บทที่ 1...2/3

เพราะคุณคือรักแรก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 1...2/3

มีนาไม่คิดว่าหลังจากผ่านไปตลอดทั้งสัปดาห์ จนกระทั่งมาถึงคลาสวิชาออกแบบเชิงธุรกิจอีกครั้ง การเดินเข้าไปในห้องจะทำให้เธอประหม่าหน่อยๆ ตามองไปที่หน้าห้องซึ่งเขมินท์มาถึงแล้ว เธอควรเข้าไปทักทายเขาไหมหรือว่ารีบเดินไปหาที่นั่ง ชายหนุ่มหันมาพอดี หญิงสาวรีบยกมือไหว้พลางยิ้มก่อนจะเดินเร็วๆ ไปยังเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ มีนาถอนใจโล่งอกเมื่อได้ที่นั่งแล้วทำเหมือนยุ่งๆ ด้วยการหยิบอุปกรณ์ในการเรียนออกมา แต่แชทเจ้ากรรมก็ดันดังขึ้นตอนเริ่มเรียนพอดี เขมินท์มองมาที่มีนาซึ่งอยากมุดลงใต้โต๊ะใจจะขาด

‘ตอนเที่ยงไปรับนะ’

 ข้อความจากภาคิน วันนี้เขามีเรียนเช้า บ่ายว่าง แต่มีนามีเรียนบ่าย

‘ไปไหน นานหรือเปล่า มีนมีเรียนบ่าย’ มีนารีบส่งข้อความ แล้วตั้งใจเรียน การโดนอาจารย์พิเศษเตือนเป็นครั้งที่ 2 คงไม่ดีแน่ๆ

‘ไปกินข้าว จริงๆ ก็ไม้กันหมา รถไฟอาจชนกัน’

มีนาอ่านแล้วถอนใจพ่อคนเสน่ห์แรง พอเขมินท์ก้มหน้า มีนาก็รีบพิมพ์แล้วส่งข้อความ

‘ได้ อย่ามาช้า’

เขมินท์เงยหน้าพอดี มีนามองไปที่เขาพลางแอบถอนใจโล่งอกที่ไม่ถูกจับได้ ให้ตายเถอะ นักศึกษาเต็มห้อง แต่เธอรู้สึกเหมือนเขมินท์กำลังจับตามองอยู่ตลอดเวลา นี่แหละการแอบทำอย่างอื่นในเวลาเรียนมันชวนระทึกแบบนี้เอง

พอออดหมดเวลาดังปุ๊บ มีนาพร้อมพุ่งออกไปจากห้องตั้งแต่ 5 นาทีก่อนแทบเป็นคนแรกที่ลุกจากที่เก้าอี้ก็ว่าได้ เธอรีบเข้าไปในลิฟต์พอถึงชั้นล่างก็เดินแกมวิ่งไปที่ลานจอดรถซึ่งภาคินกำลังขับรถเข้ามาพอดี เธอเดินไปหาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทันที

“นั่นใช่พี่เขมหรือเปล่าน่ะมีน” ภาคินถามมีนาพลางชี้ไปยังใครคนหนึ่งที่กำลังเดินมาทางนี้เหมือนกัน

“ไม่ใช่หรอกมั้ง” มันไกล มีนาก็ไม่แน่ใจ “ รีบไปเถอะ เดี๋ยวมีนเข้าเรียนตอนบ่ายไม่ทัน”

ภาคินมองซ้ำยิ่งแน่ใจว่าน่าจะใช่ วันก่อนมีนาบอกเขาว่าเขมินท์มีสอนพิเศษที่นี่ทั้งที่บริษัทงานยุ่งจะตาย ความไม่ชอบพี่ชายของเขายังมีอยู่ทำให้ไม่อยากลงไปทักทาย แค่ต้องมาพบกันทุกวันอาทิตย์เพื่อกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาตามความต้องการของปู่เจตน์ก็มากพอแล้ว เขมินท์ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่เป็นเขาเองที่เบื่อและเกลียดการเปรียบเทียบจนไม่อยากมีพี่ชายที่เก่งแบบนั้นต่างหาก

 

ทีมอาสาของมหา’ลัยมารวมตัวกันที่หน้าตึกกิจกรรม โดยการไปในครั้งนี้มีสมาชิกทั้งหมด 13 คน และมีอาจารย์ร่วมเดินทางไปด้วย 3 คน มีนาลงจากรถเมล์พร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่สะพายใส่หลังมา มืออีกข้างหิ้วเสบียงมาถุงใหญ่ เพื่อนๆ พากันโบกมือให้ วารีกับอแมนดาก็ไปด้วยกัน ผู้ชายกำลังช่วยกันขนอุปกรณ์การเรียนและของสำหรับงานช่างขึ้นไปบนรถทัวร์แอร์ธรรมชาติที่เช่ามา

ส่วนผู้หญิงขนกระเป๋าของเพื่อนๆ ไปที่ส่วนเก็บสัมภาระของรถ อาจารย์มาถึงพอดี มีนาเงยหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ แต่กลับแปลกใจไม่คิดว่านอกจากอาจารย์วิชัย อาจารย์ภัทรีแล้วยังมีเขมินท์ไปค่ายอาสาในคราวนี้ด้วย

“มากันครบทุกคนหรือยังครับ” อาจารย์วิชัยถามขึ้นพร้อมกับเก็บกระเป๋าตัวเอง

“มาครบแล้วค่ะอาจารย์” วารีตอบเพราะเป็นคนที่เช็ครายชื่อเพื่อนๆ

มีนายิ้มให้เขมินท์แทนการทักทาย การที่ไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เธอยังเด็กย่อมเป็นเรื่องดี เขมินท์มองมาไม่ได้ยิ้มตอบอะไร คนยิ้มให้ก่อนเลยเสไปทำอย่างอื่น

เมื่อนำของทั้งหมดขึ้นรถหมดแล้ว ทีมงานอาสาจึงขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรีทันที มีนาแจกน้ำกับขนมไทยที่เตรียมมาให้เพื่อนๆ พวกหนุ่มๆส่งเสียงเฮทำหน้าปลื้มเพราะรู้จักกันมานาน ไปงานค่ายอาสากันหลายครั้ง จนอีกไม่กี่เดือนจะเรียนจบพร้อมกันอยู่แล้ว

“ขนมค่ะอาจารย์” มีนาบอกอาจารย์ทั้ง 3 คน โดยอาจารย์วิชัยกับเขมินท์นั่งด้วยกัน ส่วนอาจารย์ภัทรีนั่งเบาะอีกฝั่งคนเดียว

“ขอบใจ”  เขมินท์รับขนมมา 3 ห่อแล้วส่งให้อาจารย์ด้วยกัน

มีนาค้อมหลังแล้วเดินผ่านไป มันน่าโมโหตัวเองที่แค่ได้สบตาเขมินท์เพียงเสี้ยววินาที หัวใจของเธอก็ดันเต้นแรงขึ้นมา ทั้งที่คิดว่าความชอบมันจะหายไปเมื่อไม่ได้พบหน้ากันนานพอ แล้วนี่อะไร เจอปุ๊บ ใจเต้นแรงปั๊บ ทำไมหัวใจของเธอมันอ่อนไหวง่ายแบบนี้

 

 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อมาถึงราชบุรี แต่ใช้เวลาอีกเกือบ  2 ชั่วโมงเพื่อไปยังโรงเรียนที่ห่างไกลจากตัวเมือง ซึ่งหน้าโรงเรียนที่ทำจากไม้ยกพื้นสูงมีปูน ทราย กระเบื้องและวัสดุก่อสร้างอื่นๆ มากองไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ทางทีมอาสาได้ประสานงานกับร้านขายวัสดุก่อสร้างให้นำของที่ต้องใช้มาไว้ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนเงินสำหรับใช้ซื้อก็มาจากการขายเสื้อและการบริจาคจากเพื่อนๆ ในมหา’ลัยนั่นเอง แต่ที่มีนาเพิ่งจะรู้ก็คือเขมินท์ส่งคนจากบริษัท J.A.T Value จำกัด (มหาชน)  เดินทางตามมาอีก 4 คนด้วย

“สุดๆ หล่อ รวย เก่ง แถมยังใจดี” วารีปลื้มจนเก็บอาการไม่อยู่

“นั่นสิ” อแมนดายิ้มหวานไปทางกลุ่มอาจารย์ที่ลงไปคุยกับครูใหญ่ของโรงเรียนเล็กๆ ในชุมชนแห่งนี้

มีนาพยักหน้าเห็นด้วย เธอรู้ว่าเขมินท์เป็นคนใจดี การที่เขาทำหน้าเหมือนรู้ทันคนโลกจนเบื่อที่จะออกมาพูดอะไร แต่เนื้อแท้แล้วเขาสนใจใยดีคนรอบตัวมาตลอด พอๆ เธอจะมาปลื้มพี่ชายของเพื่อนแบบนี้ไม่ได้

งานทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือ ก่อสร้าง พวกผู้ชายและเขมินท์กับคนของเขาจะรับผิดชอบในส่วนนี้ ส่วนที่สอง งานจัดของต่างๆ ที่ได้รับบริจาคและซื้อมาซึ่งมีทั้งหนังสือ เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬาต่างๆ อาจารย์วิชัย มีนาและเพื่อนๆ จะรับผิดชอบเอง ในส่วนที่สามคือ เสบียง ทีมอาสาผู้หญิงสองคนกับอาจารย์ภัทรีจะลงมือเข้าครัว ซึ่งทางโรงเรียนมีห้องครัว และโรงอาหารอยู่แล้ว ทำให้สะดวกสำหรับทีมอาสา

“ลังนี้เป็นถุงมือสำหรับช่างนี่นา” มีนาเอ่ยเมื่อเปิดลังเพื่อเอาของออกมา

“ถ้างั้นเอาไปให้ทางฝั่งคุณเขมินท์ทีสิ ป่านนี้หาให้ควั่กแล้วมั้ง” อาจารย์วิชัยบอกมีนา ส่วนตัวเขาเองก็ช่วยจัดหนังสือใส่ชั้น

มีนามองหาวารี เธอเห็นเพื่อนกำลังง่วนกับการนำตุ๊กตาไปใส่ในตะกร้าหลายใบ ส่วนอแมนดาไปห้องน้ำ หญิงสาวเดินลงมาจากโรงเรียนเพื่อไปยังจุดก่อสร้างที่ลงเสาเรียบร้อยแล้วเพราะทางครูใหญ่ได้ช่วยกันขุดหลุมรอไว้ก่อนหน้านี้ โครงสร้างทั้งหมดเป็นเหล็กทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอปูนแห้ง พวกผู้ชายกำลังช่วยกันเชื่อมเหล็กกันอย่างแข็งขัน ส่วนคนของเขมินท์กำลังขึ้นบันไดอลูมิเนียมเพื่อเชื่อมเหล็กสำหรับทำโครงหลังคา

เขมินท์เห็นมีนาแล้วจึงเปลี่ยนใจยังไม่ขึ้นบันไดไปช่วยงานอีกแรง มีนายิ้มนำไปก่อนเพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะถูกดุอะไรอีกไหม

“มีลังของทีมช่างติดไปค่ะ เป็นพวกถุงมือแล้วก็หมวกกันแดด มีนเลยเอามาให้”

เขมินท์พยักหน้า “ขอบใจนะ”

มีนาเม้มปากไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่ใจเต้นแรงแบบน่าทุบอกตัวเอง

“วันก่อนทำไมถึงรีบแบบนั้น หลบหน้าพี่หรือไง” เขมินท์ถาม

วันก่อน...วันนั้นสินะ ถ้างั้นก็เป็นเขาจริงๆ น่ะสิที่เธอเห็นจากไกลๆ แต่ทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น เธออยากมองเขาใกล้ๆ จะตาย

“มีนไม่ได้หลบหน้าค่ะ แค่รีบไปหาคิน” มีนาตอบไม่ทันคิดอะไร

“เรียนจบแล้วจะไปทำงานที่ไหน ถ้ายังไงไปทำงานที่บริษัทของพี่ได้นะ”

เขมินท์หวังดีและมีนาก็อยากทำแบบนั้น แต่เธอไม่ชอบการมีเส้นสาย หากจะได้งานควรมาจากความสามารถของตัวเอง แต่ถ้าหลายเดือนผ่านไปแล้วเธอยังหางานไม่ได้ ทางเลือกนี้ก็น่าเดินไปไม่น้อย

“ขอบคุณค่ะ เอาไว้ตอนนั้นค่อยคิดดีกว่า มีนไปก่อนนะคะ”

อย่าหวังว่าจะมีคำว่า...เดี๋ยวก่อน เขมินท์ไม่พูดอะไรและสวมถุงมือ ใส่หมวก ก่อนจะแจกจ่ายอุปกรณ์ให้คนอื่นๆ แล้วตัวเองขึ้นบันไดไป มีนาหันหน้าไปมองแล้วถอนใจ ผู้ชายที่เป็นจูบแรกของเธอช่างเหมือนกำแพง หากที่เธออ่านผ่านๆ มาว่าการชอบใครสักคน แล้วอีกฝ่ายชอบกลับมา ทุกอย่างจะง่ายเหมือนจูนคลื่นวิทยุที่มันตรงกัน แต่สำหรับเธอแล้ว การที่มันยากเพราะเขมินท์ไม่เคยชอบเธอแค่นั้นเอง ศาลาคนเศร้ายังมีที่ว่างไหมนะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.