เที่ยวบ้านท่านตา
ชิวเพ่ยเพ่ยใช้เวลาเดินทางจากเมืองหลวงถึงตำหนักเมฆาดับถึงสามวันเต็ม นางไปอย่างไม่เร่งรีบตามที่ท่านตากำชับมา นางจำได้ว่าที่นางต้องตกไปอยู่ในมือท่านแม่ก็เพราะสาเหตุที่ท่านยายถามนางว่าอยากเรียนรู้วรยุทธหรือไม่ พอมาถึงตอนนี้นางขี้เกียจที่จะโกรธเคืองผู้อาวุโสของนางแล้ว ไหน ๆ ก็เรียนมาขนาดนี้แล้ว แถมท่านตายังยอมที่จะยกตำหนักพร้อมสมบัติสูงกองท่วมหัวให้นางอีก นางมีหรือจะปฏิเสธความร่ำรวย เมื่อก่อนนางไม่รู้ว่าท่านแม่ร่ำรวย นางเพิ่งรู้เรื่องนี้หลังจากท่านตากับท่านยายแอบมาเยี่ยมนางในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี่เอง
ท่านพ่อนางเป็นขุนนางน้ำดีที่แสนจะสมถะ ของดี ๆ บ้านนางไม่เคยมีใส่กับเขาหรอก พวกนางสวมเพียงเสื้อผ้าเนื้อดีกว่าบ่าวรับใช้นิดหน่อยเท่านั้นมาตลอดตั้งแต่นางเกิดจนโตเอาป่านนี้ ตอนนั้นนางก็นึกว่าบ้านนางไม่มีเงินทองเหมือนตระกูลขุนนางอื่น ที่นางเห็นพวกเขาสวมชุดผ้าไหม เดินกรีดกรายไปทั่วตลาดพวกนั้นเสียอีก ที่ไหนได้เป็นท่านแม่นางที่ไม่อยากทำให้ครอบครัวท่านพ่อเป็นจุดเด่น จึงได้ทำตัวดังเช่นอดีตจนถึงปัจจุบัน นางอยากบอกท่านแม่เสียจริง ๆ ว่านี่มันสมัยไหนแล้ว แถมท่านตากับท่านยายยังเก่งกาจกันเสียขนาดนั้น ท่านแม่ยังทำเป็นกลัวสิ่งใดอีก เฮ้อ นางแสนจะเหนื่อยใจกับการคุยกับแม่ของนางเสียจริง
พ่อบ้านของตำหนักยืนรอนายหญิงน้อยที่ประตูใหญ่นานแล้ว พอเห็นรถม้าเก่า ๆ คันหนึ่งกำลังมา เขาถึงกับตาเบิกโพลง ทำไมนายหญิงน้อยถึงนั่งรถม้าโกโรโกโสแบบนี้มาเนี่ย คุณหนูของเขาทำไมไม่ดูแลลูกสาวให้ดีกว่านี้หนอ เขากลัวจริง ๆ ว่าถ้านายท่านกับนายหญิงผู้เฒ่าเห็นเข้าจะเอ็ดคุณหนูเสียสามวันสามคืน เขารู้มานานแล้วว่านายท่านกับนายหญิงผู้เฒ่ารักนายหญิงน้อยมากขนาดไหน ในเมื่อเขาเป็นคนสนิทของพวกท่านมาเกินครึ่งชีวิตแล้ว ใครในตำหนักที่กล้าดูถูกนายหญิงน้อยวันนี้คงต้องเตรียมตัวขุดหลุมศพให้ตัวเองเสียแล้ว หึ หึ
เมื่อรถม้าเข้ามาถึงประตู พ่อบ้านใหญ่รีบกล่าวต้อนรับนายหญิงน้อยและใช้วิชาตัวเบานำหน้ารถม้าเข้าไปด้านในเสียก่อน คนขับที่เป็นองครักษ์ลับของชิวเพ่ยเพ่ยตามไปอย่างไม่สะทกสะท้านใด ๆ กับบรรยากาศในตำหนักที่กดขี่จากค่ายกลใหญ่ที่ผู้เฒ่าหลิงไท่สร้างป้องกันไว้เมื่อหลายปีก่อน หากเป็นคนธรรมดากล้าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วล่ะก็ คงต้องลำบากคนในตำหนักหามศพออกมาอย่างเดียว
ชิวเพ่ยเพ่ยที่เรียนรู้กับอาจารย์มาจนแตกฉาน พอนางเห็นค่ายกลใหญ่ที่อาจารย์คุยนักคุยหนาก็เกิดความสนใจในทันที รอให้นางพักผ่อนเสียก่อน แล้วนางจะออกสำรวจให้ทั่วทั้งตำหนักเลยคอยดู ฮิ ฮิ
เหล่าคนเฒ่าคนแก่ ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาสร้างปีศาจน้อยที่กระหายความรู้ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ชิวเพ่ยเพ่ยที่ดูดความรู้อาจารย์เสียจนไม่มีอะไรจะสอนตั้งแต่สิบขวบ นางเริ่มหาอ่านหนังสือท่านพ่อจนหมดห้องหนังสือ ไม่พอกับสิ่งที่นางอยากเรียนรู้ นางยังออกไปหาซื้อหนังสือจากร้านในเมืองหลวงมากองจนล้นห้องเก็บของหลายครั้งแล้ว ลำบากท่านตาที่รู้ข่าวจากองครักษ์ลับต้องให้คนสร้างห้องเก็บหนังสือขนาดใหญ่ให้นางภายในบ้านตระกูลชิวเสียอีก ทั้งเขายังสรรหาหนังสือจากแคว้นอื่นให้คนขนกลับให้หลานสาวสุดที่รักไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ถ้าจะบอกว่าชิวเพ่ยเพ่ยเป็นอัจฉริยะก็ไม่มากไปนัก ความรู้ของนางไม่ว่าจะด้านไหนล้วนแต่แตกฉานมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน หรือแม้กระทั่งเหล่าขุนนางในราชสำนัก ชิวเพ่ยเพ่ยยังสามารถโต้เถียงได้เป็นวัน ๆ นางชอบปลอมตัวออกไปในรูปลักษณ์ของคุณชายตัวน้อยอยู่บ่อย ๆ เหล่าอาจารย์ในเมืองหลวงที่ถูกนางลองภูมิล้วนพ่ายแพ้อย่างไม่ทราบสาเหตุ คนที่พวกเขาส่งไปสืบหาตัวตนของคุณชายน้อยล้วนแต่ไม่เคยกลับมา ตั้งแต่นั้นมาข่าวคุณชายน้อยก็ถูกปิดบังมาได้สองปีแล้ว
เรื่องนี้ต้องขอบคุณท่านตาที่รู้ข่าวจากองครักษ์ลับว่าหลานสาวก่อเรื่อง เขาจึงรีบจัดการปิดข่าวทั้งหมดของหลานสาวคนดีภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน บรรดาอาจารย์เกรงกลัวความตาย พวกเขาต่างปิดปากเงียบเหมือนคนเป็นใบ้หากมีใครกล้าถามหาคุณชายน้อยหน้ามนคนเก่งคนนั้น
เตียวหย่งไจ้กับเจียวไฉ่หลานมายืนรอหลานสาวที่ประตูตำหนักแล้ว พอรถม้าจอดสนิท ชิวเพ่ยเพ่ยรอบันไดอย่างมีมารยาท นางยังคงเป็นหลานสาวผู้น่ารักในตอนกลางวันเฉกเช่นเดิม แต่ตอนกลางคืนน่ะหรือ เฮ้อ สองผู้ชราได้แต่เอาเท้าก่ายหน้าผากกับความซนของหลานสาวที่ชอบรับงานเป็นรายได้ค่าหนังสือของนางเสียนี่ ทั้งที่พวกเขาบอกนางหลายครั้งแล้วว่าอยากได้เงินก็แค่บอกมา พวกเขาจะถวายให้หลานสาวคนเดียวจนหมดโกดังก็ยังได้ แต่นางเอาแต่อยากใช้ความสามารถตนเองหาเงิน จนพวกเขาหมดหนทางที่จะเกลี้ยกล่อม ต้องปล่อยให้หลานสาวทำตามใจแบบนี้เรื่อยมา
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 88
- 👍 ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น