บทที่ 14...1/3
ลัลนามองหาอะไรที่ดูไม่เข้าพวก อย่างเช่น กาน้ำมาอยู่ในห้องนอนหรือหนังสือที่พอจับยกขึ้นแล้วประตูจะเลื่อนเปิดอะไรแบบนั้น แต่หลังจากตามหาอะไรที่แปลกๆ มาเกือบชั่วโมงกลับไม่พบอะไรที่เป็นแบบนั้นเลย แต่เธอเจอบันไดเวียนไป 2 แห่งแล้ว ซึ่งถ้าไม่สังเกตจริงๆ ก็คงไม่เห็นว่าบันไดเวียนแห่งแรกอยู่หลังชั้นหนังสือซึ่งมีที่ว่างประมาณ 1 ตารางเมตร ส่วนบันไดเวียนอีกแห่งอยู่ในห้องนอนห้องหนึ่งใกล้ๆ กับตู้เสื้อผ้า เธอเลยเดาว่าบันไดเวียนที่พบน่าจะเอาไว้หนีเวลาที่เกิดมีโจรทะเลทรายหรือผู้บุกรุกกระมัง แต่ห้องลับให้หาอย่างไรก็ไม่พบเสียที
หญิงสาวมาเข้าห้องน้ำแล้วมองหาเผื่อจะเหมือนในหนังฝรั่งที่มีทางเข้าของอะไรสักอย่างในนี้ แต่ก็ไม่พบอะไรอีก พอเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงระเบียงหน้าห้องที่เปิดโล่งไม่มีประตู ไม่มีของที่วางเก็บ เธอเดินเข้าไปอย่างไม่คิดอะไรมาก แค่อยากรู้ว่าห้องนี้มีไว้ทำอะไรเท่านั้นเอง แล้วในฉับพลันนั้นเธอก็เหมือนหล่นลงไปแบบไม่รู้ตัว เธอตกใจเกือบร้องตะโกน แต่ไม่ทันเมื่อมารู้ตัวอีกทีเธอก็ได้หล่นมาบนโซฟานุ่มๆ ส่วนตรงที่เธอหล่นลงมาก็ปิดไปแล้วอย่างแนบเนียน นี่ใช่ไหมที่อิซาบอกว่ารามินเปิดกลไกลต่างๆ แต่ปิดประตูเข้าโรงแรมไว้ ที่แท้มันเป็นอย่างนี้ การที่จะกลับขึ้นไปคงไม่ง่ายเสียแล้วเพราะตรงที่เธอหล่นลงมาถูกดันปิดไว้แน่น ห้องลับนี้มีไว้จับโจรหรือว่าเป็นที่ซ่อนกันแน่ เพราะหนทางที่จะออกไปดูยากเย็นเหลือเกิน เธอมองโทรศัพท์ว่าจะโทรให้ใครสักคนมาพาออกไปดีไหม แต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อคิดว่ามีทางเข้าก็ต้องมีทางออกสิน่า แต่คำถามคือมันอยู่ตรงไหน
“แล้วจะออกไปยังไงละเนี่ย”
ลัลนาเดินไปรอบห้องสี่เหลี่ยมซึ่งรู้สึกได้ว่ามีอากาศเข้ามาได้ ไฟก็เปิดได้เองทำให้ห้องไม่มืดน่ากลัวจนเหมือนห้องผีสิง เธอลองกดไปตามผนังทั้งสี่ด้าน แต่ไม่มีอะไรขยับหรือประตูจะเลื่อนให้เห็น หญิงสาวกลับไปที่โซฟาแล้วคลำหาไปทั่วเผื่อว่าจะมีอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรอีก เธอเริ่มหาที่มาของอากาศว่ามันเข้ามาทางไหน จนกระทั่งเธอลองขยับโซฟาถึงได้พบว่ามีช่องอากาศอยู่ด้านหลัง เธอมองไปตามช่องก็เห็นบางอย่าง
“คอกม้านี่นา”
ที่แท้ห้องลับนี้อยู่ติดกับคอกม้านี่เอง หญิงสาวลองผลักเบาๆ ตรงไม้ที่ยื่นขึ้น
ครืด...
นี่ไง! เธอพบแล้วประตูลับที่จะพาออกไปจากห้องลับ
แต่ในวินาทีนั้นเองหญิงสาวกลับโยกไม้อันเดิมไปด้านหลังเพื่อทำให้กลไกดันประตูจนเกือบปิด เธอเห็นบางอย่างจากเนินทะเลทรายลิบๆ
“นั่นรถของใคร”
ลัลนาแน่ใจว่าเห็นรถ แต่ไม่แน่ใจว่ามันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้หรือว่าแค่รถนักท่องเที่ยวที่ขับผ่านมา แต่แล้วในวินาทีที่กำลังจดจ่อนั้น รถที่เธอเห็นไม่ได้มาแค่คันเดียว แต่มาถึงสามคัน เป็นรถกระบะตอนเดียว เธอลอบมองผ่านช่องประตูที่ยังเหลือไว้ จนกระทั่งเห็นสิ่งที่อยู่ในรถได้อย่างชัดเจน
ปืน!...หลายกระบอกด้วย
รามินขี่ม้าอยู่ใช่ไหม เขารู้หรือเปล่าว่าภัยกำลังจะมาถึงตัวแล้ว หญิงสาวละล้าละลังระหว่างความปลอดภัยของตัวเองกับการออกจากประตูบานนี้แล้วเสี่ยงอันตรายไปตามหารามิน เธอควรเลือกอะไร หญิงสาวคิดอยู่ไม่ถึงสองวินาทีก็เลื่อนให้ประตูเปิดแล้ววิ่งออกไป แต่เธอกลับถูกกระชากแขนและรั้งเอวให้กลับมาอย่างแรงพร้อมๆ กับประตูได้ปิดลงทันที เธอส่งเสียงอู้อี้พยายามดิ้นเพราะไม่รู้ว่าใครที่มาจับเธอไว้ เธอต้องออกไปเตือนรามิน ช่างไม่รู้เลยหรือไง
กลุ่มคนที่ไม่น่ามีจุดประสงค์ที่ดีเพราะมาพร้อมอาวุธครบมือจอดรถทั้ง 3 คันหน้าคฤหาสน์ที่ปรากฏบนแผนที่ว่าเป็นโรงแรม แต่กลับเงียบราวกับไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่อย่างไรอย่างนั้น แต่สัญญาณสุดท้ายที่ได้จากตัวติดตามซึ่งติดไว้ที่รถของรามินมันคือที่นี่ ทว่าพวกเขาเข้ามาในบริเวณของสิ่งปลูกสร้างนี้ได้ แต่จะเข้าด้านไปในได้อย่างไรเพราะประตูทุกบานปิด หน้าต่างก็ปิด แม้การใช้อาวุธจะช่วยเปิดทางได้ แต่หากรามินอยู่ที่นี่จะกลายเป็นแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียเปล่าๆ
เสียงโทรศัพท์ของผู้บุกรุกดังขึ้น เจ้าคนที่เป็นหัวหน้ารับสายแล้วรายงานน้ำเสียงนอบน้อม
“ผมพบบ้านหลังใหญ่มากกลางทะเลทรายครับ แต่พวกผมยังหาทางเข้าไม่พบ ทุกอย่างถูกปิดตายเหมือนกับว่าไม่มีคนอยู่”
แต่แล้วประตูเหล็กที่แน่นหนาก็เลื่อนเปิด หนึ่งผู้มาเยือนพากันยกปืนพร้อมยิง แต่ภายในกลับเงียบเชียบและไม่มีใครสาดกระสุนปืนออกมา เจ้าคนหัวหน้าแม้จะสงสัยว่าประตูเปิดได้อย่างไร แต่กลับรายงานกลับเหมือนกับไม่มีอะไรผิดปกติ
“ผมหาทางเข้าได้แล้วครับ”
เขามั่นใจว่าต้องเป็นที่นี่เป็นแน่ๆ เขาตามสัญญาณติดตามที่มีคนช่วยไปติดที่รถของรามินอยู่ ชั่วโมงแรก เขายังตามสัญญาณได้อยู่ แต่แล้วสัญญาณก็หายไป เมื่อตอนสายเขาก็จับสัญญาณได้อีก พอตามสัญญาณมา สัญญาณก็หายไป เขาจึงลองขับรถวนหามาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาพบที่นี่เข้า
“ครับนาย ถ้าฆ่าเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ผมจะโทรกลับไปรายงาน” เจ้าหัวหน้ารับปากอย่างแข็งขัน ก่อนกดวางสาย แล้วหันไปบอกคนของตัวเอง
“จัดอาวุธให้ครบมือ เจ้านายบอกถ้าเจอตัวรามินให้ฆ่าทิ้งได้เลย”
ทุกคำพูดได้บันทึกไว้หมดแล้วจากกล้องวงจรปิด แม้พวกมันที่มาจะยิงกล้องวงจรปิดที่เห็นอย่างเปิดเผยหมดแล้ว แต่พวกมันไม่รู้ว่ามีกล้องตัวเล็กจิ๋วที่ถูกซ่อนไว้ตามผนัง นาฬิกาเรือนสวยที่ประดับราวกับของสวยงาม แจกันดอกไม้ ภาพเขียนต่างๆ ล้วนแล้วมีกล้องไว้รอติดตามผู้บุกรุกที่มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ปกติแล้วกล้องพวกนี้ไม่ได้ใช้ ยกเว้นเวลาแบบนี้เท่านั้นที่มันถูกเปิดใช้พร้อมกลไกต่างๆ ในบ้าน พ่อของรามินจ้างนักสถาปนิกมาออกแบบบ้านที่พร้อมเปลี่ยนเป็นกับดักไว้ราวกับรู้อนาคตว่าวันนี้จะมาถึง
ลัลนาได้กลิ่นที่คุ้นเคยจากร่างหนาที่ใช้มือตะปบปิดปากเธอไว้ ส่วนมืออีกข้างกอดรัดเอวของเธอเอาไว้แน่น แต่เพราะการถูกจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้วตัว ทำให้หญิงสาวดิ้นขัดขืน ใช้ศอกแทงไปข้างหลัง ทำให้อีกฝ่ายจุกไม่น้อย แต่เธอยังถูกจับไว้ไม่ปล่อย แต่พอได้กลิ่นหอมจางๆ และมีเวลาคิดนานอีกนิด ลัลนาก็เริ่มจะแน่ใจ จนกระทั่งชายที่กอดเอวเธอไว้ส่งเสียงบอก
“ผมเอง...รามิน”
หญิงสาวถอนใจโล่งอกพร้อมๆ กับร่างของรามินขยับห่างออกมา เพื่อปล่อยให้ลัลนาเป็นอิสระ
“คุณเองเหรอคะ ทำไมไม่ให้เสียงกันตั้งแต่แรก ฉันตกใจแทบแย่” ลัลนาหายใจหอบๆ เพราะยังเหนื่อยที่ดิ้นหนีเมื่อครู่ แต่เธอก็รีบบอกรามินในเรื่องสำคัญ “มีคนพร้อมอาวุธกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ด้วยรถ 3 คันค่ะ”
“ผมรู้แล้ว”
“รู้ได้ยังไงคะ” รามินไม่ได้มองไปด้านนอกด้วยซ้ำตอนที่บอกลัลนา แล้วเขารู้ได้ยังไง
“ผมดูจากกล้องวงจรปิดน่ะสิ แม้แต่ในห้องลับที่คุณติดอยู่เกือบชั่วโมงผมก็ดูอยู่”
ชายหนุ่มเลื่อนไอแพดให้ลัลนาเห็นว่าเขาดูความเคลื่อนที่เกิดขึ้นด้วยกล้องวงจรปิดที่ส่งภาพมาที่ไอแพด หากนับไม่ผิดเขามีกล้องที่จับตาดูความเคลื่อนไหวทั้งหมด 20 ตัว ไม่ใช่ว่าเธอได้ยินเสียงปืนที่คนร้ายคงยิงกล้องวงจรปิดรอบๆ โรงแรมไปแล้วหรือ ลัลนามั่นใจว่าเขาคงมีแผนสำรองไว้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เลือกมาพักค้างคืนที่นี่หรอก
“แล้วทำไมคุณไม่มาพาฉันออกไปล่ะคะ ปล่อยให้ฉันหาทางออกอยู่เป็นนานสองนาน คุณแกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหม” ลัลนาเห็นตัวเองจากกล้องวงจรปิดในห้องนี้ แต่กล้องติดอยู่ตรงไหน เธอหาไม่เจอ
“คุณจะเปิดประตูแล้ววิ่งออกไปทำไม” เรื่องนี้ต่างหากที่รามินสงสัย ทั้งที่รู้ว่าอันตราย ลัลนายังจะวิ่งออกไปอีก
“คุณอิซาบอกว่าคุณออกไปขี่ม้า ฉันกลัวว่าคุณจะถูกคนพวกนั้นสอยไปน่ะสิคะ ถ้ารู้ว่าคุณสบายดี แถมมีกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ อีกเพียบให้คุณสังเกตการณ์ ฉันคงไม่เสี่ยงวิ่งออกไปหรอกค่ะ”
รามินมองลัลนานิ่งด้วยสายตาที่อ่อนโยน แม้ลัลนาจะไม่ได้พูดออกมาว่าเป็นห่วงเขา แต่การกระทำของเธอยิ่งกว่าเสียงที่โกนบอกคำว่า...เป็นห่วง เรียวปากหนายิ้มให้หญิงสาวที่เขาเลือกมาเป็นเจ้าสาว แม้เจ้าตัวจะบอกว่าไม่ได้รักเขา แต่เธอจะรู้ตัวไหมว่าเป็นห่วงเขาจนยอมเสี่ยงอันตราย สิ่งนี้มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าคำว่ารัก
“พวกมันมาถึงแล้วครับ” อิซาเข้ามาอีกทางซึ่งเป็นผนังที่ลัลนาแตะอยู่ตั้งนาน ที่จริงมันเลื่อนออกได้ แค่เธอต้องสูงพอที่จะกดปุ่มไม้เล็กๆ เพื่อกดเปิดบานประตูเลื่อนนั้น
ลัลนาเพิ่งรู้ว่าห้องลับเข้ามาได้จากหลายทาง ที่แท้มันเป็นที่หลบภัยชั้นดีนี่เอง
“มันตามมาตามสัญญาณที่ผมจงใจตัดสัญญาณรบกวนจริงๆ เสียด้วย มีคนในงานเป็นพวกเดียวกับพวกมัน ญาติของเราเองก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้” รามินหัวเราะต่ำๆ ในลำคอเมื่อเห็นหน้าญาติที่นำเอาเครื่องติดตามมาติดที่รถของเขา ญาติปลายแถวที่ทำให้รามินพอจะคาดเดาได้แล้วว่าใครที่ส่งคนมาฆ่าเขา
ปลอดภัยของรามิน = ล่อให้คนร้ายตามมา ยัยลัลจะได้แต่งงานกับรามินจริงๆ ใช่ไหม คนอะไรเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ
บทที่ 14 จะเป็นบทสุดท้ายที่ลงให้อ่านแล้วนะคะ ตามที่แจ้งมาตลอด
ปล. ทุกๆ 2-3 วัน โบว์จะมาลบบทที่เกินจากบทที่ 10 ไปเรื่อยๆ นะคะ จะได้เท่ากับตัวอย่างที่ให้อ่าน MEB ค่ะ ส่วนที่ up ก็ up เรื่อยๆ จนกว่าจะถึงบทที่ 14 ค่ะ
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะใน MEB
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะใน DEK-D
https://dekd.co/w/e/32551 บ่วงรักรามิน
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะในปิ่นโต
บ่วงรักรามิน | ปิ่นโต อีบุ๊ก อ่านสนุก ทุกหมวดทุกแนว
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี (อัมราน)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 125
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น