ตอนที่ 844 ซีเครดสปริง
ตอนที่ 844 ซีเครดสปริง
“เซี่ยเฟย ฉันว่าตอนนี้พวกเราควรจะต้องรีบไปที่เผ่ามารโดยเร็วที่สุด” โอโร่กล่าวอย่างเคร่งเครียด
“ไปที่เผ่ามารงั้นเหรอ? เพราะอะไร?” เซี่ยเฟยถามอย่างสับสน
“คำว่าฟิกส์กับโถงวีรบุรุษตีความได้ไม่ยาก แต่คำว่าอาร์คทำให้ฉันนึกถึงตำนานเรื่องเมื่อนานมาแล้ว แต่ฉันจำรายละเอียดเรื่องนั้นไม่ค่อยได้ ฉันเลยคิดว่าพวกเราควรจะต้องไปสำรวจสถานที่นั้นด้วยตัวเอง” โอโร่กล่าวอย่างลึกลับ
ประตูจักรวาลเป็นสิ่งที่ลึกลับมากและมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยปริศนาอย่างมากมาย เขาจึงรู้สึกว่ามันอาจจะไม่ใช่ประตูธรรมดา แต่อาจจะมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ที่เขายังไม่สามารถจะตีความได้เท่านั้นเอง แต่อย่างน้อยคำใบ้ของเทพดำมันพอจะมีเป้าหมายให้เขาค้นหาความลับเรื่องนี้ได้บ้างแล้ว
“โอเค ไปที่ที่คุณพูดถึงก่อนก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าว
“เดี๋ยวฉันขอนึกรายละเอียดให้หมดก่อน ฉันได้ข้อสรุปเมื่อไหร่เดี๋ยวฉันค่อยมาบอกให้นายเริ่มออกเดินทางอีกที” โอโร่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
—
หลังจากที่เซี่ยเฟยกลับมายังสวนสายลม เขาก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดเรื่องหวู่หยูหมิงให้เซี่ยอู๋เย่ฟังเลยแม้แต่นิดเดียว
ปัญหาการขาดกำลังคนของสกายวิงเป็นเรื่องที่มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สาเหตุที่หน่วยข่าวกรองไม่สามารถตรวจสอบพลังความสามารถที่แท้จริงของหวู่หยูหมิงได้ มันก็ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาสะเพร่าแต่มันเป็นเพราะสถานการณ์ที่เร่งด่วน และความสามารถในการปกปิดตัวตนของหวู่หยูหมิงมีความลึกลับมากเกินไป
แม้ว่าพ่อบ้านชราจะดูเหมือนคอยทำความสะอาดอย่างสบาย ๆ ในทุก ๆ วัน แต่ความจริงแล้วเขาอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจสำคัญ ๆ หลาย ๆ เรื่องในตระกูล หากเซี่ยอู๋เย่รู้ถึงเรื่องของหวู่หยูหมิงเขาจะต้องตำหนิตัวเองอย่างแน่นอน เซี่ยเฟยจึงไม่อยากจะเอาความผิดพลาดในครั้งนี้ไปทำให้พ่อบ้านชรารู้สึกไม่สบายใจ
ชายหนุ่มเข้าไปพักภายในห้องพร้อมกับใช้น้ำยาฟื้นฟูบาดแผลไฟไหม้ทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งมันก็โชคดีที่เขามีชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นคอยปกป้องเอาไว้ บาดแผลเพียงเท่านี้น่าจะใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันแผลทั้งหมดก็คงจะหายดี
หลังจากจัดการกับบาดแผลของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็เริ่มศึกษาเรื่องการประดิษฐ์อีกครั้ง และด้วยคำแนะนำจากเซี่ยเหล่าสืออย่างใกล้ชิด มันจึงทำให้ความรู้เรื่องการประดิษฐ์ของเขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
การฝึกให้กับเซี่ยเฟยทำให้เซี่ยเหล่าสือรู้สึกตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปหลายครั้ง เพราะชายหนุ่มคนนี้เป็นเหมือนกับบุคคลในตำนานที่สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง และมีความเชี่ยวชาญหลังจากใช้เวลาฝึกฝนไปเพียงแค่ไม่นาน
ในเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์เซี่ยเฟยก็พัฒนามาจนถึงจุดสูงสุดของกฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นที่ 4 แล้ว ซึ่งมันเป็นความเร็วในการพัฒนาอย่างที่เซี่ยเหล่าสือไม่เคยเจอมาก่อน และถ้าหากว่าเซี่ยเฟยยังคงพัฒนาด้วยความเร็วในระดับนี้ต่อไป ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนชายหนุ่มก็จะกลายเป็นนักหลอมพลังงานในระดับเดียวกันกับเขา
น่าเสียดายที่ชายหนุ่มยังไม่สามารถตีความรูปมิสเทอรีมูนได้ ซึ่งความก้าวหน้าในเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องเพียงแค่ไม่กี่เรื่องที่ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกผิดหวัง
ช่วงเวลาดึก
ระหว่างที่ชายหนุ่มยังคงฝึกฝนอย่างหนัก จู่ ๆ โอโร่ที่นิ่งเงียบมาเป็นเวลานานก็กล่าวออกมาอย่างกะทันหัน
“ฉันเรียบเรียงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นายควรเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปยังเผ่ามารตั้งแต่เช้า”
“สรุปแล้วพวกเราจะไปไหน?” เซี่ยเฟยถาม
“หลังจากเทพดำพูดถึงอาร์ค สิ่งแรกที่นายนึกถึงคืออะไร?” โอโร่ถามกลับ
“ผมพยายามนึกว่าอาร์คมันคืออะไรกันแน่ เพราะคำว่าฟิกส์กับโถงวีรบุรุษเป็นอะไรที่ตรงตัวอยู่แล้ว ส่วนอาร์คมันฟังดูเหมือนชื่อของยานรบ แต่ถึงแม้ว่าผมจะพยายามตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดผมก็ไม่พบกับคำว่าอาร์คในฐานข้อมูลของสกายวิงเลย ผมเลยเดาว่าอาร์คไม่น่าจะใช่ยานรบธรรมดาแต่มันน่าจะเป็นยานรบที่ลึกลับอีกด้วย” เซี่ยเฟยตอบ
“มีคนที่ช่วยตอบคำถามเรื่องอาร์คให้กับเราได้ และสถานที่ที่พวกเรากำลังจะไปก็คือที่อยู่ของเขาคนนั้น” โอโร่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
คำบอกใบ้ของเทพดำย่อมไม่ใช่คำพูดที่ไร้เหตุผล ทั้งสามสิ่งนี้ย่อมมีความเกี่ยวข้องกับประตูจักรวาลอย่างแน่นอน การไขปริศนาเกี่ยวกับอาร์คย่อมช่วยให้ชายหนุ่มได้ค้นพบเงื่อนงำ เขาจึงไม่คิดที่จะปฏิเสธคำชวนของโอโร่
“เก็บแหวนนี้เอาไว้ เดี๋ยวมันจะมีประโยชน์กับนายในอนาคต” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอดแหวนสิงโตทองคำออกจากนิ้ว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะใช้กฎแห่งความโกลาหลผ่านมือขวาเพื่อยื่นมือออกไปหยิบแหวนสิงโตมาจากโอโร่
แม้ว่าแหวนวงนี้จะเป็นเพียงแค่แหวนวงเล็ก ๆ แต่มันก็มีน้ำหนักมากพอสมควร ด้านบนของตัวแหวนถูกแกะสลักเป็นรูปสิงโต ซึ่งชายหนุ่มมักจะเห็นโอโร่เล่นกับแหวนวงนี้อยู่เป็นประจำ คล้ายกับว่ามันเป็นของรักของหวงของอดีตจอมมาร
“นี่คือแหวนราชันย์สิงโตเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิที่แท้จริงของตระกูล เมื่อไหร่ก็ตามที่นายแสดงแหวนราชันย์สิงโตออกมา นายก็จะสามารถออกคำสั่งสมาชิกคนใดของตระกูลก็ได้เหมือนกับว่าฉันไปที่นั่นด้วยตัวเอง” โอโร่กล่าวอธิบาย
คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาในทันที เพราะการที่โอโร่มอบของสำคัญมาให้เขาแบบนี้ มันก็หมายความว่าคนที่เขาต้องไปพบย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
—
ชายหนุ่มใช้เข็มทิศมิติเดินทางไปยังบริเวณชายแดนของเผ่ามาร เพื่อไปพบกับฮีธฟิลด์ผู้ซึ่งเป็นลูกหลานของโอโร่
แน่นอนว่าฮีธฟิลด์ย่อมต้อนรับเซี่ยเฟยเป็นอย่างดี แต่ชายหนุ่มกลับส่งสายตาบอกเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องรับรองให้หมด เจ้าเมืองแบล็กไลออนจึงขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าทำไมเซี่ยเฟยจะต้องระแวงคนอื่นมากขนาดนั้น แต่ด้วยความไว้วางใจที่เขาได้มอบให้เขาจึงสั่งให้คนอื่นออกไปตามความต้องการของเซี่ยเฟย
เมื่อทุกคนออกไปแล้วชายหนุ่มก็หยิบแหวนราชันย์สิงโตออกมาด้านนอก จนทำให้ฮีธฟิลด์เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
ในฐานะที่เขาเป็นสมาชิกของราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ท เขาย่อมจดจำแหวนที่เป็นสัญลักษณ์แสดงอำนาจสูงสุดในตระกูลของตัวเองได้ เพียงแต่เขาแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมแหวนวงนี้ถึงอยู่ในมือของชายหนุ่ม
อย่างไรก็ตามการปรากฏของแหวนราชันย์สิงโตก็ไม่ต่างไปจากการที่จักรพรรดิเดินทางมายังที่นี่แล้ว หลังจากตกตะลึงได้เพียงแค่ไม่นานฮีธฟิลด์จึงคุกเข่าลงโดยไม่ลังเล
ตระกูลใหญ่ทุกตระกูลในดินแดนกฎต่างก็ล้วนแล้วแต่มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบต่อกันมาภายในตระกูลของตน ยกตัวอย่างเช่น สกายวิงที่ช่วงเวลาปกติพวกเขาก็ไม่ได้มีข้อบังคับใด ๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ตราอสูรคลั่งถูกทำลายเมื่อนั้นพวกเขาจะต้องกลับมารวมตัวกัน
ทางฝั่งของตระกูลไลอ้อนฮาร์ทก็มีขนบธรรมเนียมประเพณีลักษณะนั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งจุดเด่นของตระกูลนักรบยิ่งใหญ่จากเผ่ามารนี้ก็คือความภักดีและการแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อจักรพรรดิของตระกูล
“คุณจำแหวนวงนี้ได้ใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
“ครับ! แหวนวงนี้คือแหวนราชันย์สิงโต” ฮีธฟิลด์รีบตอบ
ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้เซี่ยเฟยเขินอายอยู่เล็กน้อย เมื่อจู่ ๆ สมาชิกของราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ทได้มาคุกเข่าลงตรงหน้าเขา
“จะยืนงงอยู่ทำไม? รีบอธิบายให้เขาฟังไปสิว่านายต้องการอะไร ตอนนี้เขากำลังรอรับคำสั่งจากนายอยู่” โอโร่กล่าว
“จากนี้ไปผมจะขอพูดแทนเจ้าของแหวนวงนี้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
คำพูดของชายหนุ่มทำให้ฮีธฟิลด์สั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความรุนแรง ตอนแรกเขาก็พอจะรู้มาบ้างแล้วว่าเซี่ยเฟยกับโอโร่มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกลับ ยิ่งในตอนนี้เซี่ยเฟยกล่าวอ้างว่าเขาเป็นตัวแทนเจ้าของแหวน มันก็เป็นการประกาศออกไปอย่างชัดเจนว่าโอโร่ยังคงมีชีวิตอยู่ แล้วลูกหลานของจอมมารผู้ยิ่งใหญ่จะไม่ตื่นเต้นกับข่าวดีเรื่องนี้ได้ยังไง
เวลาได้ล่วงเลยไปนานกี่แสนกี่ล้านปีแล้วก็ไม่รู้ที่ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทไม่เคยมีข่าวเกี่ยวกับจักรพรรดิที่แท้จริงของตระกูลพวกเขาเลย ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าโอโร่เป็นอมตะ แต่การหายตัวไปอย่างลึกลับของอดีตจอมมารมันก็ทำให้สมาชิกภายในตระกูลทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน
แต่ในตอนนี้เซี่ยเฟยกำลังจะออกคำสั่งในนามของโอโร่ และชายหนุ่มยังแสดงแหวนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิออกมาอีกด้วย
ฮีธฟิลด์ยังคงก้มหัวลงอย่างตื่นเต้นเพื่อรอรับฟังคำสั่งจากองค์จักรพรรดิของตระกูล
เซี่ยเฟยแอบคิดว่าแหวนราชันย์สิงโตวงนี้น่าจะซ่อนความลับอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้ ไม่อย่างนั้นฮีธฟิลด์คงจะไม่แสดงความเคารพทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้ตรวจสอบแหวนภายในมือของเขาด้วยซ้ำ
“ลุกขึ้นเถอะครับ ความปรารถนาของเจ้าของแหวนมีเพียงแค่เรื่องเดียวคือเขาต้องการให้คุณพาผมไปยังซีเครดสปริง”
“ซีเครดสปริง! เข้าใจแล้วครับ” ช่วงแรกฮีธฟิลด์อุทานขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก แต่เมื่อมันเป็นคำสั่งจากจักรพรรดิเขาจึงตอบรับคำสั่งอย่างหนักแน่น
หลังจากนั้นเจ้าเมืองแบล็กไลออนก็ลุกขึ้นและทำการติดต่อไปที่ราชวงศ์ของตัวเองในทันที ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหน้าจอนี้ต่างก็อยู่ภายใต้การเฝ้าสังเกตของเซี่ยเฟย
“ฉันเอง ฮีธฟิลด์!” ฮีธฟิลด์ประกาศชื่อตัวเองอย่างภาคภูมิใจ เมื่อได้เห็นเจ้าหน้าที่ไลอ้อนฮาร์ทปรากฏขึ้นในหน้าจอ
“ไม่ทราบว่าท่านฮีธฟิลด์มีคำสั่งอะไรครับ?”
“ฉันต้องการใช้ทีมสิงโตดำ 10 ทีม” ฮีธฟิลด์กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“10 ทีม!? คุณแน่ใจนะ? การใช้ทีมสิงโตดำครั้งนี้มันจะเป็นการใช้คะแนนสะสมของคุณทั้งหมดเลย” พนักงานในหน้าจอถามออกมาอย่างตกใจ
“ฉันไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต” ฮีธฟิลด์กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“ทีมสิงโตดำคืออะไร?” เซี่ยเฟยแอบถามโอโร่
“ทีมสิงโตดำคือทีมนักรบชั้นยอดในตระกูลของเรา ภายในทีมจะประกอบไปด้วยสมาชิกระดับราชากฎขึ้นไป โดยแต่ละทีมจะมีสมาชิกจำนวน 10 คน การที่เขาขอใช้ทีมสิงโตดำทั้ง 10 ทีมก็หมายถึงเขาต้องการกองกำลังราชากฎ 100 คน” โอโร่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
คำตอบนี้ทำให้เซี่ยเฟยแอบรู้สึกตกตะลึง เมื่อได้เห็นว่าจำนวนนักรบระดับสูงของเผ่าไลอ้อนฮาร์ทมีจำนวนเยอะกว่านักรบระดับสูงในตระกูลของมนุษย์มาก
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้มากนัก เพราะเผ่าไลอ้อนฮาร์ทไม่ได้แยกออกเป็นตระกูลย่อย ๆ เหมือนมนุษย์ แต่เผ่าของพวกเขาทั้งเผ่ามีการรวมกองกำลังกันเป็นหนึ่งเดียว จำนวนนักรบภายในเผ่าจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
อย่างไรก็ตามการที่ฮีธฟิลด์ร้องขอกองกำลังราชากฎนับร้อย มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอยู่ดี
“ทำไมเขาจะต้องร้องขอกองกำลังราชากฎเยอะขนาดนี้? ซีเครดสปริงที่คุณพูดถึงมันคือที่แบบไหนกันแน่?” เซี่ยเฟยถามอย่างตกใจ
“แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอยู่แล้ว” โอโร่กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างลึกลับ
***************


แสดงความคิดเห็น