บทที่ 6...1/3

เพราะคุณคือรักแรก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 6...1/3

          ที่จอดรถใต้คอนโดในเวลานี้ช่างเงียบและอ้างว้างสำหรับภาคิน เขาจอดรถอยู่ 5 นาทีแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเขากลับไม่ก้าวขาไปยังปลายทาง การเห็นว่าห้องที่เขากับเบญญาใช้อยู่ด้วยกันไฟเปิดอยู่ ทำให้เขาเกิดความลังเล ความระแวงที่เคยมีในหัวใจมาเรื่อยๆ ก่อเกิดเป็นความหนักอึ้งราวก้อนหินมหึมา ตลอด 2 เดือนมานี้ เขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของเบญญา เธอทำงานยุ่งยิ่งกว่าเขาที่ทำงานบริษัทเต็มเวลา เธอมักมีข้ออ้างไม่ให้เขามาหา อย่างเช่น เหนื่อย บางครั้งก็ไปทำงานต่างจังหวัด จนเขากับเธอเจอกันนับครั้งได้ เธอเคยโทรมาเล่าเรื่องในการทำงานให้เขาฟังเสมอ แต่ตอนนี้กลับเงียบหาย เขาคิดมาตลอดว่าเธอคงเหนื่อย จึงไม่ทำหรือพูดอะไรที่ทำให้เราทะเลาะกัน

          ภาคินชั่งใจอีกครั้งยามที่หยิบโทรศัพท์มาเพื่อโทรหาเบญญา เขาอยากให้โอกาสเธออีกหรืออาจจะตลอดไป หากว่าคราวนี้เธอตอบอย่างที่เขาคาดหวังไว้

          “มีอะไรหรือเปล่าคะคิน ทำไมโทรมาเสียดึกเลย” เบญญาถามเสียงใส

          ภาคินก้าวลงมาจากรถพลางมองไปยังห้องที่เบญญาคงอยู่ภายในนั้นเพราะไฟเปิดสว่างมาจนถึงระเบียงด้านนอก

          “โทรมาแล้วทำไมเงียบล่ะคิน หรือว่ามือไปโดนโทรศัพท์มันเลยโทรออกเอง”

          “คินโทรหาเบญเอง ตอนนี้เบญอยู่ไหนเหรอ คินอยากไปหาน่ะ”

          ภาคินได้ยินเสียงคล้ายเบญญาขยับตัวลุกนั่ง เขาพยายามมองขึ้นไป ก่อนจะหลบทั้งที่ไม่น่าจะต้องหลบเพราะเบญญาออกมายืนที่ระเบียงห้อง

          “เบญไม่อยู่ที่ห้องหรอกนะ ตอนนี้อยู่ที่พัทยา มาถ่ายงานน่ะ เอาไว้พรุ่งนี้คินค่อยมาหาเบญนะ”

          ภาคินสูดหายใจแรงกว่าจะมีเสียงตอบกลับแฟนสาว “ก็ได้ แค่นี้นะ”

          ภาคินเดินออกมาเพื่อที่จะมองเห็นว่าเบญญากำลังเดินเข้าห้องไปแล้ว เขาไม่ได้ระแวงไปเองและมีนาไม่ได้จำผิดคน มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเขากับเบญญาและอาจมีใครอีกคนเข้ามา ชายหนุ่มกำมือแน่น ถอนใจแรง การหนีปัญหาไม่ใช่นิสัยของเขามาแต่ไหนแต่ไร การเดินเข้าไปหาปัญหา แล้วจัดการให้สิ้นซากต่างหากเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ คนนอกใจควรได้รับอะไรเป็นสิ่งตอบแทนกันนะ

 

          เสียงลิฟต์ดังติ๊งเบาๆ ทำให้ภาคินรู้ตัวว่าได้เดินทางมาถึงชั้น 11 แล้ว หากเขาเดินอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องที่เบญญาอยู่ในนั้น ใจของเขาเต้นระรัวด้วยความกลัวและอยากรู้ในเวลาเดียวกัน ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีข้ออ้างการโกหกของเธอในทุกก้าวที่เดิน บางทีเธออาจจะเหนื่อยจริงๆ ถึงได้บอกไปแบบนั้น เธอไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ช่วงนี้เขากับเธอมีเรื่องทะเลาะกัน เธออาจจะยังไม่อยากคุยเรื่องนี้เลยไม่พูดความจริง ทว่าเมื่อถึงเวลาเขาก็ต้องเผชิญหน้าไม่ว่าความจริงจะทำให้ใจสลายก็ตาม

          ภาคินกดรหัสประตู แล้วเปิดประตูออกเพียงนิดเดียวเพื่อฟังเสียงภายในห้อง เบญญากำลังหัวเราะอย่างมีความสุขกับใครกันนะ อีกทั้งรองเท้าที่วางไว้บนชั้นไม่ใช่ของเขาแน่ๆ ทั้งที่ภาคินใจร้อนขับรถมาถึงที่นี่ แต่พอถึงเวลาที่ต้องพบความจริง ชายหนุ่มกลับปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่เร่งรีบราวกับอยากประวิงเวลาไว้ หากว่าความเศร้าจะเกิดขึ้นที่ปลายทางในอีกไม่กี่ก้าว

          “เบญชอบค่ะ ซื้อมาด้วยนะคะ”

          เบญญากำลังคุยกับใครกันนะ ภาคินเก็บความสงสัยไว้จนกระทั่งเบญญาหันมาเห็นเขาก็กดวางสายทันที สายตาของเธอที่มองเขาดูเหมือนตกใจในวินาทีแรก ก่อนจะลุกขึ้นยิ้มดีใจที่เห็นว่าภาคินมาหา ประหนึ่งลืมไปแล้วเธอเพิ่งบอกเขาว่าถ่ายงานอยู่ที่พัทยา

          “ไหนว่าอยู่พัทยาไงเบญ ทำไมถึงไม่บอกคินตรงๆ ว่าอยู่ห้อง เบญเบื่อคินแล้วหรือไง” การที่ไม่เห็นใครอยู่ในห้องของเบญญาไม่ได้ทำให้ภาคินเบาใจเลย เพราะตรงทางเข้าห้องมีรองเท้าของใครบางคนอยู่ เขาต้องหาคำตอบให้ได้

          “เบญก็อยากบอกคินไปตามตรงนั่นแหละ แต่ถ้าบอกไปแบบนั้น คินคงเหนื่อยขับรถมาหา แล้วคินมาเพราะอะไร ไม่ไว้ใจเบญหรือไงถึงได้ทำแบบนี้” เบญญาเม้มปากน้ำเสียงงอนๆ

          ถ้าเป็นทุกคราวที่ผิดใจกัน ภาคินจะเข้ามากอดเบญญาแล้วออดอ้อนให้อีกฝ่ายยอมพูดกันเหมือนเดิม แต่คราวนี้ ภาคินกลับนั่งลงที่ปลายเตียงแล้วมองเบญญา เธอคงแปลกใจเหมือนกันที่เขาไม่ทำอย่างเคย

          “ตอบมาสิ คินไม่ไว้ใจเบญใช่ไหม”

          “นั่นรองเท้าของใคร” ภาคินชี้ไปที่ชั้นวาง

          เบญญาปลายตามองไม่ได้ตื่นเต้นหรือตกใจอะไร “ของน้องชายเบญเอง วันก่อนมันเอาของฝากจากญี่ปุ่นมาให้ แล้วมันรองเท้ากัด เบญเลยให้ใส่รองเท้าแตะของคินกลับไปน่ะ”

          ภาคินฟังแล้วใจเบาขึ้นเมื่อคิดว่ามันอาจจะไม่มีอะไรจริงๆ มีนาคงจำผิดคน แต่ทำไมเบญญาต้องโกหก สิ่งนี้ทำให้เขายังติดใจสงสัย

          “ทำไมไม่บอกคินว่าอยู่ห้องล่ะเบญ ทำแบบนี้ทำไม คินไม่เข้าใจ”

          เบญญาเข้ามากอดภาคินแล้วอิงหน้าซบกับไหล่ ก่อนจะเม้มปากเหมือนขัดใจ

          “จำไม่ได้หรือไง คินบอกเบญว่าจะไปเที่ยวกัน แต่คินกลับขอเลื่อน เบญก็งอนก็เสียใจเป็นนะ”

          งานของภาคินต้องทำเต็มเวลา ในขณะที่งานของเบญญาไม่แน่นอนเรื่องเวลา ทำให้เขากับเธอมีปัญหาเรื่องเวลาไม่ตรงกันอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเหตุผลของเธอเป็นเพราะเหตุนี้ ภาคินก็อยากปิดตาข้างหนึ่งแล้วเชื่อ

          “เข้าใจแล้วใช่ไหมคิน คราวนี้เบญยอมง้อเพราะไม่อยากให้คินเข้าใจผิดไปใหญ่โตหรอกนะ”

          เบญญากอดภาคินแล้วหอมแก้มอย่างเอาใจ ชายหนุ่มก็ไม่อยากจะติดใจสงสัยอะไรอีก แม้จะเชื่อว่ามีนาไม่มีทางบอกเขาเรื่องของเบญญา หากไม่มั่นใจแล้วจริงๆ

          “ดูสิเนี่ย ผมเบญยุ่งหมดแล้ว เดี๋ยวเบญไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

          ภาคินพยักหน้าพลางมองเบญญาที่เข้าห้องน้ำไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ติดมือไปด้วย ชายหนุ่มพยายามบอกตัวเองว่าคงไม่มีอะไรหรอก ทว่าในวินาทีนั้นเองที่เขาก็ได้ยินเสียงกดรหัสประตูแม้จะเบาก็ตาม ก่อนจะตามมาด้วยเสียงติ๊ด แล้วประตูก็เปิดออกพร้อมกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องแล้วหยิบสลิปเปอร์มาใส่อย่างกับมาที่นี่บ่อยๆ

          ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมๆ กับเบญญาวิ่งมาหน้าตาตื่น แต่ไม่ทันแล้วตอนนี้ภาคินออกไปยืนประจันหน้ากับพิธยา เบญญาหน้าเสียนี่เองเหตุผลที่เธอโทรหาพิธยาแล้วเขาไม่รับ เพราะเขามาถึงห้องแล้วนั่นเอง แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ามีนาก็เข้ามาในห้องพร้อมกับพี่ชายของภาคิน แม้เธอจะไม่เคยพบเขมินท์มาก่อน แต่ก็เคยเห็นเขาในงานที่ไปเดินแบบ

          “คุณเป็นใคร” พิธยาถามน้ำเสียงไม่พอใจ

          “ผมต่างหากที่ต้องถามว่าคุณเป็นใคร” ภาคินไม่พอใจยิ่งกว่า

          มีนาวิ่งเข้าไปจับแขนของภาคินไว้ก่อนไม่อยากให้มีเรื่องชกต่อย เขมินท์ตามมาขนาบข้างน้องชายไว้ เขาเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าโดยที่ไม่ต้องมีใครมาอธิบาย แฟนตัวจริงกับแฟนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังคบซ้อนได้มาเจอกันแล้ว

          เบญญาเข้ามายืนขวางพิธยาไว้ แล้วเป็นฝ่ายที่มองภาคินเหมือนคนที่รู้ตัวว่าผิดเต็มประตู มีนาคิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบลงง่ายๆ แต่เปล่าเลย เมื่อเบญญาเอ่ยขึ้นมาว่า

          “มันไม่ใช่อย่างที่คินเข้าใจผิดหรอกนะ” เบญญาใจเย็นพอที่จะเอาตัวรอดพลางมองไปที่มีนา “เธอใช่ไหมที่ทำให้คินเข้าใจผิดทั้งหมด”

          “อ้าว เคลียร์ทีละเรื่องไหมเบญ” มีนากอดอกอยากลากไส้เบญญาจะแย่ ถึงขนาดนี้จะมาเข้าใจผิดอะไร แถมยังมาโบ้ยเธออีก

          “แล้วผู้ชายคนนี้เข้ามาในห้องของเราสองคนได้ยังไงล่ะเบญ” ภาคินไม่คิดว่าตัวเองจะใจเย็นลงกว่าที่คิด พอพบสิ่งที่คิดว่ากลัวจะเกิดขึ้นจริงๆ มันกลับมีหลายอารมณ์ จนเขาต้องกำมือไว้แน่นๆ เพื่อเรียกให้ตัวเองมีสติ

          “พี่พิธเป็นเพื่อนเบญ”

          พิธยาปล่อยให้เบญญาเป็นคนสางปัญหาเพราะที่เบญญาพูดมาไม่ได้ผิดสักนิด เขาเป็นเพื่อนกับเธอ เพียงแต่ว่านิยามของคำว่าเพื่อนระหว่างเราสองคนค่อนข้างกว้างพอๆ กับเตียงนั่นล่ะ

          “คุณล่ะเป็นเพื่อนเบญจริงๆ หรือเปล่า” ภาคินถาม

          “ใช่ เราสองคนเป็นเพื่อนกัน”

          ภาคินรู้สึกเหมือนถูกปั่นหัว เขาอยากเดินจากไป แต่ว่าความรักที่เขามีต่อเบญญามาเกือบปี ทำให้เขายืนอยู่ตรงนี้ด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจ สองคนนี้บอกว่าเป็นเพื่อน แต่เขาไม่รู้สึกว่ามันคือเพื่อนทั่วไปอย่างเขากับมีนา

 

ภาคินจะหลุดพ้นจากเบญญาได้มั้ย ฮึๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.