บทที่ 122: สู้กันให้ตายไปข้าง

-A A +A

บทที่ 122: สู้กันให้ตายไปข้าง

ฉู่อวี้เงยหน้าขึ้นมองหลินหยวนด้วยความสงสัย เธอนึกไม่ออกเลยว่าเขาจะพาเธอหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร

ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็หยิบคริสตัลมิติออกมาจากช่องเก็บของ

[คริสตัลมิติ (ไอเทมพิเศษ)]

[หมวดหมู่: ไอเทมใช้แล้วทิ้ง]

[คำอธิบาย: เมื่อใช้งาน ประตูมิติจะเปิดออก หลังจากเข้าไปในประตูมิติ มิติผันผวนจะเทเลพอร์ตผู้ใช้ไปยังตำแหน่งที่กำหนดแบบสุ่ม]

คริสตัลมิตินี้เป็นรางวัลที่หลินหยวนได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้ครบ 350 วัน ตัวเขาเองไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ใช้มันเร็วขนาดนี้

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งเดียวที่ช่วยเขากับฉู่อวี้ได้ก็คือคริสตัลมิติ!

สำหรับสถานที่ที่พวกเขาจะถูกส่งไปหลังจากใช้นั้นก็แล้วแต่โชคชะตานำพา

“หากสวรรค์มีอยู่จริง ฉันขอเพียงแค่โอกาส โอกาสรอดชีวิต!”

หลินหยวนพึมพำกับตัวเอง หลังจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาก็บดขยี้คริสตัลในมือจนแหลกละเอียด

เพล้ง!

หลังจากที่คริสตัลมิติแตกสลาย พลังสีฟ้าจาง ๆ ก็พุ่งออกมาจากผลึกด้านในเปลี่ยนเป็นประตูมิติต่อหน้าทั้งคู่ทันที

“นั่นมันอะไรกัน?”

หลังจากประตูมิติปรากฏขึ้น ไททันเทพปีศาจก็รู้สึกมึนงง

ในเวลาเดียวกัน หลินหยวนที่อยู่เบื้องล่างก็เงยหน้าขึ้น “อาซา จำเอาไว้ให้ดี ถ้าฉันรอดไปได้ สักวันหนึ่งฉันจะกลับมาฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง! สู้กันให้ตายไปข้าง!”

เมื่อเด็กหนุ่มพูดจบ ประตูมิติเบื้องหน้าก็ปล่อยแรงดูดมหาศาลดูดเขากับฉู่อวี้เข้าไปในความปั่นป่วนนั้น

“ไอ้มนุษย์เวร! เจ้ากล้าข่มขู่ข้างั้นรึ?!” ดวงตาของอาซามีเพลิงโทสะลุกโชน จากนั้นมันก็เหวี่ยงหมัดฟาดเข้าใส่ประตูมิติเต็มแรง

ปัง!

หมัดที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงปีศาจสีม่วงดำกระแทกประตูมิติจนทำให้เกิดคลื่นระเบิดที่รุนแรง

แล้วคลื่นพลังก็แพร่กระจายไปทั่วทิศทางเปลี่ยนพื้นดินให้เป็นพื้นที่หลุมอุกกาบาตในวงกว้าง

ถึงแม้ไททันเทพปีศาจจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตัวเอง แต่ประตูมิติเบื้องหน้าก็ยังคงไม่สั่นสะเทือนประหนึ่งว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีสิ่งใดบนโลกทำลายลงได้

“บ้าเอ๊ย!” แววตาของอาซาเย็นชาลง 

จากนั้นมันก็เอื้อมมือออกไปตรงหน้าประตูมิติพยายามคว้าตัวฉู่อวี้กับหลินหยวนเอาไว้

มันที่เป็นถึงไททันโลกาวินาศย่อมมีความมั่นใจในพลังของตัวเองมาก

แต่ยังไม่ทันที่มือเอื้อมไปถึงจุดหมาย ประตูเบื้องหน้าก็ปิดลงอย่างกะทันหันและสลายหายไปราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

“อ๊ากกก ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!” หลังจากที่ไททันเทพปีศาจคว้าได้เพียงอากาศ มันก็ยิ่งโมโหจนแทบจะพ่นไฟ

ในชีวิตนี้ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนรอดไปจากเงื้อมมือของมันได้มาก่อน

แต่ก่อนที่อาซาจะได้ระบายความโกรธออกมา สายฟ้าสีม่วงก็พุ่งเข้าใส่มัน 

เปรี้ยง!

สายฟ้าสีม่วงเฉือนผ่านเนื้อของไททันโลกาวินาศทิ้งบาดแผลลึกเอาไว้ที่ไหล่ขวาจนมองเห็นกระดูกสีขาว

ทันทีที่อาซาได้รับบาดเจ็บ มันก็ยกมือขึ้นกุมบาดแผลของตัวเองก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับศัตรู ซึ่งคนที่ลอยอยู่ในอากาศต่อหน้ามันก็คือหลินเทียนเชวี่ยที่ถือดาบสายฟ้าพิฆาตเอาไว้

“เอาล่ะ… ถึงตาฉันสะสางบัญชีกับแกแล้ว” ดวงตาของแม่ทัพมังกรเย็นเยียบ และน้ำเสียงที่เรียบนิ่งก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ในขณะนี้ข่าวดีเพียงอย่างเดียวสำหรับเขาก็คือหลินหยวนยังมีชีวิตอยู่ ถึงเขาจะไม่รู้ว่าลูกชายหายไปไหน แต่ตอนนี้สำหรับเขาแล้ว ขอเพียงอีกฝ่ายยังไม่ตายก็นับว่าเป็นโชคดีมากแล้ว

ความเจ็บปวดที่เกือบจะสูญเสียลูกชายได้แปรเปลี่ยนเป็นพายุแค้นที่โหมกระหน่ำรุนแรงภายในตัวเขา

บัดนี้สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงอย่างเดียวก็คือ ทำให้ไททันเทพปีศาจตรงหน้าตายด้วยน้ำมือของเขา!

ที่ไหนสักแห่งบนโลก

จู่ ๆ ก็ที่มีรอยร้าวสีดำสนิทปรากฏขึ้นกลางอากาศ

ตึง!

หลินหยวนกอดฉู่อวี้เอาไว้ในอ้อมแขนขณะร่วงหล่นลงมาจากรอยแยกของมิติกระแทกกับพื้นเต็มแรง

ก่อนหน้านี้พวกเขาติดอยู่ในความผันผวนของมิติเป็นเวลา 5 นาทีก่อนที่จะถูกส่งตัวมาที่นี่

 ในช่วงเวลานั้นฉู่อวี้ได้หมดสติไปแล้ว เพราะถึงอย่างไรร่างกายของเธอก็ได้มาถึงขีดจำกัดตั้งแต่ก่อนหน้านี้

“ที่นี่ที่ไหน…” หลินหยวนพยุงตัวลุกขึ้นแล้วรู้สึกว่าอวัยวะภายในของตัวเองนั้นกำลังปั่นป่วน ความรู้สึกเวลาเดินทางผ่านความผันผวนของมิตินั้นไม่ค่อยน่าพิสมัยสักเท่าไหร่

เด็กหนุ่มมองไปรอบ ๆ แต่ภาพเบื้องหน้าก็ทำให้เขายิ่งหดหู่ใจมากยิ่งขึ้น

เพราะบนท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำสนิทจนมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ และใต้ฝ่าเท้าของเขาคือผืนดินสีแดงฉานราวกับถูกอาบไปด้วยเลือด บริเวณโดยรอบมีเพียงความเงียบสงัดเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่

ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่มีทางที่มนุษย์จะเอาชีวิตรอดไปได้เลย ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ สถานที่ที่พวกเขาถูกส่งมานั้นน่าจะไม่ใช่อาณาเขตของมนุษย์!

กล่าวอีกในหนึ่ง เขากับฉู่อวี้ยังคงอยู่ในดินแดนของไททัน!

หลังจากหลินหยวนคาดเดาว่าปัจจุบันพวกเขาอยู่ที่ไหน เขาก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า “ช่างเถอะ อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ถูกส่งไปยังเมืองหลักของไททัน”

ด้วยสภาพปัจจุบันของทั้ง 2 ถ้าหากพวกเขาถูกส่งไปกลางเมืองของไททันอย่างเมืองหย่งเย่ โอกาสรอดชีวิตของพวกเขาก็จะเป็นศูนย์ทันที

ถึงแม้ว่าพื้นที่ตรงนี้จะไร้ผู้คน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย

หลังจากวางฉู่อวี้ให้นอนลงกับพื้นแล้ว เด็กหนุ่มก็หยิบขวดยารักษาจากช่องเก็บของมาทันที

จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ บีบปากของเด็กสาวแล้วป้อนยารักษาให้เธอ เสร็จแล้วเขาก็ทำการพันแผลที่หน้าท้อง

ในฐานะผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์ ตัวเธอนั้นมีความสามารถในการฟื้นตัวที่น่าทึ่งมาก ประกอบกับฤทธิ์ยารักษา หลินหยวนมั่นใจเลยว่าฉู่อวี้จะฟื้นขึ้นมาในอีกไม่ช้า

เมื่อเด็กหนุ่มทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็นั่งลงเปิดใช้สกิลพิเศษของตัวเอง 

ฟื้นฟูฉับพลัน!

สกิลนี้ได้รับมาหลังจากที่เขาอัปเกรดพลังรักษาไปถึงระดับ A

หลังจากใช้สกิลมันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูภายใน 120 วินาที!

และทันทีที่หลินหยวนใช้สกิลฟื้นฟูฉับพลัน เนื้อเยื่อชุดใหม่ก็เริ่มงอกออกมาที่ปลายแขนค่อย ๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างแขนใหม่ด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า

สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นจากการที่เขาใช้พลังรักษาของตัวเองเช่นกัน

วิคหะเยียวยา! 

หลินหยวนรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่พลุ่งพล่านออกมาจากร่างกาย แล้วค่อย ๆ ไหลเวียนไปที่แขนราวกับสายน้ำที่อบอุ่นคอยซ่อมแซมบาดแผลทุกบริเวณที่มันไหลผ่าน

ในเวลาเพียง 2 นาที แขนใหม่ก็งอกออกมาจากปลายที่ขาดของแขนซ้าย

แม้แต่บาดแผลส่วนใหญ่บนร่างกายก็ยังหายเป็นปลิดทิ้ง

นี่คือพลังรักษาของหลินหยวน!

เขาเพียงแค่ต้องใช้เวลาชั่วครู่ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายของตัวเองให้กลับคืนสภาวะปกติได้แล้ว 

หลังจากที่ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ หัวใจของเด็กหนุ่มก็เริ่มสงบลง

อย่างน้อยที่สุดในสภาวะนี้เขาก็ยังมีพลังมากพอที่จะรักษาตัวเองให้หายดี 

ขอเพียงไททันที่ปรากฏตัวออกมาไม่ใช่ไททันมหันตภัยที่มากกว่า 2 ตัว เขาก็มั่นใจว่าจะพาฉู่อวี้หนีพวกมันหรือแม้กระทั่งเอาชนะพวกมันได้แน่

ส่วนเรื่องที่ว่าเขาจะได้พบกับไททันโลกาวินาศอีกหรือเปล่า… หลินหยวนไม่คิดว่าตัวเขาจะโชคร้ายขนาดนั้น

เพราะแม้แต่ในเผ่าไททัน ไททันโลกาวินาศก็คงจะหาได้ยากมาก

หลังจากที่เขาจัดการตัวเองจนพร้อมแล้ว เขาก็ได้แบกฉู่อวี้ที่หมดสติไว้บนหลังและเตรียมออกไปสำรวจบริเวณโดยรอบ

ปัจจุบันภารกิจที่เร่งด่วนที่สุดก็คือ การค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของตัวเองให้ได้เสียก่อน 

หลินหยวนที่แบกฉู่อวี้ไว้บนหลังเดินข้ามผ่านพื้นที่โล่งกว้างแห่งหนึ่งเป็นเวลากว่าชั่วโมงครึ่ง ในขณะนี้ฝีเท้าของเขาไม่ได้เร็วมากนัก แต่ก็ยังสามารถเดินทางมาได้เกือบ 10 กิโลเมตร

แต่สิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มประหลาดใจก็คือ ถึงแม้เขาจะเดินมาไกลมากแล้ว แต่เขาก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดเลยแม้แต่ตัวเดียว ราวกับว่าสถานที่นี้เป็นดินแดนแห่งความตายที่ไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

ที่นี่มันคือที่ไหนกันแน่?

หลินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงเขาจะรู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไป

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของฉู่อวี้

“เรา… อยู่ที่ไหนกันเหรอ?” เด็กสาวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมายังคงรู้สึกอ่อนแรง

หลินหยวนตอบกลับไปเบา ๆ ว่า “เธอไม่ต้องห่วง ตอนนี้เราปลอดภัยแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ถ้าฉันเดาไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็นเขตแดนของไททัน”

ฉู่อวี้พยักหน้าตอบรับในลำคอเบา ๆ “อืม”

สำหรับเธอ ขอเพียงแค่เธอได้อยู่ข้างกายหลินหยวน เธอก็ไม่รู้สึกกลัวเลย 

“ตอนนี้ฉันเกือบจะหายดีแล้ว นายวางฉันลงเถอะ ฉันเดินเองได้”

แต่เด็กหนุ่มกลับปฏิเสธว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะอุ้มเธอเอง ตัวเบาแค่นี้สบายมาก”

ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน พื้นดินใต้ฝ่าเท้าก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา

“เหมือนมีบางอย่างใกล้เข้ามา” สีหน้าของหลินหยวนเปลี่ยนไปทันที ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในสมองเขาคือการหาที่กำบัง

เด็กหนุ่มมองไปรอบ ๆ ในไม่ช้าก็เห็นก้อนหินสีดำขนาดใหญ่ เขาจึงรีบพาฉู่อวี้ไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง

จากนั้นเขาก็หยิบอัญมณีซ่อนเร้นขึ้นมาถือไว้ เพียงเท่านี้ก็ไม่มีไททันตัวไหนหาทั้ง 2 พบ ยกเว้นไททันมหันตภัยที่มีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมกว่าปกติ

“อะไรน่ะ?” ฉู่อวี้สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากฝ่าเท้าจึงกระซิบถาม

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะไปเช็กดูก่อน” หลินหยวนพูดปลอบอีกฝ่ายก่อนจะโผล่หัวออกจากหลังก้อนหินมองไปยังทิศทางที่เป็นต้นกำเนิดของแรงสั่นสะเทือน แล้วภาพเบื้องหน้าก็ทำให้เขาต้องตกตะลึง

 

*******************************************

SkySaffron: ไอเทมช่วยชีวิตชัด ๆ! หนีรอดแล้วก็จริง แต่ยังอยู่ในเขตแดนของไททันเหมือนเดิมสินะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.