้งสองขณะจะชักชวนกันล่าถอย มิคาดด้านนอกห้องแว่วเสียงแผดหัวร่อกึกก้องยาวนาน คลื่นเสียงสั่นสะท้านแก้วหูอื้ออึง พื้นใต้เท้าสั่นสะเทือนกัมปนาทโคลงเคลง จากนั้นลดต่ำร่วงลิ่วอย่างเร่งร้อน เหล่าผู้กล้าอุทานระงม โต๊ะเก้าอี้ล้มพลิกระเนระนาด คราบสุราอาหารเรี่ยราดกระเซ็นซ่าน เงาคนเสียหลักเกลือกกลิ้ง กระเสือกกระสนปะทะชนบาดเจ็บล้มตาย ข้างหูอึงอลสมองพองโต

 

"ฮาๆๆๆ"

 

หยางเต๋อแหงนหน้าหัวร่อราวคลุ้มคลั่ง ที่แท้ห้องโถงจัดสร้างพิเศษพิสดาร ขอเพียงกระทบปุ่มกลไก สามารถบังคับให้พื้นพลิกคว่ำ ข้างใต้ลึกประมาณสิบวา เป็นทางใต้ดินคับแคบสายหนึ่ง รอคอยชั่วขณะแผ่นเหล็กเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม แสงแดดแผดจ้าเหนือศีรษะ ลมเย็นเฉื่อยฉิวพัดใบไม้แห้งปลิวว่อน

 

หญิงสาวชุดขาวร่างสูงโปร่งทิ้งตัวลงจากสันหลังคา ผมยาวสยายประบ่า ใบหน้ารูปไข่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ขมวดคิ้วเรียวงามกวาดมองสามชายชราและหยางเต๋อเอ่ยปากชมเชย

 

"เจ้าสำนักหยางกระทำได้ประเศริฐ"

 

หยางเต๋อไม่กล้าจ้องประสานสบตรงๆ เบือนหน้าไปอีกทางน้อมกายถ่อมตัวว่า

 

"ยาพิษกูเหนียง(คำเรียกหญิงสาวเยาว์วัย)ร้ายกาจ เราเพียงรับคำสั่งดำเนินตามเรื่องราวเท่านั้น"

 

"เอาเถอะสถานที่นี้หมดภาระของท่าน ขอเชิญกลับหมู่บ้านแล้วค่อยว่ากล่าว"

 

"อ้อ! พวกประดานั้นเล่า"

 

หญิงสาวชุดขาวท่าทีเคร่งเครียดเย็นชา ซุ่มเสียงไพเราะกระด้างปานน้ำแข็งกล่าวตอบว่า

 

"ข้าพเจ้าเตรียมการเรียบร้อย"

 

หยางเต๋อผงกศีรษะร้องอ้อ จากนั้นนำพาสามชายชราร่วมทางพลิ้วกายข้ามกำแพงล้อมลับหาย หญิงสาวชุดขาวเหลียวหน้าพลางปรบมือสามครา ความเงียบวิเวกวังเวง ปรากฏดรุณีแรกรุ่นเสื้อเหลือง ถักเปียสองเส้นสี่นางถลันออกจากมุมมืดสี่ด้าน เร่งรุดถึงเบื้องหน้าย่อกายคำนับ นางทางหนึ่งพริ้มตาก้มศีรษะครุ่นคิด ทางหนึ่งออกคำสั่งแช่มช้า

 

"พวกเจ้ารีบปิดสกัดทางออก อย่าได้ชะล่าเลินเล่อ"

 

ดรุณีทางซ้ายสุดเลิกคิ้วเบิกตากลมกว้างกลอกกลิ้งไปมาเอ่ยถามว่า

 

"เอ๊ะ! พวกมันมิใช่ถูกพิษ รอสักครู่กระดูกกร่อนเลือดเนื้อสลายหรอกหรือ"

 

"มิผิด ทว่าหลังจากนี้อาจมีเหล่านักสู้รุดมาร่วมงานเพิ่มเติม หากไม่ระมัดระวังป้องกันจะตอแยศัตรูเข้มแข็งเช่นเส้าหลินอู่ตัง อย่างนั้นฮูหยินผู้เฒ่าคงไม่พึงพอใจ"

 

ดรุณีกึ่งกลางสองคนส่งเสียงเห็นพ้อง ครั้นแล้วคนทั้งห้าแยกย้ายเคลื่อนไหวอีกครา...

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.