บทที่ 50 พลังทมิฬ 3

-A A +A

บทที่ 50 พลังทมิฬ 3

บทที่ 50 พลังทมิฬ 3

 

ความเงียบกลับมาปกคลุมป่าทึบอีกครั้ง หลังจากการต่อสู้กับออร์คกลายพันธุ์สิ้นสุดลง เอเรนและอาร์เธอร์ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของต้นไม้ที่ถูกทำลาย ความเหนื่อยล้าและความสับสนฉายชัดบนใบหน้าของทั้งคู่

 

เอเรนหันไปหาอาร์เธอร์ สีหน้าของเขาเคร่งเครียดหลังจากการใช้พลังมหาศาลของศาสตราวิญญาณ 

 

“พวกนั้น... ไม่ใช่แค่อสูรธรรมดา” เอเรนกล่าวเสียงต่ำ 

 

“พวกมันถูกควบคุม และคนที่ควบคุมมัน... กำลังตามล่าผู้ใช้ศาสตรา”

 

“ฉันรู้แล้วน่า” อาร์เธอร์ตอบรับ

 

“และฉันก็เห็นว่าพลังของ ศาสตราวิญญาณ ของแกมันรุนแรงแค่ไหน”

 

เอเรนกำด้ามดาบนิลอีเร็นแน่น “แก... เคยพูดถึงศาสตราอื่น ๆ บนโลกนี้... มันคืออะไรกันแน่?”

 

อาร์เธอร์ถอนหายใจยาว “มันคือสิ่งที่พวกเราถูกหลอก เอเรน” เขาเริ่มอธิบายเสียงเรียบ แต่ทุกคำมีความหนักแน่น:

 

“เดิมที ศาสตราไม่ได้มีแค่ของแกและของฉัน มันมีทั้งหมด แปดชิ้น กระจายอยู่ทั่วโลก”

 

เอเรนเบิกตากว้าง “แปดชิ้น ราชาแมกนัสก็เคยบอกฉัน”

 

“ไม่จริงน่า ราชาแมกนัสเคยบอกแกด้วยหรอ”  

 

“ใช่ แต่ว่าแกลองบอกอีกครั้งดีกว่า ฉันจะได้ตรวจสอบด้วยข้อมูลมันตรงกันไหม”

 

 “เท่าที่ฉันรู้จากข้อมูลลับของอาณาจักรที่ฉันเคยเข้าไปสืบ... ศาสตราแต่ละชิ้นมีพลังและคุณสมบัติเฉพาะตัว”

 

อาร์เธอร์เริ่มแจกแจงรายละเอียด:

 

ชิ้นที่หนึ่ง คือ ศาสตราวิญญาณ ที่อยู่ในร่างของลีร่า และถูกแกใช้

 

• ชิ้นที่สอง เป็น ศาสตราแห่งโลหิต ที่จะดูดเลือดและเปลี่ยนเลือดของผู้ใช้ให้กลายเป็นอาวุธ

 

• ชิ้นที่สาม เป็น ศาสตราเทพ ที่จะต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์ถึงจะใช้ได้

 

• ชิ้นที่สี่ เป็น ศาสตราปีศาจ ที่จะควบคุมจิตใจคนที่ได้ใช้ (เหมือนกับคนที่ควบคุมออร์คเมื่อครู่นี้)

 

• ชิ้นที่ห้า เป็น ศาสตราแห่งเหมันต์ ที่ไม่มีผู้ใช้อยู่ มันถูกผนึกไว้ในอาณาจักรแห่งนี้

 

• ชิ้นที่หก เป็น ศาสตราเพลิง ที่ว่ากันว่ามีพลังแห่งการทำลายล้าง

 

• ชิ้นที่เจ็ด เป็น ศาสตราแห่งกาลเวลา ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถหยุดเวลาได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยพลังชีวิตของผู้ใช้

 

• และชิ้นที่แปด เป็น ศาสตราแห่งความว่างเปล่า ที่กล่าวกันว่าสามารถควบคุมมิติได้

 

เอเรนฟังด้วยความตกตะลึง ข้อมูลทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าสงครามที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นใหญ่หลวงกว่าแค่การแก้แค้นเพียงอย่างเดียว

 

“ราชาแม็กนัส... เขากำลังตามหาศาสตราแห่งเหมันต์ใช่ไหม”

 

“ไม่แน่ชัด” อาร์เธอร์ส่ายหน้า

 

“แต่เขารู้เรื่องศาสตราทุกชิ้นดีกว่าใคร และเป้าหมายหลักของเขาคือวิญญาณของลีร่า เพื่อปลดปล่อยผู้สร้างศาสตราโลหิตที่แท้จริง”

 

“ถ้าอย่างนั้น... เป้าหมายของเราชัดเจน” เอเรนเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่กลับมาอีกครั้ง 

 

“เราต้องไปให้ถึงก่อนที่ใครจะรวบรวมศาสตราทั้งหมดได้... และเราต้องช่วยลีร่าออกมาให้ได้”

 

ชายผู้สวมเสื้อคลุมสีเข้มก้าวออกจากประตูมิติสีม่วงที่ปิดตัวลงด้านหลังอย่างรวดเร็ว เขามายืนอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยหินผาสีดำสนิทและควันพิษสีเขียวที่ลอยฟุ้งไปทั่ว ท้องฟ้าเหนือศีรษะมืดมิดและถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเลือด ไม่มีแสงแดดใดๆ ส่องถึง มันคือดินแดนที่พลังงานมืดครองอำนาจอย่างสมบูรณ์

 

“ไอ้ผู้กล้าบ้า! ทั้งศาสตราวิญญาณและศาสตราเทพ! พวกมันกล้าขัดขวางแผนการของข้า!” ชายผู้นั้นคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธ ใบหน้าของเขาถูกบดบังด้วยความมืดมิดของเสื้อคลุม แต่เส้นเลือดสีดำที่ปูดโปนตามมือแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการพ่ายแพ้เมื่อครู่

 

เขาเดินไปยังใจกลางพื้นที่นั้น ซึ่งมีแท่นบูชาที่ทำจากโครงกระดูกของสัตว์ขนาดมหึมาวางอยู่ บนแท่นนั้นมี วัตถุสีดำเงา รูปดวงตาที่เคยใช้ควบคุมออร์ค วางอยู่ 

 

ศาสตราปีศาจ” ชายผู้นั้นกระซิบ พลางแตะวัตถุนั้นเบาๆ “พลังของเจ้ายังไม่เพียงพอที่จะควบคุมพวกมันได้ทั้งหมด... ข้าต้องการพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้” เขาเอ่ยอย่างเย็นชา

 

เขาเงยหน้ามองไปยังฝูง ปีศาจกินเนื้อ (Ghouls) ที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวและมีดวงตาสีแดงฉานที่กำลังเดินวนเวียนอยู่รอบแท่นบูชา ชายผู้นั้นเริ่มร่ายเวทมนตร์ภาษาโบราณที่แฝงไปด้วยความอำมหิต พลังงานสีม่วงเข้มพุ่งออกจากมือของเขา พุ่งเข้าสู่ปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในฝูง สัตว์ร้ายเหล่านั้นเริ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อพลังของศาสตราปีศาจเข้าครอบงำ พวกมันถูกบังคับให้ล่าและฆ่าพวกพ้องของตัวเอง เพื่อให้พลังปีศาจที่ถูกควบคุมนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นก่อนจะถูกนำออกไปใช้ในการต่อสู้ครั้งต่อไป

 

ในเวลาเดียวกัน ที่ปราสาทแห่งเหมันต์ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ แม็กนัส องค์ราชากำลังยืนอยู่กลางห้องโถงใต้ดินที่เต็มไปด้วยไอน้ำแข็งและอักขระเวทมนตร์ที่ส่องแสงสีฟ้าเย็นเยือก เขาได้กลับมาจากห้องใต้ดินที่ใช้ปลดปล่อยวิญญาณของลีร่าแล้ว และกำลังเตรียมพร้อมสำหรับแผนการขั้นต่อไป

 

เบื้องหน้าของแม็กนัส คือผนึกโบราณขนาดใหญ่ที่ทำจากน้ำแข็งนิรันดร์ มันถูกตรึงไว้ด้วยโซ่เวทมนตร์นับร้อยเส้น ภายในผนึกนั้นสามารถมองเห็นแสงสว่างสีฟ้าอมขาวจางๆ ที่มีความเย็นยะเยือกแผ่ออกมา มันคือ ศาสตราแห่งเหมันต์ ซึ่งเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์และทรงอำนาจที่สุดชิ้นหนึ่ง

 

“ถึงเวลาแล้ว... ศาสตราแห่งเหมันต์” แม็กนัสกล่าวเสียงทุ้มแผ่วเบา แต่เปี่ยมด้วยอำนาจ 

 

“พลังของเจ้าจะต้องช่วยให้ข้าปกป้องอาณาจักรนี้ได้... และที่สำคัญที่สุด... ช่วยให้ข้าพานางกลับมา”

 

แม็กนัสใช้พลังเวทมหาศาลของเขา ปล่อยคลื่นพลังงานสีฟ้าเข้มเข้าสู่ผนึกน้ำแข็งอย่างช้าๆ เสียงโซ่ตรวนเวทมนตร์เริ่มดัง แกร๊ก! แกร๊ก! ราวกับกำลังจะขาดสะบั้น

 

“เมื่อข้าได้ศาสตราแห่งเหมันต์มา... ไม่ว่าจะเป็นศาสตราวิญญาณ ศาสตราเทพ หรือแม้แต่ศาสตราปีศาจที่กำลังชักใยอยู่... ก็จะไม่มีใครมาขวางข้าได้อีก” ดวงตาของแม็กนัสเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันแข็งกร้าว เขาพร้อมที่จะใช้พลังทุกอย่างเพื่อเป้าหมายอันสูงสุดของเขา

 

ไกลออกไปทางทิศใต้ ในดินแดนที่ร้อนระอุและเต็มไปด้วยภูเขาไฟที่กำลังคุกรุ่น เวส กำลังเดินทางอย่างยากลำบากผ่านลาวาและเถ้าถ่าน ร่างกายของเขาสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ดวงตาของเขาฉายแววคมกล้าและไม่ย่อท้อ เขาคือนักรบผู้กล้าหาญที่ถูกเนรเทศและกำลังตามหาพลังในตำนานเพื่อกลับไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง

 

เวสเดินมาจนถึงถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความร้อนแผ่ออกมาจนผิวหนังแทบไหม้ ภายในถ้ำนั้นเต็มไปด้วยหินภูเขาไฟที่เรืองแสงสีแดงราวกับมีเพลิงลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา อากาศหนักอึ้งไปด้วยไอร้อนและกลิ่นกำมะถัน

 

เขาเห็นมันแล้ว—บนแท่นหินใจกลางถ้ำ มี ดาบเล่มหนึ่ง วางอยู่ ดาบนั้นไม่ใหญ่เทอะทะ แต่รูปลักษณ์กลับดูประณีตและดุดัน มันถูกสร้างจากวัสดุที่ไม่รู้จัก มีเปลวเพลิงสีทองสว่างไสวลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของดวงอาทิตย์ที่ถูกกักเก็บไว้ พลังความร้อนแผ่ซ่านออกมาจนลาวารอบด้านดูเหมือนน้ำที่ไหลเชี่ยว นี่คือ ศาสตราเพลิง!

 

เวสรู้สึกถึงพลังงานที่ร้อนแรงและบริสุทธิ์ของมัน พลังงานที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความกล้าหาญ มันไม่ใช่พลังที่มุ่งร้าย แต่เป็นพลังที่พร้อมจะแผดเผาความอยุติธรรมทั้งหมด

 

“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ...” เวสกระซิบเสียงแหบพร่า “พลังที่จะล้างแค้น และพิสูจน์ความจริงทั้งหมด”

 

เขาค่อยๆ ยื่นมือออกไปสัมผัสกับศาสตราเพลิง โดยไม่สนใจความร้อนที่แผดเผาเข้ามาที่ผิวหนังของเขา ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับด้ามดาบ เปลวเพลิงสีทองก็โอบล้อมร่างของเวสไว้ทั้งหมด เสียงคำรามของภูเขาไฟดังสนั่น ราวกับธรรมชาติกำลังยอมรับผู้ใช้คนใหม่

 

เปลวเพลิงนั้นไม่ได้ทำร้ายเวส แต่มันกลับหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของเขา แสงสีทองสว่างวาบขึ้นในถ้ำ เตรียมพร้อมที่จะสร้าง ผู้ใช้ศาสตราเพลิง ที่จะเข้ามามีบทบาทในสงครามศาสตราทั้งแปดชิ้นอย่างสมบูรณ์

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.