STARCIN ภาคที่ 3 Yan Festival ตอนที่ 6 สักแต่ว่า

STARCIN อุบัติมหาสงครามสตาร์คิน

-A A +A

STARCIN ภาคที่ 3 Yan Festival ตอนที่ 6 สักแต่ว่า

"คุณยากิคะ ? " เสียงเล็กแหลมใส ๆ ฟังแล้วน่ารำคาญแปลก ๆ เธอวิ่งไปรอบ ๆ ตัวซึฮากิด้วยท่าทางกวนประสาทยิ้มเยาะมองหน้า

"ถ้าจะแค่เรียกมาล้อชื่อล่ะก็" ซึฮากิจับหัวของเด็กผู้หญิงคนนั้น แรงจับของเขามากพอที่จะทำให้เธออยู่กับที่ได้แต่ก็ดูเหมือนจะแรงจนทำให้เธอร้องโอ๊ยออกมา

"แหม่ ๆ ก็แค่หยอกนิดหน่อยไม่เห็นต้องทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้นเลยก็ได้" เพียงชั่วพริบตาเด็กผู้หญิงในกำมือของซึฮากิก็หายไปแต่กลับปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าของเขาแทน

"เฮ้อ..." ซึฮากินั่งลงกับพื้นหญ้าสีเขียวขจีโดยที่รอบ ๆ มีเพียงทุ่งหญ้าไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับว่าโลกแห่งนี้มีเพียงแต่หญ้าเท่านั้น

"สีหน้าดูไม่ดีเอาซะเลยนะกิจัง อาหารเป็นพิษหรือไง...หรือว่าจะมีความรัก- ไม่สิ ๆ คงไม่พ้นเรื่องนาธาหรอกใช่ไหม ? " เสียงแหลม ๆ กำลังถามซอกแซกทำเอารำคาญหูไปเลยแต่ซึฮากิก็ยังคงสงบเสงี่ยมไว้

"ถ้านายรับเจ้านี้ไว้การจะช่วยนาธาหรือใครก็ตามสามารถทำได้อย่างง่ายดายเลยนะ ไม่เชื่อก็ลองรับมันไปดูก็ได้" เธอเดินกระโดดโลดเต้นไปมาก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าของซึฮากิค่อย ๆ ยื่นมือเล็ก ๆ คู่นั้นที่เหมือนกำลังกำบางสิ่งบางอย่างอยู่ให้กับเขา

"แม่สอนฉันไว้ว่าไม่ควรรับของจากคนแปลกหน้า" ซึฮากิยิ้มเยาะมองหน้ากลับนั่นทำให้เด็กผู้หญิงตรงหน้าถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

"ฮ่าฮ่าฮ่าในที่สุดนายก็เปลี่ยนสีหน้ากับเขาบ้างแล้วสินะ ถึงจะแค่นิดเดียวแต่ก็คุ้มจริง ๆ " เสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทุกทิศทางเหมือนมันกำลังดังก้องอยู่ภายในหัวของซึฮากิเอง

"ไม่เอาก็ไม่เป็นไรแต่ฉันหวังว่าเดอะที่ให้ไปจะได้ใช้ประโยชน์บ้าง ทั้งที่มันก็ปรากฏออกมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ใช้สักที"

คงหมายถึง The body สินะจริงอยู่ที่เราเห็นมันมานานมากแล้วแต่ก็ไม่รู้วิธีใช้ไม่รู้แม้กระทั่งความสามารถด้วยซ้ำ 

"ฟังดูแล้วนายยังใช้มันไม่ได้สินะ...งั้นฉันจะใบ้ให้ก็ได้" 

อ่านใจได้งั้นเหรอแต่ก็คงไม่แปลกนักหรอก

"มันเป็นสกิลประเภทติดตัวไม่จำเป็นต้องเรียกใช้ก็ได้ ฉันบอกใบ้ให้แค่นี้แหละไม่อยากให้มันง่ายเกินไปเดี๋ยวไม่สนุกเอา" 

สกิลติดตัวน่าจะเหมือนพวกสกิลที่ทำให้เรามองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าคนอื่น ถึงแม้มันจะสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยแต่ก่อนหน้าที่มันจะพัฒนาก็เป็นแบบติดตัวธรรมดามาก่อน จะว่าไปสกิลหลาย ๆ สกิลมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ สกิลจากธาตุลมนั้นเราสามารถใช้ได้หลากหลายโดยไม่ต้องพึ่งการร่ายเลยแต่กลับกันสกิลจากเวทมนตร์ดำดันใช้ได้ยากมาก ๆ หากไม่ร่ายอาจจะเป็นเพราะความซับซ้อนหรือเปล่านะ ?

"อะแฮ่ม คิดอะไรเพลินเลยนะกิจัง" หญิงสาวตรงหน้ายืนกอดอกทำหน้าบึ้งหน้าบูดไม่พอใจมองจากข้างบนลงมาที่ซึฮากิส่งสายตาอันดุร้ายออกมา

"ฉันไม่อยากจะให้สิทธิพิเศษกับนายมากเกินควรหรอกนะ ไม่งั้นมันจะไม่แฟร์กับคนอื่น ๆ แต่ยังไงก็เถอะฉันจะบอกเรื่องบางอย่างให้ฟังแทนละกัน" หญิงสาวคนนั้นทิ้งตัวนั่งลงตรงหน้าของซึฮากิ เมื่อเขาเงยหน้ามองขึ้นไปเธอดูดุร้ายแต่พออยู่ในระดับสายตาเธอก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่ว ๆ ไป

"นายคงจะเคยอ่านในหนังสือมาแล้วกับเรื่องสงบมานาและการประทับเวท ทั้งสองสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์มาก ๆ กับกิจังและพวกของนาย อย่างไรก็ตามแม้ฉันจะเฝ้าดูพวกนายมานานแต่ก็ไม่เห็นใครประทับเวทหรือสงบมานากันเลยสักครั้ง" เธอยื่นมือที่เต็มไปด้วยมานาอันบริสุทธิ์ก่อนจะเปลี่ยนมันเป็นดาบสีชาดที่มีเพลิงลุกไหม้อยู่ตลอด ไม่นานเธอก็ย้อนมานาจากดาบกลับไปเป็นมานากึ่ง ๆ ที่กำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นดาบเพลิงและค่อย ๆ บีบมันให้เล็กลง ไม่นานนักซึฮากิก็ได้เห็นการสงบมานาจริง ๆ ตรงหน้าเขาจ้องมันตาไม่กะพริบ

"นี่แหละการสงบมานา" กลุ่มก้อนมานาเล็ก ๆ ที่ลอยติดอยู่กับมือของเธอขณะที่กำลังร่ายเวทอันใหม่โดยที่ไม่ทำให้เวทเก่าถูกกระตุ้นขึ้นมา

"เห็นไหมล่ะถ้านายทำมันได้คล่องแคล่วล่ะก็ การทำภารกิจหรือเอาชีวิตรอดต่อไปนี้ก็จะง่ายขึ้นเยอะเลย" หญิงสาวตัวน้อยกางมือออกไปข้าง ๆ พร้อมกับร่ายเวทบอลน้ำขึ้นมาและถ่ายมานากลับเข้าไปที่ดาบเพลิงก่อนหน้านี้จนทำให้มันกลับมาเป็นดาบสีชาดอีกครั้ง

"ไปเลย !" เธอปล่อยเวทมนตร์ทั้งสองออกไปพร้อมกันแทนที่มันจะขัดกันเองแต่เธอกลับเล็งและควบคุมให้ทั้งเวทมนตร์นั้นไม่ชนกันได้ดีมากและไม่นานมันก็ตกลงพื้นฝั่งที่เป็นบอลน้ำทันทีที่มันสัมผัสกับพื้นหญ้าทันใดนั้นพื้นหญ้าในรัศมีสิบเมตรก็กลายเป็นน้ำแข็ง เช่นเดียวกับดาบสีชาดที่ปักลงพื้นเพลิงสูงถึงสิบเมตรลุกขึ้นเผาหญ้าหายไปหมดเลย

"ส่วนการประทับเวทก็ต้องทำสงบมานาได้ก่อนจากนั้นก็เอามันไปใส่ในอุปกรณ์เวทด้วยวิธีไหนก็ได้เพียงแต่อย่าไปกระตุ้นมานาซี้ซั้วละกัน" เธอร่ายเวทแบบเมื่อกี้ทั้งสองเวทและสงบมานาไว้เช่นกันเพียงพริบตาก็มีถุงมือแปลก ๆ โผล่มาที่มือของเด็กสาวตรงหน้า เธอค่อย ๆ ประทับเวทที่ผ่านการสงบมานาแล้วลงไปในถุงมือข้างนั้นและทันทีที่กระตุ้นมานาเข้าไปเวทเดิมก็สร้างขึ้นมาเองโดยไม่ต้องร่ายอะไรทั้งนั้น

"ครั้งนี้ก็คงมีแค่นี้แหละฉันจะส่งนายกลับไปละ"

"นึกจะเรียกก็เรียกนึกจะไล่ก็ไล่ให้ตายสิ" เสียงอันเอื่อยเฉื่อยของเขาแสดงให้เห็นถึงความเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน

"กิได้เรื่องอะไรบ้างไหม ?" เสียงที่คุ้นเคยกับใบหน้าที่แปลกไปเขานั่งอยู่ข้าง ๆ ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งท่ามกลางแสงสีเสียงและบรรยากาศครึกครื้น

"ที่รู้ก็แค่สถานที่ที่ขังนักโทษไว้แต่ข้อมูลอย่างอื่นไม่มีเลย สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คือ จุดที่นาธาอยู่ จำนวนทหารและเลเวลโดยเฉลี่ยหากไร้ข้อมูลในจุดนี้ก็ยากที่จะช่วยออกมา"

"แต่จะว่าไปนายใช้เปลี่ยนหน้ากับคนอื่น ๆ แบบนี้ได้เราอาจจะลักลอบหรือแทรกแซงเข้าไปหาข้อมูลโดยตรงเลยก็ได้นะ" 

"นั้นก็เป็นความคิดที่ดีนะเซนแต่คนนั้นคงไม่ใช่นายแน่ ๆ" พวกเขาทั้งคู่ลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่มีคนมานั่งโต๊ะข้าง ๆ หลังจากจ่ายเงินแล้วทั้งคู่ก็รีบเดินออกจากร้านไป

"คนที่ฉันจะพาไปด้วยก็คือสเตล่า เธอสามารถใช้ตรวจสอบได้แถมการเคลื่อนไหวและการพรางตัวของสเตล่าก็ดีมากเหมือนจะฝึกมาอย่างดี"

"เอาแบบนั้นก็ได้ ว่าแต่สองคนนั้นเขาไปทำอะไรอยู่ที่ไหนนานขนาดนี้เนี่ย ?" เซนพยายามกวาดสายตามองดูรอบ ๆ 

สถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งสวยงาม เสื้อผ้าหลากสีตั้งเรียงกันเป็นจำนวนมากหรือแม้แต่ผ้าธรรมดาที่ยังไม่ได้ตัดเย็บก็มีขาย

"พวกคุณทั้งสองคนต้องการเสื้อผ้าแบบไหนครับ ? ถ้าเลือกไม่ได้ให้ผมช่วยแนะนำก็ได้นะครับ" พนักงานหนุ่มคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาหญิงสาวทั้งสองที่ยืนหันซ้ายหันขวาทำตัวไม่ถูก  พนักงานคนนั้นก้มโค้งเล็กน้อยพูดจาสุภาพนุ่มนวลน่าฟังพวกเธอทั้งคู่ก็โค้งตัวเล็กน้อยเช่นกันเหมือนกับเกรงใจพนักงานคนนั้น

"ไม่เป็นไรค่ะพวกเราจะเดินดูเอง คุณไปบริการลูกค้าคนอื่นได้เลยค่ะ" หญิงสาวผมดกดำมีกระที่ใบหน้ากับผิวกายที่ไหม้เพราะแดดเป็นรอยตามจุดที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า กับสาวผมเงินสายตาดุดันคมกริบเมื่อมองก็รู้สึกราวกับว่าถูกมีดจริง ๆ แทงเข้าไปในทรวงอก

"เฮ้ย ๆ " เสียงตะโกนดังมาจากด้านหน้าร้านดังลั่นเข้ามาจนทำให้ลูกค้าตกใจไปตาม ๆ กัน

"ค่าคุ้มครองเมื่อไหร่จะจ่ายฮะ ! จงสำนึกซะถ้าไม่มีพวกเราอยู่พวกบ้านนอกอย่างแกจะได้เปิดร้านในเมืองนี้เหรอ ! " ชายฉกรรจ์สองคนร่างกายกำยำแน่นชุดที่ใส่ใครเห็นก็คงกลัวหัวหดกับใบหน้าที่มีหนวดเฟิ้มดุดัน

เมื่อมองผ่านพวกเขาไปก็จะเห็นหญิงสาวตัวสูงหุ่นนาฬิกาทรายอย่างกับนางแบบมืออาชีพ ทุกถ่วงท่าการเดินก็ดูมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาของลูกค้าและชาวเมืองบริเวณนั้นได้หมดหรืออาจจะเพราะชุดที่เธอใส่มันสีฉูดฉาดสะดุดตากี่เพ้าสีแดงสดเหมือนดอกกุหลาบที่พึ่งเด็ดออกจากต้นไม่ใช่เพียงแค่สีชุดแต่แววตาของเธอก็สามารถทำให้คนที่จ้องต้องสยบลงได้

"ร้านของคุณเลยเวลาจ่ายค่าคุ้มครองมาสี่วันแล้ว เราก็อุตส่าห์ให้เวลาแต่ก็ยังไม่มาจ่ายสักที" เสียงอันนุ่มนวลชวนฟังแถมยังดูยั่วยวนน่าดึงดูดอีกต่างหาก เธอก้าวเท้านำหน้าชายฉกรรจ์ทั้งสองคนเดินเข้าประชิดตัวพนักงานคนนั้นช้า ๆ 

"ผมขอโทษจริง ๆ ครับคุณนาย ผมแทบจะไม่มีเวลาปลีกตัวออกไปจากร้านเลยแถมภรรยาของผมก็ล้มป่วยนอนติดเตียงอยู่ด้วย...ขอแค่รอภรรยาผมหายก่อนได้ไหมครับ" เสียงสั่นสะอื้นเหมือนกับจะร้องไห้ดูจากท่าทางแล้วใครเห็นก็คงจะกลัว ไม่แปลกใจนักด้วยเสียงดังหนักแน่นที่ตะโกนเข้ามาของชายฉกรรจ์ทั้งสองแค่พวกเขามายืนจ้องก็คงไม่กล้าแม้แต่สบตาแล้ว

"กฎก็ต้องเป็นกฎฉันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ไง เพราะฉะนั้นรีบจ่ายมาได้แล้ว" สาวโฉมงามนางนั้นขยับกายเข้าประชิดเอื้อมมือไปสัมผัสกับคางของชายคนนั้นก่อนจะเลื่อนนิ้วขึ้นเสยไปที่ปากพร้อมทั้งจ้องตาและใช้น้ำเสียงหว่านล้อม

"ค-ครับ" เขารีบร้อนล้วงมือลงไปกระเป๋าหน้าที่ติดอยู่กับเสื้อควักเหรียญเงินออกมาหลายเหรียญ

"หืม...สามสี่ หกสิบเหรียญเงินสินะยังขาดในส่วนของที่เกินเวลาจ่ายอยู่วันละห้าเหรียญเงิน สี่วันก็ยี่สิบเหรียญเงินรีบจ่ายมาซะแล้วฉันก็จะไป"

"เพิ่มยี่สิบเหรียญเลยเหรอครับทำไมถึงมากขนาดนั้น"

"เพราะกฎที่ตั้งไว้เพื่อให้มีระเบียบมากที่สุด การที่มีคนจ่ายช้าก็ต้องถูกปรับหรือทำโทษถูกไหม ?"

นี่เขาไม่ใช่พนักงานหรอกเหรอเห็นมาต้อนรับอย่างดีไอ้เราก็นึกว่าเป็นพนักงาน หญิงสาวผิวแทนยืนมองอยู่ไม่ห่างนักเธอเลือกเสื้อผ้าต่อไปโดยไม่สนไม่กลัวพวกเขาเลยสักนิด

"เฮ้ยมองไรวะแม่หนู !" เสียงตะคอกดังลั่นมาทางที่หญิงสาวทั้งสองขณะที่ชายคนนั้นเดินดุ่ม ๆ เข้ามาใกล้

"..." บรรยากาศอันเงียบเฉียบและหนาวเย็นไปยันขั้วกระดูกถ้าเป็นชาวบ้านหรือคนทั่วไปก็คงจะรู้สึกแบบนี้ 

"หืมเธอคงเป็นนักเดินทางสินะไม่เคยเห็นหน้าแถวนี้มาก่อนเลย" ลมหายใจอุ่น ๆ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยเข้าจมูกเหม็นจนต้องเอามือมาปิดไว้

"ปากเหม็นขนาดนี้ยังจะกล้าพูดใกล้ ๆ อีกเหรอ" 

"หือ ? เป็นผู้หญิงที่ใจกล้าจริง ๆ เลยนะ" เขายิ้มแสยะยื่นหน้าของตัวเองพยายามจะมองดูใบหน้าของสาวผิวแทนคนนั้น มือขวาของเขากำลังลูบไล้ตั้งแต่ด้านหลังไล่ไปยันคอของเธอแต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับหรือท่าทีอะไรจากหญิงสาวตรงหน้าเลยสักนิด

"เดี๋ยวก่อน" หญิงสาวโฉมงามพูดแทรกเสียก่อนจะเห็นหน้าเต็ม ๆ 

"ออกมาให้ห่างจากเธอคนนั้นเลยเดี๋ยวนายจะเจ็บตัวเอาเปล่า ๆ" ท่ากอดอกด้วยความเย่อหยิ่งแต่ก็ยังคงสง่างามเธอมองด้วยหางตาก่อนจะหันกลับไปคุยกับเจ้าของร้านเหมือนเดิม

"เหอะ นายหญิงถึงขั้นพูดแบบนี้ฉันจะปล่อยไปก็ได้" ถึงจะไม่เห็นหน้าก็เถอะแต่รูปร่างก็ใช้ได้เลยแถมผิวแบบนั้นยิ่งชอบไปใหญ่ คนข้าง ๆ ก็สวยอยู่หรอกแต่ไม่ใช่แนวเอาซะเลย

"ว่าไงที่เหลือยี่สิบเหรียญรีบ ๆ จ่ายมาได้แล้ว" 

"เอ่อ...ผมขอเวลาอีกได้ไหมครับ พอดีพึ่งซื้อของเข้าร้านใหม่เลยไม่มีเงินพอที่จะจ่ายแต่ถ้าอีกสักวันสองวันผมได้เงินทุนคืนแน่นอนครับ" เขาทำเพียงก้มหน้าก้มตาพยายามอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

"ก็ได้ ๆ แต่ก็จะถูกปรับเพิ่มไปอีกยิ่งจ่ายช้าก็ยิ่งทบไปเรื่อย ๆ อย่าลืมเรื่องนี้ล่ะ" สิ้นเสียงของนายหญิงพวกเขาก็หันกลับไปพร้อมกับเงินที่ได้

"นี่ค่ะชุดที่เราจะซื้อ" ไม่ทันที่พวกเขาจะก้าวเท้าออกจากร้านทั้งหญิงสาวผิวแทนและสาวผมเงินก็เดินมาพร้อมเสื้อผ้าทั้งชายหญิงหลายชุดเต็มไม้เต็มมือ

"ทั้งหมดนี่เลยเหรอครับ ?" เจ้าของร้านถามย้ำอีกครั้งด้วยใบหน้าที่กำลังยิ้มดีใจอยู่

"ใช่ค่ะเอาทั้งหมดนี่เลย" เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มแสนสดใสเหลือบตามองแผ่นหลังของนายหญิง 

"เดี๋ยวก่อนสิคะ" เธอพูดเสียงดังใส่พวกชายฉกรรจ์ที่กำลังจะเดินออกไปทำให้พวกมันหันกลับมาทันที เพียงแต่นายหญิงของพวกมันยิ้มอย่างมีเลศนัยตั้งใจให้พวกสาวผิวแทนเห็น

"มีอะไรอีกแม่หนู ?"ชายร่างกำยำพูดเสียงดังกลับ

"ทั้งหมดเท่าไหร่คะ ?" เธอเอ่ยปากถามขณะที่ยังมองพวกชายฉกรรจ์อยู่

"เอ่อ...ทั้งหมดเจ็ดสิบเหรียญเงินครับ" ทันทีที่พูดเสร็จเธอก็ยื่นเหรียญทองให้กับเจ้าของร้าน

"นี่ค่ะเงินทีนี้ก็สามารถจ่ายได้ครบแล้วสินะคะ" ใบหน้าที่ยิ้มยียวนกวนประสาทขณะที่กำลังจ่ายเงินยิ่งทำให้พวกชายฉกรรจ์โกรธขึ้นหน้าเดินดุ่ม ๆ กำหมัดแน่นตรงเข้ามาหา

"อย่า" เสียงเบา ๆ จากนายหญิงที่ยืนดูอยู่ที่เดิมไม่ขยับเท้าไปไหน

"อย่า" เสียงเริ่มดังขึ้นรู้สึกได้ถึงความโมโหขณะที่ชายทั้งสองคนถึงตัวสาวผิวแทน แทนที่จะกลัวแต่เธอกลับยืนยิ้มให้แทนส่วนเจ้าของร้านก็รีบถอยห่างออกไปด้วยความกลัวทันที

"ฉันบอกว่าอย่าไง !" เสียงตะโกนดังลั่นมาจากนายหญิงแต่มันก็ไม่ทันการเสียแล้วมือทั้งสองข้างจากทั้งสองคนกำลังพุ่งเข้าจับพวกเธอ

"หืม...คงไม่ทันแล้วสินะ" นายหญิงของพวกเขาได้แต่ดูชายฉกรรจ์ทั้งสองที่ถูกจับแขนแทนที่จะจับพวกสาว ๆ แม้แขนจะเล็กกว่าแต่แรงก็ไม่ได้น้อยหน้า พวกเขายื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่พักหนึ่งจนทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ รวมถึงชาวบ้านชาวเมืองพากันมามุงดูอยู่นอกร้านที่เป็นกระจกใส

"เกิดอะไรขึ้นน่ะ ?" ชายคนหนึ่งเอ่ยปากถามเมื่อเดินมาถึงจุดที่มุงดูกันอยู่

"ก็เหมือนเดิมพวกกลุ่มปกครองคิวเทมาเก็บเงินค่าคุ้มครองแต่ดูเหมือนจะมีเรื่องลงไม้ลงมือกันซะแล้ว" 

"ดูนั้นสินายหญิงเฟย์ก็อยู่ด้วยงั้นสองคนนั้นก็ต้องเป็นมือขวาและมือซ้ายของนายหญิงแน่ ๆ พวกเขาทั้งคู่มีเลเวลมากถึงห้าเชียวนะสาวน้อยสองคนนั้นเป็นใครกันถึงกล้าขัดขืนพวกเขา"

"ดูเหมือนพวกเธอคงไม่ใช่คนของเมืองนี้หรอกเพราะถ้าใช่คงไม่กล้าแม้แต่จะเถียงด้วยซ้ำ" ชาวบ้านเอาแต่มุงดูกันไม่มีใครคิดจะเรียกทหารยามเลยสักคนเอาแต่มองดูด้วยความสงสัยและสนุกด้วยกับบางคน

"เฮ้ยปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้เลย !" เสียงการก้าวเท้าดังสนั่นของชายตรงหน้าที่พยายามจะสลัดแขนให้หลุดจากสาวผิวแทน แรงของเขาทำให้พื้นร้านยุบลงไปพังเสียหายขณะเดียวกับที่เธอยอมปล่อยแขนทั้งสองข้างและถอยออกห่างในทันที

"หน๊อย ! นังตัวแสบ" เขามองดูรอยมือสีแดงที่ถูกแรงบีบของหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับพวกเขา นั้นยิ่งทำให้ตัวเองเหมือนโดนดูถูกทำไมผู้ชายร่างกายใหญ่โตถึงสู้แรงสาวน้อยไม่ได้นั่นคงเป็นสิ่งที่คิดอยู่ในใจของพวกเขาทั้งสองคน

"วันนี้ฉันต้องจัดการพวกเธอให้ได้" พวกเขากำลังจะเข้าปะทะอีกครั้งจู่ ๆ ก็มีอะไรบางอย่างดึงแขนของชายฉกรรจ์ทั้งสองคนไว้

"อะ-นายหญิง" โซ่สีดำสนิทกำลังตรึงพวกเขาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้ที่ปลายสุดของโซ่คือมือที่กำลังกำแน่นของนายหญิง

"พวกนายสู้เธอไม่ได้หรอก" แม้จะใช้ตรวจสอบมองดูแล้วแต่ก็เห็นแค่ผู้หญิงผมสีเงินข้าง ๆ นั่นแต่กับแม่หนูผิวแทนแล้วขนาดเราเลเวลห้ายังมองไม่ได้ก็คงจะสูงกว่านั้นอีก หากเป็นเช่นนั้นขืนสู้ต่อไปก็อาจจะเจ็บตัวโดยเปล่าประโยชน์

"สำหรับค่าเสียหาย-"

"ต-แต่ว่านะนายหญิงเธอคนนั้นมันตั้งใจกวนประสาทเรานะครับจะปล่อยไว้อย่างงี้เหรอ ?" เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นเป็นจังหวะช้า ๆ ขณะที่เธอกำลังเดินเข้ามาหาชายคนนั้นท่ามกลางความเงียบสงัด

ตรวจสอบ 

Lv.5 เฟย์ คิวเท

STR 230 AGI 250

WIT 290 DEF 60

INT 260 LUK 81

HP 650 MP 716

[Mana Ball] [Heal] [Mana Shield] [Power Up] [Speed Up] [Fog] [อ่อนแรง] [Bind Soul] [Night Vision] [ปลอมแปลง] [Fire Ball] [Fire Wall] [Sun Fire] [Fire Bomb] [Fire Sword] [ตรวจสอบ] [เสริมกำลังระดับ1] [เสริมกำลังระดับ2] [เสริมกำลังระดับ3] [เสริมกำลังระดับ4] [เสริมกำลังระดับ5]

แม่สาวผมเงินมองจ้องด้วยความสงสัยเธอปล่อยให้เพื่อนผิวแทนอยู่ข้างหน้าเตรียมรับมืออยู่คนเดียว

"เธอคนนั้นมีสกิลคล้าย ๆ กิเลย...ระวังไว้ด้วย" เสียงกระซิบแสนจะเบาที่ข้างหูของสาวผิวแทนนั่นทำให้เธอตั้งท่ายกมือขึ้นข้างหนึ่งส่วนอีกข้างล้วงเข้าไปด้านหลังเตรียมหยิบมีดที่เก็บไว้

"พอได้แล้วพวกเธอก็แค่มาซื้อเสื้อผ้าปกติ คุณเจ้าของร้านตอนนี้ก็มีเงินจ่ายแล้วงั้นฉันจะขอรับไปแล้วกันนะ" เธอเดินผ่านตัวเหล่าชายฉกรรจ์ตรงมายังเจ้าของร้าน นายหญิงโฉมงามนางนั้นทำเพียงยิ้มอย่างเป็นมิตรเดินผ่านพวกเธอทั้งสองคนไปโดยไม่ทำอะไร ขณะเดียวกันพวกเธอก็ลดการป้องกันลงเก็บของของตัวเองแล้วเดินออกไปจากร้าน

"น-นายหญิง" ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนยังคงถูกตรึงอยู่กับที่ได้แต่มองดูอย่างเดียว

ดูท่าเจ้าโลนกับเจ้าแลนจะไปหาเรื่องพวกนักผจญภัยซะแล้วแต่เท่าที่ดูพวกเธอก็ไม่ได้โมโหร้ายอะไรนักคงไม่คิดแก้แค้นหรืออะไรเถิกนั้นหรอก

"ฉันคลายเวทให้แล้วลองขยับดูสิ" เธอยืนมองดูชายสองคนนั้นขยับเขยื้อนร่างกายหันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลน

"นายหญิงพวกเธอสองคนนั้นแข็งแกร่งยังงั้นเหรอเหตุใดถึงห้ามพวกเราไว้ล่ะ ทั้งผมและแลนก็มีเลเวลมากถึงห้าความสามารถและประสบการณ์ในการต่อสู้ก็มีมากโขแท้ ๆ" 

"ถ้าเป็นแม่สาวผมเงินคนข้างหลังล่ะก็นายอาจจะสู้ได้ แต่กับแม่หนูผิวแทนคนนั้นแตกต่างออกไปทั้งที่เหมือนจะเปิดจุดอ่อนหลายจุดแต่กลับไม่มีความกลัวหรือความลังเลเลยแม้แต่น้อยเห็นได้ชัดว่าประสบการณ์การต่อสู้ก็ไม่ธรรมดาแต่อาจจะไม่ค่อยรู้จักศิลปะการต่อสู้นักเท่าที่ดูล่ะนะ และอีกอย่างเลเวลของเธอสูงกว่าเราสามคนไม่รู้แน่ชัดหรอกว่าเลเวลอะไรแต่ความต่างกันของเลเวลก็ยากที่จะวัดพลังแล้ว" ขณะที่เธอกำลังพูดไปก็เดินไปเหลือบมองแผ่นหลังของสาว ๆ ทั้งสองคนนั้นที่เดินไปคนละทาง 

"นี่สเตล่าเธอคนนั้นดูแข็งแกร่งใช่เล่นเลยนะ" แม่สาวผิวแทนกระซิบคุยกับสาวผมเงินหรือก็คือสเตล่าที่ซึฮากิเปลี่ยนหน้าให้นั้นเอง

"เธอเลเวลห้าซึ่งเท่ากับฉันสเตตัสก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักแต่เธอดันมีสกิลคล้าย ๆ กับของกิน่ะสิ สกิลพวกนั้นค่อนข้างอันตรายเดาการใช้ได้ยาก" วินาทีนั้นเธอก็ได้เห็นขนสีขาวปุกปุยน่าลูบผ่านสายตาไปแวบ ๆ ทำเอาตกใจไปเลย

"เมื่อกี้คงเป็นเจ้าปุยสินะ" 

ไม่เกินครึ่งชั่วโมงพวกเธอก็เดินมายังโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองยานแห่งนี้ 

"กลับมาแล้วสินะ" เสียงอันเอื่อยเฉื่อยที่คุ้นเคยดังขึ้นทันทีที่พวกเธอเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง

"โย่ ! ได้อะไรมาบ้างล่ะ ?" เซนวิ่งเข้ามาดูเสื้อผ้าและอาหารที่พวกเธอสองคนถือมาเปิดกระเป๋าค้นดูของภายในนั้นด้วยความตื่นเต้นตื่นตา

"นี่เป็นตั๋วเข้างานการประลองในวันพรุ่งนี้" คานะที่เปลี่ยนหน้ากลับยื่นกระดาษแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้กับซึฮากิเขามองดูและอ่านรายละเอียดเพื่อให้แน่ใจ

"จำนวนการประลองทั้งหมดสิบสามคู่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกทาสที่ถูกซื้อไปเพื่อเอามาประลองทั้งพนันและสนุกไปกับการนองเลือดพวกนั้น" 

"โหดร้ายเนอะคนพวกนี้" เซนเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับคาบเนื้อย่างอยู่ในปากเขาค่อย ๆ เคี้ยวและพูดไปด้วย

"หน็อยนายแย่งเนื้อฉันไปกินเหรอ !" ด้วยความโมโหคานะเลยเขกหัวเซนจนร้องโอ๊ยออกมา

"ประชากรในเมืองนี้อยู่ที่ราว ๆ หกถึงเจ็ดหมื่นคนและมีการเข้าออกอย่างต่อเนื่องวันหนึ่งอย่างต่ำก็คือหนึ่งพันคนมีทั้งพวกพ่อค้า นักผจญภัยและนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อเสพความบันเทิงเท่านั้น"

"นายมีบัตรนักผจญภัยเพียงคนเดียวส่วนพวกเราก็เหมือนคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยไม่มีบัตรแสดงตัว ว่าแต่ทำไมนาธาถึงทำบัตรปลอมให้นายตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่ถูกเรียกมายังโลกนี้เลยล่ะ ?" คานะยืนคุยกับซึฮากิโดยที่มีเซนอยู่ในกำมือดึงหูจนแดงเหมือนสตรอว์เบอร์รี

"เขาอาจจะคาดการณ์เรื่องที่พวกเราจะหนีไว้ล่วงหน้าแล้วแต่ยังไงก็เถอะหากมีผู้ที่สามารถตรวจสอบสเตตัสและมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกเราได้ก็คงเป็นงานยากไปอีก" ซึฮากิเหลือบตามองหน้าพรรคพวกของเขาด้วยความใจเย็นกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ

"คืนนี้ฉันกับสเตล่าจะออกไปสำรวจกัน ส่วนพวกเธอก็อยู่ที่นี่พักผ่อนตามสบายละกัน"

"เยสเซ่อ !" เซนตอบกลับทันที

"อะไรนะ ?" คานะอุทานออกมาด้วยความตกใจ

"คนที่มีสกิลตรวจสอบมีเพียงฉันและสเตล่าเท่านั้นพวกเราจะไปสอดแนมหาคนที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อแผนการของเรา"

"เฮ้อ...เอางั้นก็ได้ระวังตัวกันด้วยล่ะ" 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.