บทที่ 279 ซิลเวอร์แดกเกอร์
บทที่ 279 ซิลเวอร์แดกเกอร์
บนเนินสูง
ดีม่อนบลัดยืนดูกองกำลังพิเศษบุกทะลวงแนวรบทางด้านซ้ายของโอเวอร์ลอร์ดพร้อมกับพยักหน้าอย่างพอใจ
“พวกเขาทำสำเร็จแล้ว”
บลัดไทแรนท์มองดูกองทัพของฉงป้าที่กำลังวุ่นวาย ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มและพูดขึ้นมาว่า
“คราวนี้ฉันจะทำให้ฉงป้าได้รู้เองว่ามันเป็นเพียงแค่ลูกไก่ในกำมือ บอกพวกเขาทั้ง 6 คนไปว่าหากใครฆ่าฉงป้าได้สำเร็จ ฉันจะให้เงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 100,000 เครดิต”
“ได้ครับ” เซาธ์โคสท์พยักหน้ารับก่อนจะรีบกระจายคำสั่งออกไปในทันที
—
ในสนามรบ
กองกำลังโอเวอร์ลอร์ดทางด้านซ้ายถูกกองกำลังของบลัดเติสตี้ฉีกกระชากจนแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ จำนวนนับไม่ถ้วน ขณะเดียวกันหน่วยรบพิเศษทั้ง 6 ทีมก็กำลังใช้กระบวนทัพรูปหัวลูกศรในการบุกเข้าไปหาฉงป้า
“ฮ่า ๆ ๆ หัวหน้าให้เงินอัดฉีดมาแล้ว พี่น้องทั้งหลายพวกเราอยู่ใกล้กับฉงป้ามากที่สุด รีบตามฉันมาแล้วไปฆ่าฉงป้ามาแลกเงินรางวัลกันเถอะ” แบล็คดรีมตะโกนอย่างสะใจขณะใช้ค้อนขนาดใหญ่ฟาดผู้เล่นกระเด็นออกไปมากกว่า 30 คน
“หัวหน้าที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว คุณรีบหลบไปทางด้านหลังเถอะครับ” แฟนทอมเอจพูดอย่างเป็นห่วง
ฉงป้าเข้าใจความกังวลของแฟนทอมเอจเป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังตอบกลับไปอย่างไม่พอใจว่า
“ฉันไม่เคยเป็นทหารหนีทัพ! วันนี้ฉัน ฉงป้าจะยืนอยู่ตรงนี้ดูซิว่าใครมันจะมีฝีมือพอจะฆ่าฉันได้”
“ทัพทางฝั่งตะวันออกถูกทะลวงแล้ว คราวนี้พวกเราคงจะพ่ายแพ้แล้วค่ะ” ฉวยอู๋อี้กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เธอพูดบ้าอะไรของเธอ?! ตราบใดก็ตามที่ลู่หยางยังไม่แพ้พวกเราก็ยังมีโอกาสได้รับชัยชนะ รีบกระจายคำสั่งออกไปให้ทุกคนยืนหยัดเอาไว้ให้ได้นานที่สุด ถึงแม้ทัพของเราจะถูกแบ่งแยกแต่ก็ห้ามใครวิ่งหนีหรือยอมแพ้ไปอันขาด” ฉงป้าสั่งการด้วยสีหน้าอันเยือกเย็น
เมื่อได้เห็นอารมณ์ของฉงป้า ฉวยอู๋อี้กับแฟนทอมเอจก็รู้แล้วว่าหัวหน้ากิลด์ของตัวเองกำลังหงุดหงิดมากแค่ไหน มันจึงไม่มีใครกล้าส่งเสียงเตือนอะไรขึ้นมาอีก
ระหว่างนั้นฉงป้าก็หันไปมองทางลู่หยางและฉือมู่ ก่อนที่จะได้เห็นว่าทั้งสองทัพกำลังผนวกกำลังโจมตีเข้าใส่แบล็คบลัด และทำให้สถานการณ์ของทางฝั่งเดธโซลย่ำแย่ไม่ต่างไปจากพวกเขา
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ฉงป้าก็รับรู้ได้ในทันทีว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ใครสามารถอยู่ทนได้นานกว่าฝ่ายนั้นก็จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
ท้ายที่สุดหากทัพของเขาได้รับความพ่ายแพ้ มันก็จะเป็นการเปิดช่องว่างให้บลัดไทแรนท์โจมตีเข้าใส่ด้านหลังของฉือมู่ กรณีเดียวกันถ้าหากแบล็คบลัดได้พ่ายแพ้ ในเวลานั้นมันก็จะเป็นการเปิดช่องว่างทางด้านหลังของบลัดไทแรนท์
ไกลออกไปสื่อใหญ่ในประเทศต่างก็กำลังบันทึกภาพเหตุการณ์สงครามในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์, สื่อโทรทัศน์หรือสื่อออนไลน์ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกับการเผชิญหน้าในครั้งนี้ด้วยกันทั้งหมด
ไม่ว่ายังไงภาพเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมานานมากแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้มันเป็นภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏภายในเกม
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวละครทุกตัวภายในเกมถูกควบคุมด้วยคนจริง ๆ และทุกคนต่างก็กำลังต่อสู้เพื่อเกียรติยศทำให้คนดูต้องลุ้นตามไปด้วย
“โคตรมันเลย!”
“นี่แหละสิ่งที่ฉันตามหา”
“ภาพนี้มันเป็นภาพเหมือนกับตอนสงครามโลกเลยชัด ๆ”
เหล่าบรรดาผู้สื่อข่าวต่างก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ขณะที่นักข่าวกำลังบันทึกภาพเหตุการณ์อยู่นั้น ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเซคคัลเวิลด์ก็มีการถ่ายทอดสดสงครามในครั้งนี้ให้ผู้คนได้รับชมฟรี ๆ แม้แต่ผู้ที่อยู่ในเกมก็สามารถรับชมถ่ายทอดสดได้ด้วยเช่นเดียวกัน
“นักบวชพันธนาการของแบล็คบลัดเท่มากเลย ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมเฮลไฟร์ลอร์ดเอาไว้ได้ทั้งหมด”
“บลัดไทแรนท์วางแผนมารอบคอบมาก การปรากฏตัวของเขาทำให้สถานการณ์พลิกไปเลยเพียงแค่แปปเดียว”
“ฉงป้าเก่งสมชื่อจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทนได้นานขนาดนั้น”
“นักธนูอัจฉริยะคนนั้นเป็นใครกันนะ? ทำไมเขาถึงโจมตีได้ไกลตั้ง 100 เมตร ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาคนเดียวจะสังหารนักบวชพันธนาการได้ทั้ง 8 คน”
“เฮ้ย ดูสาวคนนั้นสิ!”
“โคตรสวยเลย”
“ดูเหมือนเธอจะเป็นนักเวทสายฟ้าที่มีเวทมนตร์ต้องห้ามด้วย”
—
ในโลกแห่งความเป็นจริง
เหล่าบรรดานักเรียนมากมายกำลังจดจ้องดูการต่อสู้ในครั้งนี้ แล้วถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถเข้าเกมได้เพราะติดเรียน แต่พวกเขาก็ยังพอหาเวลาว่างมารับชมการถ่ายทอดสดได้
“ถ้าได้เข้าเกมฉันจะเข้าร่วมกับกิลด์บลัดเติสตี้ ไม่สิ ฉันเข้าร่วมกับกิลด์บลัดบราเธอร์ดีกว่า” นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันชื่นชม ซึ่งในตอนแรกเขาชอบความเด็ดขาดของบลัดไทแรนท์มาก แต่เมื่อภาพตัดไปยังนักรบสาวคนหนึ่งของบลัดบราเธอร์ มันก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ความสวยของนักรบคนนี้สามารถจะพูดได้ว่า ‘หญิงงามล่มเมือง’ ไม่ว่าจะเป็นดวงตาอันโฉบเฉี่ยว ผิวขาวราวกับหิมะ ริมฝีปากแดงที่ชวนน่าหลงใหลหรือรูปร่างอันแสนงดงาม และท่าทางการถือดาบอันสง่าผ่าเผยต่างก็ล้วนแล้วแต่ดึงดูดสายตาของหนุ่ม ๆ ได้เป็นจำนวนมาก
แน่นอนว่านักรบสาวคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากราชินีกุหลาบเซี่ยหยู่เว่ยนั่นเอง
หลังจากสงครามครั้งนี้จบลง ชื่อเสียงของเซี่ยหยู่เว่ยก็แพร่สะพัดไปในหมู่ผู้เล่น โดยเฉพาะฉายาราชินีกุหลาบที่ให้ทั้งความรู้สึกงดงามและน่าเกรงขามไปในเวลาเดียวกัน
—
“หยู่เว่ย! ศัตรูด้านหน้าแข็งแกร่งเกินไป พี่น้องของพวกเราบุกเข้าไปไม่ได้” จางจื่อโป๋วิ่งกลับมารายงานอย่างเหนื่อยล้า
เซี่ยหยู่เว่ยขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปทางด้านหน้า แล้วแววตาอันเย็นชาของเธอ มันก็ทำให้นักเรียนชายจำนวนนับไม่ถ้วนตกอยู่ในอาการหลงใหล
“หานซาตามฉันมา เราจะไปทำลายแนวรบของพวกมัน” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับชูดาบยาวและพุ่งออกไปด้านหน้า
เมื่อได้รับคำสั่งหานซาก็ได้นำทีมชั้นยอดที่เขาได้ฝึกฝนมาเป็นพิเศษตามหลังเซี่ยหยู่เว่ยเข้าไปในแนวรบของศัตรู
ลู่หยางมองดูเหตุการณ์ในระยะไกลด้วยรอยยิ้มพร้อมกับคิดภายในใจว่าเค้าโครงของราชินีไร้พ่ายและแม่ทัพผู้ซื่อสัตย์ในชาติก่อนกำลังค่อย ๆ เด่นชัดในชาตินี้
“พี่ พวกเรารีบไปช่วยฉงป้าก่อนดีไหมคะ? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับมือไม่ไหวแล้ว” มู่หยูถาม
“ไม่ต้องห่วง ฉงป้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นและฉันก็ส่งคนไปช่วยเขาแล้ว” ลู่หยางกล่าว
—
ไกลออกไป
ปัจจุบันกองกำลัง 20,000 คนของฉงป้าถูกจัดการไปแล้วมากกว่า 8,000 คน กองกำลังที่เหลืออยู่กว่าอีก 10,000 คนจึงพยายามต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปอีกไม่นานพวกเขาก็คงจะได้รับความพ่ายแพ้
เมื่อฉวยอู๋อี้เห็นกองทัพบลัดเติสตี้เริ่มกลืนกินกองทัพของพวกเธอเข้ามาเรื่อย ๆ มันก็ทำให้ฉวยอู๋อี้อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า
“หัวหน้า คุณกลับเมืองไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะคอยอยู่ดูแลที่นี่เอง”
“เธอหมายความว่ายังไง?” ฉงป้าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“คุณคือจิตวิญญาณของกิลด์ ดังนั้นคุณห้ามตายในสนามรบอย่างเด็ดขาด หากคุณเกิดพลาดเสียชีวิตขึ้นมามันจะส่งผลกระทบต่อกำลังใจของทุกคนอย่างหนัก” ฉวยอู๋อี้กล่าว
“แล้วเธอคิดว่าถ้าฉันหนีไปตอนนี้กำลังใจของทุกคนจะไม่แย่ลงหรือยังไง!” ฉงป้าพูดอย่างหงุดหงิด
“ประธานฉงป้าสมกับเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ ในเมื่อแกเป็นคนพูดแบบนี้ขึ้นมาเอง ฉันก็ขอเป็นคนส่งแกไปสู่สุคติก็แล้วกัน” เสียงพูดดังขึ้นมาจากใต้ดินอย่างกะทันหัน ก่อนที่ฝูงงูขาวฝูงหนึ่งจะรวมตัวกันกลายเป็นกอร์เจียสที่พุ่งเข้ามาหาฉงป้าอย่างรวดเร็ว
“หัวหน้าระวัง!”
เหล่าบรรดาองครักษ์ทั้ง 20 คนรีบเข้ามาล้อมฉงป้าเอาไว้อย่างกะทันหัน กอร์เจียสจึงเผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่งูแสงสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนจะพุ่งออกมาจากดาบภายในมือ
ซีคออฟไวท์สเนค!
เมื่อเหล่าบรรดาองครักษ์ถูกงูแสงพุ่งเข้ากัด มันก็ทำให้พวกเขาติดสถานะกลายเป็นอัมพาตชั่วคราว ซึ่งในตอนนี้แม้แต่ฉวยอู๋อี้หรือฉงป้าก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้
“อย่าพยายามดิ้นรนเลย หากไม่มีคนใช้สกิลขับไล่ พวกแกก็จะต้องอยู่นิ่ง ๆ ไปเป็นเวลา 10 วินาที แกจงจำเอาไว้ให้ดี ๆ ว่าคนที่ฆ่าแกได้เป็นคนแรกคือฉันกอ…”
กอร์เจียสยังพูดไม่ทันจบประโยค ทันใดนั้นมันก็มีมีด 2 เล่มปักเข้าที่ต้นคอของเขาพร้อม ๆ กัน โดยมีดเล่มหนึ่งมีสีขาวราวกับหิมะ ขณะที่มีดอีกเล่มมีสีดำราวกับรัตติกาล แน่นอนว่าผู้ที่ปรากฏขึ้นมาก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากฮั่นเฟยที่พึ่งทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพจนเสร็จ
“จำเอาไว้ว่าคนที่ฆ่าแกคือฉัน ซิลเวอร์แดกเกอร์!” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับชักมีดออกมาจากลำคอของกอร์เจียสอย่างเย็นชา ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นฝ่ายตรงข้ามก็เสียชีวิตลงอย่างไม่เต็มใจ
อย่างหล่อเลยยยย ถึงเวลาเฉิดฉายแล้วน้องพี่!! 555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 277
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น