บทที่ 8...3/3

เพราะคุณคือรักแรก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 8...3/3

ภายในรถค่อนข้างเงียบ ไม่สิ เงียบมากเพราะเขมินท์ไม่ได้เปิดเพลงหรือเสียงใดๆ มีนาไม่รู้สึกประหม่าเวลาต้องนั่งรถไปกับใคร แล้วยิ่งเป็นเขมินท์ที่ไม่ใช่คนแปลกหน้า เธอยิ่งต้องไม่ประหม่าสิ แต่อาการแบบนั้นเกิดขึ้นกับเธอก็เพราะคำว่า...แฟน แม้จะมีเหตุผลที่เขาพูดคำนั้นออกมาก็ตาม แต่ใจของเธอทำจากเลือดเนื้อจะไม่ให้รู้สึกรู้สาได้อย่างไร

“มีนเปิดเพลงได้ไหมคะ คือว่า...มันเงียบจัง”

“อ้อ พี่ลืมน่ะ มีนคงอึดอัดกระมัง”

เขมินท์เปิดเพลงจากเพลย์ลิสต์ในแอพพลิเคชั่นซึ่งต่อกับลำโพงบลูทูธในรถเอาไว้อยู่แล้ว พอเห็นนิ้วของมีนาที่เกี่ยวกันคล้ายไม่มั่นใจก็ทำให้เขายิ้มบาง

“เราสองคนแค่ทำตัวเหมือนเดิม อย่าเอาคำแทนตัวตนมาทำให้สิ่งดีๆ ที่มีระหว่างเรามันหายไปเลยนะ”

“มีนไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกค่ะ แค่มันหวิวนิดนึง” มีนาหัวเราะเพราะคำว่านิดนึงของเธอเนี่ยเรียกว่าโกหกได้เลยล่ะ  “ตอนนั้นพี่เขมเท่มากไงคะ มีนไม่คิดเลยว่าพี่เขมจะทำแบบนี้ก็ได้ด้วย”

“มันก็แล้วแต่ ถ้าไม่ใช่มีน พี่คงไม่ทำแบบนั้น”

มีนากลั้นใจหันไปมองหน้าเขมินท์ เขากำลังมองไปข้างหน้า มือทั้งสองข้างจับพวงมาลัยไว้ดูมั่นคงและมั่นใจ เขาทำแบบนี้เพราะเธอ แล้วพริมาล่ะ แม้จะอยากถาม แต่มีนาเลือกที่จะไม่ถาม เธออยากเก็บความรู้สึกเหมือนมีน้ำตาลฟุ้งอยู่ในหัวใจแบบนี้ไปสักพัก

“ขอบคุณนะคะ สำหรับทุกอย่างในช่วงนี้ มีนหมายถึงทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่ช่วยมีนในคืนนี้ เรื่องห้อง เรื่องคิน เรื่องร้านขนมของพี่เม ยังมีอะไรอีกนะ...”

“ไม่เป็นไรหรอก พี่อยากช่วยเองทั้งนั้น พี่คงไม่ต้องบอกอีกรอบใช่ไหมว่าเพราะอะไร”

หัวใจบ้าๆ มาเต้นแรงทำไม เขมินท์อาจจะไม่คิดอะไรในคำพูดนั้นเพราะเขาทำเพราะมีน้ำใจ เพราะฉะนั้นเธอห้ามคิดอะไรเกินกว่าคำพูดของเขาเด็ดขาด แม้จะบอกตัวเองแบบนั้น แต่น้ำตาลหวานๆ ที่ฟุ้งอยู่ในใจมีนาไม่ได้ลดหายไปเลย รถแล่นไปเรื่อยๆ พร้อมเพลงที่กำลังคลอน่าฟัง

 

I want you to know
I love you the most
I'll always be there right by your side
'Cause baby, you're always in my mind
Just give me your forever (give me your forever)
I want you to know
That you'll be the one
And I'll be the guy who'll be on his knees
To say I love you
And I need you
And say I'd die for you (just give me your forever)

เพลง Give me your foreverโดย zack tabudlo

 

เขมินท์จอดรถที่บ้านของมีนา ไม่มีโมเมนต์ที่เขาลงมาแล้วเปิดประตูให้เธอก้าวลงมาจากรถ มีนาเป็นคนเปิดประตูลงไปเองแล้วโบกมือให้เขา ก่อนจะเดินไปไขกุญแจที่ประตูรั้วบานเล็ก ชายหนุ่มอยู่หน้าพวงมาลัย ไม่ก้าวลงมา แต่ว่าสายตามองมีนาจนกระทั่งเห็นเธอเดินเข้าบ้านไป เขาถึงได้ขับรถกลับบ้าน

มีนาเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านทันเห็นว่าเขมินท์กำลังลงจากรถที่จอดแล้ว ในจังหวะนั้นเองที่เขาหันมา เธอเบี่ยงตัวหลบหลังม่านแล้วก็นึกขำตัวเอง ห่างกันขนาดนี้ เขมินท์จะมองเห็นเธอได้ยังไงกันเล่า

 

การที่หลับสนิทมาตลอดทั้งคืน ทำให้มีนาตื่นเช้าไล่เลี่ยกับเมษา แต่ไม่ทันมาช่วยเตรียมของใส่บาตรพระอยู่ดี มีนาขี่จักรยานให้ให้เมษาซ้อน ที่ตะกร้าหน้ารถมีของใส่บาตรมัดถุงมาอย่างดี เมษาจะใส่บาตรให้พ่อกับแม่ทุกวันพระ ส่วนมีนาอาจจะไม่ได้ทำแบบนี้บ่อยๆ เพราะไม่สะดวกนัก แต่เธอจะไปทำสังฆทานในวันเกิดของพ่อกับแม่แทน

มีนาแวะซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋ทั้งที่ไม่ได้คิดอะไร แต่พอมาเทใส่ชามให้พี่สาวกับตัวเอง เธอก็คิดถึงวันที่เขมินท์แสดงว่าห่วงใยและขับรถไปซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋มาให้ เรียวปากบางยิ้ม ความสุขเล็กๆ นี้ เธอจะเก็บไว้อย่างดีเพียงคนเดียว

เมษาอิ่มก่อนจึงเดินไปเตรียมของใส่รถคันเก่าที่เป็นของพ่อมาก่อน อีกประเดี๋ยวเธอกับมีนาจะไปที่ร้าน วันนี้เธอนัดช่างมาปูกระเบื้อง

“คินมาหาจ้ามีน” เมษาตะโกนบอกมาจากหน้าบ้าน

มีนารีบกินโจ๊กที่ประดิดประดอยค่อยๆ กินมาสักพักให้หมดภายในครึ่งนาที เรื่องของเธอเอาไว้คิดก่อนนอนได้ ตอนนี้เรื่องของเพื่อนต้องมาก่อน เธอวิ่งมาหน้าบ้านก็เห็นภาคินใส่ชุดช่างเตรียมไปช่วยกันซ่อมร้านขนม

“มีนขอเวลา 10 นาทีนะพี่เม” พอเห็นสีหน้าของภาคินปุ๊บ มีนาก็รู้ปั๊บว่าเพื่อนเหมือนอึดอัดจนต้องการระบายกับใครสักคน

เมษาพยักหน้าพลางมองสองเพื่อนเกลอที่ไปนั่งกันตรงสวนเล็กๆ ข้างบ้าน มีนานั่งพื้น ภาคินนั่งที่ขอบปูนของอ่างปลาที่ไม่มีปลา เหลือแต่น้ำเปล่าๆ เพราะสองสาวไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่อยากเลี้ยงอะไรแล้วตายอีก

“ตอนนี้คินคิดถึงเบญ แต่คินก็รู้ว่ากลับไปคบกับเบญไม่ได้ มันทรมานเหลือเกินมีน” เสียงถอนใจของภาคินยาวราวกับความรู้สึกเหล่านี้อัดอยู่ในอกของเขามาตลอด หลังจากบอกเลิกกับเบญญา

มีนาโล่งใจเพราะภาคินยังไม่รู้ว่าเบญญาไปก่อเรื่องอะไรไว้ แต่ก็หนักใจไปด้วยเมื่อเพื่อนยังอยู่ในอาการอกหักซึ่งหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“การออกมาจากชีวิตใครสักคนมันไม่ง่ายหรอกนะคิน แต่นอกจากคิดถึงแล้ว คินรู้สึกอะไรอีกบ้างไหม”

ภาคินนั่งนิ่งราวกับตอนนี้เขากำลังถามตัวเองอย่างที่มีนาเพิ่งจะถามเขา การคุยกับตัวเองเป็นเรื่องที่ทำได้เพราะบางครั้งเขายังไม่เข้าใจตัวเองเลย

“คินมักจะคิดเป็นห่วงเบญสารพัดเรื่อง บางทีก็นอนไม่หลับเพราะคำพูดบางคำที่เบญทำร้ายจิตใจคินโดยที่ไม่รู้ตัว มันแปลกไหมถ้าคินรู้สึกว่าถ้าตัดเรื่องความคิดถึงออกไป คินรู้สึกสบายดี มีสมาธิกับงาน มีเวลาว่างไปทำอะไรที่คินอยากทำ ไม่ใช่คอยทำในสิ่งที่เบญอยากทำ”

ฟังอย่างนี้แล้วมีนาค่อยสบายใจได้อีกโข เพื่อนของเธอเข้มแข็งชะมัด เพียงแต่แผลที่เกิดมันยังสดมากต้องใช้เวลาเยียวยา เพื่อให้แผลนั้นหายสนิท

“ถ้าอะไรก็ตามคินทำแล้วสบายใจนั่นหมายความว่าสิ่งที่คินเลือกมันถูกแล้วล่ะ เวลาจะทำให้คินค่อยๆ มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอีกบทหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่เสียใจกับมันอีก อดทนอีกนิดนะ”

ภาคินฟังแล้วคิดตามก็เหมือนจะใช่ เขาสบายใจ คำนี้แหละที่ใช่สำหรับความรู้สึกนอกจากคิดถึงในเวลานี้ซึ่งมันมีอิทธิพลต่อเขามาก

“คินกลัวว่าคินจะใจอ่อน ถ้าเบญมาหาคินอีก”

ภาคินเลือกที่จะบล็อกเบอร์โทรและแชทของเบญญา เธอมาหาเขาที่บริษัททุกวัน แล้วก็หายหน้าไป บางทีเธอคงรู้แล้วว่าคำบอกเลิกคือจบทุกอย่าง เขาเริ่มต้นใหม่กับเธอ ทั้งที่เกิดการนอกใจไม่ได้

“คินเลือกได้นี่นาว่าจะพบเบญตอนไหน ตอนที่คินยังไม่พร้อม หรือว่าตอนอื่นที่คินมั่นใจว่าเบญไม่ทำให้หัวใจของคินเต้นแรงอีกแล้ว”

จริงด้วยแฮะ ภาคินตอบรับอยู่ในใจพลางมองมีนาให้ชัดๆ ครั้งก่อนๆ ที่เขาอกหัก มีนาก็ปลอบเขาแบบนี้ แต่ไม่ได้พูดลึกซึ้งเท่านี้ เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขา

“โหย นี่คำแนะนำจากคนที่ยังไม่มีความรักแน่นะ” หรือที่เขาล้อๆ ว่ามีนามีแฟนจะเป็นเรื่องจริง

“ย่ะ โล่งขึ้นแล้วใช่ไหม”

ภาคินหัวเราะในท่าทางหันมาค้อนใส่ของมีนา เธอจะเป็นเพื่อนกับเขาไปแบบนี้แหละ หากเธอมีใครสักคนที่แทนคำว่าชอบหรือรักได้คงแนะนำให้เขารู้จักไปแล้ว

“โอเค ถ้าอย่างนั้นไปหาพี่เมกัน”

ภาคินลุกขึ้นแล้วช่วยดึงแขนให้มีนายืนได้ ก่อนจะดินตามกันไปที่รถ เมษารับหน้าที่ขับเหมือนเดิม รถคันนี้เป็นเกียร์กระปุก  มีนาไม่ถนัด แต่ภาคินขับได้ เมื่อไปถึงตึกที่เคยมีรอยคราบสีดำและความเสียหาย ตอนนี้กลับมาสะอาดตาใกล้กลับมาเป็นร้านขนมเมนา ซึ่งเมษาบอกมีนาว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน ทุกอย่างจะกลับมาดียิ่งกว่าเดิม

 

เริ่มต้นวันจันทร์ด้วยความปวดหัว เมื่อมีนาต้องทำแบบของห้องเสื้อให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้ เพื่อที่จะได้มีเวลาแก้ไขในวันอังคาร แล้วไปพบลูกค้าในวันพุธ เธอก้มหน้าก้มตาทำงานอุตลุดอย่างมีสมาธิ แต่ก็ไม่วายมีพี่ๆ ในสำนักงานมาแซวผสมยินดีที่เธอมีแฟนเป็น CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ เธอได้แต่ยิ้มไม่รู้จะทำหน้ายังไง จะบอกความจริงก็ไม่ได้ ไม่รู้ล่ะ ถ้าได้เจอเขมินท์คงต้องปรึกษาว่าเราควรเลิกเป็นแฟนให้ชาวบ้านชาวช่องได้รับรู้เมื่อไหร่ดี

หยุดคิดก่อน...มีนา

น่าโมโหตัวเองชะมัด ในเวลาที่มีนาอยากมีสมาธิกับงาน สมองและหัวใจที่ไม่รักดีกลับย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่ได้แนบแก้มกับอกอุ่นๆ ของเขมินท์ เรื่องไม่คาดฝัน ไม่กล้าฝัน มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

เฮ้อ...งานจะเสร็จไหมวันนี้

มีนาสะบัดใบหน้าเหมือนอยากสลัดความคิดที่ไม่เกี่ยวกับงานออกไป พอทำได้สมาธิก็มา หญิงสาวทำงานจากเช้าไปจนบ่าย จึงพักสมองและหาอะไรใส่ท้องครู่หนึ่ง ก่อนจะลุยงานต่อจนกระทั่งมืดค่ำแล้วนั่นล่ะ งานถึงได้เสร็จ สำนักงานเงียบชวนให้รู้สึกวังเวง โชคดีที่แม่บ้านไม่มีเรื่องเล่าเขย่าขวัญของที่นี่ ไม่อยากนั้นเธอได้กำพระขอให้ท่านช่วยไล่แขกที่ไม่ได้เชิญออกไปก่อน

          เกือบ 3 ทุ่มแล้วตอนที่มีนาลงจากรถประจำทางแล้วเดินเข้ามาในคอนโด พอเข้าไปในลิฟต์มีนาหยิบโทรศัพท์ออกมาเพราะจำได้ว่าบันทึกรหัสห้องของเขมินท์ไว้ วันนี้เธอย้ายมาอยู่ห้องของเขาเป็นวันแรก รหัสที่จะกดให้ประตูเปิดจึงสำคัญมาก

          “050717  เลขพวกนี้มีที่มาจากอะไรหว่า”

          ช่างเป็นความสงสัยที่มีนาคงไม่มีทางได้คำตอบ เธอคงไม่ถามเขมินท์ บางครั้งคนเราก็ควรมีพื้นที่เล็กๆ เอาไว้เก็บความลับของตัวเอง แม้จะเป็นรหัสเพียงไม่กี่ตัวก็ตาม บานลิฟต์เปิดออกพอดี มีนาเดินมาอย่างเหนื่อยๆ เหงาๆ รสชาติของการเป็นผู้ใหญ่ทำให้รู้สึกว่าหลังเลิกงานช่างโดดเดี่ยว หากไม่ได้อยู่บ้านกับครอบครัว

หญิงสาวดึงฝาครอบแป้นกดออกแล้วกดตัวเลขที่ท่องมา มีเสียงดังติ๊ดเบาๆ เป็นอันว่าคืนนี้เธอเข้าห้องได้อย่างราบรื่น หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วกลับแปลกใจว่าทำไมไฟเปิดสว่าง เธอลืมปิดไฟงั้นหรือ

          “หิวไหมมีน” เขมินท์ถามพลางวางโน้ตบุ๊กไว้ข้างตัวบนโซฟาแสนนุ่ม “คืนนี้พี่ขอนอนห้องนี้ด้วยนะ พอดีว่าพี่มาประชุมที่บริษัททางนี้”

          มีนายืนมองเขมินท์ด้วยความไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกอะไรกันแน่ ระหว่างดีใจที่เห็นเขาอยู่ในห้องหรือตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ราวกับเขาไม่ได้แค่ทำให้เธอหวั่นไหวไปเองเมื่อคืนวันเสาร์ แต่ตอนนี้เขายังเขย่าโลกทั้งใบของเธอให้อลหม่านสับสน เขาไม่รู้ตัวเลยใช่ไหมว่าทำแบบนี้อาจทำให้เธอตกหลุมรัก

 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.