บทที่ 431: ชายผู้อยู่เป็น
“ข้าพบเจ้าสิ่งนี้ในกล่องเสบียงที่เทพอสูรประทานให้ ข้าก็เลยเอามาทำเป็นจี้สร้อยคอให้เจ้า เป็นไง สวยไหม?”
หูเจียวเจียวเอาจี้ออกมาวางทาบไว้ที่คอของหลงโมเพื่อเทียบดูว่ามันเข้ากับเจ้าตัวหรือไม่
“อืม สวย” มังกรหนุ่มผู้อยู่เป็นคนนี้ตอบขัดต่อเจตจำนงของตัวเองก่อนจะดันจี้ในมือจิ้งจอกสาวกลับไป “ข้าไม่จําเป็นต้องสวมของแบบนี้ไว้หรอก เจ้าเก็บไว้ใช้เถอะ”
เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่เทพอสูรประธานมา มันจึงต้องเป็นของที่มีค่าอย่างแน่นอน
ตัวเขาที่อยากจะมอบสิ่งดี ๆ ทั้งหมดให้กับเจียวเจียวจึงส่งมันกลับให้นางโดยสัญชาตญาณ
“ไม่ นี่คือสิ่งที่ข้าทำขึ้นมาให้เจ้าโดยเฉพาะ” หูเจียวเจียวขมวดคิ้วพูดอย่างฉุนเฉียว
“เจ้าทำปิ่นปักผมเป็นรูปจิ้งจอกน้อยให้ข้าเป็นของขวัญ ข้าเองก็อยากจะมอบของขวัญที่ข้าทำเองให้เจ้าเหมือนกัน ข้าไม่อยากเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียว”
“ของที่ข้ามอบให้เจ้ามันถือว่าเป็นของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่อยากใส่มันก็โยนทิ้งไปซะ”
มีหรือที่หลงโม่จะทำใจโยนทิ้งของที่ภรรยาสาวมอบให้ได้ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะรับสร้อยคอแสนสวยมา
“ข้าจะใส่มัน” ร่างสูงพลิกลิ้นของตัวเองในทันที
ส่วนหูเจียวเจียวเองก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้เขา “ถ้าอย่างนั้นข้าจะช่วยเจ้าใส่เอง หลังจากนี้เจ้าห้ามถอดมันเด็ดขาดหากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า!”
“อืม” มังกรหนุ่มก้มศีรษะลงแบบว่าง่าย และให้ความร่วมมือภรรยาสาวเป็นอย่างดี
“ตกลงตามนี้” จากนั้นจิ้งจอกสาวก็สวมสร้อยคอให้ชายร่างสูง แล้วผูกเงื่อนตายชนิดที่ไม่สามารถถอดออกได้โดยไม่ต้องตัดเชือกทิ้ง เสร็จแล้วเธอก็ปัดมือด้วยความพึงพอใจ
ความจริงแล้วสร้อยเส้นนี้มีเส้นผมของเธออยู่ด้วย
ตามความเชื่อที่บ้านเกิดของหญิงสาว การทำของขวัญให้กับคนที่เรารักพร้อมกับใส่เส้นผมของตัวเองลงไปด้วย มันจะเป็นเครื่องรางที่ช่วยปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยไปตลอดชีวิต
หูเจียวเจียวเองก็ทำสร้อยแบบนั้นให้หลงโม่เส้นหนึ่ง
เพียงแต่ว่าถึงแม้จะมีข้อดี แต่มันก็มีข้อเสียตามมาเช่นกัน เพราะตามความเชื่อข้างต้น ถ้าเราใช้เส้นผมของตัวเองใส่ลงไปในสร้อยคอด้วย มันก็เหมือนเป็นการใช้โชคของตัวเองเพื่อป้องกันภัยให้กับคนที่รัก
หากไม่ใช่คนที่สาบานว่าจะมีชีวิตอยู่และตายไปด้วยกัน มันก็ไม่คุ้มค่าที่จะทำ
ขณะเดียวกัน หลงโม่หยิบจี้รูปมังกรดำตัวน้อยบนอกมาถือเล่นพลางเหลือบมองรอยยิ้มละมุนที่ประดับอยู่บนใบหน้าของภรรยาสาว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกขึ้นมาว่าเจ้ามังกรตัวนี้ไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่เห็นในตอนแรกอีกแล้ว
ดูเหมือนว่า... มันก็ไม่ได้แย่
ทางด้านเด็ก 6 คนที่รออยู่ข้างล่างก็ยังคงเป็นห่วงพ่อแม่ของตัวเอง
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เห็นทั้ง 2 คนเดินจับมือลงบันไดมา ในขณะที่ใบหน้าของพ่อมังกรดูชื่นมื่นกว่าปกติ
นั่นทำให้พวกเด็ก ๆ แทบอยากจะพร้อมใจกันหอนออกมา
ส่วนใบหน้าของหลงเหยาเต็มไปด้วยความสับสน
ท่านพ่อเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า? ทำไมเขาถึงยังยิ้มได้ทั้งที่โดนท่านแม่ดุ?
…
แล้วเวลา 3 เดือนก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก
หลังจากผ่านคืนสุดท้ายที่มีพายุหิมะ ในตอนนั้นโลกก็พลันเปลี่ยนไปโดยที่อุณหภูมิภายนอกเพิ่มสูงขึ้นจนน้ำแข็งและหิมะละลายกลายเป็นน้ำ ในขณะที่ทุกอย่างกำลังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แม้ว่าปีนี้พวกเขาจะเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก แต่ในเผ่าก็มีเสบียงเก็บไว้มากมาย ทุกคนในเผ่าจึงใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายในอากาศเช่นนี้
เมื่อหูเจียวเจียวตื่นขึ้นมา เธอก็เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นอย่างแรก ก่อนจะพบว่าโลกที่เคยขาวโพลนจนสุดลูกหูลูกตาได้หายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยหยดคริสตัลสีใสที่ย้อยลงมาจากกิ่งไม้
“ฤดูหนาวสิ้นสุดลงแล้วหรือ?”
จากสมองที่ยังตื่นไม่เต็มที่ก็พลันแจ่มชัดขึ้นทันที เมื่อเธอหันไปเห็นว่าหลงโม่ลุกจากเตียงไปแล้ว เธอก็รีบผุดลุกขึ้น
แถมไม่พอยังมีน้ำอุ่น 1 กะละมัง แล้วมีผ้าเช็ดหน้าหนังสัตว์สะอาดวางรออยู่บนโต๊ะ
“หลงโม่ไม่ยอมเรียกฉันหรือนี่?” จิ้งจอกสาวพึมพำในขณะที่ทำธุระและเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินลงไปชั้นล่าง
แต่พอหญิงสาวเดินไปที่ห้องนั่งเล่นตลอดจนสวนหลังบ้าน เธอก็ยังไม่เห็นเงาของผู้เป็นสามีเลย
“หน้าหนาวสิ้นสุดลงปุ๊บ หลงโม่ก็ออกไปล่าสัตว์ปั๊บเลยหรือ?”
ขณะนี้ใบหน้านวลผ่องเต็มไปด้วยความสงสัย
ปัจจุบันดวงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นทิวเขาออกมา ในสวนหลังบ้านจึงได้รับแสงสีทองจาง ๆ
วันนี้อากาศดีมาก หูเจียวเจียวเลยวางแผนที่จะขึ้นไปชั้นบนเพื่อปลุกเด็ก ๆ แต่ในตอนที่เธอไล่เคาะประตูห้องของพวกเขาทีละคนกลับไม่มีใครตอบรับเลยสักคน
ไม่นานแม่จิ้งจอกก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดูก่อนจะเห็นว่าภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาของเจ้าของห้อง
“???”
วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
นี่เธอยังฝันอยู่หรือ?
เวลาถัดมา หูเจียวเจียววิ่งลงไปชั้นล่างด้วยสีหน้าซับซ้อนและทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงลูกดังมาจากนอกประตู
เมื่อหญิงสาวเปิดประตูออกไป เธอเห็นลูก 6 คนกำลังยืนอยู่ข้างนอกโดยที่เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันขนอิฐ
ใช่แล้ว!
พวกเขากำลังช่วยกันขนอิฐ!
ตอนนี้นอกลานบ้านมีกองอิฐที่หูเจียวเจียวเคยเห็นที่บ้านของโหวเสี่ยวเตียว ซึ่งเด็กทั้ง 6 คนช่วยกันแบกก้อนอิฐส่งไปให้พ่อมังกรวางเรียงกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ส่วนหลงโม่กําลังก้ม ๆ เงย ๆ ยุ่งอยู่กับการวางเรียงก้อนอิฐให้เป็นระเบียบบนพื้นที่ยึดติดกับยางไม้ ปัจจุบันพื้นดินส่วนใหญ่ภายในลานบ้านได้รับการปูด้วยอิฐซึ่งทำให้มันดูเรียบร้อยและสะอาดมากขึ้น
ขณะนั้นหูเจียวเจียวตกตะลึงพลางไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
“หลงโม่ เจ้าทําอะไรอยู่น่ะ?” เธอถามอย่างสงสัย
“ท่านแม่ออกมาแล้ว!” หลงเหยาได้ยินเสียงของแม่จิ้งจอกจึงทิ้งอิฐในมือของเขาทันทีและกําลังจะรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของอีกฝ่าย
จังหวะนั้นหลงอวี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขารีบคว้าคอเสื้อด้านหลังของเจ้าตัวแสบไว้
“เสี่ยวเหยา เนื้อตัวเจ้าสกปรก เจ้าจะไปทำให้ท่านแม่เปรอะเปื้อนไปด้วยไม่ได้”
“เสี่ยวเหยาสกปรกตรงไหน? เสี่ยวเหยาไม่สกปรกสักหน่อย!”
ดวงตาของคนตัวเล็กเบิกกว้างขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมกับที่เขาใช้มือเลอะโคลนทั้ง 2 ข้างแตะแก้มตัวเอง เป็นผลให้มีรอยโคลน 2 รอยบนใบหน้าของเจ้าตัว
ในเวลาเดียวกัน เด็กที่เหลือก็หยุดเคลื่อนไหวหลังจากเห็นผู้เป็นแม่
ต่อมา หลงหลิงเอ๋อยิ้มโชว์ฟันเล็ก ๆ และอธิบายเสียงหวานว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา ท่านพ่อบอกว่าพอหิมะละลายแล้วบนพื้นจะกลายเป็นโคลน เวลาที่ท่านแม่เดินรองเท้าจะเปื้อน พอทำแบบนี้แล้วท่านแม่ก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก!”
หลงจงเองก็ช่วยอธิบายขยายความ “ตอนนี้ในเผ่าไม่มีหินเหลือแล้ว ท่านพ่อเลยเอาอาหารไปแลกเปลี่ยนก้อนอิฐกับลุงสามและพี่เสี่ยวเตียว”
ก่อนฤดูหนาวมาเยือน หูเจียวเจียวเก็บอาหารไว้มากมาย ต่อมาเธอก็ยังนำอาหารจำนวนมากออกมาจากมิติผ่านพิธีกรรมสวดอ้อนวอนเทพอสูร ในตอนนั้นท่านผู้เฒ่าก็แบ่งส่วนแบ่งมาให้เธอมากกว่าคนอื่นด้วย
แม้ว่าในฤดูหนาวที่น่าเบื่อทุกคนจะอยู่แต่ในบ้านคอยกินอาหารทุกชนิดที่มี แต่เหยื่อที่หลงโม่หามาก็ยังคงเหลือเยอะอยู่
การเอาเหยื่อและเสบียงอื่น ๆ ไปแลกกับก้อนอิฐนั้นก็เหมือนกับการใช้เงินเป็นจำนวนมากในโลกมนุษย์
ด้วยเหตุนี้หลงเหยาจึงเอาแต่บ่นคัดค้านไม่หยุดเพราะรู้สึกเสียดายของกินมากมายที่เอาไปแลกกับก้อนอิฐ
จนกระทั่งพ่อมังกรต้องยอมสัญญาว่าจะออกไปล่าเหยื่อมาให้มากขึ้น เพราะก้อนอิฐที่ถูกแลกมามันนำมาใช้ประโยชน์ให้แก่เจียวเจียวได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไป
ส่วนหลงเซียวกับหยินชางเป็นคนที่เงียบที่สุดซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเด็กคนอื่น ทว่าแววตาของพวกเขาแสดงออกว่าเห็นด้วยกับหลงโม่
ทางด้านหูเจียวเจียวมองลูกน้อยที่เนื้อตัวมอมแมมเหมือนลูกแมวแล้วก็พูดไม่ออกและไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ก่อนดี
“ดูหน้าพวกเจ้าสิ มอมแมมหมดแล้ว มานี่เร็วเดี๋ยวแม่จะเช็ดให้”
ผู้เป็นแม่กล่าวพลางกวักมือเรียกลูก ๆ ให้มาหาตน
แล้วเหล่าเด็กน้อยก็หันไปมองพ่อมังกรคล้ายกับต้องการขออนุญาตอีกฝ่ายอย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อหลงโม่เห็นเด็ก ๆ มองมาก็พยักหน้าตอบ ตอนนี้ในลานบ้านเหลือปูอิฐอีกแค่ไม่กี่แถว หากเขาทำคนเดียวในไม่ช้าก็คงจะเสร็จ
พอทุกคนเห็นพ่อมังกรพยักหน้าอนุญาต พวกเขาก็วิ่งกรูกันไปหาแม่จิ้งจอกอย่างตื่นเต้น
จากนั้นหูเจียวเจียวก็ช่วยเช็ดหน้าให้ลูกแต่ละคนอย่างเบามือ แล้วเธอก็บอกให้ลูก ๆ ถอดเสื้อผ้าสกปรกออกเพื่อจะได้เตรียมพาพวกเขาไปอาบน้ำ แต่หญิงสาวไม่คาดคิดว่าเด็กทั้ง 6 จะวิ่งหนีหายไปพร้อมกับเสื้อผ้าสกปรก
ส่วนหลงจงที่วิ่งไปได้ 2 ก้าวหันกลับมามองและอธิบายให้แม่จิ้งจอกฟังอย่างงุ่มง่ามว่า
“พวกเราจะไปล้างตัวกันเอง ท่านแม่ไม่ต้องมาช่วยพวกเราหรอก”
“...”
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 119
แสดงความคิดเห็น