บทที่ 62 การมาของใครบางคน
--- เซฟ Talk ---
ผมตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า วันนี้จะพาเธอมาที่ผับแห่งนี้ ผับที่เราเจอกันครั้งแรก และทำให้เรามีความสัมพันธ์กันมาจนถึงทุกวันนี้ ผมเตรียมพร้อมสำหรับคำอธิบายไว้เรียบร้อยแล้ว รอแค่เธอเอ่ยถามมา
แต่ว่าพอมาถึง เธอกลับดูตื่นตาตื่นใจไปเสียทุกอย่าง ทำตัวเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งออกมาเจอโลกภายนอกครั้งแรก เธอมองดูเหล่าลูกค้าของผมโยกย้ายแดนซ์กระจายอยู่ด้านล่าง ท่าทางเหมือนเธออยากจะลงไปแจมด้วยเสียเต็มที จนกระทั่ง...
เธอหยุดมองไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เธอมองอยู่นานจนผมเองก็อดหวั่นใจไม่ได้ แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอเธอสอบสวนแน่นอน
แล้วสิ่งที่ผมหวั่นใจก็เป็นจริง เมื่อเธอเกิดสงสัยขึ้นมาจริงๆ เธอมาขอผมลงไปข้างล่าง ตอนแรกผมแกล้งบ่ายเบี่ยง เพราะใจจริงอยากจะไปเคลียร์ไปรำลึกความหลังกันตรงนั้นเสียมากกว่าให้เธอรู้ความจริงแล้วงอนผมตุ๊บป่อง แต่ถึงเธอจะงอนผมก็ยินดีง้อ แต่ว่าง้อด้วยร่างกายนะ...หึหึ
ผมให้กิตพาเธอไปด้านล่าง ในเมื่อเธออยากจะเป็นนาตาชาผมก็ไม่ขัด ผมก็จะให้เธอหาความจริงด้วยตัวเธอเอง ส่วนผมตั้งแต่เธอเดินลงไป ผมก็ละงานในมือมายืนดูเธอผ่านกระจกบานใหญ่ ที่ถ้าคนด้านนอกเห็นก็จะนึกว่าเป็นเพียงกระจกตกแต่งร้านเท่านั้น แต่ความจริงด้านหลังคือห้องทำงานขนาดใหญ่ของผมนั้นเอง
เหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่เธอลงไปไม่มีเหตุการณ์ไหนที่คลาดสายตาของผมไปได้เลย เพราะตั้งแต่เธอลงไป ผมก็สั่งให้ไอ้กิตกลับขึ้นมาข้างบนทันทีไม่ต้องตามดู เพราะนี่มันถิ่นของผม ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน
ผมมองเธอยืนอึ้งเหมือนจะเข้าเค้าความจริงเข้าให้แล้ว ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินไปถามพนักงานที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งคนนั้นก็คือคนคนเดียวกันกับครั้งที่แล้ว เพียงแต่...ครั้งที่แล้วที่เธอเจอกับพนักงานคนนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นไปตามหน้าที่ของพนักงานที่ต้องประจำตามตำแหน่งของตัวเองอยู่แล้ว และครั้งนี้มันไม่ใช่ เพราะผมเองที่เป็นคนจัดการให้เธอได้เจอกับพนักงานคนนั้น เพราะผมรู้ดีว่าเธอต้องถามความเป็นมาของผมกับพนักงานแน่นอน
แล้วก็เป็นดั่งที่ผมคาดไว้ เธอถามพนักงานจริงๆ พนักงานส่งสัญญาณมาที่ผมทันที เพื่อสอบถามผมว่าเขาสามารถตอบคำถามเธอได้แค่ไหน ซึ่งผมก็อนุญาตให้พูดตามความจริงทั้งหมดที่รู้ได้เลย จากนั้นก็รอดูเธอสืบหาความจริงต่อไป
ภาพที่เธอดูกระตือรือร้นตื่นเต้นที่จะได้รู้ความจริง มันทำให้ผมอดมองดูเธอด้วยสายตาเอ็นดูในการตามล่าหาความจริงของเธอไม่ได้ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า จนไอ้กิตลูกน้องคนสนิทอดแซวไม่ได้
“หลงเขาขนาดนั้นเลยหรอครับนาย” กิตแซวเจ้านายหนุ่มของเขา
ผมเหลือบตามองด้วยความรู้สึกคันยุบยิบที่ฝ่าเท้าอยากจะเตะปากคน
“ตอนเกิดหมอดึงตีนมึงออกมาก่อนหรอว่ะ ถึงได้กวนตีนกูจัง” เขาหุบยิ้มทันที ก่อนจะด่าลูกน้องคนสนิทกลับไป
“แต่ว่าถ้าหลงขนาดนี้ แล้วพวกศัตรูนายรู้ คุณเอลิซเขาจะลำบากเอานะนาย” กิตพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
คนฟังยืนนิ่งคิดตามคำพูดลูกน้อง ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดเรื่องนี้ เขาคิดมาตลอดเวลาตั้งแต่มีเธอเข้ามาในหัวใจของเขา แต่จะให้เลิกรักเธอเขาเองก็ทำไม่ได้ สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือคอยดูแลเธอ อยู่ใกล้เธอทุกเวลา เพื่อที่จะปกป้องเธอได้
ขณะที่กำลังเหม่อลอยไปตามคำพูดลูกน้องอยู่นั้น เสียงลูกน้องคนสนิทก็ทำให้เข้าหลุดออกจากภวังค์กลับเข้ามาสู่โลกความเป็นจริงกับภาพตรงหน้า
“นายครับนาย ดูนู้น มีคนมาจีบเมียนายแล้ว” กิตพูดขณะมือก็ชี้ให้ผู้เป็นนายดู
ภาพตรงหน้าทำผมเลือดขึ้นหน้าทันที ไอ้ห่านี่มันเป็นใคร กล้ามากนะที่มาจีบเมียกู
“กิตเก็บมันสิ” ผมบอกลูกน้องทันทีแบบไม่ต้องคิด
“ใจเย็นๆ ครับนาย ก็เขาไม่รู้ว่าคุณเอลิซเป็นเมียนายสักหน่อย อีกอย่างคุณเอลิซเธอก็ดูไม่ได้สนใจไอ้หน้าอ่อนนั้นด้วย” กิตพยายามโน้มน้าวเจ้านายให้ใจเย็นลง เพราะคนที่เจ้านายสั่งให้ไปเก็บ เป็นถึงดาราดาวรุ่ง ขืนทำอะไรโฉ่งฉ่างเกินไป จะตามเช็ดตามล้างทีหลังเห็นทีจะวุ่นวายเกินไป
ผมฟังที่ไอ้กิตมันพูด ผมรู้ว่ามันอยากให้ผมใจเย็น ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากฆ่าไอ้หน้าอ่อนนั้น แต่มันก็จริงอย่างที่ไอ้กิตมันว่า เธอไม่ได้สุงสิงอะไรแถมเสียงที่ได้ยินจากไมค์ที่ติดกับหูฟังบลูธูทที่อยู่ที่หูพนักงานเคาน์เตอร์บาร์ เธอก็ปฏิเสธทันที...ทำดีมาก...ให้มันได้อย่างนี้สิเมียรักของเฮีย
พอได้ยินได้เห็นดังนั้น ใจผมก็ผ่อนคลายลง รอยยิ้มแห่งความภูมิใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาอีกครั้ง
‘เมื่อกี้ยังจะฆ่าคนอยู่เลย ตอนนี้ยิ้มอีกแล้ว นายเขาไหวไหมเนี้ย’ กิตลอบมองเจ้านายตัวเองแล้วส่ายหัวให้กับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนคนวัยทองของเจ้านายเขา ทั้งที่จริงแล้วอายุก็ยังไม่ถึงสักหน่อย
ผมกลับไปโฟกัสที่เธออีกครั้ง เธอยังคงรอคำตอบจากพนักงานของผมเช่นเดิม ในขณะนั้นเอง ก็มีพนักงานสาวมาเสิร์ฟน้ำให้กับเธอ ผมได้ยินเสียงไม่ชัด เพราะพนักงานเสิร์ฟกระซิบที่ข้างหูของเธอ ผมดูท่าทางที่พนักงานชี้ให้เธอดู ผมถึงได้รู้ว่ามีคนมาจีบเมียผมอีกแล้ว...ฮึ่ม!!
อารมณ์ที่เพิ่งจะเย็นลงไปของผม ปะทุขึ้นอีกแล้ว
“ใจเย็นครับนาย รอดูสถานการณ์ก่อน” ในขณะที่ผมกำลังจะเอ่ยปากสั่งให้คนข้างๆไปฆ่าทุกคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นสะ ไอ้กิตก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน ความรู้ดีของมันอดทำผมหงุดหงิดไม่ได้
ผมดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยใจลุ้นระทึก ว่าเธอจะเดินไปร่วมวงกับไอ้พวกนั้นไหม ถ้าเธอลุกเดินออกไปแม้แต่ก้าวเดียว พ่อจะยิงทิ้งให้หมดไม่สนลูกหลานใครหน้าไหนทั้งนั้น โทษฐานล่อลวงเมียรักของผม
แต่เธอก็ไม่ทำให้ผมต้องผิดหวัง เธอแค่เอี้ยวหลังไปมอง แล้วหันกลับมาคืนแก้วเหล้า เพียงแค่นั้นก็เป็นคำตอบได้ดีว่าเธอปฏิเสธคนกลุ่มนั้นแล้ว การกระทำของเธอมันยิ่งทำให้หัวใจของผมพองโตด้วยความอิ่มเอมใจ นี่เธอคงจะรักผมมากสินะถึงปฏิเสธทุกคนที่เข้ามา ผมยกยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ
กิตมองพฤติกรรมเจ้านายอย่างเอือมระอา จนอดคิดไม่ได้ว่าเวลาที่คนเรามีความรัก จะมีใครทำตัวแปลกเหมือนเจ้านายของเขาไหม เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวหน้าอึมครึมสั่งฆ่าคน แป๊บเดียวกลับมายิ้มเล็กยิ้มน้อยอีกแล้ว
เมื่อเขาละสายตาจากเจ้านายเพื่อที่จะหันกลับไปดูเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ สิ่งที่เขาเห็นมันกลับทำให้เขาตัวแข็งทื่อทันที ก่อนจะค่อยๆ หันหน้าไปมองเจ้านายของตัวเองช้าๆ ด้วยความหวาดกลัวว่าครั้งนี้เจ้านายของเขาจะระเบิดอารมณ์หรือไม่...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 29
แสดงความคิดเห็น