บทที่ 104: เมืองไททัน ลงชื่อเข้าใช้พิเศษ?
“ยั่วโมโหเจ้า? ไม่ ๆๆ ข้าไม่ได้ยั่วโมโหเจ้าสักหน่อย” หลงเยี่ยนยิ้มกริ่ม “เจ้าลืมไปแล้วหรือไง สภาผู้อาวุโสส่งข้ามาปกป้องเจ้า ไกอัส แม้แต่มนุษย์ยังรู้ว่าเจ้าอ่อนแอ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันพุ่งเป้ามาที่เมืองหย่งเย่ของเจ้า ถ้าเราไม่ได้รับข่าวล่วงหน้าแล้วรู้ว่ากองทัพกำลังจะมาเอาหัวเจ้า เจ้าคงไม่มีทางรู้เรื่องนี้แน่”
“ฮึ!” ราชาแห่งรัตติกาลพ่นลมหายใจก่อนจะกระแทกตัวพิงหลังกับบัลลังก์
ถึงแม้ว่ามันอยากจะโต้เถียงมากแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นเป็นความจริง
หากมันไม่ได้รับข้อมูลล่วงหน้า แค่ลำพังหลี่หวงเหยียนคนเดียว และพลังที่เป็นต่อของผู้สืบทอด มันอาจจะตายด้วยน้ำมือคนพวกนั้นก็ได้
ไททันมังกรเพลิงกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่ากองทัพหัวเซี่ยจะยอมเสี่ยงถึงขั้นนี้ ผู้สืบทอดพลังไททันศักดิ์สิทธิ์คนนั้นยังพัฒนาไม่เต็มที่เลย แต่พวกมันก็ยอมให้นางออกมาปฏิบัติการเสี่ยงอันตรายแบบนี้แล้ว”
พอคิดถึงเรื่องนี้มันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง “ในเมื่อนางอยากจะมา ก็อย่าคิดว่าจะได้กลับไปตามอำเภอใจ แบบนี้ก็ดีเลย ข้าเองก็อยากจะลิ้มรสดูว่าผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์… รสชาติจะเป็นยังไง”
สิ้นเสียงพูด ไกอัสก็อดไม่ได้ที่จะคำรามในลำคอ “หลงเยี่ยน นั่นมันเหยื่อของข้า! เจ้าอย่ามายุ่ง!”
“เหยื่อของเจ้ารึ?” ไททันมังกรเพลิงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของตำหนักที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ แล้วน้ำเสียงที่มันพูดกับอีกฝ่ายก็เย็นชาขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“นี่ข้า… ใจดีเกินไปสินะ เจ้าถึงได้คิดว่าข้าจะยอมให้ง่าย ๆ?”
“ฟังให้ดี ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของผู้อาวุโสเพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าจะไม่ถูกฆ่า แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องฟังคำสั่งของเจ้า! ถ้าเจ้ากล้าสั่งข้าอีกครั้งละก็… ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”
ทันทีที่ไททันมังกรเพลิงพูดจบ ไฟที่ร้อนแรงก็ลุกท่วมจากกายของมันทันที
ไฟที่ลุกโชติช่วงสว่างไสวไปทั่วตำหนักนั้นเป็นเหมือนคบเพลิงที่ให้แสงสว่างจ้า
ขณะเดียวกัน รัศมีที่น่ากลัวก็แผ่ออกมาจากตัวของหลงเยี่ยน
เมื่อไกอัสสัมผัสได้ถึงรัศมีนี้ ดวงตาของมันก็แสดงออกถึงความหวาดกลัว
ไททันมังกรเพลิงตัวนี้แข็งแกร่งกว่าที่มันคิดเอาไว้เสียอีก!
ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ไม่ค่อยดีนัก ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของไททันมังกรเพลิงก็มักจะเหนือกว่ามันเสมอ
แต่ถึงกระนั้น… ไกอัสก็ไม่เคยสัมผัสถึงรัศมีที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จากตัวอีกฝ่ายมาก่อน
แม้แต่สายตาของหลงเยี่ยนก็ยังทำให้มันอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย
เป็นไปได้ยังไงกัน?!
ไททันอนธการกำหมัดแน่น จากนั้นมันก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
หลงเยี่ยนได้รับรางวัลจากสภาผู้อาวุโส!
ใช่แล้ว จะต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ!
ในตอนนั้นไททันมังกรเพลิงได้จัดการกับหลินเทียนเชวี่ยจนกลายเป็นคนพิการไร้ความสามารถ
เนื่องจากความดีความชอบนี้เอง มันจึงได้รับรางวัลจากสภาผู้อาวุโส ทำให้พลังของมันก้าวหน้าไปไกลถึงขนาดนี้
ทันใดนั้นดวงตาของไกอัสก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
ทำไมเรื่องดี ๆ แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับข้าเลย?!
ทันใดนั้นไททันมังกรเพลิงก็พูดขึ้นว่า “ไกอัส คราวนี้… ลองพูดสิว่า ผู้สืบทอดมรดกไททันคนนั้นเป็นเหยื่อของใคร?!”
ราชาแห่งรัตติกาลที่ถูกหลงเยี่ยนกดดันได้แต่กำหมัดแน่น ในขณะที่ใบหน้าของมันแดงก่ำด้วยความโมโหปนอับอาย
แต่สุดท้ายมันก็ก้มหน้าพูดอ้อมแอ้มว่า “นอกจากเจ้าแล้ว ไม่มีใครคู่ควรที่จะได้ลิ้มรสเลือดเนื้อของผู้สืบทอด”
หลงเยี่ยนที่เห็นท่าทางก้มหน้าก้มตาพูดของอีกฝ่ายก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ดี ดีมาก!”
“ไกอัส เจ้าจงจำไว้ว่าครั้งนี้… ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสายลับที่เราส่งเข้าไปแฝงตัวในกองทัพมนุษย์ส่งข่าวมาบอกเราก่อน เจ้าคงจะตายไปแล้ว!”
จากนั้นไททันมังกรเพลิงก็ยิ้มกริ่ม “เพื่อเป็นการตอบแทน นับจากนี้ไป เจ้าจะต้องเป็นหมาที่เชื่อฟังคำสั่งข้า!”
“ถ้าเจ้าเป็นหมาที่ฟังคำสั่งของข้าได้ดี ข้ารับปากเจ้าว่า… ข้าจะแบ่งกระดูกให้เจ้ากิน!”
หลังจากพูดจบหลงเยี่ยนก็หันหลังเดินออกจากตำหนักไปพร้อมกับเสียงหัวเราะร่า
มันมาที่นี่ก็เพื่อเยาะเย้ยอดีตศัตรู บัดนี้เป้าหมายของมันสำเร็จแล้ว มันจะอยู่ต่อไปทำไมอีก?
พอไททันมังกรเพลิงเดินลับหายไปแล้ว ความอาฆาตแค้นก็ฉายในแววตาของไกอัส
“หลงเยี่ยน คอยดูเถอะ… สักวันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้าต้องเสียใจ!”
…
พลบค่ำในวันที่ 6
ปัจจุบันหลินหยวนได้เข้าสู่ดินแดนของไททันมา 2 วันแล้ว
โชคดีที่เขามีอัญมณีซ่อนเร้นที่ช่วยปกปิดตัวตนเอาไว้จึงช่วยกันไม่ให้ไททันส่วนใหญ่รู้ถึงตัวตนของเขา
ถ้าหากเขาถูกจับได้ว่าแอบเข้ามาในเขตแดนของไททัน นั่นหมายความว่าเขาจะถูกตามไล่ล่าไม่รู้จบ
แล้วถ้าเป็นแบบนั้น กว่าที่เขาจะไปถึงเมืองหย่งเย่ เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายไปเสียก่อน
หลังจากอดหลับอดนอนมาหลายวัน ในที่สุดหลินหยวนก็เดินทางมาถึงเมืองหย่งเย่
“ระบบ ฉันต้องการลงชื่อเข้าใช้” ในระหว่างที่เดินทางเด็กหนุ่มก็พูดขึ้นมา
วินาทีต่อมา เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นตามสเต็ปเดิมที่ฟังซ้ำ ๆ ทุกวัน
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณลงชื่อเข้าใช้สำเร็จเป็นเวลา 356 วัน ได้รับรางวัล: คริสตัลอัปเกรดพลัง x20!”
หลังจากหลินหยวนเก็บสะสมคริสตัลอัปเกรดพลังที่ได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้ เขาก็ออกเดินทางต่อไป หากระหว่างทางไม่ติดขัดอะไร เขาจะสามารถไปถึงเมืองหย่งเย่ได้ภายใน 2 ชั่วโมง
แต่ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ติ๊ง! ระบบตรวจพบโฮสต์กำลังจะไปถึงเมืองไททัน หลังจากเข้าไปในเมือง โฮสต์จะสามารถลงชื่อเข้าใช้พิเศษได้!”
ทันทีที่เด็กหนุ่มได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ เขาก็ตกตะลึง
ลงชื่อเข้าใช้พิเศษ?
มันคืออะไร?
เมื่อเกิดข้อสงสัยในใจเขาจึงรีบถามว่า “ระบบ ถ้าฉันเข้าไปในเมืองหย่งเย่ ฉันจะสามารถลงชื่อเข้าใช้แบบพิเศษได้ด้วยเหรอ?”
ระบบตอบกลับมาทันทีว่า “ได้”
หลินหยวนไม่คาดคิดเลยว่าระบบจะมีฟีเจอร์นี้ด้วย
เขาจึงพูดต่อว่า “ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับเมืองไททันทุกเมืองหรือเปล่า หรือใช้ได้เฉพาะเมืองหย่งเย่เท่านั้น?”
“โฮสต์ที่รัก” ระบบโต้ตอบแทนควัน “คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้พิเศษได้ทุกเมืองใหญ่ของเผ่าไททัน และในเมืองใหญ่แต่ละเมืองจะสามารถลงชื่อเข้าใช้พิเศษได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“แล้วรางวัลที่จะได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้พิเศษคืออะไร?”
“เราไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ ขอให้โฮสต์ที่รักไปสำรวจด้วยตัวเอง”
แย่ชะมัด!
หลังจากได้ยินคำตอบแบบนี้หลินหยวนก็แอบสบถในใจ
เขาไม่คาดคิดว่าระบบจะปฏิเสธไม่ตอบคำถามที่สำคัญที่สุด โชคดีที่อีกไม่นานเขาก็จะไปถึงเมืองหย่งเย่แล้ว
พอเขาเข้าไปในเมือง เขาก็จะรู้ว่าการลงชื่อเข้าใช้พิเศษจะให้รางวัลเป็นอะไร
…
ในเวลาเดียวกัน ห่างจากเมืองหย่งเย่ไปกว่า 300 กิโลเมตร
หลี่หวงเหยียนได้กางเต็นท์ 2 หลังเอาไว้ในถ้ำที่เงียบสงบเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกไททันจับได้เพราะเขาไม่กล้าแม้แต่จะจุดกองไฟเลยด้วยซ้ำ
แล้วค่ำคืนที่มืดมิดก็ค่อย ๆ ผ่านไป ถึงกระนั้นชายผมแดงก็นอนไม่หลับ เขาจึงรูดซิปเต็นท์ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก
แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเต็นท์ของฉู่อวี้ก็ว่างเปล่าเช่นกัน
พอเห็นดังนั้นหัวใจของหลี่หวงเหยียนก็เต้นแรงในขณะที่เขารีบวิ่งออกไปจากถ้ำ
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าฉู่อวี้เป็นผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าอย่างไรเขาจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอไม่ได้เด็ดขาด
โชคดีที่พอชายผมแดงก้าวออกจากปากถ้ำ เขาก็เห็นเด็กสาวยืนอยู่บนเนินเตี้ย ๆ ที่อยู่บริเวณปากถ้ำ
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะบินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย
“เป็นอะไรไป? นอนไม่หลับเหรอ?” เมื่อหลี่หวงเหยียนลงจอดข้างเธอ เขาก็ถามด้วยความเป็นห่วง
เขาสังเกตเห็นว่าสายตาของฉู่อวี้กำลังจับจ้องไปยังทิศทางของเมืองหย่งเย่
อาจเป็นเพราะพรุ่งนี้พวกเขาจะเปิดฉากบุกเมืองหย่งเย่ และทำภารกิจตัดหัวไกอัส ไททันอนธการให้สำเร็จ มันจึงทำให้คนไม่มีประสบการณ์อย่างฉู่อวี้เป็นกังวล
ทันใดนั้นเด็กสาวก็พูดขึ้นว่า “ท่านนายพลหลี่ เราจะฆ่าไททันอนธการตัวนั้นได้จริงเหรอคะ?”
หลี่หวงเหยียนยิ้มและพูดติดตลกว่า “อะไรกัน? เธอไม่มั่นใจในฝีมือฉันเหรอ?”
เขาพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย เพื่อลดความตึงเครียดของอีกฝ่ายลง
จากนั้นฉู่อวี้ก็ส่ายหน้าตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ ฉันก็แค่ไม่คิดว่าฉันจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเร็วขนาดนี้น่ะค่ะ”
ถึงแม้ว่าอุปนิสัยของเด็กสาวจะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีกว่าคนอื่น แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังเป็นเด็กที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วัยรุ่นได้ไม่นาน
เธอไม่ได้มีความมุ่งมั่นแน่วแน่แบบหลินหยวนที่คิดจะปกป้องแผ่นดิน
สิ่งที่เธอยึดมั่นอย่างแรงกล้าก็คือการเดินตามรอยเท้าของหลินหยวน!
และความดื้อรั้นนี้ก็ได้ผลักดันเธอจนมาถึงจุดนี้
หลังจากฉู่อวี้พูดจบ หลี่หวงเหยียนก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอีกฝ่ายว่าอย่างไร
จากนั้นเขาก็หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า “บางครั้งฉันก็อยากจะตัดพ้อโลกที่เฮงซวยนี้ มันโหดร้ายมากถึงขั้นต้องบังคับให้เด็กสาวอย่างเธอต้องลุกขึ้นสู้”
“แต่ฉันก็อยากให้เธอรู้เอาไว้ว่าในฐานะผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์ บนบ่าของเธอจะต้องแบกรับความรับผิดชอบและภารกิจที่หนักอึ้งมากกว่าคนอื่น ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องสู้ให้ถึงที่สุด”
ฉู่อวี้พยักหน้ารับเบา ๆ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 82
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น