บทที่ 184 อยากเป็นคู่ชีวิต
หลังจากที่ฉันจัดการอาหารที่ป้าเสริมทำจนหมด ฉันก็ได้ลงมาเดินเล่นด้านล่าง เพื่อเป้าหมายบางอย่างที่สำคัญ...
“เดี๋ยวฉันขอแวะไปซื้อของแถวนี้แป๊บนึงนะ นายรอฉันอยู่ตรงนี้แหละ” ฉันเอ่ยบอกบอดี้การ์ดที่คุณเซฟให้ติดตามฉัน โดยให้รออยู่ตรงนี้ไม่ต้องตามฉันไป
“แต่ว่า...ถ้านายท่านรู้” บอดี้การ์ดที่ทำท่าทางอึดอัดใจ
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ...ฉันไปแป๊บเดียวเอง” ฉันบอกโดยที่ไม่รอฟังคำตอบ พร้อมกับเดินลิ่ว ๆ ไปทันที
ติ๋ง ต่อง ~~
ฉันที่เดินเข้ามาในร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกลแถวนั้น ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” ^-^ เภสัชสาวเอ่ยทักทายฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เอ่อ...คะ...คือ...ฉันต้องการซื้อที่ตรวจครรภ์น่ะค่ะ” (-////-) ฉันที่ก้มหน้าก้มตาเอ่ยบอกเภสัชสาวด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
“ได้เลยค่ะ...รับเป็นตัวที่ดีที่สุดให้ผลที่แม่นยำที่สุดไปเลยนะคะ” ^-^ เภสัชสาวดูกระตือรือร้นจัดแจงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับฉัน พร้อมกับอธิบายถึงวิธีการใช้ที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ผลการทำสอบที่แม่นยำที่สุด
ฉันจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเดินออกมาจากจากร้านขายยาโดยเร็ว พร้อมกับรีบเก็บที่ตรวจเอาไว้ในกระเป๋า แล้วรีบตรงไปหาบอดี้การ์ดที่ตอนนี้ยืนชะเง้อมองหาฉันอยู่นานแล้ว
ก่อนที่ฉันจะทำทีเหมือนว่าไม่มีอะไรให้เป็นพิรุธ โดยการที่ฉันยังคงเดินเล่นอยู่ด้านล่างสักพัก ก่อนจะขึ้นมายังเพนท์เฮ้าส์ในช่วงเวลาที่คุณเซฟใกล้จะกลับมาถึงบ้านแล้ว
ณ Penthouse เซบาสเธีย
ฉันนำที่ตรวจไปแอบเก็บไว้ที่ลิ้นชักหัวเตียง ก่อนจะเดินลงไปดูหนังรอเขากลับมา
ติ๊ด ~~
เสียงเปิดประตูที่คุ้นเคยดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่ฉันคิดถึงเดินเข้ามา
“เป็นยังไงบ้างคะเฮีย เหนื่อยไหมคะ...” ฉันรีบวิ่งถลาไปหาเขา พร้อมกับโอบกอดเขาไว้แน่น ก่อนจะเกยคางไว้ที่หน้าอกของเขาเพื่อเงยหน้าถาม
“แค่เห็นหน้าเมียก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ ฟอดดด~~ “เขาที่เอ่ยคำหวานตอบฉัน ก่อนจะบรรจงหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
และแม้ว่าเขาจะบอกว่าหายเหนื่อย แต่ฉันรู้สึกได้ถึงแววตาของเขาที่แสดงออกมา เหมือนกับว่าเขามีอะไรบางอย่างที่ปิดบังฉันอยู่
ฉันได้แต่เก็บงำความสงสัยนั้นเอาไว้ ก่อนจะพูดเอาใจเขา เพราะฉันต้องการให้เขาอนุญาตอะไรบางอย่าง
“แต่ดูสีหน้าเฮียยังเหนื่อยอยู่เลยน๊าาา มาค่ะมานั่งตรงนี้ก่อนค่ะ เดี๋ยวเอลิซเอาน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟให้ พร้อมกับบริการนวดแถมฟรีให้ด้วยดีไหมคะ” ฉันที่ดึงแขนเขาให้เดินตามมานั่งยังโซฟาสุดหรู ก่อนจะรีบเดินไปหยิบน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟให้กับเขา
เขาที่ดื่มน้ำไป พลางหรี่ตามองฉันอย่างจับผิดไป ในขณะที่ฉันอ้อมตัวไปด้านหลังของเขาเพื่อบีบนวดให้เขาคลายเมื่อย
“จะเอาอะไรคะ...หื้มมม เอาใจเฮียแบบนี้” เขาที่เหมือนจะจับพิรุธฉันได้เอ่ยถาม
“แหมมมม เฮียก็ เอลิซทำดีด้วยไม่ได้หรือไงคะ...ชิ” ฉันทำทีเป็นงอนเขา
และก่อนที่ฉันจะผละมือออกไปจากบ่าของเขา เขาก็ได้เอื้อมมือมาจับมือของฉันเอาไว้ ก่อนจะเอาไปบรรจงจูบสูดดมให้ชื่นใจ
ฟอด ~~ ฟอด ~~ ฟอด ~~
“อย่าเพิ่งงอนสิคะ เฮียก็ถามเฉย ๆ เพราะถ้าเอลิซอยากจะได้อะไร ถ้าเฮียให้ได้ แม้กระทั่งชีวิตของเฮียถ้าเอลิซอยากได้ เฮียก็จะให้” เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่งจนฉันอดหวั่นใจไม่ได้
เขาเอามือของฉันไปซุกเข้ากับแก้มของเขา อีกทั้งคำพูดที่ดูออกว่าเขากำลังไม่สบายใจ ก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกวูบโหวงในใจแปลก ๆ
ฉันที่เห็นสถานการณ์ไม่ปกติตรงหน้า รีบเดินอ้อมกลับมา แล้วลงนั่งบนตักของเขา
“เฮียเป็นอะไรคะ...” ฉันถามด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“ขอเฮียอยู่แบบนี้สักพักนะ” เขาที่ตอบกลับมาแค่นั้น ก่อนที่จะกระชับโอบเอวฉันแน่น แล้วซุกใบหน้าคมเข้มลงตรงที่กลางอกเนื้อนุ่มอย่างคนต้องการหาที่พักใจ
ฉันที่ทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน ทำได้แค่เพียงโอบกอดเขากลับ พร้อมกับค่อย ๆ ลูบหลังเขาเพื่อปลอบประโลม
ภายในห้องที่เงียบสงัด คงมีเพียงแค่เสียงลมหายใจเบา ๆ ของเราสองคนเท่านั้น บรรยากาศที่ดูจะขมุกขมัวหม่นหมอง ทำให้ฉันที่อยากจะขอให้เขาอนุญาตอะไรบางอย่างเป็นอันต้องพับโครงการนั้นไป
เราสองคนนั่งกันอยู่แบบนั้น จนท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดสนิท...
ลมหายใจที่ถูกพ่นออกมาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับมือที่เคยโอบเอวบางของฉันเอาไว้ ค่อย ๆ คลายออก มันทำให้ฉันรับรู้ได้ว่า คนตัวโตที่กำลังซุกตัวอยู่ที่อกฉัน บัดนี้เขาได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว
ฉันค่อย ๆ ประคองจับเขาให้เอนตัวนอนลง ก่อนจะจัดท่าทางให้เขาใหม่ ให้เขาได้นอนสบาย ๆ จากนั้นฉันก็เดินไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้เขา
ใบหน้าในขณะที่กำลังหลับสนิท ดูแล้วไร้ซึ่งพิษสง ความคมเข้มของทุกส่วนบนใบหน้าที่รับกันเป็นอย่างนี้ ทำให้ใครที่เผลอมองใบหน้าเขาในขณะนี้อาจจะหลงรักเข้าได้ง่าย ๆ ฉันนั่งมองพิจารณาทุกส่วนบนใบหน้าที่งดงามดั่งลูกรักพระเจ้า แม้ว่าใบหน้าของเขาตอนนี้จะหล่อดูมีเสน่ห์มากขนาดไหน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า เขากำลังมีเรื่องหนักใจอะไรบางอย่างอยู่ ฉันรู้สึกได้นับตั้งแต่ที่เขากลับมาหลังจากที่หุนหันพลันแล่นออกไปในวันนั้น และฉันก็สังหรณ์ใจว่าเรื่องที่เขากังวลใจอยู่นั้นมันน่าจะเกี่ยวกับตัวฉันด้วย...
ฉันนั่งมองใบหน้าเขา พร้อมกับความคิดที่ว่า ความสงบสุขในการใช้ชีวิตคู่ของฉันมันกำลังจะค่อย ๆ เลือนรางจางไปแล้วซินะ ในฐานะเมียของผู้สืบทอดตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาล ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แม้ว่าฉันจะเคยคาดหวังไว้ว่า ฉันอยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็ตาม...
แต่มันก็เป็นเพียงแค่คาดหวังเท่านั้น เพราะฉันรู้ดีว่าการเดินเคียงข้างเขาในเส้นทางนี้ มันไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน และในข้อนั้นฉันก็ได้ทำใจเผื่อไว้ตั้งแต่วันที่ฉันตกลงตอบรับคำขอแต่งงานของเขาแล้ว
เพียงแต่ตอนนี้เขาที่เอาแต่ปกป้องฉันเหมือนไข่ในหิน จนตัวเขาเองได้แต่ฝืนอดทนต่อความยากลำบาก เขาที่เก็บทุกอย่างเอาไว้เพื่อปกป้องความรู้สึกของฉัน แต่เขาจะรู้บ้างไหมว่าฉันเองก็อยากแบ่งเบาความรู้สึกของเขาบ้าง เพราะฉันอยากจะเป็นคู่ชีวิตของเขาไม่ใช่แค่...คนรักของเขา...
และสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือ ตอนนี้ในท้องของฉันอาจจะกำลังมีชีวิตน้อย ๆ ที่เขาบรรจงตั้งใจฝากไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันอยู่ก็ได้
ฉันลอบยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น พรุ่งนี้ฉันก็จะได้รู้แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงของร่างกายฉันที่มันเกิดขึ้น มันอาจจะไม่ได้เกิดจากโรคภัย แต่มันเกิดขึ้นเพราะความมหัศจรรย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้กับมนุษย์ให้ได้มีโอกาสที่ตัวเองจะถูกเรียกว่า...พ่อและแม่...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 45
แสดงความคิดเห็น